Skip to main content


การมองโลกในแง่ดี
(เกินไป) การทำดี การให้เพื่อคนที่เรารัก เคยรัก อยากรัก สุดท้ายคนนั้นกลายเป็นคนอื่นคนไกล คนไม่รู้จัก บางครั้งมันก็ยากที่จะสาธยายได้ว่า สิ่งที่เราทำไปนั้นมันเป็นไปทางทิศไหน หรือกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ สะกดคำว่า ... สายเกินไป “โดน” กับตัวเองแล้วล่ะ
\\/--break--\>
ถึงเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก ยิ้มข้างนอกช้ำใน...” เพลงของคุณศิรินทรา นิยากร
นี่เค้าหลอกฉันเหรอเนี่ย”
ช้านไม่คิดเลยนะว่า มันจะกล้ามาหลอกช้านได้ อุตส่าห์ทำดีทุกอย่างเพื่อมัน....ฮืออออออออออ ฮือออออออ”

เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ทราบข่าวจากเพื่อนคนหนึ่งที่เคยปรามแล้ว เตือนอีกหลายครา ว่าผู้ชายคนที่เค้าคบด้วยคนนี้นั้น มันร้ายยิ่งกว่างูพิษ ให้ระวังตัวไว้ “ระวังมันจะหลอก”

ไม่ได้เจอเพื่อนสักระยะหลายเดือน พอทราบข่าวอีกทีก็รับรู้ว่า ... ข่าวร้าย เพื่อนโดนของเค้าแล้วล่ะ ของที่ว่าใช่เป็นเรื่องอื่นใด หากแต่ การโดนหลอกลวง ....!

ผู้ชายบางคน พร่ำบ่น พรรณนา บอกชาวโลกว่าตัวเองเป็นชายร้อยเปอร์เซ็ง (ตูละเซ็ง ปวดตับ) แต่บางทีชีวิตมันบัดซบ หาทางออกไม่เจอ พวกรายได้ต่ำแต่รสนิยมสูง หาเงินไม่ทันบางราย (ย้ำอีกสักครั้งว่า แค่บางรายนะฮ้า) ต้องหาทางออกด้วยการทำหน้าที่เป็น ยิ่งกว่า “แมงดา” หรือ “กาฝาก” หรือ “ชาวเกาะ” เกาะคนอื่น ยืมลมหายใจของคนอื่นเพื่อความอยู่รอดกับวิถีชีวิตที่ติดลบ แหม..คุณฮะ อย่าว่าแต่ เกย์ กะเทยที่เคยโดนหลอกเลยค่ะ แม้แต่สตรีเพศหลายรายก็พลาดท่าเสียตังค์ให้พวกนี้ จนนับไม่ถ้วนเหมือนกัน

ชาน่ามีเรื่องอยากจะปรึกษา ทำอย่างไรดี ผู้ชายมันหลอกฉันอ่ะ”
ผู้ชายคนที่หลอกเพื่อนของชาน่าคนนี้ ไม่รู้ว่าเค้าไปหลอกกับใครมากี่ราย แต่หนึ่งในนั้นไม่ใช่ฉัน เพราะเค้าเคยเข้ามาตีสนิทเหมือนกัน แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วล่ะฮ่ะ บอกได้เลยว่าตอนนั้นก็ “เกือบ” เคลิ้มเชื่อเค้าเหมือนกัน แต่ยังดีที่มีวิชา “สติ” ติดตัวและวิญญาณเสมอ

ตอนที่เธอเตือนฉัน ว่าผู้ชายคนนี้เค้าชอบหลอกกะเทย ให้ระวังไว้ แต่คำว่าหลอก มันเบาไป ฉันไม่รู้ว่าเค้าจะหลอกยังไง” เพื่อนคนที่โดนหลอกกล่าว
...
เชื่อ จริง ๆๆๆ ไม่แปลกเลยที่ทำไมเพื่อนถึงได้โดนหลอก ก็เพราะไม่รู้จักคำว่า “หลอก” เป็นยังไง กว่าจะรู้ตัว หลวมตัวไปได้ คิดมูลค่าเงิน ก็ปาเข้าไปเลขหกหลัก เหยียบเจ็ดหลัก ยังไม่รวมค่าจิปาถะ ค่าขนม นมเนย ที่ผู้ชายไม่เอ่ยปากขอ แต่ ... “เต็มใจให้” อีกเพรียบ



โดยส่วนตัวแล้ว สมัยที่ยังเวอร์จิ้น กลิ่นน้ำนม
(เกย์) ยังไม่ไม่สิ้น ตอนนั้นก็เค๊ย... เคยเหมือนกัน เด็กหนุ่ม ที่รู้จักกัน ณ ป้ายรถเมล์ จากแหล่งที่ขึ้นชื่อว่ามีผู้ชายหากินเยอะมาก เป็นอันดับต้น ๆ ของกรุงเทพฯ สถานีต่อไป ป้ายสนามหลวง วันนั้นไปเดินเล่นกับเพื่อนแล้ว แยกย้ายกันกลับ เผลอแป๊บเดียว ได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งที่ หน้าใส ไร้มารยา คบกันผ่านไปแรมเดือน เค้าเริ่มขอยืมเงิน คำว่า “ยืม” เราก็เข้าใจว่า สักวันหนึ่งจะได้คืน แต่ก็อย่างรู้ ๆ กันนั่นหละ เค้าคงเป็นญาติกับ “ยายหืม” .... “ยืมหาย” มันเป็นจำนวนเงินแค่ไม่กี่พันบาท แต่ก่อนจากกันก็บอกผู้ชายคนนั้นว่า
เอาไปเหอะ เงินแค่นี้ ไม่ทำให้ชีวิตนายดีขึ้นหรอก บาปกรรมมีจริงหากวันใดที่นายตกต่ำ ชีวิตเลวซ้ำซ้อนเมื่อไหร่แล้วไม่ต้องไปนึกถึงใคร ขอให้นึกถึงฉันเป็นคนแรก คนที่สาปแช่งนาย...”

สุดท้ายผ่านไปสามเดือน เหมือนคำประกาศิต ผู้ชายคนนั้นตามหาชาน่าแทบพลิกแผ่นดิน เพราะเค้าบอกว่า ชีวิตเค้าทำอะไรไม่ขึ้นเลย ขอให้ชาน่าถอนคำสาป อุตส่าห์โทรตามถึงที่ทำงาน (ตอนนั้นทำงานโรงแรมชื่อดังห้าดาวแห่งหนึ่ง บนถนนธุรกิจ สุขุมวิท) พร้อมกับขู่ว่า “แกช่วยถอนคำสาปแช่งกูหน่อยได้มั้ย ชีวิตกูมันแย่ เลวสุดๆ ไม่งั้นจะโทรไปหาแม่แกที่เชียงราย บอกเค้าว่าแกเป็นเกย์ เป็นกะเทย” ในใจก็หวั่นเหลือเกินเกรงจะมีผลต่อความรู้สึกของแม่ (นี่ขนาดไม่ได้หนีแม่มาแพ้รัก แพ้เลิฟอะไรเลยนะฮ้า) แต่ก็กล้าตอบไปว่า
อ๋อ ..เชิญไปบอกได้เลย เสียใจด้วยนะ ตอนนี้ถ้าจะไปบอกก็คงสายเกินไปแล้วล่ะ เพราะทางบ้านเค้ารู้ และยอมรับได้ ต่อให้เป็นเกย์ แต่เป็นคนดีทางบ้านเค้าไม่ได้ว่าอะไร เค้าบอกว่ายังดีกว่าเป็นผู้ชายเลวๆ”

อันที่จริงทางบ้านเค้าก็ยังไม่รู้มาจนทุกวันนี้หรอกว่าชาน่าเป็นเกย์ โชคดีที่เปลี่ยนเบอร์บ้าน เบอร์เก่าก่อนเกิดเหตุ เค้าจึงติดต่อไม่ได้



ชาน่าไม่รู้ว่า เกย์ กะเทยไทยหรือพลเกย์ชาวโลก กี่คนที่เคยโดนผู้ชาย หรือเกย์ กะเทย หรือแม้แต่เพศไหน ๆ ก็ตามหลอกกัน รู้แต่ว่า ถ้าหากมันมากเกินความพอดี หรือมีท่าทีว่า “มันไม่ใช่อะกิ๊บ” รู้ว่าเค้าเข้ามาในชีวิตเพื่อหลอกลวงเรา หากไม่สายเกินไป ห่างๆ เข้าไว้ หรือแนะนำอีกทาง ตั้งใจทานปลา หาของกินที่มีประโยชน์ มีมันสมองและสติ จะได้ไม่ต้องไปแย่ง “ไอ้ทุย” กินหญ้าแทนมัน

คูณณณณณณณณณณ หลอกดาว” ... “จ้า...แม่ดาวซินโดรมน์”
คนที่มันตั้งใจจะหลอก พวกนั้นทักษะความเลวของเค้าสูงเกินกว่าที่เราจะสังเกตได้ และมันคงสะกดคำว่า “ศีลธรรม” ไม่เป็น หากมีเบาะแส เตือนเพื่อนพ้องน้องพี่ จะได้ไม่เป็นเหยื่อรายต่อไปให้โจรมันเหิมเกริม

ขอโทษนะ บ้านนี้ไม่มีควายโง่ให้คุณหลอกได้ เชิญไปบ้านอื่นต่อไปเหอะ
ระวังไว้นะเพื่อนเกย์ เพื่อนเกลอ (เพื่อนหญิงจริง ชายแท้ ด้วยฮ่ะ)


เป็นห่วงเป็นใย จากใจชาน่า

 

 

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…