Skip to main content

 

เมื่อช่วงพักร้อนที่ผ่านมา ชาน่าและเพื่อน ๆ ได้พบปะสังสรรค์กันตามประสาเฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนๆ ต่างไม่เจอกันมานาน มีทั้งเพื่อนชายจริง หญิงแท้และชาวหลากหลายทางเพศ


หลังปาร์ตี้เลิก ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนหญิง จึงอาสาขับรถไปส่งแถวลาดพร้าว
-รามคำแหง พร้อมกับเพื่อนเกย์ที่มาพักร้อนเหมือนกัน เวลาผ่านไปสองยาม ถนนสายลาดพร้าวไม่ติดเหมือนเวลากลางวัน ชาน่าขับรถฟังเพลงอย่างสบายใจ และเม้าท์มอยไปกับเพื่อนอีกคน ปกติเป็นคนที่ขับรถไม่เร็วเพราะชีวิตไม่ได้รีบร้อนไปไหน แม้ลายมือตัวเองจะเป็นเส้นผ่าตัด ขณะที่วิ่งไปบนถนนสายลาดพร้าวสู่พหลโยธิน ก็มีน้องหมาวิ่งตัดหน้ารถอย่างกระทันหัน ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ จะเหยียบมันให้ตายหรือหลบให้อภัยมัน เสียงดังโครม เหมือนวัตถุกระแทกโตโยต้า ยาริส ในใจตอนนั้นคิดว่ารถพังแน่แท้ บังโคลนหน้าคงไม่เหลืออะไร แสงไฟตามถนนส่องพอให้เห็นว่าน้องหมาตัวนั้นยังรอดพร้อมกับหันมามองหน้าอย่างงง ๆ ชาน่าใจตกไปอยู่ตาตุ่ม คุมสติแทบไม่ได้ เพื่อนจึงบอกว่างั้นเราไปนั่งพักที่สวนให้สบายใจก่อนกลับห้อง ด้วยความโชคดีบังโคลนแค่ถูกกระแทกไม่เป็นอะไรมากมาย


ขับรถแวะไปพักที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งแถวรัชโยธิน ซึ่งลือชื่อว่าเป็นแหล่งครูซซิ่ง
(แหล่งหาเหยื่อของชาวเรา) ชาน่าก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปอย่างเต็มที่ แต่ด้วยความที่เพื่อนชวนและอยากจะพักสงบสติอารมณ์ จึงปล่อยตัวไปอยู่ท่ามกลางสวนสาธารณะในยามค่ำคืน แม้จะเป็นช่วงดึกสงัดยามวิกาลเยี่ยงนั้น แต่ผู้คนยังเดินกันขวักไขว่ บ้างแต่งตัวบอกยี่ห้อว่า “เกย์ร้อยเมตร” บ้างก็ใส่ชุดธรรมดา บางคนยิ่งร้าย (คิดได้ไง) แต่งชุดออกกำลังกาย (เหมือนกับว่าวิ่งจ๊อกกิ้งยามวิกาล)

ชาน่านั่งกับเพื่อนพร้อมกับมองเห็นเด็กหนุ่มรูปงาม ไม่รู้จักนาม ได้แต่แอบมอง จ้องกันมาจ้องกันไป ในใจก็อยากจะเข้าไปทักเค้าก่อน แต่นึกอีกทีก็ดูเหมือนไม่งาม (เข้าใจว่าตัวเองสวยเลือกได้ เรื่องอะไรจะไปทักผู้ชายก่อน) แต่ผู้ชายคนนั้นก็หยิ่งเหลือเกิน มีคนเข้าไปทักและคุยหลายคน เค้าก็ไม่สนใจใคร จนเวลาผ่านไปสักระยะ เพื่อนของชาน่าจึงยุให้เกิดต่อมกล้า โดยเพื่อนเป็นหน้าม้าไปทักเค้าก่อน เค้าจึงเข้ามาคุยด้วย (เรื่องแรงและช่างกล้าต้องมอบโล่ห์ให้เพื่อนคนนี้) ในขณะนั้นเราเริ่มคุยถามความเป็นมา

ผมทำงานเรือสำราญ”
จริงเหรอ... ผมเคยอ่านหนังสือของพี่คนหนึ่งเค้าทำงานเรือสำราญ เพื่อนเอาหนังสือมาให้อ่าน เค้าเป็นเกย์แต่ไม่แสดงออก”
อ้าวเหรอ... เค้าชื่ออะไรอ่ะ”
ฮาน่า อีกัวหน้าอะไรไม่รู้ น่า ๆ นี่หล่ะ ชื่อจำยากครับ”
ชาน่ายิ้มปริ่มอยู่ในใจ คนที่กล่าวถึงนั้นก็คือฉันนี่หล่ะ แต่เรื่องอะไรจะเปิดเผยตัวจริง รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น ชาน่าออกหากินผู้ชายกลางดึกสงัดในสวนสาธารณะ


ทันใดนั้นมีกลุ่มชายวัยรุ่นกวนเมืองเข้ามากระชั้นชิดพร้อมถามว่า
พี่ขอตังค์หน่อยเด่ะ..”
ตอนนั้นชาน่าเริ่มอกสั่นขวัญผวาซ้ำซ้อนอีกรอบ หลังจากหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาเพิ่งตกใจกับน้องหมาที่วิ่งตัดหน้ารถแทบจะเหยียบเบรกกระจาย ชนกระจุย

ไม่มีหรอก ใครเค้าจะเอาเงินมาเที่ยวอย่างงี้” เสียงของหนุ่มน้อยรูปงามที่เพิ่งรู้จัก
จะให้ดีๆ หรือว่าให้กูสั่งสอน กูบอกว่าขอตังค์ใช้หน่อยไม่มีรึไง”
อื่อมมม.....” ชาน่าเริ่มสั่นเป็นเจ้าเข้าทรงแต่ยังคงทำสีหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (เนียนเชียวฮ่ะแต่หัวใจแทบจะวายตาย)
บอกว่าไม่มีก็ไม่มีสิ” เสียงที่เข้มแข็ง หน้าหล่อเข้ม ร่างกายกำยำของหนุ่มน้อยพูดออกมาอย่างมีอำนาจ จนทำให้กลุ่มเด็กกวนเมืองสามสี่คนถอยไป ความรู้สึกของชาน่าตอนนั้นเหมือนมีใครสักคนเข้ามาปกป้องลูกนกที่หนาวเหน็บเปียกปอนสั่นอย่างไร้สติ เพราะใครจะรู้ว่าชาน่าเพิ่งกดเงินออกมาและติดอยู่ในกระเป๋าตังค์เกือบหมื่น แม้ปกติตัวเองจะไม่ค่อยพกเงินสด แต่ก็ไม่คิดว่านาทีนั้นจะต้องไปนั่งกินลม ชมวิวเล่นยามดึกสงัดในสวนสาธารณะกลางกรุงที่มีแต่เสือสิงห์กระทิงแรด พร้อมจะเขมือบจิกกัดได้ทุกเวลา ส่วนเพื่อนเกย์อีกคนไม่ต้องพูดถึง รู้แต่ชวนทำนั่นทำนี่แต่ไม่ค่อยหาทางป้องกันแก้ไข กว่าจะรู้อีกทีก็ให้ประสบการณ์จริงสัมผัสถึงเลือดโดยตรง

เราเพิ่งเริ่มทำความรู้จักกัน แต่ต้องมีเบรกโฆษณาเข้ามาแทรกอย่างระทึกขวัญ ตอนนั้นชาน่าและเพื่อน จึงชวนหนุ่มน้อยคนนั้นมาเที่ยวที่ห้องซึ่งเป็นห้องเช่าเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ของเพื่อนคนที่พักร้อนด้วยกัน ในใจก็ยังตะหงิดๆ เพื่อนอยู่ว่า “คิดได้ไง ยังไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเค้าเลย” แต่เพื่อนก็มั่นใจว่าน้องเค้าออกจะน่ารัก และที่ห้องก็ไม่ได้มีข้าวของราคาแพงอะไรที่พอจะให้น้องรูปหล่อคนนั้นยกของไปได้

เรากลับมาที่ห้องของเพื่อนแถวรางน้ำ นั่งชมวิวทิวทัศน์ของป่าคอนกรีต พร้อมกับทำความรู้จักกันมากขึ้นสำหรับเพื่อนใหม่ น้องชายผู้น่ารัก สุดท้ายเค้าจึงตกลงค้างคืนที่ห้อง คงไม่ต้องเล่าต่อว่าเกิดอะไรขึ้น ... แต่ถ้าไม่เล่าก็เกรงจะเข้าใจผิด

เราไม่ได้ตกลงเรื่องเซ็กส์กันว่ามาที่ห้องแล้วจะต้องเสร็จทุกราย เหมือนเช่นไปเสม็ด (ก็ไม่เสร็จทุกราย) น้องเค้าน่ารักและนิสัยดี พูดกันรู้เรื่อง พอเริ่มนอนเริ่มง่วงกันแล้วเพื่อนของชาน่าก็เริ่มลวนลาม เป็นปูไต่ ไม้เลื้อย แต่น้องเค้าก็ไม่ได้ง่ายเหมือนที่เพื่อนคิด

สรุปแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นในกอไผ่ น้องเค้าบอกว่าขอรู้จักกันก่อนที่จะมีอะไรกันไม่ใช่เห็นปุ๊บร่วมกันปั๊บมันง่ายเกินไปในความคิดของเค้า (ก็แน่ล่ะฮ่ะ เพราะว่าของเค้าดีจริงๆ ขอคอนเฟิร์ม) หลังจากนั้นเราก็เริ่มรู้จักกันมากขึ้น เป็นน้องชายคนสนิทแต่ไม่คิดว่าจะต้องมีอะไรกัน จนวันเวลาผ่านไป ก่อนที่ชาน่าจะบินกลับไปทำงานต่อที่ต่างประเทศ ทราบข่าวจากน้องเค้าบอกว่า “ผมจะบอกพี่ว่า ผมจะไปบวชครับ” จึงได้แต่อนุโมทนาบุญ....

 


......
สามเดือนผ่านไป จากน้องชายกลายเป็นพระที่บวชจำพรรษาอยู่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ในวันคล้ายวันเกิดของชาน่า พระรูปนี้ส่งข้อความมาสุขสันต์วันคล้ายวันเกิด จากความรู้สึกที่เคยแอบรักและห่วงใยกัน กลายเป็นอีกหนึ่งความรู้สึกที่ดีๆ และร่วมยินดีกับพระที่อยู่ภายใต้ผ้าเหลือง ถือศีลครองธรรมที่น่านับถือยิ่ง

อยากขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันทำให้เราเรียนรู้อะไรหลายอย่างที่มากกว่าคาดหวังบางเรื่องเพียงอย่างเดียว...

 

 

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…