Skip to main content

20080202 ฮีธ เลดเจอร์ 

“ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountain

เกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”

วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่  พระเอกหนุ่มจากหนังดังระดับฮอลลี่วู๊ด เรื่อง  “หุบเขาเร้นรัก” หรือ ”Brokeback Mountain”  ภาพยนตร์แนวดรามาของเกย์ที่โด่งดังและปลื้มมากที่สุดเท่าที่เคยดู โดยมีผู้กำกับชาวไต้หวัน “อั้งลี่” กำกับเรื่องนี้จนคว้ารางวัลมากมาย

“ฮีธ เลดเจอร์”  นายจากไปแล้วเหรอ   

เมื่อไม่นานมานี้ชาวไทยและแฟนคลับของน้องบิ๊ก ดีทูบี ก็ร่ำไห้เสียใจจากความพรากคนอันเป็นที่รักและชื่นชม

ก่อนหน้านั้นยังจำกันได้  อ๊อฟ อภิชาติ พัวพิมล ดาราชายขวัญใจวัยทีน และหวานใจชาวเกย์ ก็จากไปอย่างกระทันหัน  ในวัยกำลังสร้างอนาคต  

“มีพบ ย่อมมีพราก มีเกิด ย่อมมีดับ”  มันเป็นอนิจจัง  วัดระฆัง ยังเป็นสถานที่จัดงานขาว – ดำ อยู่เสมอ.... (ขอคั่น จะเขียน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แต่ไม่สัน...ทัด อะค่ะ อย่าว่ากันนา สวยใส บางครั้งก็ไร้สติเสมอ)

20080202 ฮีธ เลดเจอร์ 

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานปัจจุบันทันด่วน ว่าสาเหตุของการเสียชีวิตของหนุ่ม นาม เอนนิส เดอ มาร์ (ชื่อที่แสดง ...ขอเรียกชื่อนี้เพราะคุ้นนักในหนังเรื่องแตกหลังเขา)  หรือชื่อจริง  ฮีธ เลดเจอร์  พระเอกคนดังเค้าอาจใช้ยาเกินขนาดหรือตั้งใจกินยานอนหลับเพื่อฆ่าตัวตาย เนื่องจากพบยาหลายชนิดรวมทั้งยานอนหลับวางอยู่ข้างศพ

นายพอล บราวน์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งนครนิวยอร์ก เผยจากคำบอกเล่าของแม่บ้านว่า  “อิชั้นพบศพของเค้า ขณะที่อิชั้นเข้าไปเพื่อจะทำความสะอาดห้องและปลุกเค้าเพราะมีนวดที่ห้องของเค้าเอง” เอนนิสตายในห้องนอนที่อพาร์ตเมนต์ บนเกาะแมนแฮตตัน มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาเพิ่งมาเช่า อพาร์ตเมนต์แห่งนี้อยู่เมื่อไม่กี่เดือนเอง   

แม่บ้านพบฮีธนอนอยู่ปลายเตียงในสภาพเปลือยกาย เธอพยามยามจะปลุกเอนนิสให้ตื่น แต่แล้วร่างที่ไร้วิญญาณเปลือยเปล่าก็ถูกเปิดเผย เมื่อเวลา 15.26 นาฬิกา ของวันที่ 22 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ นั่นคือเวลาที่แม่บ้านพบ ส่วนเวลาที่มัจจุราชพรากนั้นยังไม่ทราบแน่ชัดเจน   (ตอนนี้เริ่มรู้สึกหวั่นๆ เหมือนกันเพราะชาน่าก็ชอบนอนเป็นฮีเปลือย เปลือยฮี (เขาผู้ชาย) Naked man เวลาเข้านอนทุกครั้งเพราะรู้สึกมันสบายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน และก็ไม่หวั่นมามาก ไม่หวั่นแม้จะถึงวันนั้นของชีวิต  แต่คราวนี้เริ่มหวั่นแล้วล่ะค่ะ)

อย่างไรก็ตาม สาเหตุของการเสียชีวิตของเอนนิส จะรู้ผลจากการชันสูตรศพหนึ่งสัปดาห์เป็นอย่างต่ำ  แม้ “ไดอาน่า โวโลซิน” หมอนวดที่พบศพของเอนนิสเป็นคนแรก  เธอโทรศัพท์ไปหา Olsen  3 ครั้ง ก่อนจะโทรแจ้ง 911 แต่ทางตำรวจก็ไม่สามารถจับคุมตัว “โวโลซิน”  แต่อย่างใด

แม้การสันนิษฐานของ NYPD  ตำรวจแห่งมหานครนิวยอร์ก ว่าเป็นการใช้ยานอนหลับแต่สมาชิกของครอบครัวเลดเจอร์ที่ออสเตรเลียได้กล่าวปฎิเสธ และยืนยันว่า  “การเสียชีวิตของฮีธเป็นอุบัติเหตุมากกว่า”

พ่อของเอนนิส หรือ ฮีธ เลดเจอร์  (นายคิม เลดเจอร์) กล่าวที่บ้านพักในเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลียว่า “การเสียชีวิตของฮีธส่งผลให้ครอบครัวมีความโศกเศร้าเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการจากไปอย่างกระทันหัน ฮีธเป็นคนติดดิน ใจดี มีน้ำใจ ไม่เห็นแก่ตัว เขาเป็นแรงบันดาลใจ และตัวอย่างที่ดีแก่หนุ่มสาวมากมายทั่วโลก ขอขอบคุณเพื่อนๆ และทุกคนสำหรับความปรารถนาดีและร่วมอาลัยต่อการจากไปของเค้า”    

ในขณะที่ มารดา และน้องสาว (แซลลีและเคท ตามลำดับ)  ของฮีธ ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ อันเนื่องมาจากยังอยู่ระหว่างทำใจต่อการสูญเสียครั้งนี้   (เข้าใจความรู้สึกเป็นอย่างมากค่ะ  คงไม่เหมือนกับสื่อมวลชนไทย (บางคน) ที่คอยจัดฉาก ขอถ่ายรูป จนงามหน้าเหมือนคราวศพของน้องบิ๊ก ดีทูบี ที่ใช้อำนาจของตนสั่งให้คุณพ่อน้องบิ๊ก จูบศพ จูบแล้วจูบอีก เพียงเพราะอยากได้ภาพสวย ๆ วิน วิน)

ด้านนายเควิน รัดด์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่า “ประเทศออสเตรเลียได้สูญเสียหนึ่งในนักแสดงระดับสุดยอดของประเทศไปในช่วงที่อาชีพการแสดงยังรุ่งโรจน์ อันน่าเสียดายยิ่งนัก”  

นายปีเตอร์ เคร๊าซ์ ประธานสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ของออสเตรเลีย กล่าวว่า “ฮีธเป็นนักแสดงที่อ่อนน้อมถ่อมตน และไม่เคยโอ้อวดว่าตัวเองเป็นดาราดังเลย น่าเอาเยี่ยงอย่าง”

20080202 ฮีธ เลดเจอร์

ประวัติฮีธ เลดเจอร์ เกิดเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2522 ณ เมืองเพิร์ธ รัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย เป็นบุตรของนายคิม เลดเจอร์ อาชีพวิศวกรเหมืองแร่ และมารดา นางแซลลี่ เลดเจอร์ เบลล์ ครูสอนภาษาฝรั่งเศส และยังมีน้องสาวอีกคน คือ เคท เลดเจอร์ ช่วงสมัยเรียนชั้นมัธยมเอนนิส จะโดดเด่นด้านกีฬาถึงขั้นเคยเป็นตัวแทนนักฮ็อกกี้ระดับรัฐ แต่แล้วเค้าก็พบว่าตนหลงรักการแสดงมากกว่า พรสวรรค์และดวงด้านการแสดงมาแรงกว่าฮ่ะ

ด้านเรื่องราวความรักของเอนนิสนั้น เค้าเคยใช้ชีวิตอยู่กินกับมิเชล  วิลเลี่ยมส์ (ซึ่งเคยรับบทเป็นภรรยาของเค้าในหนัง)  จนมีพยานรักหนึ่งคนคือ มาทิลดา หนูน้อยวัย 2 ขวบ แต่สุดท้ายชีวิตก็ไม่ได้ราบเรียบจนเค้าและเธอต้องแยกทางกันในเดือนกันยายนปีที่แล้ว

ผลงานด้านการแสดงของเค้านั้นมีหลายเรื่องมาก อย่างเช่น “เดอะ แพทริออท” หนังสงครามเรื่องดังที่หลายคนรู้จักกันดี  “มอนสเตอร์ บอลล์”, “ดิ ออร์เดอร์”, “คาสะโนวา”, “เน็ด เคลลี่”, “อะ ไนท์ เทล” และอีกหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องที่กำลังเข้าฉายในเร็ววันนี้ “ไอม์ นอท แดร์” และภาพยนตร์ภาคต่อแบทแมนที่จะฉายในช่วงซัมเมอร์นี้ เรื่อง “เดอะ ดาร์ค ไนท์ ” โดยเค้ารับบทเป็น “เดอะโจ๊กเกอร์” คู่กัดตัวตลกของแบทแมน   แต่เค้าคนนี้ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองเป็นอย่างมากจาก ภาพยนตร์เรื่อง  “โบรคแบ็ค  เม้าท์เท่น”  (บางคนเข้าใจว่า  แตกหลังเขา บ้างก็อ่านได้ไง แบร์แบ็ค เม้าท์เท่น)  รวมทั้งการแสดงอย่างออกฝีมือทำให้เค้าได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาดารานำฝ่ายชาย แต่ก็พลาดไปอย่างน่าเสียดาย

เสียงของพนักงานในร้านอาหารประจำของเค้ากล่าวว่า  “นายฮีธ  เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นดาราดัง  แม้เวลาที่เค้ามานั่งอ่านหนังสือในร้านเค้าก็จะทักทายคุณเสมอ  แม้กระทั่งกริยาอันน่ารักที่เค้าชอบเล่นซ่อนหากับลูกสาววัยสองขวบ แถวพุ่มไม้สร้างความประทับใจเป็นอย่างมาก”

ด้านผู้กำกับหนังอย่าง อั้งลี่ กล่าวว่า  "การได้ร่วมงานกับฮีธเป็นช่วงเวลาที่เบิกบานที่สุดในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ เขาได้ถ่ายทอดบทบาทของเอนนิส ได้เกินกว่าที่พวกเราคนใดจะจินตนาการได้ ทั้งความโหยหาในชีวิต, ความรัก และสัจธรรม รวมไปถึงความละเอียดอ่อนที่ส่งผ่านจากตัวเขาที่ทำให้ใครก็ตามที่ได้รู้จักเขาจะต้องรักเขา ความตายของเขาเป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจสลายจริงๆ"

การจากไปของเอนนิสทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสอนใจผมว่า  คนเรารู้แต่วันเกิดแต่ไม่รู้วันไป  ชีวิตวันรุ่งพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร  ใครจะรู้บ้างแม้หมอดูยังไม่รู้วันลาของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นคนดี คนเด่น คนดัง คนลืมหลังควาย คนไม่มีสิทธิ์  คนไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคน คนไม่หล่อแต่เร้าใจ  คนมียศฐา บรรดาศักดิ์ หรือคนไร้ค่า  คนหนอคนเช่นไรก็หนีความตายได้ไม่     เอนนิสทำให้ผมคิดถึงหนังเรื่องที่สะท้อนใจ ของเกย์วิถีอย่าง  “Brokeback Mountain”   ในฉากสุดท้ายที่เค้าเก็บเสื้อของคนรักไว้คนึงตราบนานแสนนาน  “เค้าจากไปแล้วจริง ๆ “  

ส่วนตัวของผมจะนำตัวอย่างและสิ่งที่ดี ๆ ในตัวเค้ามาเป็นแบบอย่าง หากสักวันในอนาคตถ้าเราเจอกันบนสวรรค์หรือนรก  นายจะอยากรู้จักผมคนนี้ไหมหนอ คนที่ชื่นชม และปลื้มในความสามารถของนาย  “เอนนิส นอนหลับให้สบายนะครับ  ชีวิตของคนเรานั้นสั้นนัก ผมพร่ำบอกกับตัวเองเสมอว่าหากจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวมได้  จงเร่งทำซะ แม้จะต้องจากไปวันไหน คืนใดก็จะไม่เสียใจที่ได้ทำแล้ว  ขอพระเจ้าประทานพร  ผมจะภาวนาให้คุณ  ...จากเกย์ตาดำ ดำที่ปลื้มคุณอย่างจริงใจ”

ปล. แรก   บทความนี้อยากใช้สรรพนามเรียกตัวชาน่าเองว่า  “ผม”  เพราะอ่านแล้วดูเกย์ได้จิต เกย์ เกย์ หรือเกย์คิงแต่งสาวไม่แสดงออก (ไม่แสดงออกผู้ชายแม้แต่น้อยนิด)  ไม่ว่ากันนะ เพราะแม้ไม่สวยอย่างชาน่าก็ขอเลือกได้ละกัน  ค๊า ++++  

ปล. สอง อ่านเรื่องราว  “เม้าท์หนัง ฟังเพลง” ได้จากหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” วางแผงแล้ววันนี้ทุกร้านทั่วไทย  จีบปากจีบคอโดย ชาน่า เองเจ้า  หรืออ่านจากคอลัมน์ เรื่อง  “Brokeback  mountain” ที่ชาน่าเขียน จากคอลัมน์ก่อนหน้านี้

ปล . สาม  “ร่วมไว้อาลัยนายฮีธ” พระเอกในดวงใจ จากเมือง St.Kitts and Navis  Islands, Caribbean

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
วันก่อนดูข่าวซีเอ็นเอ็น หรือเข้าใจง่ายๆ ว่าสำนักข่าวเห็นสองเอ็น รายงานเรื่องราวของชาวอเมริกัน กลุ่มรักร่วมเพศที่กลายสภาพจากหญิงจริงเป็นชายด้วยหน้าตา รูปร่างแทบจะแยกไม่ออกว่านี่คือผู้หญิงมาก่อน ทั้งหนวดเครา กล้ามหน่อยๆ หน้าแมนๆ ได้เห็นแล้วยังทึ่งนิดส์ นิด เพราะปกติตัวเองจะเคยชินเห็นแต่ภาพชายแปลงร่างเป็นหญิง ไม่ค่อยได้เห็นหญิงทอมแปลงร่างเป็นชายมากมายนัก หากอ่านหัวข้อ คงไม่ว่ากันว่าทำไมถึงเขียนคำว่า แปลง หลังคำว่าผู้ชาย ไม่งั้นอ่านแล้วอาจจะดูเหมือนชาน่าตอหะแล ผู้ชายในโลกนี้ใครจะท้องได้ (มันก็จริงแฮะ) ตอนแรกก็ตกใจเป็นไปได้ไง ผู้ชายเหรอที่ท้อง แต่พอทรายรายละเอียดจริง ๆ ถึงได้บางอ้อว่า…
ชาน่า
เมื่อวันก่อนได้เปิดอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ชาติต่าง ๆ ผ่านสัญญาณดาวเทียมส่งตรงมายังเรือสำราญที่กำลังล่องแถบทวีปยุโรป สะดุดข่าวหนึ่งที่รายงานสองสามวันติดกัน ในหนังสือพิมพ์ "India Today" วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 หัวข้อข่าวพาด "Gays set for first nationwide pride marches" และ "Gay Pride out on street Kolkata" สอบถามเพื่อนร่วมงานชาวอินเดียถึงข่าวคราวนี้ ทราบว่า สมัยก่อนเมื่อราวเกือบสองร้อยปีที่ผ่านมา ก่อนที่อินเดียจะได้รับอิสระในปี 1947 ประเทศอินเดียนั้นถือว่า การเป็นเกย์ หรือ กลุ่มรักร่วมเพศเป็นสิ่งต้องห้าม ผิดกฎ ผิดจารีต ประเพณี หรือเรียกบ้าน ๆ ว่าผิดผีหนะฮ่ะ ในสมัยก่อนๆ…
ชาน่า
"อันชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนพิกลนัก" คำกล่าวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ที่พวกเรารู้จักกันดีและเห็นด้วยในความหมายของประโยคนี้กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร อย่าบอกนะว่าคนอ่านคอลัมน์ของชาน่าไม่ชอบเพลง ถ้าชอบก็แล้วแต่ว่าใครจะถนัดแนวไหน โดยส่วนตัวของชาน่าฟังได้ทุกแนวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแนวตะเข็บชายแดน หรือเด็กแนว เด็กหยาม (วัยรุ่นสยาม) เพื่อชีวิต ลูกทุ่ง ลูกกรุง สากล ฟังได้ไม่เลือกแต่ก็ขึ้นอยู่กับกาละและเทศะ กะอารมณ์อีกทีหนะฮ่ะ เพลงหลายเพลงแต่งจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แต่งจากแรงบันดาลใจ หลายเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง ทุกเหตุการณ์ ทุกอารมณ์ ถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ ปรุงแต่งทำนอง…
ชาน่า
พักนี้เก่าไปใหม่มา ลูกเรือไทยและต่างชาติที่หมดสัญญาทำให้หลายคนได้พักร้อน ลูกเรือคนใหม่หลายคนก็เข้ารับหน้าที่แทน ชาน่าจึงมีโอกาสได้ดูหนัง ฟังเพลง ใหม่ ๆ อัพทูเดทจากเมืองไทย ส่งตรงไปต่างแดน หยิบวีซีดีแผ่นหนึ่งว่าด้วยเรื่องกฎหมาย “คู่ซ่าส์ ทนายแสบ บันทึกการแสดงสด” ของทนายแฝด จากรายการแจ้งความทางไอทีวี ,คนหัวหมอ ช่องสาม ,และซุปเปอร์แก๊กทางช่องเจ็ด โดย ทนายวันชัย สอนศิริ และทนายประมาณ เรืองวัฒนะวนิช ทนายคู่แฝดขำ ขำ เน้นย้ำสาระจึงพลาดไม่ได้ที่จะเปิดดู ซึ่งได้ทั้งความฮาไม่มีขีดจำกัดและความรู้เต็มจอ จึงขออนุญาตนำเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชาวเรา ๆ มาฝากกันในสัปดาห์นี้ฮ่า
ชาน่า
นานแล้วที่ไม่ได้เม้าท์เรื่องราวภัยรายวัน หลังจากที่คอลัมน์เตือนภัยที่มีคนเข้าอ่านเกือบหมื่น เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกเกือบปีเชียวฮ่ะ เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวเกย์หลายคนร้องเรียก เม้าท์แตกกัน วันนี้จึงขอหยิบหลากหลายเรื่องราวมาเม้าท์เล่าสู่กันฟังนะฮะ บางเรื่องราวฟังไว้ไม่เสียหลาย บางราย “มีอย่างนี้ด้วยหรือ” คุณขา ยุคข้าวยาก หมากแพง เศรษฐกิจทรุด การเมืองแทรก ความมั่นคงถดถอย น่าเห็นใจชาวไทยกันถ้วนหน้าที่ต้องรับสภาพปัญหาเยี่ยงนี้ชาน่าขอแยกเป็นเรื่อง ๆ ตามหัวข้อที่เพื่อน ๆ เม้าท์ให้ทราบละกันฮ่า 
ชาน่า
เมื่อใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว หากใจและกายไม่สอดคล้องกับความรู้สึกและความต้องการ  ทางออกของใครหลายคนจึงเลือกที่จะเยียวยารักษาทางกายมากกว่าทางใจ  จึงเป็นผลให้ใครหลายคนเลือกที่จะทำการ “ผ่าตัดแปลงเพศ”ในส่วนของพนักงานบริการที่เราคุ้นกันในเมืองไทย ก็มีจารึกไว้แล้ว โดยหนุ่มสจ๊วตที่แปลงโฉมเป็นแอร์กี่ เอ้ยไม่ใช่ค่า แอร์โฮสเตส เรียกเสียงวิพากวิจารณ์จากมหาชนมิใช่น้อยส่วนของเรือสำราญ พนักงานบริการที่ต้องพบปะผู้โดยสารจากหลายประเทศทั่วโลกก็มีเธอผู้นี้ ... เช่นเดียวกัน
ชาน่า
ลูกคือดวงใจและ (แทบจะ) เป็นทุกอย่างของพ่อและแม่ หัวอกของพ่อและแม่ทุกคนอยากเห็นลูกประสบความสำเร็จ มีความสุข เป็นที่พึ่งและเป็นไปดังใจหวัง "สมหวัง และผิดหวัง" จึงเหมือนสัจธรรมที่อยู่คู่กันเสมอ กล่าวโดยรวมๆ ทุกเรื่องเพื่อจะโยงเข้าสู่แม้แต่ "ความหวัง"ของพ่อและแม่ทุกคนอยากให้ลูกเป็นเพศปกติ เพศที่สอดคล้อง ถูกต้อง กับร่างกายและจิตใจ
ชาน่า
เทศกาลของไทยเรามีมากมายหลายช่วงแทบจะเกิดขึ้นทุกเดือนเลยก็ว่าได้ แต่มีเทศกาลหนึ่งที่ชาน่าร่วมเติบโตมากับสังคมไทยนานแสนนาน (กำลังจะได้โล่ห์ ตำแหน่งชาน่าโบราณ รุ่นลายครามไม่ช้าก็ไว)  ทุกครั้ง ทุกที ทุกปีที่ได้สัมผัส บอกได้คำเดียวว่า... “แซ่บ เริ่ด ม่วนแต๊ๆ เกิดมันส์”  เพราะนอกจากจะสนุกสนานแล้วเรายังได้สาระมากมายในเทศกาลที่ชาน่ากำลังจะกล่าวถึงนี้ 
ชาน่า
“กลัวติดโรคจัง กังวลอย่างบอกไม่ถูกจะทำยังไงดี”  “อยากไปตรวจเลือด แต่ไม่กล้ากลัวคนรู้จัก กลัวคนอื่นรู้”“จะไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลไหน ค่าใช้จ่ายไม่แพง เพราะเผลอเสี่ยงร่วมรักกับชายแปลกหน้า”อาจจะเป็นคำถามของใครบางคนที่ครุ่นคิดอยู่นานกว่าจะตัดสินใจ วัดน้ำหนักช่างกล้าไปตรวจเลือดเพื่อไขปัญหาข้องใจว่าตัวเองบริสุทธิ์หรือรับเชื้อร้ายเข้าไปในร่างกายประชากรชาวเกย์หลายคนรู้จักกันดี  “คลินิกนิรนาม” ที่เปิดให้บริการสำหรับกลุ่มชายรักชาย ชายร่วมเพศกับชายเท่านั้น (งานนี้ไม่มีชะนีปะปนแม้แต่นิด)   แต่สมาชิกเกย์น้องใหม่ใครหลายคนที่ยังไม่รู้จัก…
ชาน่า
ข่าวคราวความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มรักร่วมเพศมีให้ติดตามโดยตลอด ไม่ว่าเรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง จริงหรือไม่  ดังนั้นเราจึงเห็นได้ชัดว่า "กลุ่มรักร่วมเพศปนอยู่ในสังคมเราอย่างแยกเสียไม่ได้"  เคยคิดจะเขียนคอลัมน์เรื่อง  "การไม่ยอมรับผู้บริจาคเลือดที่อยู่ในกลุ่มอัตราเสี่ยงหรือรักร่วมเพศ"  ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มาจากเว็บเกย์สากลในสหรัฐอเมริกา แต่งานประจำรัดตัวยังไม่ทันจะเขียนก็มีข่าวคราวจากเมืองไทยเข้ามาในเรื่องนี้ คราวนี้ชาน่านิ่งนอนใจอยู่ไม่ได้ประสานงานไปทางเพื่อน ๆ หลายฝ่าย รวมทั้งเพื่อนๆ ชาวสยามสแควร์  ของเว็บสังคมชาวไทย "พันทิป" ตั้งกระทู้ถามไถ่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น…
ชาน่า
โลกของละครและโลกของความเป็นจริงนั้นบางทีช่างเหมือนกันจนแยกไม่ออก  "ละครสร้างจากเรื่องชีวิตจริง"  หรือ "ชีวิตจริงเลียนแบบละคร"  โลกใบใหญ่ของเราแต่ละคนล้วนเป็นโลกแห่งละครทั้งสิ้นอย่างแยกเสียไม่ได้ผู้ใหญ่หลายฝ่ายเคยต่อต้านและห้ามปรามกลุ่มรักร่วมเพศ  เกย์ กะเทย แพร่ภาพทางอากาศ ทีวี วิทยุ ภาพยนตร์ ด้วยหลากหลายเหตุผลของผู้ใหญ่ที่มองสังคมอย่างเป็นห่วง  แต่บางครั้งผู้ใหญ่อาจจะลืมดูโลกของความเป็นจริงที่ไม่ได้เพ้อฝัน จินตนาการ บังคับและกำหนดอยากให้ผู้อื่นเป็น  ชีวิตของคนกลุ่มรักร่วมเพศนั้นปะปน อยู่ในทุกสังคม ทุกประเทศ ทุกชนชั้น ทุกภาษา ทุกเชื้อชาติและศาสนาอย่างเห็นได้ชัด…
ชาน่า
การท่องเที่ยวไทยถือเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้กับประเทศชาติมานานแสนนาน แม้บางช่วงเศรษฐกิจจะทรุด การเมืองจะแทรก ปัญหาหลากหลายจะเสริมทำให้ไม่ราบเรียบมากนักในบางช่วงปีที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้น “ประเทศไทย” ก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งมังคุด ละมุดลำใย แห่กระหน่ำมาเที่ยวกันอย่างเห็นได้ชัด หากจะมองถึงกลุ่มเป้าหมายชาวรักร่วมเพศ เกย์ กะเทย เลสเบี้ยน ถือว่ามาเที่ยวบ้านเมืองนี้ ดีนักแล เพราะทางเจ้าของประเทศ สยามเมืองยิ้ม กระหยิ่มต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเปิดกว้าง โดยได้รับการสนับสนุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนร่วมกัน…