Skip to main content

วันก่อนดูข่าวซีเอ็นเอ็น หรือเข้าใจง่ายๆ ว่าสำนักข่าวเห็นสองเอ็น รายงานเรื่องราวของชาวอเมริกัน กลุ่มรักร่วมเพศที่กลายสภาพจากหญิงจริงเป็นชายด้วยหน้าตา รูปร่างแทบจะแยกไม่ออกว่านี่คือผู้หญิงมาก่อน ทั้งหนวดเครา กล้ามหน่อยๆ หน้าแมนๆ ได้เห็นแล้วยังทึ่งนิดส์ นิด เพราะปกติตัวเองจะเคยชินเห็นแต่ภาพชายแปลงร่างเป็นหญิง ไม่ค่อยได้เห็นหญิงทอมแปลงร่างเป็นชายมากมายนัก


หากอ่านหัวข้อ คงไม่ว่ากันว่าทำไมถึงเขียนคำว่า แปลง หลังคำว่าผู้ชาย ไม่งั้นอ่านแล้วอาจจะดูเหมือนชาน่าตอหะแล ผู้ชายในโลกนี้ใครจะท้องได้ (มันก็จริงแฮะ)


ตอนแรกก็ตกใจเป็นไปได้ไง ผู้ชายเหรอที่ท้อง แต่พอทรายรายละเอียดจริง ๆ ถึงได้บางอ้อว่า มันก็ไม่แปลกอะไร เพราะเธอเคยเป็นหญิงมาก่อนและก็มีมดลูก รังไข่สมบูรณ์ จึงไม่แปลกที่จะตั้งท้องได้ แม้สภาพรูปพรรณภายนอกจะแมนขนาดไหนก็ตาม บอกแล้วนะฮะว่าบางทีภาพลักษณ์ รูปร่างหน้าตาภายนอกก็ยากจะบอกตัวตนที่แท้จริงของคนเราได้

 24_07_01

 

เรื่องของหนุ่มประเภทสองคนนี้นามว่า 'โทมัส บีทตี' เปิดโลกชีวิตจริงผ่านทางสำนักข่าว นิวส์ ออฟ เดอะ เวิล์ด เป็นข่าวดังเปรี้ยงปร้าง สร้างความฮือฮา “ผู้ชายคนแรกท้องได้ ว๊ายยยยยยยยย กรี๊ด”

 


เจาะเรื่องราวของผู้ชายที่ท้องได้ นามว่า นายโทมัส เริ่มจากฐานครอบครัวชีวิตของเค้าเติบโตพร้อมกับพี่น้องผู้ชายสองคนในรัฐฮาวายซึ่งมีพ่อเป็นผู้เลี้ยงดูเพียงลำพังหลังจากที่แม่ของเขาฆ่าตัวตาย ครอบครัวที่มีแต่พ่อและน้องชายสองคนทำให้เค้ากลมกลืนสภาพอยากกลายเป็นชายตามสิ่งแวดล้อม

 

24_07_02


แล้วอยู่มาวันหนึ่งเค้าจึงพบรักกับแฟนสาวคนปัจจุบันในโฮโนลูลู ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันในปี 2003 ห้าปีผ่านไปไวเหมือนโกหก


โทมัสเล่าถึงการใช้ชีวิตครอบครัวในฐานะผู้ชาย เค้าย้ำว่าเรื่องเพศสัมพันธ์นั้นไม่ขาดตกบกพร่องแต่ประการใด แม้ตัวเค้าเองจะมีอวัยวะเพศหญิงอยู่ก็ตาม (รักกันที่ใจ กายภายนอกหาอะไรทดแทนได้ฮ่า)


พวกเค้าเคยพยายามหลายทางเพื่อจะท้อง เพราะเหตุผลหลักที่โทมัสตัดสินใจท้องเพราะทั้งคู่ต้องการลูก แต่ภรรยาของเค้า
(แนนซี่)ได้ผ่าตัดเอามดลูกออกไปเป็นที่เรียบร้อยทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ อีกนัยแนนซี่ก็มีอายุมากแล้ว 45 ปี


24_07_03


พวกเค้าพยายามหลายรอบ รอบปฐมฤกษ์ไม่รู้เมื่อไหร่ไม่ได้แจ้ง มาตกเป็นข่าวก็ตอนรอบสุดท้ายนี่หละฮ่า

จนครั้งสุดท้าย "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" ใช้ได้ทุกเรื่องรึปล่าวค๊า พวกเค้าได้เอาน้ำเชื้อ (อสุจิ) จากธนาคารสเปิร์มแช่แข็ง มาฉีดเข้าโดยใช้หลอดดูดยาพิเศษที่ได้จากสัตวแพทย์ผู้ดูแลนกที่เป็นสัตว์เลี้ยงสุดโปรดของโทมัสมาเป็นตัวช่วย ซึ่งเค้าเล่าว่า ไม่ว่าจะไปติดต่อคลินิคแห่งไหนก็โดนตะเพิดตะเลิดเปิดเปิงกลับ ถึงแม้กระนั้นตอนที่ท้องก็มีกลุ่มสรรพสัตว์ประเสริฐทั้งหลายวิพากวิจารณ์ กลายเป็นเป้าเม้าท์แตกในสังคม พวกเค้าก็ไม่แคร์เพราะถือว่าความรักและความต้องการที่จะมีลูกนั้นมันบริสุทธิ์อย่างแรงกล้า


ในวันนี้พวกเค้าได้มีลูกอย่างสมหวัง เป็นวัยทารกผู้หญิงที่เป็นเพศเดียวกันกับพวกเค้า


หากคนอ่านคอลัมน์ได้เห็นภาพจะต้องอึ้งทึ่งว่าทำไมเหมือนผู้ชายมาก ไม่ต้องแปลกใจฮ่าเพราะว่าคุณโทมัส เค้าแปลงเพศเป็นป้อจายเมื่อสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องกินฮอร์โมนเพศชายหลายอย่างกว่าจะได้ดังเห็น แม้เมื่อก่อนสมัยโทมัสเป็นสาวจี๋ขี้จุ๊ ฮีมีดีกรีเป็นถึงสาวงามและนางแบบ ซึ่งเคยเข้าประกวดติดรอบสุดท้ายของมิส ทีนฮาวาย ยูเอสเอด้วย โดยตอนนั้นเธอชื่อว่า เทรซี ลากอนดิโน

 

24_07_04

 

ความรักไม่เป็นสิ่งที่แปลกเจ้า ไม่เคยแยกเพศ ชนชั้น วรรณะ และอายุเลยนะฮะ

'เธอเริ่มต้นจากความหวัง ความฝัน จนกระทั่งสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างเป็นคนขึ้นมาจริงๆ ลูกของเราและประสบการณ์เหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุด' โทมัสกล่าว


โทมัสคะ ชาน่าขอแสดงความยินดีสำหรับลูกสาวที่คลอดออกมา มันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและความหมายมากมายทีเดียว


ส่วนใครที่อยากมีลูก ก็ขออธิษฐาน ศรัทธาหวังตั้งมั่นสักวันคุณคงมีลูกจนได้ ชาน่าเอาใจช่วยฮ่ะ

หากใครที่มีแล้วจะมากหรือน้อยก็ควรใช้เวลาและความรักให้พวกเค้าได้เป็นพลเมืองที่ดีของโลกต่อไป


ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน มีลูกหรือไม่ คุณจะเคยท้อง ไม่อยากท้อง หรือท้องก่อนแต่ง

อย่าลืมว่าความรักและคุณค่าของเด็กน้อยวันนี้มีพลังมหาศาลต่อโลกของเราในภายภาคหน้า และอนาคต

สร้างพวกเค้าให้เป็นคนดีมีศีลธรรม ไม่ว่าลูกกี่คนๆ ที่คลอดมาจะเป็นเพศไหนก็ตาม


ชาน่า ท้องกลม...(เพราะแอบอ้วนนิด ๆ ) จากเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศ สเปนเจ้า...
ภาพประกอบจาก Getty Image

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
  หากใครเคยชมภาพยนตร์ไทยของจีทีเอช โดย บริษัท จอกว้าง ฟิล์ม จำกัด เมื่อปีที่แล้ว “หนีตามกาลิเลโอ” หลายคนคงจะประทับใจเรื่องราวและการต่อสู้ ความน่ารักและการใช้ชีวิตของสองสาวไทยที่ตัดสินใจไปเที่ยวและทำงานต่างประเทศ หนึ่งคนไปเพราะอกหัก อีกหนึ่งไปเพราะสอบตก อยากเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่  แต่สำหรับฉัน “ชาน่า” หนีไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่ตัดสินใจบินออกนอกประเทศ ความรู้สึกไม่ได้แตกต่างอะไรไปมากกว่านางเอกของหนังเรื่องนี้นักเลย  สุข เหงา เศร้า คละเคล้ากันไปยิ่งกว่าละครเสียอีก    แต่ชาน่าไม่ใช่นางเอกของเรื่อง แค่เกย์ที่หลายคนรู้จัก บ้างรู้จักฉันดี…
ชาน่า
หลายคนอาจจะเคยสงสัยเหมือนกับชาน่าว่าในสมัยก่อนวิถีชีวิตของเกย์เป็นเยี่ยงไร วันนี้จึงหาคำตอบและเป็นความต้องการทราบส่วนตัวด้วยค่ะ เพราะว่ามีโอกาสได้ดูละครเรื่องสาปภูษา จึงใคร่รู้เยี่ยงนักว่าประวัติความเป็นมาและสังคม กฎระเบียบบ้านเมืองเป็นเช่นใด ข้าใคร่รู้ ณ บัดเดี๋ยวนี้
ชาน่า
  เมื่อช่วงพักร้อนที่ผ่านมา ชาน่าและเพื่อน ๆ ได้พบปะสังสรรค์กันตามประสาเฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนๆ ต่างไม่เจอกันมานาน มีทั้งเพื่อนชายจริง หญิงแท้และชาวหลากหลายทางเพศ
ชาน่า
"กระจกจ๋า บอกซาร่าหน่อยนะ ว่าผู้ชายคนเนี้ยะ...ใช่มะ ใช่มะ...." มาแล้ว มาแล้ว มาแล้ว จิ๋ม ซาร่า ท้าสัมผัส... มากับอัลบั้มชุดที่สอง "คนร่วมฝัน"   หากคุณได้ยินเพลงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นหญิงจริงหรือหญิงเทียม ไม่ว่าคุณจะมองผู้หญิงคนนี้อย่างไร ชาน่ามองเธอว่า เธอคือผู้ชายที่กลายเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหาอีกคน ข้อความจากเพลง “เกินห้ามใจ” ของนักร้องสาวประเภทสองที่ชื่อจิ๋ม ซาร่า หรือชื่อที่ใช้ในวงการ “สุจินต์รัตน์ ประชาไทย” ผู้ชายทั้งแท่งที่ผันตัวเองให้เป็นผู้หญิงทั้งทิ่ม เธอผู้นี้เป็นคนไทยคนแรกที่กล้าไปผ่าตัดแปลงเพศไกลถึงดินแดนเมืองผู้ดี “อังกฤษ”
ชาน่า
  การมองโลกในแง่ร้าย การมีประสบการณ์ที่โหดร้าย หรืออยู่ในสังคมที่แย่ อาจจะทำให้คนในสังคมนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก สังคมที่ไม่มีศีลธรรม สังคมทุนนิยมที่เอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยช่วยให้คนกลุ่มนั้นมีทัศนคติและพฤติกรรมที่กลุ่มคนดีเค้าไม่ทำกัน วันนี้อยากนำเสนอเหตุการณ์ และ ศัพท์ของเกย์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมสีม่วงของเรา ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ สังคมเกย์ไทยจะน่าอยู่อีกเยอะเลยล่ะฮ่ะ
ชาน่า
  เกิดเป็นคนมีชื่อเสียง (.... อือ... อันที่จริงทุกคนล้วนมีชื่อเป็นของตัวเองทั้งน้านนน) ก็ลำบากทำอะไรก็เป็นเป้าสายตาของประชาชี จะกิน ดื่ม ขยับซ้ายก็เป็นข่าว ขยับขวาก็มองต่างมุม โดนรุมทำข่าวอีก เรียกได้ว่าสูญเสียความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือของธุรกิจคนขายข่าว ขายเรื่องราวแล้วยังเป็นเหมือนสินค้าตัวหนึ่งทีเดียวฮ่ะ
ชาน่า
การมองโลกในแง่ดี(เกินไป) การทำดี การให้เพื่อคนที่เรารัก เคยรัก อยากรัก สุดท้ายคนนั้นกลายเป็นคนอื่นคนไกล คนไม่รู้จัก บางครั้งมันก็ยากที่จะสาธยายได้ว่า สิ่งที่เราทำไปนั้นมันเป็นไปทางทิศไหน หรือกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ สะกดคำว่า ... สายเกินไป “โดน” กับตัวเองแล้วล่ะ
ชาน่า
  เคยคิดอยากเขียนนิยาย ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงเหมือนกัน แต่ฝีมือการเขียนยังไม่เข้าขั้น และที่สำคัญเวลายังไม่เอื้ออำนวย เพราะต้องทำงานเป็นนางแบกโกอินเตอร์ ทำงานทุกวันฮ่ะ (นางแบก คือทำงานอาชีพแบกถาด บนเรือสำราญเจ้าค่ะ) สัปดาห์นี้อยากเขียนเรื่องจริงจากประสบการณ์ของชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของชาน่า ที่เค้ากล้าเผยความเป็นเกย์ต่อครอบครัว ความจริงมันไม่เป็นเพียงแค่ความกล้า หากแต่เป็นสถานการณ์พาไป และอยากให้รับรู้ ยามเมื่อถึงเวลา เนื้อเรื่องและเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงจากครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนครอบครัวหนึ่ง เรียบเรียงโดยชาน่า ล้านนา ค่ะ
ชาน่า
ปีใหม่ก้าวผ่านมาตามวันเวลาของปฎิทิน ที่ถูกกำหนดไว้ วันเดือนปี (ใหม่) เป็นแค่กาลเวลาที่คนเรากำหนด นับจากวันที่ผมลืมตาดูโลก จนถึงวันนี้ วัน เวลา และปีเป็นสิ่งที่กำหนดอายุของคนเรา ใช่มันผ่านไปแล้ว ...ผ่านไปเข้าสู่วัยกลางคน ของคน ๆ หนึ่งที่ยืนหยัดอยู่บนโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปใบนี้ มีหลายสิ่งที่ดีเข้ามา มีหลายคราที่รู้สึกแย่ หลากอารมณ์ที่ตัวเองสัมผัสได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ค้นพบและรับรู้อยู่เสมอคือ... ความเป็นตัวตนที่แท้จริงภายใต้จิตสำนึก  
ชาน่า
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการรณรงค์ การกระทำที่ไม่รุนแรงต่อเพศหญิง แต่น้อยคนนักจะเข้าใจและเห็นด้วยกับการที่ได้ทราบข่าว การกระทำรุนแรงต่อเพศพิเศษนั่นคือเกย์ หรือกะเทย ที่เกี่ยวข้องกับผองเพื่อนชาวเรา ชาน่าได้อ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงเว็บเกย์โรมีโอ (เว็บไซต์สังคมเกย์ที่ขึ้นชื่อของโลก) โดยคนที่เขียนมาเล่าเป็นเกย์ ที่ออกค่ายอาสากับหมอ เกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งมีโอกาสได้ไปหลายประเทศต่าง ๆ ขอแปลจดหมายฉบับนี้เพื่อผู้อ่านค่ะ
ชาน่า
ชาน่าชอบอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหากมีเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากนักก็เลือกบางเรื่อง ที่สนใจและเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องฮา ฮา แม้บางครั้งบอกกับตัวเองว่า “ไร้สาระน่าดู...” แต่ลึก ๆ แล้วเนื้อหาบางส่วนอาจจะให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างเสียไม่ได้ ลองอ่านเรื่องราวที่ชาน่าเรียบเรียงโดยได้พล๊อตเรื่องจาก เมล์ส่งต่อ แต่แต่งเติมเป็นภาษาง่าย ๆ ของชาน่านะฮะ (ดั่งเพื่อนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า ชาน่า ปั้นน้ำเป็นตัวจนแข็ง....) ... ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม น้อง ๆ อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้อ่านนะคะ เป็นคอลัมน์เรต ฉ. เด็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยค่ะ
ชาน่า
  ชีวิตความรักของเกย์น่ะหรือ... หลายคนผลักดัน ยิ่งดันยิ่งดัก ยิ่งผลักเหมือนยิ่งแบกโลก เคยมีเพื่อนของชาน่าหลายคน บอกว่า ... “ฉันเชื่อเรื่องความรักของเกย์ ...ว่าคือรักนิรันดร์” แต่ “ฉัน” กลับขอค้าน ที่ค้านในที่นี้คือ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่เชื่ออย่างนั้นหนึ่งในนั้นคือ “ฉันเอง” ชาน่า