Skip to main content

วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  

20080302 chana (1)

เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น

บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร ทำให้บำบัดทุกข์เติมความสุขให้กับตนเอง

วันนี้ชาน่าพอจะคิดค้นตำรา  “อยู่อย่างไรให้เป็นสุข ของวิถีชีวิตเกย์”   ร่วมแชร์ให้กับคนอ่านคอลัมน์ทุกท่านฮ่ะ  พอจะแยกเป็นข้อ ๆ ดังนี้

๑. ยอมรับความจริงกับสิ่งที่เป็นอยู่   บางคนอยู่ในโลกของความเพ้อผัน ไม่ยอมรับความจริง อย่างเช่น  ตัวเองเป็นคนเตี้ยม่อต้อ  พอมีคนอื่นล้อก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ  รับไม่ได้ เป็นทุกข์ หากเราจะยอมรับ  “  เออ ...สิวะ เตี้ยก็เตี้ยแล้วไง .... ชาตินี้ทั้งชาติช้านก็ไม่สามารถสูงเหมือนเปรตวัดสุทัศน์ได้หรอกย่ะ....”       อย่างเมื่อก่อนก็รับไม่ได้ มีคนชี้หน้าด่าว่า  “อีกะเทย”  “อีโรคจิต”  กริ้วหน้าดำหน้าแดง  จิตหงุดเงี้ยว แต่ตอนนี้เฉยมาก นึกอยู่ในใจ  “ มันช่างแย่งน้องหมามาเกิดซะจริ๊ง  บิดามารดรคงจะไม่มีเวลาอบรมสั่งสอนช่างสมเพสนัก”  หรือบางทีก็ตอบไปอย่างไม่คิดว่า  “ขอบคุณฮ่ะ  ที่กล่าวว่าเป็นโรคจิตหนะ พูดไม่จบหรือเปล่าฮะ ใช่ค่ะ อิชั้นเป็นโรคจิตแต่เป็นประเภทโรคจิต ...ใจ สวยงาม   อย่างน้อยก็ยอมรับว่าอยู่คนเดียวไม่เกี่ยวเรื่องมากกับใครดีแล้ว มากคนมากความป่วยการ วุ่นวาย บางครั้งแม้แต่ใจตัวเองยังตามใจตนแทบไม่ทัน เฮ้อ...

20080302 chana (2)



๒.  มองโลกในแง่ดี  กว่าจะฝึกปรนจิตให้เป็นคนวิสัยทัศน์กว้างไกล มองเรื่องร้ายให้เป็นเรื่องดีนั้น ต้องใช้เวลา และการกรองจิตเอาซะทีเดียว  หลากหลายตำราที่ศึกษาทั้งเรื่องปรัชญา  จิตวิทยา ศาสนาก็ช่วยได้ไม่น้อย  การมองโลกในแง่ดีนั้นเป็นภาวะที่ส่งเสริมให้จิตเราเป็นสุขอย่างยิ่ง  แต่ถ้ามองโลกในแง่ดีมากเกินไปก็อาจจะเป็นภัยได้เช่นกันเจ้า

๓.  เรียนรู้ด้วยการอยู่ได้ด้วยตัวเอง  พระพุทธเจ้าท่านสอนเสมอว่า  “คนเราเกิดมาก็ตัวคนเดียว กลับไปก็กลับไปด้วยตัวคนเดียว  แล้วตอนที่เป็นคนจะอยู่คนเดียวไม่ได้เชียวหรือ”   บางครั้งการใช้เวลาอยู่กับตัวเองก็เป็นผลดีที่เราจะทบทวน มองตัวเอง ถึงแม้มันอาจจะเหงา  แต่ก็ใช่ว่าในทุกวันของชีวิตจะไม่มีใครคบหรือแม้แต่ข้องเกี่ยวกับใครเลยนี่นา

๔. หางานอดิเรกทำเพื่อไม่ให้จิตใจฟุ้งซ่าน    หากคุณชอบทำอะไรที่เป็นสุขโดยไม่เดือดร้อนคนอื่น  ก็ทำไปเหอะค่ะ ไม่มีใครจะห้ามเราได้ ชีวิตก็ของเรา สิ่งที่ทำก็ไม่ได้หนักกะบาลใคร  ไม่ทำให้สัตว์โลกใด ๆ เดือดร้อน  เช่นเป็นคนชอบกรี๊ด  ยอมเสียตัว เอ้ย เปล่า ๆ เสียตั๋วซื้อบัตรคอนเสิร์ติไปกรี๊ด นั่งกรี๊ด นอนกรี๊ด จนกระบอกเสียงแตกไปข้างหนึ่งก็ไม่มีใครว่า  หรือขอบแชท หลังจากว่างงาน จะต่อเน็ตแชทกับคนหรือควายทั่วทุกมุมโลก แชทจนมือหงิก ปากเผยอ ก็ไม่มีใครว่า

๕.  ทำเวลาว่างให้เกิดประโยชน์  มีกิจกรรมหลากหลายมากมายที่สร้างตัวเองให้มีคุณค่า โดยสิ่งที่ตัวเองทำนั้นอาจจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น ไม่มากก็น้อย ทั้งทางตรงและทางอ้อม  เช่น เขียนบลอก ไดอารี่ตัวเองเพื่อถ่ายทอดความรู้สึก  หรือค้นคว้าหาความรู้ แบ่งปันชาวโลก ผู้ต้องการข้อมูล, ไปดายหญ้าในป่าช้าที่รกรุงรัง  (แต่อย่าไปรบกวนจิตวิญญาณบรรพบุรุษทั้งหลายล่ะ)   หรือปลูกดอกไม้ให้หมู่ภูมรินทร์ และเทวดา นางฟ้าเชยชมยามท่านว่าง เป็นต้น

20080302 chana (3)

การอยู่คนเดียวใช่ว่าเราจะไม่มีคุณภาพ เป็นเพราะว่าเราช่างเลือกต่างหาก เลือกเป็นโสดสนิท โสดแบบไม่ได้ตั้งใจ  เพราะเบื่อกับการใช้ชีวิตคู่  ด้วยมากมายเหตุผล เช่น   “ตามหารักแท้ในหมู่เกย์นั้นยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร”  บางทีอาจจะเบื่อคนลวงคนล้วงหัวใจ ล้วงแล้วล้วงอีก  เบื่อความวุ่นวายเจ้ากี้เจ้าการของชีวิตคู่  ที่ไร้อิสระเสรี  ต้องอยู่ในกรอบระเบียบหัวใจ  โดนกักขังเยี่ยงจำเลย(เกย์)รัก   “เชิดใส่” ....  “ อย่ามายุ่งกับช้านนนน”

แล้วคุณจะรู้ว่า “อิสระ” ของเกย์นั้นดีอย่างไร  อยาก (มีคู่ขา, เพื่อนใหม่) ก็หา เบื่อก็ปลีกวิเวก อิ่มก็พัก แม้จะสวย (หรือไม่สวยซะเลย) ก็เลือกได้คร๊า

อาจจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม หากใครที่ตอนนี้หรืออนาคต จำเป็นต้องอยู่คนเดียว ลองนำไปดัดแปลงใช้กับชีวิตของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเกย์ กะเทย โดยกำหนด หรือตั้งแต่กำเนิด  ชายจริงทั้งแท่ง หญิงจริงทั้งทิ่ม ก็เลือกทำได้ไม่ว่ากัน  

ฝากไว้ทิ้งท้าย  “ความสุขเป็นสภาวะไม่จีรังฉันใด  ความทุกข์ก็ไม่ใช่สภาวะถาวรฉันนั้น”   อย่าทุกข์มากไปใย   ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงทำเวบาที่เหลืออยู่ให้มีสุขอย่างมาก ถึงมากที่สุด เท่าที่เราจะกอบโกยได้  ไม่ดีกว่าเหรอ แม้จะต้องสุขอยู่คนเดียวก็ตาม....

ปล .ของ ปล. สัปดาห์หน้าพาไปเรียน ภาษาสื่อสารที่เกย์จำเป็นต้องใช้ ฟุด ฟิด ฟอ ฟายกันฮ่า...

สุขกาย และสุขใจ ณ เกาะ Princess Cays, Bahamas, Caribbean .    
 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…