Skip to main content

พักนี้เก่าไปใหม่มา ลูกเรือไทยและต่างชาติที่หมดสัญญาทำให้หลายคนได้พักร้อน ลูกเรือคนใหม่หลายคนก็เข้ารับหน้าที่แทน ชาน่าจึงมีโอกาสได้ดูหนัง ฟังเพลง ใหม่ ๆ อัพทูเดทจากเมืองไทย ส่งตรงไปต่างแดน


หยิบวีซีดีแผ่นหนึ่งว่าด้วยเรื่องกฎหมาย “คู่ซ่าส์ ทนายแสบ บันทึกการแสดงสด” ของทนายแฝด จากรายการแจ้งความทางไอทีวี ,คนหัวหมอ ช่องสาม ,และซุปเปอร์แก๊กทางช่องเจ็ด โดย ทนายวันชัย สอนศิริ และทนายประมาณ เรืองวัฒนะวนิช ทนายคู่แฝดขำ ขำ เน้นย้ำสาระจึงพลาดไม่ได้ที่จะเปิดดู ซึ่งได้ทั้งความฮาไม่มีขีดจำกัดและความรู้เต็มจอ จึงขออนุญาตนำเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชาวเรา ๆ มาฝากกันในสัปดาห์นี้ฮ่า


24_06_1


การอยู่ในสังคมล้วนมีมากผู้คนในความหลากหลาย บ้างคบค้าสมาคมด้วยได้ บ้างเห็นแล้วก็คร้านจะหลีก ปลีกวิเวกไม่อยากสนทนาพาทีด้วย บางคราจึงเข้าใจคำว่า “พูดไปก็เสียไพ่เบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง” พูดจาไม่เข้าหู จากเรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องเป็นราวเป็นข่าวขึ้นมาได้เช่นกัน


การขัดแย้ง ทะเลาะวิวาทจึงเกิดขึ้นเสมอ เพราะสังคมทุกวันนี้บางครั้งดูเหมือนจะเจริญแต่วัตถุ แต่จิตใจบางคนต่ำจนตามแทบไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลงฮ่า หรือว่าเป็นเพราะน้ำมันแพง ข้าวของแพง คนก็เครียด สัตว์ก็เครียด หมู หมา กาไก่ โดนฆ่าตายเพราะเลี้ยงไม่ไหว ขออย่างเดียว ขอเพียงทำใจให้มีสติ และสมาธิในการดำเนินชีวิตนะเจ้าคะ


กลับเข้าสู่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายใกล้ตัวที่สองทนายคู่แฝดนำมาฝากคุณ ๆ กัน ว่าด้วยเรื่อง “การด่าหรือใส่ความผู้อื่นหรือบุคคลที่สาม ทำให้เขาเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง มีความผิดฐานหมิ่นประมาท มีโทษจำคุกไม่เกิน1 ปี (ประมวลอาญา มาตรา 326)”

 

 

24_06_2

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ตลาดแห่งหนึ่งของประเทศไทย แม่ค้า(ปากตลาด) เคยด่านางพยาบาลว่า

โรงพยาบาลนี้ นังพยาบาลดอกทอง ดอกทองทั้งบ้าน ดอกทองทั้งโรงพยาบาล”


ฝ่ายนางพยาบาลก็ไม่ยอม จึงฟ้องศาลโดยเป็นโจทย์ เพราะถือว่า “ดอกทอง” แปลว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่ดีมาก ๆ ทางกามารมย์ หลับนอนกับผู้ชายไม่เลือกที่ไม่เลือกหน้า ฝ่ายจำเลยก็ไม่ย้อม ไม่ยอมค่ะคุณ จึงสู้คดีหาว่าไม่ได้หมิ่นประมาทแต่อย่างใด จึงให้ความแก่ศาลไปว่า “ที่กล่าวว่าเธอ ดอกทองนั้นเพราะเปรียบเป็นดอกไม้ที่มีคุณค่า”


ทางด้านศาลจึงตัดสินฟังไม่ขึ้น “ฉันไม่เชื่อเธอหรอก” ตัดสินในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งความจริงแล้วหากกล่าวดูถูกหมิ่นประมาทโดยใช้ คำหยาบคายทั่วไป อย่างเช่น อี่ช้างลาก ไอ้หน้าหอกส่วนมากโทษปรับไม่เกินพันบาท สามร้อย ห้าร้อย แต่คำว่า “ดอกทอง” นี่หละ โทษถึงขั้นวินิจฉัยและพิพากษามีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี


เพราะฉะนั้นต่อไปหากจะด่าใครก็เลือกคำที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงดอกทอง โดยใช้คำอื่นเช่นดอกกระเจี๊ยบ ดอกเงิน ดอกบานไม่รู้โรย ดีกว่า หรือว่าทางที่ดีก็ไม่ต้องเรียนรู้ภาษาศัพท์คำหยาบคาย ที่ทำให้ผู้อื่นระคายเคืองได้ก็แล้วกัน


ชาน่านำคำนี้มากล่าวถึงก็เพราะเข้าใจว่า คำว่า “ดอกทอง” เป็นรากศัพท์ และศัพท์แสลงที่ชาวเรานิยมเม้าท์ ๆ กันไม่เลือกที่ บ้างเม้าท์เล่น ๆ บ้างเม้าท์ด่าทะเลาะกันจริง แต่หากไปเจอคนจริงเข้าก็อาจจะเอาเรื่องได้ดังเช่นกรณีย์ตัวอย่างข้างต้น


เฮ้อ.... เคยมีคนบอกชาน่าว่าสิ่งหนึ่งที่เราเรียกกลับคืนมาไม่ได้ก็คือคำพูด เมื่อพูดไปแล้ว จะกลับคำก็ไม่ได้ “พูดดีเป็นศรีแก่ปาก พูดมากปากเป็นสี” เพราะฉะนั้นจะพูดจา พาที ก็ตีลังกาม้วนหน้าม้วนหลังคิดก่อนค่อยทำ ไม่ใช่ทำ(ในสิ่งที่ไม่ดี) ก่อนแล้วค่อยคิดกลุ้มเสียใจภายหลัง


แต่สิ่งที่ชาน่าจะกลับมาทำในยามพักร้อนปีนี้ที่เมืองไทย คือ การรวมเล่มจากคอลัมน์(บางตอน) ในหัวข้อ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” และหลายตอนที่เขียนเพื่อหนังสือเล่มนี้โดยเฉพาะ โดยแต่งตั้งชื่อหนังสือว่า “ใช่ว่าจะดอก...ท้อ” ที่มาที่ไป เป็นอย่างไร ทำไมถึงต้องตั้งชื่อนี้ติดตามได้ในเร็ววัน และเราจะพบกันเร็ว ๆ นี้


24_06_3


ก่อนจบ ก่อนลาฝากถึงคุณ ๆ ว่าคนเราอยู่ที่ไหน มุมใดก็ต้องเคารพกฎหมาย เพื่อความสงบสุขและการอยู่ได้ร่วมกันในสังคม ช่วยกันดูแลสังคมในวันนี้โดยเริ่มต้นจากตัวคุณเองนะฮะ ไม่ว่าสภาวะบ้านเมือง สังคม และเศรษฐกิจที่เห็นและเป็นอยู่ในทุกวันนี้จะย่ำแย่ขนาดไหนก็ตาม ขอเราเลือกทำและอยู่อย่างเป็นสุขก็พอ....


ชาน่า กล้าเม้าท์จากเมือง มอนเต คาร์โล ประเทศ โมนาโค ดินแดนของชาวไฮโซ เศรษฐีทั้งหลายใช้เวลามาอยู่ที่นี่..

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…