ขอทะลึ่งๆ เว่อร์ๆ อีกสักครั้งเถอะครับ ผมรู้สึกอย่างนี้จริงๆ ทันทีที่นึกอยากเขียน และโชว์รูปที่น่าจะอยู่ในอัลบั้มรูปส่วนตัว ว่างๆก็เอามาแบวางออกดูและรำลึกถึง มากกว่านำออกมาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าสายตาสาธารณะ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า เบื่อๆ เซาๆ ซึมๆ ว่างมาก มาทำเรื่องดูดีกันมั้ยลูก
มา ม๊า มาทำซึ้งกันสักครั้งดีกว่ามั้ย
"เอ้า เอาเลย กอดกันเลยลูก" พูดแค่นั้นเจ้าชายน้อยโผประจำการทันที
ผมไล่ตามเก็บรูป
"พ่อกอดมั้ย" เขาถามกลับมา
"กอดสิ ต้องกอดแน่ๆ ว่างแล้วยัง" หมายถึงไม้ต้นนั้น หมายตาไว้เหมือนกัน และถูกรักหลงในเวลาอันรวดเร็ว
"ถ่ายรูปมั้ย" เขายึดกล้องไปกดรูป
วันนั้น วันที่ต่างคนต่างออกเดินมากอดต้นไม้ ผมแอบเห็นหลายคนโอบกอด ผมไม่แน่ใจว่า เมื่อโอบเจ้าผิวสัมผัสแข็งทื่อแล้ว จะสัมผัสเสียงภายในอันเต็มไปด้วยน้ำเสียงความอ่อนหวาน เย็นเยียบ เต็มไปด้วยความรักและให้อภัยหรือไม่
"หลับตาสิ ได้ยินเสียงเขาหายใจมั้ย" ผมชวนเจ้าชายน้อยหลับตา
เขาหลับตาแล้วบอกว่า ได้ยินเสียงลมกับเสียงจักจั่น
"ต้องบอกคูคูกับน้องแก้มมากอดบ้างนะ" เขายังพูดเผื่อแผ่ไปถึงเพื่อนของเขา
เขาถามกลับมา พ่อได้ยินอะไรบ้าง
"มีหัวใจเต้นอยู่ข้างใน" ผมไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจมั้ย
"ต้นไม้มีหัวใจด้วยเหรอ"
"มีสิ ลูกฟังดีๆ แนบให้ชิดเลยนะ ได้ยินมั้ย"
"ใช่จริง ได้ยินแล้ว"..