ไหนๆ ก็กอดกันแล้ว กอดต่ออีกครั้งเป็นไรไป
ภูเขาลูกนั้นมีเถียงไร่ตั้งอยู่โดดเด่นและโดดเดี่ยว สองพ่อลูกชวนกันไปยังเถียงไร่
ที่นั่นคงสบายตา ดูลับหูลับตาคน ไม่มีใครไป พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าว กลับพบกับไม้สามต้น ดูราวเป็นพี่น้องกัน ทรงพุ่มงามเหลือเกิน เหมือนก้อนเมฆย้อมสีเขียวเกิดเปลี่ยนใจอยากมาปักเป็นต้นไม้อยู่บนผืนดิน
มองแล้วมองอีก ยังไม่อิ่ม
“กอดดีกว่าพ่อ” เสียงนั้นบอก
“พ่อกอดด้วย”
นานอย่างนาน ผลัดกันกอดไม้สามต้นนั้น
อีกครั้งหนึ่ง ไม่ห่างเวลากันนัก เจ้าลูกชายไปทอดสะพานให้เด็กชายคนหนึ่งตอนไหน อยู่ๆก็เห็นวิ่งไล่กันแล้ว
“ชื่อสมพรคับ” เขาตอบทันทีที่ถาม
สองคนแทบไม่ห่างกัน ชวนกันเดินเข้าป่าหลังหมู่บ้าน สมพรเจ้าบ้านลิงโลดกับเส้นทาง และทุกอย่างรอบตัวเขา แต่เจ้าลูกชายกลับรู้สึกเก็บเนื้อเก็บตัว
พบแมงมุม สงสัยแมงมุม ดูแมงมุม สมพรรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับแมงมุม อธิบายหมด ว่ามันชักใยดักแมลง มีหลายสีหลายชนิด อยู่ตามเปลือกไม้ก็มี อยู่กับใบไม้แห้งบนดินก็มี
สมพรป่ายปีนต้นไม้อย่างคล่องแคล่วง่ายดาย เจ้าลูกชายยิ้มหัวเราะชอบใจ
สมพรเดินนำหน้าไปตามทางลาดชัน บอกให้เจ้าลูกชายเดินขึ้นไป ทั้งลื่น ทั้งชันทุลักทุเลแต่ก็ไปกันได้
วัยใกล้เคียงกัน เพียงแต่ใช้ชีวิตอยู่ต่างพื้นที่กัน สมพรอยู่กับป่าเขา ส่วนเจ้าลูกชายอยู่ชานเมืองใหญ่
ต้นไม้หลายต้น โดนถลกเปลือกออก สมพรชี้ให้ดูแมลงบนเปลือกไม้ เหมือนรู้ว่าเจ้าลูกชายชอบแมลงเหลือเกิน
ถ่ายรูปร่วมกัน
พอฉากจะกลับ สมพรตามมาส่ง อาลัยอาวรณ์กัน สมพรยื่นบางอย่างให้ ส่วนเจ้าลูกชายยื่นของเล่นกับขนม
เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่การโอบกอดในการพบ มีความหมายต่อการโอบกอดในการจากด้วย ชีวิตจริงของเด็กสองคน มาพบกันในวันโอบกอดต้นไม้
ผูกพันกัน