Skip to main content

ฉันน้ำตาไหลเลยหลังจากอ่านข่าวสรุปถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ที่ส่งสารตรงถึงประชาชนชาวเนเธอร์แลนด์ เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ ๑๖ มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นในรอบห้าสิบปี หลังจากที่ครั้งสุดท้ายนายกฯเขาต้องออกมาพูดกับประชาชนทั่วประเทศอย่างนี้คือครั้งวิกฤติน้ำมันปี ๑๙๗๐

มันคือน้ำตาของความอับอาย อัดอั้น และสงสารตัวเองและเพื่อนร่วมประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเอามาเปรียบกับสิ่งที่ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยและผู้บริหารรัฐนาวานี้จะพายพาเราไปไหนไม่รู้

นายกรัฐมนตรีชาวดัตช์ มาร์ค รุตเตอร์ ซึ่งเรียกกันว่าเป็น Most wanted bachelor คือเป็นนายกฯ หนุ่มโสดเนื้อหอม เขากล่าวถึงยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลจะดำเนินการ เนเธอร์แลนด์ใช้ยุทธศาสตร์ “การควบคุมสูงสุด” เพื่อจัดการกับการแพร่ของโคโรน่าไวรัส  เป้าหมายคือพยายามทอดระยะเวลาก่อนจะมีการระบาดสูงให้นานออกไป ซึ่งจะทำให้มีเวลาเพียงพอที่สังคมจะสร้างภูมิคุ้มกัน นั่นหมายถึงว่าโรงพยาบาลและหน่วยดูแลผู้ป่วยหนัก (ไอซียู) จะไม่ต้องแบกภาระหนักเกินและมีศักยภาพที่จะช่วยคนที่จำเป็น

สิ่งที่รัฐบาลนำเสนอนี้คือการพยายามหยุดยั้งไวรัส และให้ความสำคัญกับการดูแลผู้สูงอายุและคนที่สุขภาพไม่ดี นายกฯกล่าวด้วยว่า “ผมเข้าใจดีว่าท่านกังวล”

“สิงที่สำคัญสำหรับเราคือการการทำให้ความเสี่ยงของคุณน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”

“เราทุกคนมีคำถามว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อปกป้องตัวเราและคนรอบข้าง เราควรจะยังจัดงานวันเกิดหรือไม่ หรือ งานแต่งงานล่ะ และทำไมหนึ่งประเทศต้องมีกฎเดียวกัน และ คำถามอื่น ๆ อีกมาก”

คำตอบคือ เราเริ่มต้นด้วยความรู้และประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ มันสำคัญอย่างยิ่งที่เราต้องดำเนินการด้วยวิทยาศาสตร์ คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญนำมาซึ่งการตัดสินใจตั้งแต่เมื่อเริ่มเกิดสถานการณ์ขึ้นในเนเธอร์แลนด์ เขายังย้ำว่า “และมันสำคัญที่เราจะยังคงขับเคลื่อนต่อไปโดยมีความรู้ที่เป็นวิทยาศาสตร์และข้อเท็จจริงที่เชื่อถือได้เป็นเข็มทิศนำ”

เขาอธิบายถึงการเลือกยุทธศาสตร์ให้เข้าใจร่วมกันว่า

ภูมิคุ้มกัน

“จะมีคนจำนวนมากในเนเธอร์แลนด์ที่จะสัมผัสกับไวรัสในช่วงหลังจากนี้ และคนจำนวนมากขึ้นที่จะมีภูมิคุ้มกัน ซึ่งก็ทำให้ลดโอกาสที่จะแพร่ไปสู่ผู้สูงอายุและคนที่สุขภาพอ่อนแอ”

“จะต้องใช้เวลาหลายเดือนในการทำให้เกิดขึ้น และในระหว่างนี้เราต้องปกป้องผู้คน ทางเลือกของเราคือการยกระดับการควบคุมสูงสุด เพื่อชลอให้นานที่สุดก่อนการระบาดไปถึงจุดสูงสุด ระหว่างนั้นคนของเราก็จะค่อยสร้างภูมิคุ้มกัน และไม่ทำให้ภาระงานของโรงพาบาลล้นเกิน รวมไปถึงแผนกที่ต้องดูแลผู้ป่วยหนัก”

อีกทางเลือกหนึ่งคือปล่อยให้การระบาดเกิดขึ้นเร็วๆ ซึ่งจะทำให้เกิดภาระหนักเกินกับหน่วยบริการสุขภาพ “เราต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้เป็นเช่นนั้น” เขาบอกกับผู้ชมทางโทรทัศน์ด้วยว่า ทางเลือกที่สามคือปิดประเทศและพยายามสกัดมันออกไป ซึ่งจะใช้เวลาหลายเดือนหรือนานกว่านั้น ซึ่งจะส่งผลกระทบกับพวกเราทุกคน

กฎกติกา

“ระยะเวลาของการใช้มาตรการซึ่งอาจจะต้องขยายออกไปถ้าจำเป็น ขึ้นอยู่กับว่าไวรัสมีปฏิกิยาโต้กลับอย่างไร” กฎบางข้ออาจจะทำให้ยืดหยุ่นไว้ เราคงต้องเฝ้าระวังให้ดีในหลายเดือนที่กำลังมาถึง “เราจะบังคับใช้มาตรการเท่าที่จำเป็น และให้เราได้ดำเนินชีวิตปกติมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”

รุตเตอร์ยังกล่าวตรงไปตรงมาถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการต้องปิดบริการ “คนจำนวนมากกังวลกับงาน ธุรกิจมากมายอยู่ในสภาพหลังชนฝา”

“ผมอยากจะส่งสารไปยังคนทำงานในเนเธอร์แลนด์ว่ารัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อให้ธุรกิจทั้งหลายไม่ล้ม และคุณไม่ต้องตกงาน มันเป็นเรื่องที่ยาก แต่เราจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง”

“ในท้ายนี้ผมขอขอบคุณทุกคนในเนเธอร์แลนด์ที่ปฏิบัติตามกฎ และให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”

“ขอให้พวกเราติดตามและปฏิบัติตามคำแนะนำ แม้ว่าคุณจะสุขภาพแข็งแรงดี ฟังผู้เชี่ยวชาญ เป็นการช่วยที่คุณทำได้ นี้คือเวลาที่เราต้องช่วยกัน เพื่อให้ความจำเป็นร่วมคือความจำเป็นของเรา”

“คนทำความสะอาด, พยาบาล และแพทย์ในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่รถพยาบาลและผู้ปฏิบัติงานในหน่วยฉุกเฉินอื่น ๆ หรือ ผู้ที่ประจำในหน่วยบริการ ในโรงเรียน, ศูนย์ดูแลเด็ก และซุปเปอร์มาร์เก็ต ผมอยากจะบอกว่าพวกคุณกำลังทำงานที่สุดยอดมาก และขอขอบคุณ”

“ความท้าทายที่เรากำลังเผชิญนี้ใหญ่หลวงและเราจะผ่านช่วงเวลายากลำบากนี้ไปด้วยกัน ดูแลซึ่งกันและกัน ผมไว้ใจพวกคุณ”

คุยกับคนที่เนเธอร์แลนด์ เขาบอกว่าปฏิกิริยาจากสังคมตอบรับดีมาก คนเข้าใจและรู้สึกว่าสอดคล้องกับความเป็นจริง รวมทั้งเขาสามารถดึงอารมณ์ร่วมกันของคนในสังคม ด้วยการกล่าวแถลงอย่างเต็มไปด้วยความรู้สึก

ความเข้าใจที่เกิดขึ้นจากสารของนายกฯนี้

• คนรับรู้ว่าในอีกหลายเดือนจากนี้ไป คนในเนเธอร์แลนด์กว่าครึ่งจะได้รับผลกระทบหรือติดเชื้อ และคนจำนวนมากที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา เมื่อคนในสังคมมีภูมิคุ้มกันมากเพียงพอก็จะเป็นเกราะป้องกันที่จะลดการนำเชื้อไปสู่คนที่มีความเสี่ยง อย่างผู้สูงอายุ และคนที่มีปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ

• ทรัพยากรทางสาธารณสุขจะถูกนำไปใช้ในการปกป้องดูแลกลุ่มเสี่ยงสูงในสังคม ปัจจุบัน(๑๖ มี.ค.๖๓)มีตรวจพบว่าติดเชื้อทั้งหมด ๑,๔๑๓ คน เสียชีวิตแล้ว ๒๔ คน โดยคนที่เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในวัยเฉลี่ย ๗๙ ปี และคนที่มีโรคหอบหืด

• ทุกคนควรจะจำกัดการพบปะ โดยให้อยู่ที่บ้านเป็นหลัก หากเป็นหวัด และมีอาการรุนแรงขึ้น มีอาการเข้าข่ายการติดไวรัสโคโรน่า ขอให้ติดต่อแพทย์ประจำ (ที่เนเธอร์แลนด์มีระบบแพทย์ทั่วไปที่เป็นแพทย์ประจำตัวของแต่ละคน)

• หากเป็นหวัด หรือไข้หวัดใหญ่ธรรมดาสามารถที่จะอยู่ที่บ้าน ดูแลอาการตัวเองได้

• รัฐบาลพร้อมจะทุ่มงบประมาณจำนวนมากเพื่อพยุงภาคเศรษฐกิจที่จะได้รับผลกระทบ

สารที่สื่อตรงถึงประชาชน ให้ข้อมูล ให้คำอธิบาย บอกถึงทางเลือก และความคิดเบื้องหลังที่เลือก และให้ความมั่นใจในการดูแลทุกข์สุขประชาชน มันคือสิ่งที่แสดงถึงการให้คุณค่ากับชีวิตของคน, การเคารพในสิทธิของประชาชนที่จะได้รับรู้/มีส่วนในการตัดสินใจ และแสดงออกถึงความไว้วางใจประชาชน และแน่นอนรัฐบาลเช่นนี้จึงเหมาะควรที่จะได้รับความไว้วางใจและเชื่อมันจากประชาชนตอบแทน

 

Source: https://www.dutchnews.nl
 

บล็อกของ จีรนุช เปรมชัยพร

จีรนุช เปรมชัยพร
ฉันน้ำตาไหลเลยหลังจากอ่านข่าวสรุปถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ที่ส่งสารตรงถึงประชาชนชาวเนเธอร์แลนด์ เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ ๑๖ มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นในรอบห้าสิบปี หลังจากที่ครั้งสุดท้ายนายกฯเขาต้องออกมาพูดกับประชาชนทั่วประเทศอย่างนี้คือครั้งวิกฤติน้ำมันปี ๑๙๗๐
จีรนุช เปรมชัยพร
“เรารู้สึกว่า การเป็นพ่อแม่ ไม่ได้แปลว่าต้องเลิกรับผิดชอบสังคม เราละทิ้งสังคมไม่ได้”                                                                   - บอนนี่ ไรเนส (Bonnie Raines)
จีรนุช เปรมชัยพร
++งานสิบปีประชาไท เลื่อนไปเป็น 30 มกราคม 2558 เหตุผลโดยละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เบื้องต้นขอแจ้งข่าวเลื่อนการจัดงานสั้นๆก่อนนะคะ++ 9 ตุลาคม
จีรนุช เปรมชัยพร
แปลจาก: Am I the Face of the New American Middle Class?******************************
จีรนุช เปรมชัยพร
เลือกข้างเสรีภาพ Click SOPA = Stop Online Piracy Act
จีรนุช เปรมชัยพร
  Background
จีรนุช เปรมชัยพร
เกี่ยวกับประชาไท
จีรนุช เปรมชัยพร
มีหลายเรื่องที่อยากพูดคุยกับผู้อ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนสมาชิกเว็บบอร์ดประชาไท ในบรรดาหลายเรื่องที่อยากคุย ประเด็นเรื่องความปลอดภัยและการรักษาความเป็นส่วนตัว หรือหากบางท่านไม่อยากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง จะสามารถดำเนินการเพื่อปกป้องตัวเราและคนที่เรารัก ห่วงใย ได้
จีรนุช เปรมชัยพร
จดหมายฉบับนี้ควรจะส่งถึงผู้อ่านประชาไทและเพื่อนสมาชิกเว็บบอร์ดประชาไท หนึ่งเดือนมาแล้ว แต่ทว่า..ดิฉันเองก็ตกอยู่ในอาการอ้ำอึ้งพูดไม่ออก ไม่รู้จะบอกอะไรได้มากไปกว่า   “ขอโทษ”  
จีรนุช เปรมชัยพร
วันนี้เวลาใกล้สี่โมงเย็นเว็บบอร์ดประชาไทก็พร้อมเปิดให้บริการนะคะ อาจจะยังแปลกตาและไม่คุ้นเคย และระบบบางอันอาจยังมีปัญหาได้บ้าง เนื่องจากเร่งเปิดให้ใช้งานนะคะ อย่างไรก็ตามทีมงานจะปรับแก้ในลำกับต่อไปค่ะ  มีประกาศที่แจ้งให้ทราบในการใช้เว็บบอร์ดใหม่ ที่ขออนุญาตคัดลอกมานำเสนออีกครั้งนะคะ เปลี่ยนระบบยกเลิกใช้ชื่อ user login และใช้ชื่อ user name เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งสมาชิกสามารถใช้งานรหัสผ่านชุดเดิมได้ทันที หากสมาชิกไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้งาน เนื่องจากลืมชื่อ username หรือรหัสผ่าน ให้ดำเนินการขอรหัสผ่านชุดใหม่…
จีรนุช เปรมชัยพร
เรียน เพื่อนสมาชิกและผู้อ่านเว็บบอร์ดประชาไท ทางประชาไทมีความจำเป็นที่จะต้องมีปิดการใช้งานเว็บบอร์ดเป็นการชั่วคราว (2-3 วัน) เพื่อปรับเปลี่ยนโปรแกรมเว็บบอร์ด ซึ่งเป็นแผนการปรับปรุงที่กำหนดไว้แต่เดิม และเคยตั้งใจว่าก่อนการปรับเปลี่ยนจะเรียนแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้า แต่เนื่องจากมีการแจ้งปัญหาเกี่ยวกับการที่โปรแกรมมีช่องโหว่เรื่องการ เปลี่ยน user name ได้ ที่สำคัญสามารถปรับเปลี่ยนไปเป็น user name ของสมาชิกท่านอื่นที่มีอยู่แล้ว ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ต่างจาก กรณีของการตั้ง user name ให้ดู คล้าย ดังกรณีของคุณ mom_ ดังนั้นทางทีมงานจึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนระบบก่อนแผนการที่กำหนด…
จีรนุช เปรมชัยพร
มีเพื่อนแนะนำให้อ่านบทความในบลอก BioLawCom.De เรื่องเกี่ยวกับสื่อและประชาชน คลิกไปอ่านแล้ว น่าสนใจดีค่ะ ขออนุญาตเก็บมาฝากทุกท่านนะคะ ยกมาเฉพาะหนังตัวอย่างพอเป็นน้ำจิ้ม อยากอ่านฉบับเต็มๆ แนะนำให้คลิกไปอ่านที่เว็บต้นทางเลยนะคะ เคยมีคนกล่าวว่า "นอกเหนือจากอำนาจสามเสาในหลักการแบ่งแยกอำนาจ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ แล้ว สื่อ ยังเปรียบเสมือนอำนาจที่สี่ แห่งรัฐสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐในยุคข้อมูลข่าวสาร" ...และด้วยพลังอำนาจ และความทรงประสิทธิภาพเช่นนี้นี่เอง ในด้านหนึ่ง…