Skip to main content

รอยยิ้มที่เปิดเผยของมันเหมือนกับแสงสว่างยามอรุณ แสดงถึงความจริงใจ ความมุ่งหวังและพลังของไฟที่สุมขอนไม่ยอมดับแม้โดนประพรมด้วยหยาดฝน แม้ต้องเผชิญกับสิ่งที่แสนจะร้ายกาจแต่มันไม่ยอมจำนน โปรดมั่นใจเถิดว่าไม่มีแสงดาวดวงไหน ไม่มีแสงตะวันยามรุ่ง ณ ที่แห่งใด ที่จะนำพาความท้อแท้สิ้นหวังมาให้เรา

เดาว่าหลายคนที่ติดตามข่าวของ ไผ่ ดาวดิน มีความรู้สึกหดหู่เนื่องจากไม่รู้ว่าจะหาทางช่วยเหลือไผ่อย่างไร

ผมอยากแนะนำว่าถ้าพอมีเวลา ให้ลองไปเยี่ยมไผ่ดูครับ

อย่าด่วนคิดว่าภาพและเสียงที่คุณจะพบในห้องเยี่ยมที่เรือนจำหรือที่ศาลจะนำความโศกเศร้าอาดูรให้คุณมากกว่าเดิม

และถึงแม้ว่าในสังคมที่ปกครองโดยระบอบเผด็จการสิทธิของประชาชนจะถูกจำกัด แต่การมาเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำก็ยังเป็นสิ่งที่ทำได้ ไม่ผิดกฎหมายครับ!


พูดถึง'ไผ่' มันเป็นคนแปลกเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ และรวมถึงตัวผมเอง

ผมเป็นคนประเภทวูบวาบเหมือนไฟไหม้ฟาง ทำอะไรเป็นพักๆ แล้วก็เปลี่ยนความสนใจไปทำอย่างอื่นต่อ

ต่างกับไผ่ มันเหมือนกับไฟสุมขอน

ถ้าใครเคยบุกเบิกทำไร่ มันจำเป็นต้องเผาทำลายเศษวัชพืช ขอนไม้ ก่อนทำการเพาะปลูกในรอบใหม่

เศษวัชพืช ไม้เนื้ออ่อน ถูกเผาไม่นานก็กลายเป็นเถ้าถ่านบำรุงดิน แต่ถ้าเป็นขอนไม้ ไม้แก่นเนื้อแข็ง มันจะไม่เป็นอย่างนั้น

กลางวันอาจจะไม่สังเกตเห็น แต่ตอนกลางคืนแสงสว่างรำไรจากการเผาไหม้ของขอนไม้จะวับแวมระยิบระยับอยู่กลางทุ่งโล่งแข่งกับแสงดาวบนท้องฟ้า

เปรียบเสมือนแสงดาวที่อยู่บนดิน

หากมีโอกาสได้พบหน้า สายตาของไผ่สะท้อนบอกถึงการการยืนยันเจตจำนงเสรี

มันเหมือนกับแสงดาวในคืนเดือนมืด ยิ่งฟ้ามืด ดาวก็จะยิ่งสว่าง

รอยยิ้มที่เปิดเผยของมันเหมือนกับแสงสว่างยามอรุณ แสดงถึงความจริงใจ ความมุ่งหวังและพลังของไฟที่สุมขอนไม่ยอมดับแม้โดนประพรมด้วยหยาดฝน แม้ต้องเผชิญกับสิ่งที่แสนจะร้ายกาจแต่มันไม่ยอมจำนน

มันไม่ยอมเป็นเหยื่อ ครอบครัวและเพื่อนของไผ่ก็เช่นกัน

โปรดมั่นใจเถิดว่าไม่มีแสงดาวดวงไหน ไม่มีแสงตะวันยามรุ่ง ณ ที่แห่งใด ที่จะนำพาความท้อแท้สิ้นหวังมาให้เรา
 


ที่มาภาพ: แฟนเพจพลเมืองโต้กลับ


สำหรับผู้ที่ไม่รู้ว่าตัวคนเดียวภายใต้ข้อจำกัดอันหนักหนาสาหัส จะเคลื่อนไหวอย่างไร ผมเชื่อว่าถ้าคุณมีโอกาสได้คุยกับไผ่แล้วคุณจะมีความหวังมากขึ้น และคุณอาจจะสามารถนึกรูปแบบการต่อสู้ออกมาได้อย่างมากมาย

และคุณอาจได้รู้ว่ามนุษย์ที่มีความมุ่งมั่นเพียงคนเดียวก็อาจจะต่อสู้เปลี่ยนแปลงความอยุติธรรมที่มีอยู่บนโลกได้

#FreePai  #ปล่อยไผ่


หมายเหตุ: เผยแพร่ครั้งแรกใน Facebook Sarayut Tangprasert 

บล็อกของ gadfly

gadfly
13 พฤษภาคม 2553 เวลาประมาณสี่ทุ่ม  ชาติชาย ชาเหลา คนขับแท็กซี่ อายุ 25 ปี ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ศีรษะ เสียชีวิตคาที่ จากกระสุนปืนไรเฟิลจากทหารยุติชีวิตของเขาลงทันทีขณะที่ในมือของเขายังถือกล้องถ่ายวิดีโออยู่
gadfly
น่าสมเพชและน่าอายแทนทหารไทยที่มีศักยภาพในการใช้ความรุนแรงกับใครก็ได้ในประเทศนี้กลับเลือกที่จะใช้ความรุนแรง และความได้เปรียบทางกฏหมายทำร้ายคนที่อ่อนแอที่สุดกับคนอย่าง 'ตูน'