Skip to main content

เดือนที่ผ่านมา สำนักข่าว BBC เสนอข่าวเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นหน้าสำนักงานใหญ่กองกำลังนาโต้ภายในกรุงคาบูล ขณะกลุ่มตาลีบัน ออกแถลงการณ์จะทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศและออกมายอมรับว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุ ก่อนจะยืนยันว่า กองกำลังตะวันตกต้องถอนตัว

\\/--break--\>
ผมนั่งหน้าจอทีวี ขณะที่ยาดาอยู่ในกรุงคาบูล

.....


วันหนึ่ง

ยังอยากไป มิชชั่น อาฟกานิสถานไม๊” ผอ.เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (ANFREL) ส่งเสียงตามสาย

อยากไปพี่ ต้องให้คำตอบเมื่อไร” เธอกล่าวผ่านน้ำเสียงราบเรียบปนระริกระรี้นิดหน่อย

พรุ่งนี้ แค่นี้ก่อนนะ” ตรู๊ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด

นั่นแหละ เป็นที่มาของการบินไปอาฟกานิสถาน


สิ่งที่ต้องเตรียมมีไม่มากไปกว่า “การเตรียมจิตใจของตัวเอง” อย่างน้อยเพื่อนและรุ่นพี่ที่เคยไปมาก่อนก็บอกเธออย่างนั้น ที่น่าสงสัย คือ อัลเฟรล ทีม จากกรุงคาบูล อีเมล์มาขอกรุ๊ปเลือด ผ่านคำปลอบใจง่ายๆ ว่า ‘ไม่มีไรหรอก แค่บันทึกเอาไว้ เผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน’


การบินไปอาฟกานิสถานเป็นเรื่องที่ยุ่งยากพอสมควร ยาดาต้องบินไปลงดูไบ เพื่อขอวีซ่าที่นั่น ค้างสองคืนแล้วบินต่อไปยังกรุงคาบูลและไม่มีบริษัทประกันฯที่ไหนยอมประกันทีมงานสังเกตุการณ์การเลือกตั้งในครั้งนี้ แต่สุดท้ายก็หาบริษัทจากซานฟรานซิสโกที่ยินยอมรับความเสี่ยงในนาทีสุดท้าย ก่อนการเดินทางเริ่มต้น


ประกันทั้งชีวิต อุบัติเหตุและการลักพาตัว

แน่นอน เธอ บอกแม่ว่า ไปเนปาลค่ะ

.....


ดูไบ หรูหรา แม้แต่เครื่องบินยังหรูหรา โอ่โถงและถึงพร้อมด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกและหนังเป็นร้อยๆ เรื่อง แชมเปญ ไวน์ ไปจนถึง ปลั๊กเสียบโน๊ตบุ๊กและบริการโทรศัพท์กลับบ้าน


กล่าวกันว่า คนไทยเก้าในสิบคน เมื่อคิดถึงดูไบ จะคิดถึงอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ความอู้ฟู่ของเมืองร่ำรวยน้ำมันและภาพหญิงใส่ชุดดำคลุมร่างและเรือนผม กับข้อห้ามที่เข้มงวดสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ทั้งหมด กลับเป็นความขัดแย้งที่ลงตัวในโลกอาหรับ


ตึกระฟ้าและย่านการค้าที่แสนแพง ที่นั่นเต็มไปด้วยแรงงานข้ามชาติตั้งแต่ ไทย ฟิลิปปินส์ ปากีสถาน อินเดีย บังคลาเทศ อย่างน้อยโรงแรมที่ยาดาไปพัก พนักงานของโรงแรมส่วนใหญ่เป็นคนฟิลิปปินส์


สิ่งที่น่ามหัศจรรย์ที่สุด คือ ดูไบ เป็นเมืองที่เหมือนถูกเสกขึ้นมาจากทะเลทรายอันว่างเปล่า แสงไฟยามค่ำและการจราจรที่คับคั่ง อาคารบ้านเรือน อควอร์เรี่ยม สวนน้ำ ภัตตาคาร อาหาร และ ป้ายรถเมล์ติดแอร์


แหม่ มันน่าจะเอามาไว้ที่เมืองไทยสักแผง” ยาดายิ้มๆ

แต่มันไร้รสชาติ” เธอกล่าว

ทำไม” !!!

มันไร้วิถีชีวิต ที่นั่นมีแต่วัตถุเต็มไปหมด มาซื้อเอาที่จตุจักรก็ได้หรอก” ^v^!


1.ห้างสรรพสินค้าบริเวณย่านหรู ริมหาดและอาคารบ้านเรือนย่านคนรวยในดูไบ

 


2.
ตลาดติดแอร์ ขายสินค้านำเข้าราคาแพง

 


3.
เรือล่องทะเลสาบ จำลองความเป็นอาหรับภายในโรงแรมที่พัก

 


4.
ภายในตัวตลาด มาดิน่า ซูค

 


5.
ชิ๊ช่าหรือมอระกู่ วางขายเป็นปกติของโลกอาหรับ

 


6.
ที่มองเห็น คือ ตึกเรือใบ หากนักท่องเที่ยวต้องการขึ้นไปเยือนจะต้องจ่ายหนึ่งร้อยเหรียญ

 


7.
ป้ายรถเมล์ ติดแอร์

 


8.Dubai Beach

 


9.
โก ซูค ตลาดทองและเพชรพลอย ของนักช็อปตัวจริง

 


10.
ดูไบ แสงไฟกลางทะเลทราย

 

 

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อยู่ดาก้าเพียง 2 วัน มันถูกส่งขึ้นดอยแดนดงป่า อีกแล้ว (ตรงนี้เพื่อนผมอุทธรณ์ว่า เหมือนอยู่เมืองไทยไม่มีผิด กำ) “ต้องไปเมืองอะไรครับ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการถาม ‘จิตตะกอง’ “โห โหดน๊า” นั่นหมายถึงคำปลอบโยน
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อีกครั้งที่ ‘เพื่อนผม' มันไปสังเกตุการณ์การเลือกตั้งในบังคลาเทศ (แล้วผมก็เอามาเขียน 555) (จริงๆ มันไปเมื่อนานมาแล้วสักครึ่งปีเห็นจะได้)
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ภาพสุดท้ายที่ผมมองเห็นก่อนออกจากเปียงหลวง คือ ทิวเขาลูกนั้นในสายหมอกโอบอ้อมกับรอยยิ้มอิ่มบุญของคนไต งานปอย-ส่างลองสิ้นสุด พร้อมกับคอนเสริ์ตทิ้งท้ายที่เล่นกันค่อนรุ่ง ความรื่นเริงของคนหนุ่มสาวและส่างลองที่พร้อมจะเข้าสู่โลกแห่งธรรม
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมคิดว่าโครงใบหน้าของคนไตดูสวยดี โดยเฉพาะ ,ผู้หญิง ถึงแม้ว่า วันนี้ พวกเธอหลายคนจะต้องออกไปหางานทำนอกหมู่บ้าน , สิ่งที่มากกว่านั้น คือ ความรักและแรงศรัทธาในการร่วมงานบุญ ,และรอยยิ้มของพวกเธอ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ศูนย์พักรอกุงจ่อ คือ พื้นที่ของผู้หนีภัยการสู้รบจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของรัฐบาลทหารพม่า นับจากปี 2545 ชาวไต(ไทใหญ่)ร่วมหนึ่งพันคน เดินเท้าเข้าประเทศไทยทางด่านหลักแต่ง...!!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
พ่อส้านและส่างลอง เป็นภาพที่คู่กัน ส่างลองอยู่ที่ไหน พ่อส้านจะอยู่ที่นั่น แต่ละคน แต่ละคู่ ต่างมีลีลาที่แตกต่างกันออกไป ... เชื่อกันว่า ได้บุญใหญ่ ส่างลองในวันนี้จะเป็นพ่อส้านที่ดีในวันหน้า ทั้งนี้ ตามความสมัครใจ เช้า ขี่คอแห่ส่างลองไปตามวัด บ่ายแก่ได้พัก กลางคืนนอนเฝ้าส่างลองหลังซุ้ม ครบ 5 วัน เชื่อกันว่า ได้ขึ้นสวรรค์ !!! ดูลีลาของพวกเขาสิครับ .....
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
บริเวณสนามฟุตบอล โรงเรียนบ้านเปียงหลวงเต็มไปด้วนสีสัน สีสันงานบุญซุ้มส่างลองทั้ง 107 ซุ้มกระจายอยู่โดยรอบสนามฟุตบอล เวทีดนตรีใหญ่หันหน้าประชันกับเวทีลิเกไทใหญ่หรือ "จ๊าดไต" เวทีใหญ่เล่นดนตรีทันสมัย โครงสร้างเวทีทำด้วยแกนเหล็กประกบเสาสูงราวเมตรครึ่ง ,ส่วนเวทีจ๊าดไตทำจากโครงไม้ไผ่ทั้งหลัง ปูพื้นด้วยแผ่นไม้กระดาน ฝาด้านหลังทำด้วยใบตองตึงสีน้ำตาลแห้งเก่าทะลุมองเห็นด้านใน ,วงดนตรีเครื่องสายดีดสีตีเป่าครบ ,นางรำแต่งหน้าทาปาก พันคอด้วยผ้าแถบมันเลื่อม ด้านตรงข้ามแดนเซอร์ชาวดอยวิ่งกระจายออกมาหน้าเวทีใหญ่
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
มีดโกนด้ามใหม่ สีดำสนิท บรรจงกรีดลงไปตามไรผมแต่ละเส้น ส่างลองทุกคนรู้ดีว่า พิธีกรรมต่อจากนี้ไปพวกเขาจะต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนกว่าผมจะหมดศีรษะ บางคนใบหน้าเหยเก บางคนถึงกับร้องไห้ จนพระพี่เลี้ยงและพ่อแม่ต้องหยุดใบมีดเอาไว้ก่อนแล้วตักน้ำส้มป่อยราดหัว ฟอกด้วยยาสระผมแล้วเริ่มโกน โกนจนหมดศีรษะ !!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
รถตู้กลางเก่ากลางใหม่ของบริษัทดาวทองขนส่ง จำกัด ออกจากสถานีช้างเผือก 10.30 น. หนุ่มใหญ่วัย 40 เศษ ไว้เคราบางๆและสวมแว่นตาดำตลอดเวลาซิ่งเจ้าเพื่อนยากปุเลงไปตามสันเขาน้อยใหญ่บนเส้นทางเชียงใหม่-เปียงหลวง 161 กิโลเมตร แดดฤดูร้อนจัดจ้านขับให้ดอกหางนกยูงสีแดงข้างทางสดเข้ม ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ผ่านอำเภอเชียงดาวถึงแยกเมืองงาย เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายแม่จา-เปียงหลวง ก่อนที่เส้นทางจะไต่ไปตามสันเขาคดเคี้ยว หนุ่มนักซิ่งของเราจะเตือนผู้โดยสารผ่านน้ำเสียงหนักแน่นว่า
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
... ผู้เฒ่าหญิงชายทั้งในชุดห่มขาวและชุดลำลองทั่วไป ต่อแถว รอพระลงจากกุฏิรับบิณฑบาตร สายหมอกฤดูร้อนห่มคลุมจางๆ ทำให้บรรยากาศรอบๆ ดูเลือนลางกึ่งจริงกึ่งฝัน งานฉลองพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ตื้อฯ ที่บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีศาสนิกชนผู้ศรัทธาเนืองแน่นเดินทางมาจากทุกสารทิศงานครั้งนี้เป็นบุญใหญ่ที่มีการเฉลิมฉลองถึง 15 วัน (1-15 พ.ค. 52) ภายในงานเปิดโรงทานโดยผู้มีจิตศรัทธาจะทำอาหารมาเลี้ยงผู้ร่วมงานบุญโดยไม่คิดสตางค์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์