Skip to main content

แดดยามบ่ายกระทบสายน้ำเป็นริ้วเต้นระริกรินไหลไปตามแก่งหินน้อยใหญ่ ทิวไม้สองฝั่งแน่นขนัดทอดกายยึดผืนดินไม่ให้น้ำกัดเซาะ ราวกับมืออันอบอุ่นของแม่ที่โอบอุ้มทารกแนบอก

ธรรมชาติสร้างสรร จัดวางสรรพสิ่งบนคานแห่งความสมดุล

ลำน้ำเข็ก จากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลรวมกับน้ำน่านถึงเจ้าพระยา สร้างความชื่นใจแก่ชีวิตผู้คนสองฝั่งน้ำมาตั้งแต่ครั้งรุ่นปู่รุ่นย่ายังสาว

โลกเปลี่ยนไป การท่องเที่ยวทำให้ชาวบ้านหันมาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจแพยาง ,ร้านอาหาร ,รีสอร์ท นอกเหนือ จากการทำนาพร้อมกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาล่องแก่งน้ำเข็กกันอย่างล้นหลาม

ณัฐวัฒน์ วัฒนาประสิทธิ์ พี่เคน ประธานชมรมอนุรักษ์ลำน้ำเข็ก ผู้สร้างเรน ฟอเรส รีสอร์ท นับเนื่องเวลา
10 ปี เขามองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของลำน้ำในพื้นที่

มีขยะทับถมมากขึ้นเรื่อยๆ หากปล่อยไว้ วันหนึ่งขยะอาจจะท่วมเจ้าพระยา
ชายหนุ่มเริ่มต้นบทสนทนา
เขาเริ่มต้นด้วยการนำลูกน้องภายในรีสอร์ทเก็บขยะตามลำน้ำด้วยความเชื่อที่ว่า หากเรารักษาดินน้ำป่า ธรรมชาติจะรักเรา


ขยะมาจากไหน?


สถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ปัญหาขยะย่อมตามมา ส่วนหนึ่งเกิดจากตัวชาวบ้านในพื้นที่ที่เปิดร้านอาหาร เปิดที่พัก จำนวนคนที่เข้ามาอาศัยเพิ่มมากขึ้นเพราะชวนกันมาลงทุนทำธุรกิจท่องเที่ยวในแหล่ง ยกตัวอย่าง ผู้ประกอบการเรือยาง จากหนึ่งรายสองราย ตอนนี้เพิ่มเป็น
16 ราย อย่างนี้เป็นต้น

ใครนำขยะมา?

ผมเห็นว่า ส่วนหนึ่งมาจากผู้ประกอบการและชาวบ้านในพื้นที่ ยกตัวอย่างเช่น น้ำขวดลิตร กระป๋องแป้งหรือสบู่บางยี่ห้อ ขยะพวกนี้เป็นขยะจากบ้านเรือนของชาวบ้านในละแวกลำน้ำ แต่เราคงไม่โทษใคร เราทำงานเพื่อสร้างความตระหนักและให้ความสำคัญในการร่วมกันรักษาลำน้ำมากกว่าตัดสินว่าใครผิดใครถูก

เขาเชื่อว่า ขยะในลำน้ำเข็กเป็นฝีมือชาวบ้านถึง
70-75%
กล่องโฟมจากขาทีวี ,กระป๋องยาฉีดยุงไบกอน ,เสื่อเปื่อยยุ่ย ,ถุงพลาสติกใส่ขยะ ฯลฯ


อาสาสมัครคนหนึ่ง บอกว่า

เขาเก็บซากทีวีเก่าได้และคิดว่า นักท่องเที่ยวคงไม่นำทีวีมาเที่ยวด้วยอย่างแน่นอน
เขายิ้ม
!!! 

 

 

 

 

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อยู่ดาก้าเพียง 2 วัน มันถูกส่งขึ้นดอยแดนดงป่า อีกแล้ว (ตรงนี้เพื่อนผมอุทธรณ์ว่า เหมือนอยู่เมืองไทยไม่มีผิด กำ) “ต้องไปเมืองอะไรครับ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการถาม ‘จิตตะกอง’ “โห โหดน๊า” นั่นหมายถึงคำปลอบโยน
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อีกครั้งที่ ‘เพื่อนผม' มันไปสังเกตุการณ์การเลือกตั้งในบังคลาเทศ (แล้วผมก็เอามาเขียน 555) (จริงๆ มันไปเมื่อนานมาแล้วสักครึ่งปีเห็นจะได้)
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ภาพสุดท้ายที่ผมมองเห็นก่อนออกจากเปียงหลวง คือ ทิวเขาลูกนั้นในสายหมอกโอบอ้อมกับรอยยิ้มอิ่มบุญของคนไต งานปอย-ส่างลองสิ้นสุด พร้อมกับคอนเสริ์ตทิ้งท้ายที่เล่นกันค่อนรุ่ง ความรื่นเริงของคนหนุ่มสาวและส่างลองที่พร้อมจะเข้าสู่โลกแห่งธรรม
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมคิดว่าโครงใบหน้าของคนไตดูสวยดี โดยเฉพาะ ,ผู้หญิง ถึงแม้ว่า วันนี้ พวกเธอหลายคนจะต้องออกไปหางานทำนอกหมู่บ้าน , สิ่งที่มากกว่านั้น คือ ความรักและแรงศรัทธาในการร่วมงานบุญ ,และรอยยิ้มของพวกเธอ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ศูนย์พักรอกุงจ่อ คือ พื้นที่ของผู้หนีภัยการสู้รบจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของรัฐบาลทหารพม่า นับจากปี 2545 ชาวไต(ไทใหญ่)ร่วมหนึ่งพันคน เดินเท้าเข้าประเทศไทยทางด่านหลักแต่ง...!!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
พ่อส้านและส่างลอง เป็นภาพที่คู่กัน ส่างลองอยู่ที่ไหน พ่อส้านจะอยู่ที่นั่น แต่ละคน แต่ละคู่ ต่างมีลีลาที่แตกต่างกันออกไป ... เชื่อกันว่า ได้บุญใหญ่ ส่างลองในวันนี้จะเป็นพ่อส้านที่ดีในวันหน้า ทั้งนี้ ตามความสมัครใจ เช้า ขี่คอแห่ส่างลองไปตามวัด บ่ายแก่ได้พัก กลางคืนนอนเฝ้าส่างลองหลังซุ้ม ครบ 5 วัน เชื่อกันว่า ได้ขึ้นสวรรค์ !!! ดูลีลาของพวกเขาสิครับ .....
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
บริเวณสนามฟุตบอล โรงเรียนบ้านเปียงหลวงเต็มไปด้วนสีสัน สีสันงานบุญซุ้มส่างลองทั้ง 107 ซุ้มกระจายอยู่โดยรอบสนามฟุตบอล เวทีดนตรีใหญ่หันหน้าประชันกับเวทีลิเกไทใหญ่หรือ "จ๊าดไต" เวทีใหญ่เล่นดนตรีทันสมัย โครงสร้างเวทีทำด้วยแกนเหล็กประกบเสาสูงราวเมตรครึ่ง ,ส่วนเวทีจ๊าดไตทำจากโครงไม้ไผ่ทั้งหลัง ปูพื้นด้วยแผ่นไม้กระดาน ฝาด้านหลังทำด้วยใบตองตึงสีน้ำตาลแห้งเก่าทะลุมองเห็นด้านใน ,วงดนตรีเครื่องสายดีดสีตีเป่าครบ ,นางรำแต่งหน้าทาปาก พันคอด้วยผ้าแถบมันเลื่อม ด้านตรงข้ามแดนเซอร์ชาวดอยวิ่งกระจายออกมาหน้าเวทีใหญ่
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
มีดโกนด้ามใหม่ สีดำสนิท บรรจงกรีดลงไปตามไรผมแต่ละเส้น ส่างลองทุกคนรู้ดีว่า พิธีกรรมต่อจากนี้ไปพวกเขาจะต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนกว่าผมจะหมดศีรษะ บางคนใบหน้าเหยเก บางคนถึงกับร้องไห้ จนพระพี่เลี้ยงและพ่อแม่ต้องหยุดใบมีดเอาไว้ก่อนแล้วตักน้ำส้มป่อยราดหัว ฟอกด้วยยาสระผมแล้วเริ่มโกน โกนจนหมดศีรษะ !!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
รถตู้กลางเก่ากลางใหม่ของบริษัทดาวทองขนส่ง จำกัด ออกจากสถานีช้างเผือก 10.30 น. หนุ่มใหญ่วัย 40 เศษ ไว้เคราบางๆและสวมแว่นตาดำตลอดเวลาซิ่งเจ้าเพื่อนยากปุเลงไปตามสันเขาน้อยใหญ่บนเส้นทางเชียงใหม่-เปียงหลวง 161 กิโลเมตร แดดฤดูร้อนจัดจ้านขับให้ดอกหางนกยูงสีแดงข้างทางสดเข้ม ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ผ่านอำเภอเชียงดาวถึงแยกเมืองงาย เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายแม่จา-เปียงหลวง ก่อนที่เส้นทางจะไต่ไปตามสันเขาคดเคี้ยว หนุ่มนักซิ่งของเราจะเตือนผู้โดยสารผ่านน้ำเสียงหนักแน่นว่า
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
... ผู้เฒ่าหญิงชายทั้งในชุดห่มขาวและชุดลำลองทั่วไป ต่อแถว รอพระลงจากกุฏิรับบิณฑบาตร สายหมอกฤดูร้อนห่มคลุมจางๆ ทำให้บรรยากาศรอบๆ ดูเลือนลางกึ่งจริงกึ่งฝัน งานฉลองพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ตื้อฯ ที่บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีศาสนิกชนผู้ศรัทธาเนืองแน่นเดินทางมาจากทุกสารทิศงานครั้งนี้เป็นบุญใหญ่ที่มีการเฉลิมฉลองถึง 15 วัน (1-15 พ.ค. 52) ภายในงานเปิดโรงทานโดยผู้มีจิตศรัทธาจะทำอาหารมาเลี้ยงผู้ร่วมงานบุญโดยไม่คิดสตางค์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์