Skip to main content

เชื่อกันว่า ช่วงเวลาระหว่าง 200-500 ปี ชาวไทยใหม่อูรักลาโว้ยหรือโอรังละอุตจากดินแดนฆูณุงจไร เดินทางมาตั้งถิ่นฐานบนเกาะลันตา จนหลายสิบปีต่อมา เมื่อคนจากแผ่นดินใหญ่หลั่งไหลมาถึง พร้อมเปิดศักราชใหม่ของการท่องเที่ยว เกาะลันตาที่เคยสงบสันโดษกลับกลายเป็นดินแดนแห่งสีสัน

...เฉดสีต่างๆ ถูกละเลงโดยนักแสวงสุขมากหน้า

...

ท้องฟ้าสีฟ้าเบื้องหน้าหัวเรือข้ามเกาะดูเจิดจ้า จากท่าเรือคลองจิหลาด จ.กระบี่ ข้ามไปเกาะลันตาถึงท่าศาลาด่านใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ในอัตรา 350 บาท/หัว ภายใต้ท้องฟ้าและผืนน้ำสีเขียวคราม หลายคนรวมทั้งผมและเพื่อนนับสิบ ตัดสินใจไปละเลงชีวิตช่วงปีใหม่ที่เกาะลันตา

...

หากใครเคยเที่ยวช่วงปีใหม่คงจะรู้ดีเป็นอย่างยิ่งว่า นอกจาก ต้องฝ่าฝูงชนที่คราคร่ำในสถานีขนส่ง (กรณีนี้สายใต้) แล้ว ยังต้องผจญกับความผันผวนของราคาตั๋ว ตารางเวลาเดินรถและอัตราค่าบริการอันแพงหูฉี่ของห้องพักช่วง Hi Season ... แต่โชคดีที่มีเพื่อนเราอยู่บนเกาะ

...

เกาะลันตา เป็นหนึ่งในหมู่เกาะ 53 เกาะ เรียงรายขนานกับแผ่นดินใหญ่บนฝั่งทะเลอันดามัน ‘ลันตา’ เป็นชื่อใหม่ที่เรียกกัน เพี้ยนมาจากคำว่า ‘ลานตา’ เพราะหากมองเข้ามายังเกาะจะเห็นชายหาดเรียงรายหรือเพราะเกาะลันตาเป็นที่อยู่อาศัยของชนหลายชาติ ชาวไทยใหม่ ไทยพุทธ ไทยมุสลิมและชุมชนจีน

ชาวอูรักลาโว้ยให้ชื่อหมู่เกาะแห่งนี้ว่า ‘ปูเลาตอข้า’ หมายถึง ‘เกาะที่มีหาดทรายทอดตัวเป็นแนวยาว’ ชาวมลายูมุสลิม เรียก ‘ลันต๊าสหรือลันตัส’ หมายถึง ‘แผงหรือร้านสำหรับตากหรือย่างปลา’ สำหรับ ชาวจีน เรียก ‘ลุนตั๊ดซู่’ หมายถึง ‘เกาะที่มีภูเขาเป็นแนวยาวมองเห็นได้แต่ไกล’



หาดทรายสีขาวโพลนสะท้อนประกายแดดเจิดจ้า ดูดูแล้วเกาะลันตาในยุคของการท่องเที่ยวครอบครองพื้นที่ทุกตารางเมตร ไม่ได้แตกต่างไปจากอุทยานการท่องเที่ยวแห่งอื่นๆ หมายความถึง นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หัวสีทองและหัวสีดำ ทั้งผิวขาวและผิวคล้ำ เกลื่อนหาด

ผมนัดตัวเองพบกับเพื่อนๆ ที่โอโซน บาร์ ในร่มชายคาของต้นมะพร้าวและหูกวางขนาดยักษ์ที่ยื่นล้ำออกมาริมหาด นักท่องเที่ยวผมสีทองบางคนกำลังหลับอาบแดด คาดว่า เค้าคงไม่เคยเจอแดดใสใสสักเท่าไรนัก ดนตรี Reggae แว่วมากระทบโสตพร้อมๆ กับเสียงคลื่นกระทบฝั่ง

เบียร์ขวดแรกถูกเปิดพร้อมกับความสนุกสนานที่จะตามมาอีกหลายระลอก

...

เกาะลันตาถูกถากถางเส้นทางเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวมาตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์สึนามิ ในฐานะ ‘ไข่มุกเม็ดสุดท้ายแห่งทะเลอันดามัน’ แต้มโฉมหน้าให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับหรู เปิดพื้นที่การลงทุน ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ รายย่อย ทั้งกลุ่มคนบนเกาะและกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ

คือ ความหมายของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ ,ด้วยธรรมชาติที่งดงามและต้องสะดวกสบาย ,เกาะลันตาจึงถูกกล่าวถึงในฐานะแหล่งปะการัง ประเพณีเขเรือ รีสอร์ท&สปา อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ บาร์ริมหาดและดนตรี reggae & blues

...

ผมเริ่มโยกตัวไปตามจังหวะดนตรี ลมเย็นจากทะเลพัดเข้าหาฝั่ง เฉดสีส้มเหลืองแดงของพระอาทิตย์กำลังจางลงไปยังผืนทะเลเบื้องล่าง ขับเน้นเงาดำๆ ของนักท่องเที่ยวที่เดินอยู่ริมหาดและไกลออกไปเรือใบขนาดสองใบเรือเห็นเป็นเงาตะคุ่มๆ กำลังเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ ที่ริมขอบฟ้าตัดกับเฉดสีส้ม

“ต่อกันที่ไหนดี” ดูเหมือนใครคนหนึ่งจะเร่งเร้าสำหรับความมันส์ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า
“คืนนี้ชิลก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องไปดำน้ำ” อีกคนวางโครงร่างคร่าวๆ
“ต่อที่ไหน” ใครถามผมชักไม่แน่ใจ
“Go Dive ร้านดำน้ำ” เพื่อนบนเกาะว่า
“แล้วเข้านอนแต่หัวค่ำนะ”
“เออ ก_ จะคอยดู”


...

ขอบคุณความเอื้อเฟื้อของเพื่อนๆ ทุกคนบนเกาะลันตา น้อง,พี่เบียร์,นุช,ยันนี่,กร,บัง,สาวๆ แห่งโทเก้ ดีไซน์และพี่โทนี่กะภรรยา ครับ

20080131 บริเวณเกาะรอกในและนอก
บริเวณเกาะรอกในและนอก จะมีจุดช่องเขาขาด ทางออกสู่ทะเลเปิด น้ำสีเขียวครามอย่างที่เห็น (คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)

20080131 ครอบครัวนี้มาพร้อม speed boat ลำของเรา
ครอบครัวนี้มาพร้อม speed boat ลำของเรา น้องในภาพ ชื่อ ซันนี่

20080131 ไม่ได้ดำน้ำก้อถ่ายภาพปลาบนผิวน้ำ
ไม่ได้ดำน้ำก้อถ่ายภาพปลาบนผิวน้ำ

20080131 ภาพนี้ถ่ายที่บ้านหัวแหลม
ภาพนี้ถ่ายที่บ้านหัวแหลม เด็กชาวน้ำกำลังเล่นน้ำ

 

20080131 หาดทรายสีทอง
หาดทรายสีทอง ส่วนตัวผม ลายสี...

20080131 ชาวน้ำบ้านหัวแหลม
ชาวน้ำบ้านหัวแหลม คุณยายกำลังเดินกลับจากไร่แบกพร้าเล่มเขื่อง ทำเอาผมต้องแอบถ่าย

20080131 อบอุ่นดีครับ
อบอุ่นดีครับ

20080131 สระน้ำหรูของ ลาส บีช รีสอร์ท
สระน้ำหรูของ ลาส บีช รีสอร์ท

20080131 หลายเฉดสียามย่ำสนธยา
หลายเฉดสียามย่ำสนธยา
สองภาพสุดท้ายเป็นภาพที่ กร ช่างภาพแห่งโทเก้ ดีไซน์ ถ่ายไว้

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อยู่ดาก้าเพียง 2 วัน มันถูกส่งขึ้นดอยแดนดงป่า อีกแล้ว (ตรงนี้เพื่อนผมอุทธรณ์ว่า เหมือนอยู่เมืองไทยไม่มีผิด กำ) “ต้องไปเมืองอะไรครับ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการถาม ‘จิตตะกอง’ “โห โหดน๊า” นั่นหมายถึงคำปลอบโยน
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อีกครั้งที่ ‘เพื่อนผม' มันไปสังเกตุการณ์การเลือกตั้งในบังคลาเทศ (แล้วผมก็เอามาเขียน 555) (จริงๆ มันไปเมื่อนานมาแล้วสักครึ่งปีเห็นจะได้)
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ภาพสุดท้ายที่ผมมองเห็นก่อนออกจากเปียงหลวง คือ ทิวเขาลูกนั้นในสายหมอกโอบอ้อมกับรอยยิ้มอิ่มบุญของคนไต งานปอย-ส่างลองสิ้นสุด พร้อมกับคอนเสริ์ตทิ้งท้ายที่เล่นกันค่อนรุ่ง ความรื่นเริงของคนหนุ่มสาวและส่างลองที่พร้อมจะเข้าสู่โลกแห่งธรรม
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมคิดว่าโครงใบหน้าของคนไตดูสวยดี โดยเฉพาะ ,ผู้หญิง ถึงแม้ว่า วันนี้ พวกเธอหลายคนจะต้องออกไปหางานทำนอกหมู่บ้าน , สิ่งที่มากกว่านั้น คือ ความรักและแรงศรัทธาในการร่วมงานบุญ ,และรอยยิ้มของพวกเธอ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ศูนย์พักรอกุงจ่อ คือ พื้นที่ของผู้หนีภัยการสู้รบจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของรัฐบาลทหารพม่า นับจากปี 2545 ชาวไต(ไทใหญ่)ร่วมหนึ่งพันคน เดินเท้าเข้าประเทศไทยทางด่านหลักแต่ง...!!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
พ่อส้านและส่างลอง เป็นภาพที่คู่กัน ส่างลองอยู่ที่ไหน พ่อส้านจะอยู่ที่นั่น แต่ละคน แต่ละคู่ ต่างมีลีลาที่แตกต่างกันออกไป ... เชื่อกันว่า ได้บุญใหญ่ ส่างลองในวันนี้จะเป็นพ่อส้านที่ดีในวันหน้า ทั้งนี้ ตามความสมัครใจ เช้า ขี่คอแห่ส่างลองไปตามวัด บ่ายแก่ได้พัก กลางคืนนอนเฝ้าส่างลองหลังซุ้ม ครบ 5 วัน เชื่อกันว่า ได้ขึ้นสวรรค์ !!! ดูลีลาของพวกเขาสิครับ .....
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
บริเวณสนามฟุตบอล โรงเรียนบ้านเปียงหลวงเต็มไปด้วนสีสัน สีสันงานบุญซุ้มส่างลองทั้ง 107 ซุ้มกระจายอยู่โดยรอบสนามฟุตบอล เวทีดนตรีใหญ่หันหน้าประชันกับเวทีลิเกไทใหญ่หรือ "จ๊าดไต" เวทีใหญ่เล่นดนตรีทันสมัย โครงสร้างเวทีทำด้วยแกนเหล็กประกบเสาสูงราวเมตรครึ่ง ,ส่วนเวทีจ๊าดไตทำจากโครงไม้ไผ่ทั้งหลัง ปูพื้นด้วยแผ่นไม้กระดาน ฝาด้านหลังทำด้วยใบตองตึงสีน้ำตาลแห้งเก่าทะลุมองเห็นด้านใน ,วงดนตรีเครื่องสายดีดสีตีเป่าครบ ,นางรำแต่งหน้าทาปาก พันคอด้วยผ้าแถบมันเลื่อม ด้านตรงข้ามแดนเซอร์ชาวดอยวิ่งกระจายออกมาหน้าเวทีใหญ่
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
มีดโกนด้ามใหม่ สีดำสนิท บรรจงกรีดลงไปตามไรผมแต่ละเส้น ส่างลองทุกคนรู้ดีว่า พิธีกรรมต่อจากนี้ไปพวกเขาจะต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนกว่าผมจะหมดศีรษะ บางคนใบหน้าเหยเก บางคนถึงกับร้องไห้ จนพระพี่เลี้ยงและพ่อแม่ต้องหยุดใบมีดเอาไว้ก่อนแล้วตักน้ำส้มป่อยราดหัว ฟอกด้วยยาสระผมแล้วเริ่มโกน โกนจนหมดศีรษะ !!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
รถตู้กลางเก่ากลางใหม่ของบริษัทดาวทองขนส่ง จำกัด ออกจากสถานีช้างเผือก 10.30 น. หนุ่มใหญ่วัย 40 เศษ ไว้เคราบางๆและสวมแว่นตาดำตลอดเวลาซิ่งเจ้าเพื่อนยากปุเลงไปตามสันเขาน้อยใหญ่บนเส้นทางเชียงใหม่-เปียงหลวง 161 กิโลเมตร แดดฤดูร้อนจัดจ้านขับให้ดอกหางนกยูงสีแดงข้างทางสดเข้ม ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ผ่านอำเภอเชียงดาวถึงแยกเมืองงาย เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายแม่จา-เปียงหลวง ก่อนที่เส้นทางจะไต่ไปตามสันเขาคดเคี้ยว หนุ่มนักซิ่งของเราจะเตือนผู้โดยสารผ่านน้ำเสียงหนักแน่นว่า
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
... ผู้เฒ่าหญิงชายทั้งในชุดห่มขาวและชุดลำลองทั่วไป ต่อแถว รอพระลงจากกุฏิรับบิณฑบาตร สายหมอกฤดูร้อนห่มคลุมจางๆ ทำให้บรรยากาศรอบๆ ดูเลือนลางกึ่งจริงกึ่งฝัน งานฉลองพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ตื้อฯ ที่บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีศาสนิกชนผู้ศรัทธาเนืองแน่นเดินทางมาจากทุกสารทิศงานครั้งนี้เป็นบุญใหญ่ที่มีการเฉลิมฉลองถึง 15 วัน (1-15 พ.ค. 52) ภายในงานเปิดโรงทานโดยผู้มีจิตศรัทธาจะทำอาหารมาเลี้ยงผู้ร่วมงานบุญโดยไม่คิดสตางค์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์