Skip to main content

มีสถานที่ใดบ้างในโลก ที่ทำให้เราคิดถึงได้อย่างจริงๆ จังๆ ,คิดถึงและต้องกลับไปอีกครั้ง หากไม่มีความทรงจำ ,ก็คงไม่มีอดีตและอนาคต หมู่บ้านแม่ดึ๊จึงเป็นหลายเหตุผลที่คนหลายคนควรจะทำความรู้จัก

หมู่บ้านแม่ดึ๊ ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน เพิ่งมีโรงเรียนและครูได้ไม่นานเดือน ,สำหรับคนกะเหรี่ยงที่นั่น โลกภายนอก คือ บางสิ่งที่ควรจะเรียนรู้

...

“นาย ,นายเคยเขียนแคนโต้เกี่ยวกับแม่ดึ๊เอาไว้ใช่หรือเปล่า” ผมออกปากกะน้องอย่างนั้น
“ไมพี่ เขียนไว้นานแล้ว ตั้งแต่ไปค่ายจิตอาสากับพี่นั่นแหละ”
“เอ่อ ครือ..ผมคิดว่า เอ่อ...ผมอยากได้งานนายมาประกอบภาพว่ะ”
ผม ‘เอ่อ’ อย่างเกรงใจแกมขอกันดื้อๆ
“จริงเหรอพี่! เอาดิๆ”
เออ ดูมันเวอร์ๆ หว่ะ

^.^.^.^.^.^.^.^.^.^.^.^.^

‘แม่ดึ๊’ เหตุผลที่คนควรอยู่ด้วยกัน
1.บางเวลาของที่นี้
เดินทางไปกี่นาที
ฉันไม่เคยนับ

2.ระหว่างสายน้ำเส้นนี้
มีบางสิ่งไม่เท่ากัน
เราเรียกมันว่า "สิทธิ" หรือเปล่า

3.เสียงเด็กน้อยบางคน
ดังไม่เท่าเสียงหายใจ
รัฐมนตรี

4.ดนตรีของเราคือ
เสียงหัวเราะ
คนที่นี้

5.บางดินแดน
ไม่ต้องการ
ดินแดน

6.บางดินแดน
เพียงต้องการ
อาบน้ำห้วย

7.ฉันสร้างบางอย่างให้เธอได้
เช่น โรงเรียนและเสาธง
ที่เหลือ ฉันได้จากเธอ

8.สาละวินเดินทางมาจากไหน
ฉันเดินทางมาจากแดนไกล
เรา...มีบางอย่างร่วมกัน

9.อุดมการณ์คืออะไร
สำหรับฉันมันก็แค่
รอยยิ้มเด็กแม่ดึ๊

10.บางเช้าฉันเห็น
แสงอาทิตย์เดินทางมาพร้อม
ควันฟืน

11.ค่ำนี้เราจะกินอะไร
ดนตรี กวี ...หรือ
ความสุข

12.เหงื่อฉันไหลเปื้อนเสื้อเธอ
ที่เช็ดให้
ในเที่ยงวันหนึ่ง

13.ก่อนเดินทางมีอะไรบ้างที่เราคิด
หลังจากนั้น
มีอะไรบ้างที่เราจะไม่ลืม

14.แม่ไม่เคยถามถึงสิ่งที่เราเลือก
แม่เพียงเอ่ย
เจ้าจะกินอยู่อย่างไร ลูกเอ๋ย

15.มิตรภาพสำหรับบางคนคืออะไร
สำหรับฉัน
เราเดินทางด้วยกันบนเรือควาย

16.เสียงเตหน่า...คล้าย
เสียงเปียโน...คือ
โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด

17.เราฟังสิ่งที่เธอพูดไม่เข้าใจ
แต่เราแน่ใจว่าเธอหมายถึง
ยะ แอ นา

18.แม่ดึ๊ ไม่มีวาดอยู่ในกระดาษแผ่นใดบนโลกนี้
ยกเว้น
กระดาษในหน้าบันทึกของฉัน

19.เราเห็นอะไรบ้าง ณ ที่แห่งนั่น
สายน้ำ ต้นไม้ ผู้คน
เราเรียกมันว่าสิ่งมีชีวิตหรือเปล่า

20.การเดินทางคงไร้ความหมาย
หากฉันเพียงแค่รู้จักผู้อื่น
ทว่า ไม่รู้จักตัวเอง

21.คาดหวังกับรอคอย
เธอเลือกอย่างใด
รอคอยหรือคาดหวัง

22. โอ้! หนุ่ม - สาว
การเดินทางของเจ้ามีจุดหมายอยู่ที่ใด
ตัวเอง หรือผู้อื่น

23.ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่เราต้อง
ถามหาความหมายจากชีวิต
ด้วยตัวคนเดียว

24.เดินทางมาก...ไม่รู้ว่าจะ
เข้าใจโลก
มากไปหรือเปล่า

25.ค่ำหนึ่ง...บางใบไม้
ปลิวทักทาย
พระจันทร์

26.ฉันใช้เวลาทั้งหมดที่ค่ายแห่งนี้
ด้วยการ
มีความสุข

แคนโต้ทั้งหมดนี้เป็นของ ‘โซไรด้า’ เขียนผ่านความรู้สึกระหว่างที่เธอไปออกค่ายสร้างโรงเรียนที่หมู่บ้านแม่ดึ๊ในโครงการจิตอาสากับมูลนิธิกองทุนไทย , ‘แอะนา แอะโดะ แม่ดึ๊’ ..เธอลงท้ายเอาไว้อย่างนั้น

*นำขึ้นจอครั้งแรกที่ www.rsalife.com

 

20080313 ท่าแม่ดึ๊
ฝั่งจอดเทียบเรือ ท่าแม่ดึ๊

20080313 สภาพบ้านเรือน หมู่บ้านแม่ดึ๊ (1)

20080313 สภาพบ้านเรือน หมู่บ้านแม่ดึ๊ (2)

20080313 สภาพบ้านเรือน หมู่บ้านแม่ดึ๊ (3)
สภาพบ้านเรือน หมู่บ้านแม่ดึ๊

20080313 คุณแม่เอาร้องเท้าหนูมาตากแดดฮับ
คุณแม่เอาร้องเท้าหนูมาตากแดดฮับ!

20080313 แม่ลูกน้อย คนนี้ กำลังจูงลูกมาเก็บผ้าของตัวเอง
แม่ลูกน้อย คนนี้ กำลังจูงลูกมาเก็บผ้าของตัวเอง

20080313 เด็กๆ มักจะอายเสมอเมื่อเห็นคนแปลกหน้าถ่ายรูปของพวกเธอ
เด็กๆ มักจะอายเสมอเมื่อเห็นคนแปลกหน้าถ่ายรูปของพวกเธอ

20080313 ส้วม
ส้วม!

20080313 ชุมชนน่าอยู่
ชุมชนน่าอยู่ หมู่บ้านสะอาดปลอดขยะ

20080313 น้องหมาแม่ดึ๊
น้องหมาแม่ดึ๊ มันนอนผิงแดดใต้ถุนบ้าน

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ใบไม้ปลิดออกจากขั้ว กลายเป็นสีขาวกลางผืนป่าสีเขียว
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
   ฮ่อมดง มองเห็นเป็นพุ่มๆ ริมทาง
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ดงน้อยเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะหยุดค้างแรม มีห้องน้ำที่ทำด้วยไม้ไผ่สานใบตองตึงต่ออย่างหยาบๆ ในห้องขุดลึกเป็นโพรงราวๆ 3 เมตร ปากหลุมเป็น 4 เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 1x1 เมตร มีไม้พาดระหว่างปากหลุมให้นักท่องเที่ยวเข้าไปนั่งทำธุระทั้งหนักและเบานักเดินป่าสัก 10 คน มาถึงดงน้อยในเย็นวันนั้น อากาศขมุกขมัวทำให้เวลากลางวันสั้นกว่าเวลากลางคืน มืดสนิทภายใต้อ้อมกอดของขุนเขาและราวป่า ลูกหาบของคณะเดินป่าชุดนั้นเริ่มอุธทรณ์ เมื่อพวกเขาคิดว่า จะเดินไปอ่างสลุงในคืนนั้น เพื่อให้ทันดูทะเลหมอก“หากพวกคุณจะไป พวกคุณไปได้เลย ลูกหาบ(4 คน)จะพักที่นี่แล้วตามไปพรุ่งนี้”“อ่าว แล้วเราจะเอาอะไรกินคืนนี้” หนึ่งในนั้นเริ่ม…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมยืนมอง ขาหมูอวบๆ สีน้ำตาลเข้มแช่อยู่ในน้ำพะโล้ที่ร้านพรเพ็ญ(ขาหมูเสวย เจ้าเก่า)มันนอนนิ่งๆ รอคนขายเอามีดมาปาดบางๆ โปะลงบนข้าวให้ลูกค้า ไอร้อนหน้าเตาพอจะช่วยให้เนื้อตัวผมเบาขึ้นจากความหนาวนอกร้านที่กัดกร่อนถึงกระดูก"ซื้อขาหมู 100 บาท ครับ" ผมบอกคนขายแกกำลังวุ่นวายอยู่กับงานขายตรงหน้า ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาหนาตา แดดสายแหย่ตัวรอดตามช่องชายคา ผมคิดว่า เราน่าจะซื้อขาหมูขึ้นไปกินบนดอยหลวงเชียงดาว...
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมเจอ สาม พัน โบก โดยบังเอิญ คุณป้าจากสองคอน รีสอร์ท แกบอกว่าให้ขับรถไปสัก 3 กิโลเมตร เลี้ยวซ้าย สุดสวนมะขามของอาจารย์เรืองประทิน นั่นแหละอาจารย์เรืองประทิน ชายร่างใหญ่ ผิวสีน้ำตาลไหม้ ผมหยักศกสีดำสนิท ทำให้แกดูขรึมๆ แต่รอยยิ้มที่ออกมาจากดวงตาเล็กๆ คู่นั้น บอกว่า แกเป็นคนมีไมตรี“นาย 2 คน มาจากที่ไหนกัน” แกทักด้วยน้ำเสียงแบบพ่อพิมพ์ภูธร“กรุงเทพฯ ครับ” เพื่อนผมบอก ก่อนจะเล่าที่มาที่ไปและมาที่นี่ได้ยังไง“โอ้ว นั่น คุณเดินลงไปสำรวจสิ” แกชี้ไปที่กลุ่มโขดหินเว้าแหว่ง ข้างหน้า
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ทะเลแหวก ที่หาดนพรัตน์ธารา เสียงเครื่องเรือหางยาวออกจากฝั่ง พรายฟองทะเลสีขาวละเอียดแหวกออกเป็นสายตามความเร็วของเรือ ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา ขอบฟ้ากับผืนน้ำจรดกันแทบเป็นเนื้อเดียวอาสาสมัครลงความเห็นว่า เราควรจะไปทะเลแหวกอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-อ่าวพระนาง หมู่เกาะพีพี หรือ "หาดคลองแห้ง" ตามคำเรียกเดิมของคนพื้นถิ่น ด้วยเหตุผลง่ายๆ ทางภูมิศาสตร์ช่วงน้ำลง น้ำคลองซึ่งไหลลงมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอด ทรายขาวละเอียดปนเปลือกหอยยาวเหยียดจะโผล่เหนือผืนน้ำ ทอดยาวลงทะเล ก่อนจะบรรจบกับเกาะเขาปากคลอง เข้ากันได้ดีกับทิวสนริมฝั่ง กลายเป็นภูมิทัศน์ชายหาดแปลกตาสำหรับนักท่องเที่ยว ไกลออกไป…