Skip to main content

นานหลายเดือนที่ผมกับยาดาวางแผนการเดินทางไปเวียดนาม ความจริงก็คือ เรามาเร่งหาข้อมูลเอาโค้งสุดท้ายก่อนจะถึงกำหนดเดินทางเพียงอาทิตย์เดียว ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางเข้าสู่เวียดนามมาจากหลายทาง ทั้งจากเพื่อนที่เคยไปและไม่เคยไป (แต่มีคนรู้จักหรือมีเพื่อนเคยไป) ทั้งจากหนังสือและเว็บไซต์ ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศรวมถึงโลนลี่ พลาเน็ต ฉบับเวียดนาม ที่ลงทุนไปหาซื้อมาตั้งแต่ 6 เดือน ก่อนวันออกเดินทาง (16 วัน ระหว่างวันที่ 3-18 เมษายน 51)

ทำไมถึงเวียดนาม อย่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย คือ อยากไปว่ะ!

ผมและเธอ ตัดสินใจใช้เส้นทางมุกดาหาร สะหวันเขต-ด่านลาวบาว-เว้ ด้วยเหตุผลที่ว่า เส้นทางรถโดยสารจะทำให้เรามองเห็นทัศนียภาพ 2 ข้างทางได้ถนัดตามากกว่าโดยสารเครื่องบิน สำหรับเส้นทางนี้ เอาไปเล่าให้ใครฟังแล้วต่างส่ายหน้าก่อนจะบ่นๆ ทำนองว่า “แหม ช่างอึดอดทนกันซะจริงนะยะ” หรือ “ไปเหอะ ช่วงนี้เข่าไม่ดีว่ะเพื่อน” ก่อนจะตบบ่าเราเบาๆ หรือ “เพื่อน เราแก่แล้วอ่ะ” และอื่นๆ อีกสารพัด

ผมจองตั๋วไปมุกดาหารที่สถานีขนส่งหมอชิต ตามสูตรแล้ว ผมควรใช้บริการบริษัทสหพันธ์ร้อยเอ็ด ทัวร์ ที่ได้รับการการันตีจากแหล่งข้อมูลแต่ดูเหมือนโชคชะตาจะมีเหตุผลบางอย่าง เจ้าหน้าที่ซึ่งรับจองตัวของบริษัทไม่อยู่ที่ห้องจองตั๋ว สอบถามได้ความว่า
“พวกเธอไปรับเงินเดือน รออีกสักครู่นะครับ” ชายหนุ่มยื่นหน้ามาบอก

ผมรออยู่ชั่วอึดใจแต่เวลาเหมือนจะเชื่องช้า สายตาจับไปยังห้องที่ว่างเปล่าของบริษัท ก่อนตัดใจ ”จองตั๋วไปมุกดาหาร 2 ที่ครับ” ผมบอกกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทเชิดชัยทัวร์หลังจากเช็ควันเวลาในตั๋วเรียบร้อย โดยไม่ได้ตั้งใจ ผมหันไปมองที่ห้องบริษัทสหพันธ์ร้อยเอ็ดทัวร์อีกครั้ง

เอ่อ พวกเธอกลับมานั่งประจำที่เรียบร้อย !

เวลา 18.30 น. ของวันที่ 3 เมษายน เรามาถึงหมอชิตก่อนเวลารถออกครึ่งชั่วโมง ผมรอคอยการเดินทางนัดนี้อย่างใจจดจ่อ ดังนั้น ผมจึงไม่อยากให้มีความผิดพลาดใดใดเกิดขึ้น อากาศครึ้มทั้งที่เป็นฤดูร้อน ข่าวคราวของเวียดนามผ่านเข้าหูหลายเรื่อง ภาคเหนือของประเทศ (ช่วงนั้น) กำลังประสบภาวะหนาวจัด ไปเวียดนามหากไม่ถูกโกง โก่ง ราคา เรียกว่าไปไม่ถึง คนเวียดไม่พูดภาษาอังกฤษ หากซื้อสินค้าต้องต่อราคามากกว่า 80% และสาวเวียดผิวเนียนมั่กๆ ฯลฯ

ระหว่างรอเวลารถออก หนุ่มใหญ่ในชุดกางเกงยีนส์ เสื้อเชิ้ตลายทางสีเขียวซีดๆ นายหนึ่ง กุมนิตยสารแนวก็อสซิปดาราแนบอก เดินขึ้นมาบนรถอย่างคนคุ้นเคย(เพราะทำมาหากินอยู่แถวนี้) “ดูฟรีจ้า ดูฟรี” แกตะโกน ตามองไปหลังรถทัวร์คันยาว จับจุดอยู่ที่ผนังห้องน้ำสีครีม มือหยิบนิตยสารส่งให้ผู้โดยสารซ้าย-ขวา บางคนรับ-บางคนไม่รับ เราส่ายหน้า เพราะไม่คิดว่าการอ่าน    ก็อดซิปดาราระหว่างนั่งรถโดยสารจะเป็นการฆ่าเวลาที่ดีนัก

หนุ่มใหญ่เดินแจกนิตยสารสุดความยาวของตัวรถ จรดห้องน้ำสีครีม ก่อนจะเดินกุมนิตยสารที่เหลือกลับมา เขาหยุดยืนหน้าผู้โดยสารวัยรุ่น 2 คน ที่รับนิตยสารของเขาไปดู ยื่นมือออกไปพร้อมกับพูดว่า “20 บาท น้อง”

ผมลอบมองใบหน้าเหวอๆ ของวัยรุ่นทั้ง 2 คน อย่างไม่มีเจตนาทำร้ายพวกเขามากไปกว่านี้ ”เออ เยี่ยม นี่ยังไม่ถึงเวียดนามเลยนะเนี๊ยะ” ผมกระซิบ

รถทัวร์มาถึงมุกดาหาร ตี 5 ครึ่งจนได้ หลังจากที่หยุดแวะเช็คยางระหว่างทางเสียมากกว่า 3 ชั่วโมง ก่อความกังวลให้ผู้โดยสารบางจำนวนซึ่งทำได้เพียงแค่หัวเราะขื่นไปตามสถานการณ์ ขนส่งจังหวัดมุกดาหารใหญ่โตกว้างขวาง ภายในตัวอาคารที่พักผู้โดยสารจะเห็นลูกศรสีเหลืองอันขนาดย่อมชี้ไปยังข้อความว่า “เส้นทางสู่สะหวัน”

สำหรับผู้โดยสารที่ต่อรถไปยังแขวงสะหวันเขตให้ขึ้นสกายแล็ป (คล้ายรถตุ๊กๆ ในกรุงเทพฯแต่คันใหญ่กว่ามีที่นั่งและหลังคาคลุมทางตอนหลัง) ตรงจุดนี้ได้เลย รถจะพาไปส่งยังสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ในราคา 50 บาท/หัว หากมีสัมภาระต่อรองเหมาจ่ายกันไปตามราคา

สำหรับคนที่จะไปเว้ สามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานีขนส่งเหมือนกัน ต้องซื้อตั๋ว 2 ใบ มุกดาหาร-สะหวันเขต ในราคา 45 บาท และ จองตั๋วสะหวันเขต-เว้ ในราคา 99.000 กีบ (ราคานี้เป็นราคาวีไอพี มีประกันอุบัติเหตุเรียบร้อย)

รถไปเว้จะออกจากแขวงสะหวันเขต เวลา 10.00 น.-18.00 น. รถประจำทางสายนี้มีเพียงเที่ยวเดียว วิ่งทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ พักเว้ 1 คืน แล้วรับคนกลับในวันอังคาร พฤหัส เสาร์ (วันอาทิตย์คาดว่าจะเป็นวันหยุด) หากไปไม่ตรงตามวันเวลาดังกล่าวจะต้องนั่งรถ 2 ต่อ พักที่ด่านลาวบาว 1 คืน ก่อนจะต่อรถเข้าไปเว้ในวันถัดไป เลือกได้ตามความถนัด

เส้นทางหมายเลข 9 (มุกดาหาร-สะหวันเขต-ลาวบาว-เว้) เป็นถนนสายเดียวสำหรับรถประจำทางที่เปิดใช้อยู่ในปัจจุบัน กว่าจะหลุดรอดออกจากแขวงสะหวันเขต เราเจอด่านตรวจคนเข้าเมืองถี่ยิบ ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวลาว ชาวเวียดนามที่ข้ามมาทำงานในประเทศไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มีให้เห็นประปราย ต้องขึ้นลงสแตมป์พาสปอร์ต กรอกเอกสาร จ่ายค่าธรรมเนียมกันเป็นที่สนุกสนาน

ด่านไทย-สะหวันเขต 40 บาท (รับเงินไทย)
ด่านสะหวันเขต-ลาวบาว 40 บาท (รับเงินไทย)
ด่านลาวบาว-เว้ 10.000 ดอง (รับเงินดองหรือดอลลาร์)


คนขับรถวีไอพีสีฟ้าอ่อนเป็นชายวัยกลางคน ผอมผิวคล้ำน้ำตาลออกแดงเป็นคนในแขวงสะหวันเขต สื่อสารกับคนไทยอย่างเราได้เข้าใจ บนรถมีผู้โดยสารชาวไทยกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งและคุณลุงกับหลานคู่หนึ่งที่มาเที่ยวแบบแบ็กแพ็กสไตล์เพื่อหาประสบการณ์แปลกใหม่ เราทำความรู้จักกันพอหอมปากหอมคอ ก่อนจะเพลิดเพลินพินิจทิวทัศน์ระหว่างเส้นทาง

ที่น่าสนใจ คือ บ้านเรือนแทบทุกหลังจะมีธงชาติ(ลาว)ประดับเอาไว้ที่หน้าต่างหรือตามรั้วบ้าน รวมทั้งค่ายกองทัพประชาชน บ่งบอกความรู้สึกถึงความเป็นชาติของคนลาวอย่างลึกซึ้ง เราได้ลิ้มชิมรสอาหารเวียดนามมื้อแรก ระหว่างรถแวะพักเที่ยง ข้าวเม็ดกลมโต อัดอยู่ในถ้วยก้นลึกกับตะเกียบปลายเรียว กับข้าวมีให้เลือกหลายอย่าง ส่วนใหญ่จะเป็นผัก ทั้งผัดกวางตุ้ง แกงเผ็ดเห็ด กับเนื้อหรือหมูและไก่ ในราคา 50 บาท/ข้าวราด 3 อย่าง

แดดจัดจ้านขึ้นตามลำดับเวลา ต่อเมื่อเรามาถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองลาวบาว ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายก่อนจะเข้าสู่ประเทศเวียดนาม จะมองเห็นประตูโค้งขนาดมหึมา “ลาวบาว อินเตอร์เนชั่นแนล บอร์เดอร์ เกท” ฝนจึงเริ่มโปรยเม็ด

ก่อนจะเข้าด่าน วีไอพีสีฟ้าจะหยุดให้ผู้โดยสารทั้งที่เป็นนักท่องเที่ยวลงไปตรวจหลักฐาน จุดนี้ค่อนข้างเข้มงวดและใช้เวลาตรวจครู่ใหญ่ทีเดียว ระหว่างนี้ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับนักค้าเงิน(รายย่อย)ระดับชาวบ้าน พวกเธอจะรอลูกค้าอยู่ที่ด่าน ระหว่างที่นักท่องเที่ยวลงไปตรวจหลักฐาน เธอจะรีบขึ้นมาบนรถเพื่อเสนอแลกเปลี่ยนเงินในอัตรา 1บาท/490 ดอง หากใครแลกเงินมาแล้วเธอจะเสนอขายซิมเวียดนามสำหรับโทรศัพท์เป็นลำดับต่อไป

เรื่องอัตราการแลกเปลี่ยนเงินเป็นอีกเรื่องที่ต้องหาข้อมูลศึกษาให้ดี เราใช้วิธีแลกเงินบาทเป็นดอลลาร์แล้วนำไปแลกเงินดองซึ่งจะได้ค่าส่วนต่างมากกว่า ช่วงนั้นเงินดอลลาร์อ่อนค่ากว่าเงินบาท ดังนั้น เราจึงสามารถแลกเงินได้ในอัตราเหรียญละ 512 ดอง (อัตรานี้แลกกับธนาคารเวียดนาม) คิดส่วนต่างได้ +704 ดอง อัตรานี้ = 31.4 บาท/1เหรียญ

คนที่นั่นสนใจเงินดอลลาร์มากกว่าเงินบาท เพราะฉะนั้น หากไม่จำเป็นห้ามแลกเงินกับนักค้าเงินรายทางแต่ให้ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนกับธนาคารในเมืองใหญ่ก่อนตัดสินใจ

ตามสูตรนี้นะครับ
31.4 บาท / 1$ / 512 Dong (ธนาคาร)
1$ / 15.000 Dong หรือ 1 บาท / 490 Dong (รายทาง)
คิดส่วนต่าง 704 Dong / $
ดังนั้น จากพ็อกเก็ต 30.000 บาท / 2 คน เราได้กำไรจากส่วนต่าง 672.600 ดอง
(ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับค่าเงินดอลลาร์ในขณะนั้น)


การเข้าถึง ‘ข้อมูล’ จำเป็นสำหรับคนทุกคนครับ!

20080529 1
วีไอพีสีฟ้าจากแขวงสะหวันเขต

20080529 2
ลุงหลานหัวใจหนุ่มครับ

20080529 3
อาหารรสเวียดนาม มื้อแรก

20080529 4
นักค้าเงินรายย่อย

 

20080529 5

20080529 6
ชาวเวียดนามที่มารับจ้างแบกของบริเวณด่านชายแดน

20080529 7
เอ่อ เด็กสาวชาวเวียดคนแรกที่เจอ

20080529 8
รอยยิ้มพิมพ์ใจ ระหว่างทาง เด็กๆ เหมือนกันทุกที่ในโลก เมื่อยกกล้องขึ้น แกจะเขิน

20080529 9
ด่านลาวบาว ใหญ่มะครับ

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ในสายตาของนักเสี่ยงโชค ,เกาะกง หมายถึง แหล่งทำเงินขนาดใหญ่..., หากเทพีแห่งโชคเข้าข้าง, เขาหรือเธอ เหล่านั้น...เชื่อว่า หลายคนคงรู้จักเกาะกงในฐานะแหล่งการพนันแหล่งใหญ่ของประเทศกัมพูชา ณ จุดชายแดนไทย จังหวัดตราด ที่ปล่อยให้มีการเปิดบ่อนเสรี จนรัฐบาลไทยหลายๆ รัฐบาลคิดทำตามอย่าง ..แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีรัฐบาลชุดไหนสามารถแหวกม่านความคิดของสังคมไทยออกไปรอดพ้น...ผมไม่ได้ไปเกาะกงในฐานะนักเล่น (เพราะไม่มีฐานะมากพอ 555) แต่ได้ติดสอยห้อยตามเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งไปสังเกตการณ์ทำข้อมูลเรื่องหญิงชาวกัมพูชาในสถานบริการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี, ที่อำเภอคลองสนและอำเภอหาดเล็ก จังหวัดตราด .....เกาะกง จังหวัดเล็กๆ…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เปล่า! แม่น้ำสงครามไม่ได้เป็นชื่อที่พ้องกับการสงครามของใคร ..หากโลกใบนี้ได้เพียรสร้างสรรค์ผลงานที่น่าอัศจรรย์...น้ำสงครามมีต้นกำเนิดบนสันภูผาเหล็ก อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร ไหลขึ้นไปทางเหนือ ผ่านอำเภอหนองหาน อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ก่อนจะย้อนลงมาที่ อำเภอบ้านม่วง อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร จึงมุ่งหน้าเข้าสู่อำเภอพรเจริญ อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย วกลงอำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร ทะลักล้นเข้าอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม แล้วไปบรรจบกับแม่น้ำโขงที่ไชยบุรี อำเภอท่าอุเทนนับระยะทาง 420 กิโลเมตรและลำน้ำสาขานับร้อยสาย คือ ทุ่งน้ำขนาดกว้างใหญ่ถึง 6 แสนไร่ ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ นครพนม…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ตอนที่ 3 พระธาตุสีขาว หากมานครพนมแล้วไม่ได้ถ่ายภาพพระธาตุพนมคงดูจะกระไรๆ  ..พระธาตุพนมอยู่ภายในวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร บนภูที่เรียกว่า ภูกำพร้า ริมถนนชยางกูร หมู่บ้านธาตุพนม ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ที่น่าสนใจ คือ ภายในพระธาตุได้บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้าที่อัญเชิญมาตั้งแต่ พ.ศ.8...รอบบริเวณจะมีตลาดขายสินค้าที่ระลึก อย่างเช่น โปสการ์ด รวมถึงร้านอาหารตามสั่งและสินค้าบุญ อย่างเช่น นก ปลาและเต่า ให้เอาไปปล่อยในสระโบราณกลางพระธาตุผู้ศรัทธาแห่แหนกันมาจากทั่วทุกสารทิศ ก่อนออกพรรษาจะมีการมาทำบุญเพื่อทะนุบำรุงวัดและพระธาตุ…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ตอนที่ 2 ท่าอุเทนนครพนม ดินแดนแห่งสายน้ำโขง จังหวัดชายแดนไทยลาวอีกหนึ่งจังหวัดที่สงบเงียบ (สงบเงียบอย่างจริงๆจังๆ) เรียบเรื่อยไปตามริมฝั่งโขงติดกับแขวงคำม่วนที่เพิ่งประกาศนโยบายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกับประเทศไทยเพียงไม่นานลาว ประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล พยายามปรับตัวเองให้เป็นประเทศเมืองท่าค้าขายและขนส่งสินค้าในระดับภูมิภาค พร้อมตั้งเป้าขยายการเติบโตทางพลังงาน, นครพนม-แขวงคำม่วน จึงกลายเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์การค้า และแผนพัฒนาเศรษฐกิจโดยมีรูปธรรมนำ คือ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว สายที่ 3 นครพนม-ท่าแขก (สายที่ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์, สายที่ 2 มุกดาหาร-สะหวันนะเขต)...…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ตอนที่ 1 อุ่น อุ่น ที่บ้านแม่สถิตแดดผีตากผ้าอ้อมพาดเฉียงๆ ทำมุมเอียงๆ กับแกนโลกและหลังคาบ้าน ขับเน้นรวงข้าวสุกปลั่ง สมดั่งคำที่ว่า ทุ่งเอ๋ย ทุ่งรวงทอง, นั่นแหละครับ สิ่งที่ผมคิดภาพเอาไว้, เมื่อรุ่นน้องคนหนึ่งชวนผมพร้อมกับยื่นกำหนดการทัวร์บ้านอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรให้ดู“เออ น่าสนว่ะ”“ไปนะพี่ บอกแม่เอาไว้แล้ว” ในความหมายนี้ หมายถึง ความโอบเอื้อแบบอารมณ์คนชนบท...บ้านข่า ต.บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม หนึ่งในเส้นทางของลำน้ำสงคราม ที่ วีระศักดิ์ จันทร์ส่องแสง นักเขียนแห่งค่ายนิตยสารสารคดี ให้ความหมายว่า “ป่าชายเลนน้ำจืดของแผ่นดินอิสาน”เราเดินทางไปด้วยกัน 6 ชีวิต จากกรุงเทพฯมหานครผ่านโคราช (…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กัลกัตตาเป็นเมืองหลวงสมัยที่อินเดียเป็นอาณานิคมของอังกฤษ (มันยิ้มเห็นลิ้น “คิดว่านะ”)อาคารร้านตลาดหรือ Shopping Center ยังคงรูปแบบทางสถาปัตยกรรมยุโรป ประเมินได้ว่า นับตั้งแต่คานธีปลดปล่อยอินเดีย “มันก็ยังอยู่อย่างนั้น ทรุดโทรมไปตามเวลาอย่างขาดการดูแล”ยามเช้า “ชั้นตั้งนาฬิกาปลุกออกไปเดินถนนตั้งแต่ 7 โมงเช้า” บนถนนย่านตลาดสด เวลาเหมือนหยุดนิ่ง เงียบสงบ ยามเช้าที่ไหนก็สวยใสอย่างนี้เสมอ ถนนลาดหินเหมือนจัตุรัสกลางในหนังสือวรรณกรรมอังกฤษ“ถนนลาดหินเหมือนฉากหนังหยองขวัญเรื่อง Jack the Ripper มากกว่าว่ะ”อืม .. หน้าโรงแรม ริมถนนตรงข้ามข้างคันโยกน้ำสาธารณะ เด็กน้อยคนนึงกำลังอาบน้ำ สีฟัน “ชั้นพยายามโฟกัส…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เรื่องของเรื่อง คือว่า เพื่อนผมไปอินเดีย ดินแดนแห่งโลกอารยธรรมตะวันออก ..มันว่าของมันว่า ภาพสวยมากนะแก ..ผมตาโต ..เท่าไข่นกกระจอกเทศผมเลยถือโอกาสให้มันเล่าเรื่องที่อินเดียให้ฟัง ..“แก ชั้นไปอินเดียมา” มันว่า แถมต่อท้ายอย่างน่าฟัง “นั่นหน่ะ เป็นประเทศที่ชั้นอยากไปเป็นอันดับหนึ่งเชียวนะ”เมืองระดับอารยธรรมเก่าแก่ของโลก เต็มไปด้วยนักพรตในกลิ่นอายของศาสนาฮินดูอย่างในหนังสารคดี โยคีริมฝั่งแม่น้ำคงคา วัดฮินดู อย่างภาพของเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิกหรือทัชมาฮาล อย่างในภาพทัวร์ท่องเที่ยว (อันหลังนี่ผมนึกภาพเอาเอง อิอิ)หลังจากที่เครื่องลงจอดเมืองกัลกัตตา สนามบินแห่งนั้นดูทรุดโทรม ที่น่าสังเกต “…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ท้องฟ้าและท้องน้ำดูจะละลายตัวเข้าหากัน หากไม่มีอ่าวริมน้ำแห่งนั้นขวางกั้นเอาไว้ ...ปลายสุดของสะพานฝั่งมอญ หมู่บ้านคนมอญสงบงัน ไร้เสียง เหมือนชีวิตของพวกเค้า ...\พี่เย็นเกิดที่เมืองไทย พ่อแม่มาจากฝั่งโน้น(ฝั่งพม่า) ถือบัตรสีชมพู (ผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่า) ก่อนจะแปลงสัญชาติเพิ่งได้สัญชาติไทยมาหนึ่งปี ส่วนสามีไม่มีบัตรอะไรทางอำเภอได้เข้ามาสำรวจแล้วแต่ยังไม่ได้ถ่ายบัตร ตอนนี้ถือหางบัตรพี่เย็นมีลูก 2 คน ชายหนึ่งคน หญิงหนึ่งคน เรียนที่โรงเรียนบ้านเด็กป่าลูกชายมีสูจิบัตรและได้รับสัญชาติไทยพร้อมแม่ ส่วนลูกสาวแจ้งเกินกำหนดไป 2…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ง่ายๆ เราเจอกันที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ ..อาสาสมัครสอนหนังสือเด็กในชุมชน กลางเมืองหลวง..กับครูปู่ กลุ่มซ.โซ่อาสา (รู้จักครูปู่และกลุ่มซ.โซ่อาสา www.volunteerspirit.org)ผมนัดกับนุ้งนิ้งเพื่อขอเข้าไปถ่ายรูป อาสาสมัครและเด็กๆ กลางเมืองหลวงในชุมชนตึกแดง ..ถามคนแถวนั้นว่าทำไมต้องตึกแดง ง่ายๆ อีกเหมือนกันครับว่า เมื่อก่อนตึกแถวนี้ทาสีแดง คนเลยเรียกติดปากว่าย่านตึกแดง ...แล้วทำไมต้องทาสีแดง อันนี้ไม่ได้ถามครับ ?จากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ เรา อาสาสมัครต้องนั่งรถสามล้อเครื่องเข้าไปถึงหน้าชุมชนแล้วเดินต่อเข้าไปอีกหน่อย ..ทางเดินแคบๆ นำเราไปยังลานโพธิ์มีเด็กๆ มากกว่า 50 คน รอให้เราเข้าไปสอน...…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
หลายเสียงเล่าว่า สถานการณ์ในพม่ากำลังเข้าสู่ภาวะปกติ(เพราะกลัวตาย)ขณะแนวร่วมทั่วโลกกำลังหยุดส่งเสียง ปล่อยเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลและการเมืองระดับภูมิภาคหรือระดับโลกเจรจากดดันกันไปดูรายการชีพจรโลกของคุณสุทธิชัย หยุ่น นั่งคุยกับอุปทูตอเมริกา จีนและอังกฤษ ที่ต่างสงวนท่าทีต่อการแทรกแซงกิจการภายในหรือใช้มาตรการเด็ดขาดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพม่า โดยเฉพาะท่าทีของอุปทูตจีนที่ระล่ำระลักพูดออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจนประมาณว่า ทางการจีนคงจะไม่ทำอะไรอีกต่อไปเพราะเราเชื่อมั่นในพลังประชาชน และไม่คิดว่าการแทรกแซงจะเป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้รักประชาธิปไตย…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เช้า,เย็น,ค่ำ หน้าสถานทูตพม่า ,สองวันนั้น วิญญาณแห่งเสรีภาพร่ำไห้ออกมาเป็นเสียงfree free free ,free Burma..ด้วยความหวังว่า เสียงแห่งเสรีภาพจะดังก้องไปทั่วโลก ผ่านเวทย์มนต์ของเทคโนโลยีการสื่อสารผิวถนนระอุด้วยไอแดด เหงื่อไคลของเด็กชายไหลลงมาตามผิวหน้า ในตาลุกวาวทุกครั้งที่มีการตะโกนปลุกเร้าว่า “free free free ,free burma” …ชูกำปั้นขึ้นฟ้าให้สุดแขนแล้วตะโกนออกมาดังๆ... free free free, free Burma … free free free, free Burma … free free free, free Burma … free free free, free Burma … free free free, free Burma … free free free, free Burma … free free free, free Burma …ผ้าสีแดงโพกศีรษะ…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมคงไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการศาสนา พอที่จะกล่าวหาว่า สังคมไทยเป็นสังคมพุทธแบบไหนนักเดินทางหลายคนที่เคยไปเมืองสังขละบุรี ดินแดน 3 น้ำ ริมชายแดนไทย-พม่าด้านตะวันตก คงจะรู้ว่า หากเราข้ามสะพานไปอีกฝั่งน้ำ ชุมชนคนมอญเคลื่อนไหวในโอบอ้อมของขุนเขา ผืนป่าและผืนน้ำ ตรงจุดที่เรียกว่า สามประสบ แหล่งทำกินของชาวน้ำและแหล่งทำเงินของนักลงทุนเรือแพดารดาษราวเกาะแก่งน้อยใหญ่ เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองสัมผัสกับบรรยากาศแปลกใหม่ คนมอญผู้หาปลาเป็นอาชีพ ไม่ได้ลิ้มรสเนื้อปลาที่ตัวเองหามาได้แต่ถูกแลกเปลี่ยนเป็นเงินบนเรือแพหรือรีสอร์ทหรูริมน้ำแห่งนั้น เลยจากจุดที่ตั้งชุมชนออกไประยะชั่วหม้อข้าวเดือด คือ…