Skip to main content

< พิณผกา งามสม >

 

ถ้าผู้หญิงคืออีกซีกหนึ่งของฟากฟ้า อย่างที่จอน เลนนอน ไอดอลแห่งยุคบุปผาชนเคยกล่าวไว้  ภาพข่าว ดร. วันอาซีซาร์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาแห่งสหพันธ์รัฐมาเลเซีย เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อเปิดทางให้กับสามีได้ลงเลือกตั้งชิงเก้าอี้ในรัฐสภาที่ว่างลงในฐานะอีกครึ่งชีวิตทางการเมืองของนายอันวาร์ อิบราฮิม ก็คงเป็นตัวอย่างจริงของความเป็นอีกฟากหนึ่งของท้องฟ้า แต่จะเป็นท้องฟ้าของวันใหม่ดังที่นายอันวาร์ย้ำมาตลอดหรือไม่ เป็นเรื่องของการเมืองที่ยากจะคาดการณ์

headline วันอาซีซาร์

ดร. วันอาซีซาร์ ได้ชื่อว่าเป็นทัพหลังที่แข็งแกร่งของนายอันวาร์ จากอาชีพจักษุแพทย์ เธอต้องกระโจนลงสู่สนามการเมือง เมื่อสามีถูกเกมการเมืองเล่นงานจนสะบักสะบอมทั้งข้อหาคอร์รัปชั่นและประพฤติผิดทางเพศ เมื่อ 8 ปี ก่อน

ผลจากเกมการเมืองที่นายอันวาร์ตกเป็นผู้ถูกกระทำ ได้ชักนำให้นักเคลื่อนไหวและนักการเมืองรวมตัวกันเป็นพรรคยุติธรรมประชาชน โดยมีดร. วันอาซีซาร์เป็นหัวหน้าพรรค เป็นที่รู้กันว่า ดร. วันอาซีซาร์รั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรค รอวันที่นายอันวาร์เป็นอิสระ และสามารถลงชิงชัยในสนามเลือกตั้งได้อีกครั้ง

วันนี้ นายอันวาร์ ต้องเผชิญข้อกล่าวหาเดิมๆ อีกครั้ง ว่าด้วยการประพฤติผิดทางเพศ แน่นอนว่า ดร.วันอาซีซาร์จะต้องทำหน้าที่ของเธอต่อไป ดังที่ประกาศไว้ว่า จะยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคยุติธรรมประชาชนและประธานมูลนิธิสันติภาพ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในทางการเมืองสำหรับบรรดาฝ่ายค้าน
 
ย้อนหลังไปวันที่ 30 กรกฎาคม คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาของอดีตนายกรัฐมนตรีที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมการเมืองไทยอย่างถอนรากถอนโคน ต้องโทษจำคุก 3 ปี จากคำตัดสินของศาลชั้นต้นว่ามีความผิดฐานความผิดฐาน ร่วมกันจงใจหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรอันเป็นความผิดตามประ มวลรัษฎากร มาตรา 37 (1) (2) และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และ 91 การต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมยังคงดำเนินต่อไป เมื่อเธอยื่นอุทธรณ์และขอประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์ 8 ล้านบาท

ผู้หญิงสองคนจากประเทศพรมแดนชิดติดกัน กำลังเดินไปบทเส้นทางที่สัมพันธ์กับบทบาทหน้าที่ในทางการเมืองของสามี แต่ด้วยทิศทางที่แตกต่าง

ชีวิตของผู้หญิงของผู้นำในอดีตทั้งในโลกเสรี และโลกสังคมนิยมก็เช่นกัน

ooo

headline เจียงชิง

เจียงชิง: เมื่อคนแก่ไม่สามารถควบคุมเมียของตัวเอง
“ประธานเหมาคิดว่าท่านสามารถควบคุมภรรยาและคนรอบด้านอย่างหลินเปียวกับคังเซิงได้ แต่แล้วท่านกลับควบคุมไม่ได้” ……บทสรุปความเห็นที่สิรินทร์ พัธโนทัย พยายามบอกกับผู้อ่าน ‘มุกมังกร’ว่าประธานเหมา เจ๋อ ตุง ผู้เป็นศูนย์รวมความสามัคคีของชาวจีนมีความสัมพันธ์ชนิดไหนกับ “แก๊ง 4 คน” ในห้วงเวลาโกลาหลจากการปฏิวัติวัฒนธรรม

เจียงชิง เติบโตมาในครอบครัวชาวนา เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนโดยทำงานด้านวัฒนธรรมด้วยการเป็นนักแสดง

เจียงชิงเป็นภรยาคนที่ 3 ของประธานเหมาและเป็นคนสุดท้าย โดยใช้ชีวิตคู่ร่วมกับประธานเหมานานถึง 37 ปี เจียงชิงเริ่มก้าวขึ้นมามีบทบาทระดับนำในพรรคช่วงบั้นปลายชีวิตของประธานเหมา เจียงชิงร่วมกับสมาชิกระดับแกนนำของพรรคอีก 3 คนคือ จางชุนเฉียว  เหยาเหวินหยวน และหวังหงเหวิน ในนามแก๊ง 4 คน โดยใช้กรปฏิวัติวัฒนธรรม กำจัดผู้ที่คิดต่างทางการเมือง และปลุกระดมให้เกิดการกวาดล้างผู้ไม่ซื่อตรงต่อพรรค และพวกลัทธิแก้และนายทุน ครั้งมโหฬาร ในระหว่างปี 1966 -1976

ผลจากการปฏิวัติวัฒนธรรมจีน ส่งผลให้ชาวจีนจำนวนกว่า 700,000 คนต้องถูกทารุณกรรม ทั้งจากการถูกลงโทษโดยทางการ และถูกทำร้ายร่างการจากเหตุจลาจล มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34,274 นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอันเนื่องจาก ‘กองทัพแดง’ เข้ารื้อค้นทำลายบ้านเรือนราษฎร และร้านค้าที่ต้องสงสัยว่าเป็นฝ่ายนายทุน หรือเป็นพวกลัทธิแก้

การปฏิวัติวัฒนธรรมนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า แท้ที่จริงแล้วเป็นไปเพื่อกำจัดศัตรูทางการเมืองของแก๊ง 4 คนนั้นเอง อย่างไรก็ตามผลจากการปลุกระดมและการทำงานอย่างแข็งขันของกองทัพแดงภายในเวลา 10 ปี ก็ส่งผลสะเทือนไปกว้างขวางและก่อความคลางแคลงใจต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างปฏิเสธไม่ได้
ภายหลังการอสัญกรรมของประธานเหมาในปี 1976 แก๊งสี่คนถูกจับกุมเนื่องจากซ่องสุมกำลังอาวุธเพื่อยึดอำนาจรัฐ

ในระหว่างดำเนินคดี และถูกกักขังอยู่นั้น เจียงชิงยังคงยืนยันว่า สิ่งที่กระทำลงไปภายใต้การนำของแก๊งสี่คน เป็นเจตนารมณ์ของประธานเหมาโดยประกาศว่าตัวเธอเองนั้นเป็นหัวหน้าฝูงสุนัขของประธานเหมา และจะกัดทุกคนที่ประธานเหมาสั่งให้กัด

เจียงชิงถูกพิพากษาโทษประหารชีวิตในปี 1981 แต่ได้รับการลดโทษเหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิตในปี 1983 อย่างไรก็ตาม เธอได้รับการปล่อยตัวเพื่อเข้ารับการรักษามะเร็งที่ลำคอ ในปี 1991 เจียงชิงแขวนคอตายในห้องน้ำของโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ปี 1991

ความสัมพันธ์ระหว่างเจียงชิง กับประธานเหมาในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมจีนนั้น เป็นข้อถกเถียงและคาดเดากันไปต่างๆ บ้างเชื่อว่า ประธานเหมาและมาดามเหมามีความสัมพันธ์ที่ห่างเหินในช่วงเวลานั้น บ้างก็ว่าอันที่จริงแล้วแก๊ง 4 คนนั้นมีสมาชิก 5 คน

บทสนทนาระหว่างสิรินทร์ พัธโนทัย ตัวแทนทางการทูตอย่างลับๆ ที่ได้ผ่านช่วงเวลาวิกบากกรรมจากการปฏิวัติวัฒนธรรมจีนด้วยนั้น เลือกที่จะอธิบายในหนังสืออัตชีวประวัติ ‘มุกมังกร’ ผ่านบทสนทนาของเธอเองกับจิง ผู่ซุน ภรรยาของเลี่ยว เผิงจื้อ สมาชิกระดับแกนนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่า

“แล้วทำไมประธานเหมาถึงปล่อยให้เธอทำอย่างนี้” ฉันถาม
“ตอนนี้ท่านก็แก่มากแล้ว” เธอตอบพร้อมชี้หัวของเธอเอง “คนแก่มักจะไม่สามารถควบคุมเมียได้” (หน้า 398 มุกมังกร)

headline เอวิต้า เปรอง

เอวิต้า เปรอง สตรีหมายเลขหนึ่งบนสายรุ้งแห่งประชานิยม
เอวิตา เปรอง หรือในชื่อจริง มาเรีย เอวา ดูอาร์เต้ เดอ เปรอง  สตรีหมายเลขหนึ่งคนแรกของอาร์เจนตินา และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั่วโลกทั้งขณะมีชีวิตและเมื่อจากไป ประวัติของเธอ ถูกนำมาเขียน ทำละคร และภาพยนตร์ฮอลีวูด  

ประวัติส่วนตัวกว่าที่เธอจะไต่เต้าขึ้นมาสู่การเป็นภรรยาคนที่ 2 ของนายพลเปรองซึ่งผู้นำที่ครองใจชาวอาร์เจนตินาในช่วงสงครามเย็น (ระหว่างปี ค.ศ. 1946-55 และ 1973-4)..และเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของอาร์เจนตินานั้นเป็นเกร็ดแห่งการซุบซิบนินทาชั้นเลิศ ภาพที่ชัดเจนของเธอก็คือ การไต่เต้าจากเด็กยากจน เรียนรู้ความแตกต่างทางชนชั้นโดยแลกด้วยประสบการณ์จริง เอวิตา อาจเป็นได้ทั้งนางฟ้าและปีศาจ ซึ่งสุดแท้แต่ใครจะเลือกใช้ฐานคติทางการเมืองใดตัดสิน และแน่นอนว่า ประวัติของเธอที่ไม่ได้มาจากตระกูลชั้นสูง และไม่ได้จบการศึกษาชั้นเลิศ รวมถึงการไต่เต้าขึ้นมาจากการเป็นนักแสดง ก็ทำให้เธอต้องฝ่าฟันอย่างหนักเพื่อจะได้รับการยอมรับจากชนชั้นนำในอาร์เจนตินา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกองทัพซึ่งเป็นกลุ่มอำนาจสายอนุรักษ์นิยม
 
อย่างไรก็ตาม เอวิต้า ในฐานะภรรยาของนายพลเปรอง เลือกที่จะทำงานการเมืองเคียงบ่าเคียงไหล่ และปฏิเสธไม่ได้ว่า เธอนั้นเป็นเสมือนฝ่ายประชาสัมพันธ์ชั้นยอดให้กับนายพลเปรอง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แนวคิดเปรอนิสม์ (Peronism) นั้นถูกเผยแพร่โดยนายพลเปรองและเอวิต้า แม้ว่าโดยหลักทฤษฎีแล้วมันอาจจะเป็นการผสมปนเประหว่างชาตินิยม ประชานิยม และสังคมนิยม รวมถึงบางคราวก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นฟาสซิสม์ด้วย แต่ที่แน่ๆ กลุ่มเป้าหมายของเปรองก็คือ กลุ่ม แรงงาน และคนจน

เอวิต้า ทำงานรุกคืบสร้างพื้นที่ทางการเมืองใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคนที่เคยปราศจากตัวตนทางการเมือง ได้แก่ เด็กกำพร้า กลุ่มแรงงาน สหภาพ และผู้หญิง เธอก่อตั้งมูลนิธิ เอวา เปรอง ทำงานด้านการกุศล โดยมุ่งไปที่การให้ความช่วยเหลือเด็กกำพร้า และผู้หญิงไร้บ้านซึ่งคนเหล่านี้ก็กลายมาเป็นฐานเสียงสำคัญของเธอ

ภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1946 ซึ่งนายพลเปรองได้ครองตำแหน่งประธานาธิบดี เอวิต้าเริ่มเรียกร้องสิทธิเลือกตั้งให้กับผู้หญิง กระทั่งได้ชัยชนะในปี  1947  นอกจากนี้ยังก่อตั้งพรรคสตรีนิยมเปรองนิสม์  (Feminist Peronist Party) ปี 1952 โดยมีสมาชิกแรกตั้งถึง 500,000 คน และมีสาขาพรรคกว่า 3,600

แต่ข้อเท็จจริงหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ เอวิตา เปรอง นั้นเป็นสตรีที่ก้าวขึ้นมาพร้อมกับนโยบายประชานิยมของนายพลเปรอง เปรองนั้นอาศัยความเป็นดาราภาพยนตร์ และนักจัดรายการวิทยุเข้าถึงกลุ่มชนชั้นแรงงาน คนยากจน และโดยอาศัยวาทศิลป์ครองใจผู้คนระดับรากหญ้า

กล่าวได้ว่า เอวิต้า คือผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์การเมืองอาร์เจนตินา ทั้งถูกคาดการณ์ด้วยว่าเธอจะเป็นผู้สืบอำนาจต่อจากนายพลเปรอง ทว่าวาระสุดท้ายของชีวิตเดินทางมาถึงก่อนจุดจบทางการเมือง เส้นทางอันรุ่งโรจน์ของเธอต้องจบลงเมื่อวัย 33 ปีด้วยโรคมะเร็งในมดลูกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ปี 2493

แน่นอนว่า เมื่อมีด้านสว่างย่อมมีด้านมืด แม้ว่ายุคสมัยของทั้งนายพลเปรอง และเอวิต้าจะจับใจผู้คนชนชั้นรากหญ้าเพียงใดก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงที่ตามก็คือว่า ผลพวงจากนโยบายประชานิยมที่สร้างต้นทุนทางการเมืองอย่างสูงลิ่วของคนทั้งสอง โดยทุ่มเทลงไปเอาใจคนยากจนและกลุ่มแรงงานนั้น ทำให้อาร์เจนตินาสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินไปมาก และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอาร์เจนตินาในเวลาต่อมา

การจากไปของเอวิต้า กลายเป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของชาวอาร์เจนตินาในช่วงเวลานั้น ฝูงชนจำนวนมหาศาลออกมายังท้องถนนเพื่อไว้อาลัยสตรีหมายเลขหนึ่ง ภายในเวลาแค่วันเดียว มีรายตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากการเบียดเสียดถึง 2,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 8 คน

เอวิต้ายังคงมีเรื่องราวดึงดูดความสนใจของผู้คนแม้เมื่อเธอเสียชีวิต นายพลเปรองมีโครงการที่จะจัดทำอนุสรณ์สถานอย่างยิ่งใหญ่ให้กับสตรีหมายเลขหนึ่ง ทว่าเมื่อนายพลเปรองต้องสิ้นอำนาจ ศพของเอวิต้าก็ไม่รับการเอาใจใส่จากรัฐบาลทหารและถูกโขมยไป ก่อนที่จะได้กลับคืนมาปี 1974 ปัจจุบันศพของเอวิตาบรรจุไว้ในสุสาน La Recoleta Cemetery

headline อิเมลดา มาร์กอส

อิเมลดา มาร์กอส เมียของผู้นำโลกที่ 3
เอ่ยถึง อิเมลดา มาร์กอส จินตภาพเกี่ยวกับเธอนั้นมักโยงใยไปถึงรองเท้าสองพันกว่าคู่ และตู้เสื้อผ้าหรูหราอลังการ ขณะที่ประชาชนในประเทศฟิลิปปินส์ก็ยังคงย่ำอยู่กับความยากจนและการเมืองที่หมุนวนอยู่กับที่

อิเมลดา มาร์กอส อาจเป็นสตรีคนเดียวในโลกที่โลกจดจำรองเท้าของเธอมากพอๆ กับตัวเธอ (อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนั้นไม่แน่ชัด สื่อรายงานว่าเธอมีรองเท้าประมาณ 2700 – 3000 คู่ ขณะที่อิเมลดา ยืนยันว่าเธอมีรองเท้าแค่ 1,060 คู่เท่านั้น!!!) สปอร์ตไลท์ฉายไปที่อิเมลดา อดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง ชัดขึ้น และชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสามีของเธอร่วงหล่นจากอำนาจ
 
เฟอร์ดินันด์ มาร์กอส  เป็นผู้นำประเทศฟิลิปปินส์ในระหว่างปี 1965-1986 เช่นเดียวกันกับผู้นำในยุคสมัยแห่งการพัฒนาในประเทศโลกที 3 อื่นๆ มาร์กอส ถูกกล่าวหาว่าคอร์รัปชั่น เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง และเป็นเผด็จการ จนกระทั่งถูกดึงลงจากอำนาจด้วยการปฏิวัติใหญ่โดยขบวนการประชาชนเมื่อปี 1986 ต้องลี้ภัยไปยังฮาวาย และเสียชีวิตที่นั่นในปี 1989 แม้แต่ศพของเขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้นำกลับมาฝังยังประเทศเกิด โดยผู้นำขณะนั้น นางคอราซอน อาควิโน อ้างเรื่องความมั่นคงของประเทศ

อิเมลดา มาร์กอสนั้น ไม่ปรากฏรายงานบทบาททางการเมืองของเธอว่ามีนัยสำคัญอย่างไรต่อสามี หากแต่ภาพลักษณ์ของความเป็นคนสุลุ่ยสุร่าย มีทรัพย์สินโดยเฉพะเครื่องแต่งกายเครื่องประดับจำนวนมาก ได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำสุดยอดคอรัปชั่นและเอื้อประโยชน์พวกพ้องของมาร์กอสผู้เป็นสามี

แน่นอนว่า ทรัพย์สินจำพวกเสื้อขนสัตว์ รองเท้า กระเป๋า ฯลฯ เหล่านี้เป็นภาพอันฉูดฉาดที่ช่วยขับเน้นประเด็นคอร์รัปชั่นของผู้นำในประเทศกำลังพัฒนาที่ประชากรส่วนใหญ่ยังยากจน ทว่า การนับจำนวนข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับอันไม่จำเป็นทั้งหลายนั้น ย่อมง่ายดายกว่าการขุดรากถอนโคนตัวระบบที่เป็นปัญหาหยั่งรากลึกในสังคมการเมืองของฟิลิปปินส์เอง

ผู้นำฟิลิปปินส์คนต่อๆ มาก็ยังคงเผชิญกับข้อกล่าวหาเดิมๆ นั่นคือระบบเล่นพวกพ้อง ระบบเครือญาติ เผด็จการ และคอร์รัปชั่น แม้แต่นางสิงห์น้อย กลอเรีย อาร์โรโย่ ผู้นำคนล่าสุด
 
สำหรับอิเมลดา มาร์กอส ผู้หญิงที่เคยขึ้นทำเนียบหนึ่งใน 100 สาวงามที่สุดในโลก วันนี้เธอมีอายุ 79 ปี และยังคงต้องเทียวขึ้นศาลในฐานะจำเลยในคดีที่สืบเนื่องจากการคอร์รัปชั่นอันมโหฬารของตระกูลมาร์กอสจำนวนทั้งสิ้น 901 คดี

000

ผู้หญิงของผู้นำทางการเมือง ล้วนถูกจดจำต่างกันไป ทั้งโดยที่เธอเหล่านั้นเลือกและไม่ได้เลือก ตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้หญิงที่สามีของเธอมีแรงผลักดันทางการเมืองสูงก็คือ เลือกที่จะอยู่เงียบๆ ทำหน้าที่เป็น ‘หลังบ้าน’ไม่ว่าหลังบ้านนั้นจะเปิดหรือปิดประตูก็ตาม

แต่ถ้าใครเลือกจะไม่เป็นแค่ ‘หลังบ้าน’ แต่เลือกออกมายืนเคียงข้าง หรือนำไปข้างหน้า ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า ชะตากรรมของพวกเธอหนีไม่พ้นถูกขีดวาดด้วยผลลัพธ์ทางการเมืองนั้นเอง

อ้างอิง:

- สิรินทร์ พัธโนทัย, มุกมังกร, เนชั่นพับลิชชิ่ง กรุ๊ป, กรุงเทพฯ: 2539.
- มาเลเซีย: ภริยาอันวาร์ ประกาศลาออกจากสมาชิกรัฐสภา เปิดทางให้สามีลงเลือกตั้ง http://www.prachatai.com/05web/th/home/13033
- ศาลยันคำพิพากษาไร้อคติ ‘อ้อ-บรรณพจน์’ คุกคนละ 3 ปี แต่ให้ประกันตัว ttp://www.prachatai.com/05web/th/home/13023
- Jiang Qing http://en.wikipedia.org/wiki/Jiang_Qing
- Eva Perón http://en.wikipedia.org/wiki/Eva_Per%C3%B3n#Passing_and_funeral
- The Effects of Peronism on Argentina http://www.ccds.charlotte.nc.us/History/Americas/05/neale/
- PERONISM: "Our Sun, Our Air, Our Water" http://209.85.175.104/search?q=cache:WSyPYXXeeswJ:www.time.com/time/magazine/article/0,9171,944526,00.html+peronism&hl=th&ct=clnk&cd=19&gl=th
- The Shoes of Imelda Marcos http://www.time.com/time/magazine/article/0,9171,961002,00.html

บล็อกของ หัวไม้ story

หัวไม้ story
 ทีมข่าวการเมืองข่าวเรื่องนิตยสาร ดิ อิโคโนมิสต์ ถูกแบน ในประเทศไทย ได้รับการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของเอพี และเสตรทไทม์ ขณะที่ในเมืองไทย [1] ข่าวดังกล่าวไม่ปรากฏในสื่อกระแสหลัก และเพิ่งมาปรากฏขึ้นในลักษณะของการตอบโต้จากทางการไทย ผ่าน.นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีหนังสืออย่างเป็นทางการถึงบรรณาธิการนิตรสาร ดิ อิโคโนมิสต์  ระบุว่า....            "รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งต่อมุมมองและทัศนคติของนิตยสารฉบับดังกล่าว ซึ่งลงบทความเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไทย และตีความเหตุการณ์ต่างๆ ไปตามการคาดเดา…
หัวไม้ story
“ผมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นฝีมือของพวกฉวยโอกาส หากพันธมิตรฯจะทำก็ต้องเป็นตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี เพราะสามารถสร้างความเสียหายมากกว่า ได้ผลมากกว่า และสะใจมากกว่า ไม่อย่างนั้นจะเก็บไว้อย่างดีทำไม” สุริยะใส กตะศิลา, 5 ธ.ค. 2551  ทีมข่าวการเมือง   ภาพในตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาลหลังการชุมนุมยุติที่มาของภาพ: คุณ Me.....O กระดานข่าวพันทิพ ห้องราชดำเนินhttp://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7288033/P7288033.html  
หัวไม้ story
"ถ้างวดนี้ มีการใช้ความรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง พี่น้องครับ พี่น้อง พ่อแม่พี่น้องทั่วประเทศไทย ต้องลุกฮือขึ้นมาแล้วให้เลือดนองแผ่นดิน"  ... "ผมจะบอกให้พวกสัตว์นรกรู้ ว่างวดนี้ถ้าประชาชนเขามา เขามาพร้อม ‘ของ' กันหมด" - สนธิ ลิ้มทองกุล 20 พ.ย. 2551 ทีมข่าวการเมืองประชาไท สนธิ ลิ้มทองกุล ได้รับการอารักขาโดย ‘นักรบศรีวิชัย’ เมื่อ 26 ส.ค. 51 ที่มาของภาพ adaptorplug (CC)  
หัวไม้ story
  วันที่ 15 พฤศจิกายน คือวันประชุมสุดยอดผู้นำโลก 20 ชาติว่าด้วยเศรษฐกิจ ซึ่งถูกคาดหมายว่า จะเป็นการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการทางการเงินของโลกอีกครั้งหลังจากมันเคยเกิดขึ้นแล้วหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเศรษฐกิจโลกพังพาบลง จนนำมาสู้ระบบแลกเปลี่ยนเงินที่ชื่อว่า Bretton Woods SystemG20: "we must rethink we must rethink the financial system from scratch, as at Bretton Woods."นิโคลัส ซาร์โกซี ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศสเป็นผู้เอ่ยประโยคนี้ เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา และนำมาสู่การกำหนดการประชุมสุดยอดผู้นำโลกที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 พ.ย. นี้
หัวไม้ story
โอบามากับสงครามสีผิวที่กำลังจะเปิดฉาก? ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งเพิ่งจบลงไปด้วยชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของบารัก โอบามา ผู้สร้างประวัติศาสตร์ เป็นคนผิวสี คนแรกที่เดินเข้าสู่ทำเนียบขาวในฐานะประธานาธิบดี โอบามา เป็นลูกผสมระหว่างแม่ซึ่งเป็นคนผิวขาว กับพ่อเชื้อสายแอฟริกัน ซึ่งไม่ได้ย่างเท้าลงบนแผ่นดินอเมริกาในฐานะทาส แต่เป็นนักศึกษา แม้จะไม่ใช่คนผิวดำ หรือลูกหลานแอฟริกันขนานแท้ ที่เติบโตขึ้นจากครอบครัวที่มีบรรพบุรุษเป็นทาส แต่บารัก โอบามา ก็ถูกจำจดในฐานะเป็นตัวแทนของคนผิวสีที่ได้ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี แม้จะไม่ได้ผ่านประวัติศาสตร์ร่วมกับคนแอฟริกัน-อเมริกัน…
หัวไม้ story
แม้ว่าคนจนในประเทศไทย จะเลือกตาย ด้วยหวังให้การตายส่งเสียงได้มากกว่ายามที่พวกมีชีวิตอยู่ ทว่า ไม่ช้าไม่นาน ความทรงจำของสังคมก็เลือนรางลงไป แต่คนจนอย่างนวมทอง ไพรวัลย์ เลือกวิธีตาย และเลือกใช้การตายของเขาส่งเสียงดังและอยู่ยาวนาน อย่างน้อยก็ใน 2 ปีต่อมา เขายังไม่ถูกลืมเลือน
หัวไม้ story
ประชาไทขอนำเสนอคลิปวิดิโอ 'หลังทักษิณ' มุมมอง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจากคนใกล้ตัวที่บ้านเกิด อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และบทวิเคราะห์การเมืองไทยหลังทักษิณ โดย รศ.ดร.อรรถจักร สัตยานุรักษ์ นักวิชาการภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 
หัวไม้ story
  ทีมข่าวภาคใต้มายาภาพของการต่อสู้ทางการเมืองไทยในห้วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ถูกกล่าวว่าอ้างว่าเป็นสงครมมระหว่างภูมิภาค คือ ภาคใต้ กับภาคเหนือและภาคอิสาน แต่หากมองลึกลงไปในกระบวนการต่อสู้ของฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและพรรคพลังประชาชน อาจพบว่าแท้จริงแล้วการพื้นที่ทางการเมืองระดับนำก็ยังคงเป็นของคนใต้อยู่เช่นเดิม
หัวไม้ story
จับตาการเดินทัพของพันธมิตรฯ จากคำปราศรัยของแกนนำชื่อ ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ หลังประกาศทบทวนแนวทางสันติวิธี ระบุแกนนำทั้งหลายไม่กลัวตาย “แต่ถ้าพวกเราบางคนจะต้องตาย พี่น้องสัญญาอย่าง ต้องให้แผ่นดินนี้ ลุกขึ้นเป็นไฟให้ได้”
หัวไม้ story
  เมื่อพูดกันถึงเรื่องการปฏิรูปการเมืองก็ไม่แคล้วตามมาด้วย การแก้รัฐธรรมนูญอีกครั้ง นับเป็นสิ่งที่สังคมไทยถนัดในการแก้ปัญหาการเมืองโดยการเขียนอะไรบางอย่างขึ้นมาบังคับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร กระทั่งแม้แต่นักกฎหมายมหาชนเองก็ยังแซวผู้เชี่ยวชาญในสาขาของตัวเองได้ว่า ประเทศไทยนั้นมีความเชี่ยวชาญในการร่างรัฐธรรมนูญที่สุดในโลกนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2539 กล่าวในรายการตอบโจทย์  ทางสถานีไทย เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ว่าที่สุดแล้ววิกฤตของการเมืองไทยวันนี้มันก็เริ่มมาจากการแก้รัฐธรรมนูญที่ฝ่ายรัฐบาลนำเสนอนั่นเองย้อนเหตุการณ์ให้ฟังอีกครั้งว่า…
หัวไม้ story
  พิณผกา งามสม   ในระหว่างที่การต่อสู้ทางการเมืองไทยยังคงถกเถียงกันเรื่องโมเดลการเมืองใหม่ การเมืองใหม่กว่า รวมถึงระบบโควตาและระดับความชอบธรรมของ ‘เสียง' การเมืองเพื่อนบ้านของไทยก็กำลังเข้มข้นอยู่บนหนทางเดิมๆ ตามระบอบรัฐสภาเมื่อนายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านของมาเลเซียประกาศว่าจะเขย่ารัฐบาลมาเลย์ให้ล่มเพื่อเปิดโอกาสในการจัดสรรที่นั่งในสภากันใหม่ โดยยึดเอาวันที่ 16 กันยายนเป็นวันดีเดย์ แรกทีเดียว หลายฝ่ายอาจคิดว่าเป็นเพียงการสร้างสีสันให้การรณรงค์ทางการเมืองของพรรคฝ่ายค้านอย่างที่เคยทำมาอย่าแข็งขัน เพราะต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า…
หัวไม้ story
  วิทยากร  บุญเรืองขณะที่ Frank Lampard ดาวเตะแข้งทองของทีม Chelsea พึ่งบรรลุข้อตกลงสัญญา 5 ปีที่มีมูลค่าสูงถึง 39.2 ล้านปอนด์ โดย Lampard จะได้รับค่า 151,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ หรือคิดเป็น 3,775 ปอนด์ต่อชั่วโมง! แต่จากการสำรวจของ The Fair Pay Network และ Institute of Public Policy Research (IPPR) พบว่าพนักงานทำความสะอาด พ่อครัวแม่ครัว และแรงงานตัวเล็กๆ ทั้งหลาย ของสโมสรอย่าง Chelsea, Spurs, Arsenal, West Ham และ Fulham กลับได้รับค่าเหนื่อยจากสัญญาจ้างค่าแรงขั้นต่ำแค่ 5.52 ปอนด์ต่อชั่วโมงเท่านั้น