Skip to main content

หัวไม้ story แก้รัฐธรรมนูญ

 

พิณผกา งามสม/พงษ์พันธุ์ ชุ่มใจ

เมื่อกระแสแก้รัฐธรรมนูญเริ่มต้นด้วยการถูกโจมตีว่าจะเป็นการเบิกทางให้กับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กลับเข้ามามีที่อยู่ที่ยืนในเวทีการเมืองไทยอีกครั้ง มิหนำซ้ำยังเป็นการปูทางไปสู่การฟอกตัวของอดีตนายกผู้ซึ่งตามทัศนะของฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มองว่าเป็นเหตุแห่งความวิบัติทั้งสิ้นทั้งมวลของประเทศชาติ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อเรื่องแก้รัฐธรรมนูญก็กลายมาสู่เรื่องการเอาทักษิณ หรือไม่เอาทักษิณ แบบกลยุทธ์ขายเบียร์พ่วงเหล้า คือถ้าไม่เอาทักษิณก็ต้องไม่แก้รัฐธรรมนูญ ถ้าใครจะแก้รัฐธรรมนูญถือเป็นพวกทักษิณ ว่ากันตามจริงแล้ว ไม่ว่าการเปลี่ยนแปลงอะไรในโครงการสร้างการเมืองไทยที่เกิดขึ้นเวลานี้ ก็ถูกจับโยนลงไปเป็นประเด็น เอาทักษิณกลับมา หรืออย่าเอาทักษิณกลับมา.....นับเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ หนึ่งเดียวของโลกจริงๆ

 

รับไปก่อน แก้ทีหลัง

สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญไปที่ไหนก็บอกชาวบ้านให้รับร่างรัฐธรรมนูญไปก่อน แล้วค่อยแก้ทีหลัง สำทับอีกทีโดยนายจรัญ ภักดีธนากุล ก่อนที่จะมีการลงประชามติ พ่วงด้วยการบอกอีกซ้ำๆ ว่าหากไม่มีการแก้รัฐธรรมนูญก็จะไม่มีเลือกตั้ง ถึงเวลานี้ดูเหมือนไม่มีใครทบทวนความจำอันแสนสั้นและเลือนรางเสียแล้ว

เมื่อประเด็นแก้รัฐธรรมนูญถูกจุดขึ้นโดยฝ่ายรัฐบาล ในห้วงเวลาที่ รายชื่อ พรรคการเมือง 3 พรรค อันได้แก่ พลังประชาชน ชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้งว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอันอาจจะนำไปสู่การยุบพรรคหรือไม่ โดยพลัน พรรคประชาธิปัตย์ก็ออกมาตอบโต้ทันทีว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นเหตุแห่งวิกฤตการเมือง ในขณะที่พลังเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มใหญ่อย่างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ออกมากล่าวหาโดยทันทีว่า พรรคพลังประชาชนต้องการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อหนีการยุบพรรครวมทั้งเพื่อฟอกตัวอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ทั้งยังหวังว่าจะเป็นการปูทางให้ทักษิณกลับมาสู่เวทีการเมืองไทยอีกครั้ง

กระทั่งในการเสวนาวิชาการโดยพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้มีการออกแถลงการณ์คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการพ่วงด้วยคำขู่ว่าพันธมิตรฯ จะเคลื่อนไหวทันทีที่มีการแก้รัฐธรรมนูญ

ดูทีว่า ฝ่ายพันธมิตรฯ และพรรคฝ่ายค้านมีความกลัวอย่างสุดขีดว่าการแก้รัฐธรรมนูญที่รัฐบาลนำโดยพรรคพลังประชาชนจะนำไปสู่ความอยู่รอดปลอดภัยของ 3 พรรคการเมือง แม้ว่าหลายๆ ฝ่ายมองว่า 3 พรรคนี้ ดูท่าว่าจะชะตาขาดไปแล้ว เพราะแม้จะมีการแก้รัฐธรรมนูญจริง ก็คงไม่ทันการกับคดีที่ขณะนี้ไปอยู่ในมือศาลรัฐธรรมนูญแล้ว

อะไรบ้างที่ถูกเสนอให้แก้ และอะไรบ้างที่ไม่ควรแก้ ในรัฐธรรมนูญ 2550

5 อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกแถลงการณ์นำมาเป็นเจ้าแรกว่าด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ โดยประเด็นแก้รัฐธรรมนูญนั้นเป็นสุดท้ายในแถลงการณ์คัดค้านการยุบพรรคการเมือง โดยเหตุผลหลักของคณาจารย์กลุ่มดังกล่าวคือ บทบัญญัติว่าด้วยการยุบพรรคการเมืองที่บัญญัติอยู่ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 นั้นขัดกับหลักนิติธรรม โดยเฉพาะบทลงโทษผู้กระทำผิดที่ลงโทษแบบเหมารวม คือทำผิดคนเดียว ลงโทษทั้งพรรค เป็น "การฝืนพัฒนาการทางกฎหมายของโลกและจะทำให้สถานะทางกฎหมายของประเทศตกต่ำลงในสายตาของนานาอารยะประเทศ" อันที่จริงอาจารย์ 5 ท่านได้จำแนกมาโดยละเอียดถึง 10 ประเด็น เฉพาะกรณีมาตรา 237 ที่เกี่ยวกับสิ่งที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า บทบัญญัติว่าด้วยการยุบพรรค อาจารย์ 5 ท่านดักคอ (ใครก็ไม่รู้) เอาไว้ก่อนว่าเมื่อกฎหมายมีอยู่อย่างนี้และมีปัญหาต่อหลักนิติธรรมอย่างรุนแรงตั้งหลายข้อดังได้กล่าวไปนั้น เวลาที่จะพิจารณาคดีพรรคการเมือง ก็คงจะตีความไปตามตัวบทอย่างซื่อๆ ไม่ได้ หากแต่ต้องยึดเอาทั้งหลักนิติรัฐและนิติธรรมเป็นที่ตั้ง ตบท้ายว่า เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว รัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องแก้ไข อย่างน้อยก็มาตรานี้แหละ

จากนั้น ปิยบุตร แสงกนกกุล หนึ่งใน 5 อาจารย์กลุ่มดังกล่าวได้เขียนบทความออกมาแสดงความเห็นส่วนตัวว่า ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญ ต้องมีอย่างน้อย 5 ประเด็นได้แก่

•1. ระบบการเลือกตั้ง ส.ส.

•2. ที่มาของส.ว.

•3. การรับรองให้ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่คณะรัฐประหารแต่งตั้งขึ้นให้ดำรงตำแหน่งต่อไปได้เต็มวาระ

•4. กระบวนการยุบพรรค อำนาจของ กกต.ในการแจกใบเหลือง-ใบแดงแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ และ

•5. มาตรา 309 ที่ "ได้เสกให้ ๑.) คำสั่ง คปค. ๒.) ประกาศ คปค. ๓.) การปฏิบัติตามคำสั่งและประกาศ คปค. ไม่ว่าก่อนหรือหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ๒๕๔๙ และ ๔.) การกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับ ๑-๓ ไม่ว่าจะในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ไม่ว่าโดยแท้จริงแล้วจะชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญหรือไม่ก็ตาม กลายเป็นสิ่งที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ ทุกประการ"

นี่ดูจะเป็นข้อเสนอที่ชัดเจนที่สุดที่ถูกเสนอออกมา ก่อนที่กระแสแก้รัฐธรรมนูญได้เดนทางเข้าสู่สงครามน้ำลายระหว่างฝ่ายค้าน รัฐบาล และพันธมิตรฯ

รัฐธรรมนูญ 2540 ทางกลับคือการเดินทางต่อ

วันที่ 30 มี.ค. วรพล พรหมิกบุตร อาจารย์จากคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มธ. ซึ่งถูกติดป้ายเป็นฝ่าย นปก. ไปแล้ว และคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ออกมาประสานเสียงกันโดยมิได้นัดหมาย ให้นำเอารัฐธรรมนูญ 2540 มาเป็นพื้นฐานในการแก้รัฐธรรมนูญ

ปฏิเสธไม่ได้ว่านับถึงวินาทีนี้ รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2540 ก็ยังถูกอ้างอิงถึงว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา และเป็นรัฐธรรมนูญที่ประชาชนส่วนร่วมมากที่สุดเช่นกัน

แน่นอนว่ารัฐธรรมนูญ 2540 ต้องมีปัญหา และปัญหานั้นถูกพูดถึงตั้งแต่เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีอายุครบ 7 ปีด้วยซ้ำไป โดยนายชุมพล ศิลปะอาชากล่าวเชิงรับว่า รัฐธรรมนูญ 2540 นั้นเริ่มมีปัญหาและคงต้องถูกนำมาพิจารณากันอีกสักครั้งว่าจะปรับแก้อะไรได้บ้าง ครั้งนั้น เป็นช่วงแรกๆ ของวิกฤตองค์กรอิสระที่เริ่มดำเนินไปไม่ได้ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญดังกล่าว เช่นเกี่ยวกันกับข้อวิจารณ์จากวรเจตน์ ภาคีรัตน์ ที่วิพากษ์องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญว่ามีเส้นแบ่งของอำนาจที่ไม่ชัดเจนและจะกอให้เกิดปัญหาในภายหลังได้ นอกเหนือจากประเด็นองค์กรอิสระแล้ว ในกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่แม้จะถูกอ้างเสมอว่า ประชาชนมีส่วนร่วม แต่ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้ที่มีอิทธิพลชี้นำโดยทั้งให้ข้อมูล รวมทั้งโน้มน้าวความคิดความเชื่อของประชาชนก็หนีไม่พ้นเหล่านักวิชาการอรหันต์ทั้งหลายที่ได้ข้ามามีบทบาทอย่างเต็มที่ในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว

ข้อสังเกตนั้นย่อมนำไปสู่การแก้ไข และรัฐธรรมนูญ 2540 ไม่ถูกโจมตีหนักขนาดที่รัฐธรรมนูญ 2550 กำลังเผชิญว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่เป็น ปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย และเป็นรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่การรัฐประหารเงียบ เว้นเสียแต่จะมีใครอยากจะกล่าวหาว่า รัฐธรรมนูญ 2540 เป็นรัฐธรรมนูญที่เปิดโอกาสให้คนอย่างทักษิณ เข้ามาทำลายประชาธิปไตยไทยก็ช่วยยกมาตราไหนสักมาตรามาอ้างด้วย

ขณะที่บรรดาเซียนการเมือง และกูรูทั้งหลายออกมาแลกหมัด เอ๊ย แลกเปลี่ยนกันฝุ่นตลบอยู่เรื่องแก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญ และถ้าแก้แล้วจะแก้แบบไหน เสียงหนึ่งที่แหวกกระแสเอามากๆ ดังมาจากฝั่งนักวิชาการและนักเคลื่อนไหวที่จับตาเรื่องการเจรจาเอฟทีเอของรัฐบาลไทยมาตั้งแต่สมัยของ รัฐบาลไทยรักไทย ออกมาดักทางรัฐบาลที่กำลังเสนอแก้รัฐธรรมนูญ เพราะไม่ว่ารฐธรรมนูญ 2550 จะถูกวิพากษ์หรือวิภาษณ์ว่าอย่างไร แต่ในนั้นก็มีมาตราหนึ่งที่เข้าท่าเข้าทาง ก็คือมาตรา 190 แต่ก็ขณะนี้กำลังถูกวิปรัฐบาลเสนอเข้าไปพิจารณาแก้ไขด้วย

หัวใจหลักในการผลักดันมาตรา 190 คือการอุดช่องว่างช่องโหว่สำคัญจากมาตรา 224 ในรัฐธรรมนูญ 2540 ที่ตีความให้รัฐบาลไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลอย่างจริงจังและไม่ต้องนำเอฟทีเอเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาได้ โดยการผลักดันทำผ่านสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนสำคัญ อย่าง สุริชัย หวันแก้ว

อย่าลืมนับเสียงประชาชน

ความคืบหน้าของเรื่องแก้รัฐธรรมนูญขณะนี้ อยู่ในชั้นที่วิปรัฐบาลเสนอต่อรัฐสภาแก้หรือยกเลิกจำนวน 5 มาตรา อันได้แก่ 1. แก้ ม. 237 ว่าด้วยการยุบพรรค 2 ยกเลิกมาตรา 309 3) แก้ไขมาตรา 266 ว่าด้วยการโยกย้ายข้าราชการ 4) ให้ประชาชนเสนอกฎหมาย - เพิ่มเติมให้ประชาชนสามารถเข้าชื่อเสนอกฎหมายได้ทุกเรื่อง จากเดิมให้เสนอกฎหมายได้แค่เฉพาะในหมวดว่าด้วยสิทธิเสรีภาพและแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ และ 5 เสนอแก้มาตรา 190 ดังได้มีเสียงคัดค้านเกิดขึ้นแล้ว ส่วนการแก้มาตรา 237 ว่าด้วยการยุบพรรคก็มีการออกมาคัดคานโดยคณาจารย์ 41 คนจาก 9 สถาบัน ไม่เหมาะสมเพราะเป็นกรณีที่พรรคการเมืองและนักการเมืองมีส่วนได้เสียเอง

ในฝุ่นควันของการอภิปรายเรื่องรัฐธรรมนูญ และการเดินหน้าไปของฝ่ายพรรครัฐบาล ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักเรียนรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาวายอิ ตั้งข้อสังเกตกับประชาไทด้วยเสียงนุ่มๆ สไตล์เขา เป็นหนักแบบส่งหมัดตรงไปยังปลายคางนักการเมืองและกูรูทั้งหลายว่า ไม่ว่ารัฐธรรมนุญ 2550 จะมีข้อผิดพลาดเลวร้ายอย่างไร แต่ขณะนี้สิ่งที่เราได้ยินกันก็เพียงแต่ได้ยินการวิเคราะห์วิจารณ์อย่างผู้เชี่ยวชาญ หรือชี้นำเท่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องไม่ลืมก็คือว่า รัฐธรรมนูญ 2550 ได้ผ่านประชามติจากประชาชนถึง 14 ล้านเสียง แม้จะมีข้อกล่าวหาว่ามีการปล่อยข่าวลวง หรือจะอธิบายแบบที่คนต้านทักษิณถนัดก็คือ เสียงไม่เอาก็มีตั้ง 10 ล้านเสียง ชนะกันไม่ขาด แต่เราก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อ 14 ล้านเสียงได้ หากจะแก้รัฐธรรมนูญจะทำอย่างไรจึงจะไม่เป็นการเพิกเฉยต่อ 14 ล้านเสียง........นี่เป็นเงื่อนไขประการหนึ่งที่ฝ่ายเรียกร้องการแก้รัฐธรรมนูญซึ่งอ้างอิงตัวเองอยู่บนฐานของประชาธิปไตยต้องฝ่าไปด้วย เพราะอย่างน้อยฐานที่ชอบธรรม และการเคารพเสียงของประชาชน เคยช่วยรัฐธรรมนูญฉบับหนึ่งอยู่ได้ตั้ง 10 ปี (หุหุ) ถ้าไม่มีรัฐประหาร

ข่าว-บทความที่เกี่ยวข้อง

สู่ประชาธิปไตย ต้องยกเลิกกฎหมายท็อปบู๊ตทมิฬ': คำอภิปรายของปิยบุตร แสงกนกกุล, ประชาไท, 25/3/2551 http://www.prachatai.com/05web/th/home/11624

รายงาน: ทำไม' รธน.มาตรา 190 ขึ้นเขียงรอแก้ แม้ไม่เข้าพวก, ประชาไท, 3/4/2551 http://www.prachatai.com/05web/th/home/11741

คณาจารย์นิติศาสตร์ 9 มหาวิทยาลัย ออกแถลงการณ์ค้านแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 237, ประชาไท, 3/4/2551 http://www.prachatai.com/05web/th/home/11733

5 อาจารย์นิติ มธ. ออกแถลงการณ์ค้านการยุบพรรค, ประชาไท, 24/3/2551

http://www.prachatai.com/05web/th/home/11616

เสนอเอารัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้ด่วนแก้วิกฤตยุบพรรคการเมือง, ประชาไท, 30/3/2551

http://www.prachatai.com/05web/th/home/11679

ม.เที่ยงคืนเรียกร้องรื้อรธน. ทั้งฉบับ ยึด 40 เป็นเสา หวั่นประชาชนตกเป็นเหยื่อ, ประชาไท, 30/3/2551

http://www.prachatai.com/05web/th/home/11680

 

 

บล็อกของ หัวไม้ story

หัวไม้ story
ชื่อบทความเดิม : เยือนสวนทูนอิน อ่านชีวิต ความคิด 75 กะรัต 'รงค์ วงษ์สวรรค์  ภู เชียงดาว : เรียบเรียง/รายงาน   หมายเหตุ : นี่เป็นมุมมองชีวิต ความคิด ว่าด้วยการเมือง ทหาร การปฏิวัติ สุขภาพ และการเขียนหนังสือ ของ ' รงค์ วงษ์สวรรค์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2538 ที่ได้ถ่ายทอดออกมา เมื่อ 20 พ.ค.2550 ณ สวนทูนอิน โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่  รายงานชิ้นนี้เคยตีพิมพ์ ใน ‘นิตยสารขวัญเรือน' ปักษ์แรก กรกฎาคม 2550 ผู้เขียนขออนุญาตนำมาเรียบเรียง/รายงาน ใน ‘ประชาไท' อีกครั้ง เพื่อเป็นการไว้อาลัยและรำลึกถึงการจากไปอย่างสงบของพญาอินทรีแห่งวรรณกรรม เมื่อค่ำของวันที่ 15 มี.ค.…
หัวไม้ story
“การคุมประชากรด้วยข้อมูลและแนวคิดที่โกหกอาจจะไม่นำไปสู่ประเทศไทยที่สำเร็จได้ แต่กลับเป็นการทำลายการพัฒนาและอนาคตของสังคมไทยเอง”ธงชัย วินิจจะกูล3 มี.ค. 2552
หัวไม้ story
ทีมข่าวการเมือง หลังจากวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เคลื่อนขบวนจากสนามหลวงมาชุมนุมล้อมทำเนียบรัฐบาลและปักหลักพักค้างชุมนุมอยู่หลายคืน โดยมีข้อเรียกร้องคือ 1.ดำเนินคดีกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 2.ปลดนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 3.นำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้ และ 4.ให้ยุบสภา การชุมนุมเป็นไปอย่างต่อเนื่องหลายคืนโดยสงบเรียบร้อย ผู้ชุมนุมยอมให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและคณะรัฐมนตรีเข้าไปทำงานในทำเนียบ โดยไม่มีการกระทบกระทั่งเกิดขึ้น จนแม้แต่นายอภิสิทธิ์ และรองนายกรัฐมนตรีอย่างนายสุเทพ…
หัวไม้ story
  เอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือภูมิภาคที่ไม่เคยเป็นตัวแสดงหลักในเกมอำนาจโลกเลยนับจากยุคอาณานิคมมาจนถึงยุคโลกาภิวัตน์ การร่วมตัวกันของชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในนามอาเซียนเป็นความพยายามอย่างหนึ่งของชาติในภูมิภาคนี้ที่จะเสริมสร้างอำนาจในการต่อรองทางเศรษฐกิจในระดับโลก ในยุคสงครามเย็น ภูมิภาคนี้ถูกแบ่งให้เป็น 2 ค่าย ตามบรรยากาศการเมืองโลก แต่หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ผู้นำค่ายสังคมนิยม ในช่วงทศวรรษที่ 90 ประเทศในภูมิภาคอาเซียนก็หันหน้าไปในทิศทางเดียวกัน บทหนทางเสรีนิยมเดียวกัน ซึ่งประเทศเหล่านี้ถูกปฏิบัติในฐานที่เป็นชายขอบแดนของอำนาจต่อรองเช่นเดิม…
หัวไม้ story
 ทีมข่าวการเมือง   "พฤติกรรมของคนกลุ่มหนึ่งที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้ ไม่อยู่ในขอบข่ายของสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ จึงเป็นการใช้กฎหมู่ละเมิดกฎหมายอย่างชัดแจ้ง คือ เป็นราชาธิปไตยยิ่งกว่าองค์พระราชาธิบดี อันเป็นอันตรายต่อราชบัลลังก์ยิ่งนัก ดังที่พวก Ultra Royalist ในฝรั่งเศสสมัยหนึ่งทำให้พระราชวงศ์บูร์บองล่มสลายมาแล้ว" สุพจน์ ด่านตระกูลสถาบันวิทยาศาสตร์สังคม (ประเทศไทย)มีนาคม 2549 1."ลุงสุพจน์" หรือ สุพจน์ ด่านตระกูล นักคิด นักเขียนวัย 86 ปี เสียชีวิตอย่างสงบ หลังล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เมื่อคืนวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมาชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักประวัติศาสตร์…
หัวไม้ story
[บันทึกคำปราศรัย 'กษิต ภิรมย์' ถึง 'ฮุน เซน' ในการชุมนุมพันธมิตรฯ เมื่อ 15 ต.ค. และ 27 ต.ค. 2551 โปรดอ่านเพื่อให้เห็น ‘วิสัยทัศน์' และ ‘ท่าที' ต่อประเทศเพื่อนบ้านของรัฐมนตรีผู้ซึ่ง ‘อภิสิทธิ์'  ลงทุน 'อุ้ม'] โดย ทีมข่าวการเมือง ประชาไท  กษิต ภิรมย์ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อ 22 ธันวาคม 2551 (ที่มา: Daylife.com/Reuters) เส้นไหน โควตาใครกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กลายเป็นสายล่อฟ้า รัฐบาล ‘มาร์ค 1' เพราะข้อครหาว่าเป็นรัฐมนตรีโควตา ‘พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย' จากบทบาทปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาธิปไตยอยู่บ่อยครั้งนับตั้งแต่ ‘เฟส 1 - 2549'…
หัวไม้ story
  "เขาไม่ให้ผมประกันตัว เขาบอกกลัวผมหลบหนี ผมจะหนีไปไหน ผมเป็นคนไทยนะ จะให้ผมไปไหน ผมจ่ายภาษีปีละหลายหมื่นบาท แต่วันนี้ผมรู้สึกเหมือนเป็นแค่คนที่มาอาศัยแผ่นดินอยู่ เขาไม่ให้ผมประกันตัว เขาบอกว่าผมจะทำความผิดซ้ำ จะทำลายหลักฐาน ผมจะทำทำไม ในเมื่อถ้าทำแล้วมีแต่น้ำตา และมันไม่ใช่น้ำตาของผมคนเดียว แต่เป็นน้ำตาของคน 5 คน คือครอบครัวผม ลูกเมียผม ชีวิตผมตอนนี้มีแต่น้ำตา" สุวิชา ท่าค้อ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพรายล่าสุด เอ่ยปากผ่านม่านน้ำตาที่ไหลพร่างพรูต่อหน้าแผ่นกระจกบางๆ ที่กั้นระหว่างเขาและผู้สื่อข่าวสุวิชามีการเครียดมาก ร้องไห้เกือบตลอดเวลา…
หัวไม้ story
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ ‘นิวส์ออฟเดอะเวิลด์' ของอังกฤษ มีผู้เข้าชมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากที่เคยมีคนแค่ ‘หลักพัน' คลิกเข้ามาอ่านข่าวประเภทสีสันบันเทิงซุบซิบดารา แต่ทันทีที่สื่อกระแสหลักอย่างสำนักข่าวบีบีซี เอพี รอยเตอร์ หรือไทม์ของอังกฤษ รายงานว่าเว็บนิวส์ออฟเดอะเวิลด์ มีการเผยแพร่ ‘คลิปหลุด' ของ ‘เจ้าชายแฮรี่' รัชทายาทลำดับที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ยอดผู้เข้าชมก็พุ่งแตะหลัก 50,000 คนภายในเวลาไม่กี่วัน สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือการถกเถียงอย่างจริงจังในชุมชนพลเมืองอินเตอร์เน็ต ว่าด้วยเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ, สิทธิส่วนบุคคล, เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น…
หัวไม้ story
 Photos by : Berd Whitlock , from : http://www.flickr.com/photos/rwhitlock/3167211359/     - ทีมข่าวความมั่นคง -  หลังบรรยากาศเฉลิมฉลองคริสมาสต์เพียง 2 วัน และอีกเพียงไม่กี่วันก็จะเป็นวันขึ้นปีใหม่ แต่สำหรับชาวปาเลสไตน์ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2551 มันไม่ใช่วันแห่งความสุขรื่นรมย์เหมือนที่อื่นๆ แต่กลับเป็นวันที่แสนเจ็บปวด เลือดไหลรินและน้ำตาไหลนอง ในวันนั้นอิสราเอลลงมือส่งหน่วยปฏิบัติการทางอากาศเข้าโจมตีที่ทำการรัฐบาลฮามาส รวมไปถึงบ้านเรือนของผลเรือน ปฏิบัติดังกล่าวต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 800 ราย
หัวไม้ story
  ทีมข่าวการเมือง"สิ่งที่เขาเขียนนั้นเป็นเพียงการกล่าวถึงเรื่องความสัมพันธ์ลับๆ ของพระราชวงศ์ในลำดับที่ใกล้ชิดกับพระมหากษัตริย์โดยไม่แม้แต่จะเอ่ยนามว่าเป็นพระราชวงศ์พระองค์ใด ข้อความที่เขียนนั้นยาวเพียง 2 ประโยค จากหนังสือที่พิมพ์เผยแพร่แค่ 50 เล่ม แต่เขาอยู่ในคุกไทยมาแล้ว 4 เดือนเต็มๆ โดยคำร้องขอประกันตัวถูกปฏิเสธไปแล้ว 4 ครั้ง"ย่อหน้าข้างบนเป็นการให้ข้อมูลจากองค์การผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน ซึ่งแสดงความวิตกกังวลในระดับที่หนักขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิเสรีภาพในประเทศไทย โดยจดหมายอิเล็กโทรนิกส์ที่ส่งไปยังเครือข่ายนักกิจกรรมด้านเสรีภาพในการแสดงความเห็นทั่วโลก…
หัวไม้ story
 ทีมข่าวการเมืองภายในประเทศ สื่อไทยและรัฐบาลใหม่ดูจะยังดำเนินไปตามขนบที่เป็นมายาวนานคือยังอยู่ในช่วงเวลาน้ำผึ้งพระจันทร์ แต่นอกพรมแดนรัฐไทยออกไป กลับเป็นบรรยากาศที่แตกต่าง ข้อมูลข่าวสารที่ถูกรายงานออกไปดูจะไม่เป็นมิตรต่อรัฐบาลใหม่ของประเทศจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้สักเท่าใด น้ำผึ้งไม่หวาน พลันที่ประเทศไทยได้รัฐบาลใหม่ที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ สิ่งที่รอยเตอร์แนะนำเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยก็คือ....
หัวไม้ story
โดย ทีมข่าวการเมือง   000 “ติดใจทฤษฎีแมลงสาบ กลัวว่าพรรคคู่แข่งจะว่า แต่ดูแล้วตอนนี้รัฐบาลชุดนี้ทำตัวเหมือนแมลงสาบเหมือนกัน ในแง่ชอบความสกปรก ความมืด ที่สำคัญคือขยายตัวได้เร็วมาก ปีกว่าๆ ก็แพร่พันธุ์ได้มากมาย ตนคิดว่าหลักการปฏิรูปที่แท้จริงคือทุกคนต้องเข้าใจในสิทธิเสรีภาพ หากนักการเมืองคิดถึงแต่อำนาจก็ไม่มีทางปฏิรูปได้สำเร็จ เพราะการปฏิรูปต้องผ่องถ่ายอำนาจ ไม่ใช่ใช้อำนาจได้ตามใจและกลัวว่าจะมีการตรวจสอบได้ตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์7 เมษายน 2545 000 “เราได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน…