< จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์>
แบนเกมมาริโอ้ เหตุเด็กประถมกระโดดเอาศีรษะกระแทกอิฐ ไล่เตะเต่าและตะพาบ ซ้ำยังเอาแต่กินเห็ด เพราะอยากตัวสูง เลียนแบบเกมมาริโอ้ แบนอิคคิวซัง เหตุเด็กอนุบาล หวังฉลาดแบบอิคคิว เอานิ้วแตะน้ำลายถูรอบศีรษะจนเป็นขี้กลาก แบน นสพ.หัวสีรุ้ง หลังพบเด็กมัธยม อ่านข่าวข่มขืนแล้ว อยากทำตาม เพราะบรรยายอย่างละเอียด (เหตุการณ์สมมติ) |
ถ้าสังคมนี้ แก้ไขทุกอย่างด้วยการชี้นิ้วหาคนผิด และแบนสิ่งนั้นๆ เสีย ก็คงง่ายดีพิลึก ต่อไปสังคมก็คงใสสะอาด เต็มไปด้วยคุณธรรมสูงส่ง
จริงหรือ?
จากกรณีเด็กมัธยม วัย 18 ปี ให้เหตุผลหลังแทงคนขับแท็กซี่หลายจุดจนเสียชีวิตว่า ทำไปเพราะเลียนแบบเกม ส่งผลให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้ สั่งแบนเกม GTA และอีกหลายๆ เกมเป็นการใหญ่
ต่างคนต่างหาคนผิด ด้วยการหาเป้าชิ้นใหญ่ แล้วพุ่งตรงไปที่เป้าๆ นั้น อย่างไม่รอช้า เกมผิด ต้องห้ามเล่น จำกัดเวลาเล่น ตรวจตราร้านเกม บางคนไปถึงขั้นว่า เกมนี้ไม่เหมาะกับคนไทย เพราะยังมีวุฒิภาวะไม่เพียงพอ (ฟังคล้ายข้อถกเถียงเรื่องประชาธิปไตยชอบกล!) ทั้งที่คนแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เติบโตมาในสภาพแวดล้อมต่างกัน ปัจจัยต่างๆ ในชีวิตก็แตกต่าง คงไม่มีอะไรที่มีเพียงแบบเดียว พิมพ์เดียว ราวกับออกมาจากโรงงานเดียวกัน
พาลให้นึกถึงเกมที่เคยได้เล่น เกมนั้นชื่อแม่น้ำจระเข้
เกมเล่าถึงหมู่บ้านสองแห่ง ที่ถูกคั่นกลางด้วยแม่น้ำ ซึ่งมีจระเข้เต็มไปหมด การจะเดินทางข้ามไปได้นั้น ต้องอาศัยเรือพายของชายพายเรือ ไม่ก็สะพานข้ามไป วันหนึ่งเกิดพายุใหญ่ ทำเอาสะพานเสียหาย ทั้งสองหมู่บ้านขาดการติดต่อ ทำเอาชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งชอบพอกัน แต่เพราะอยู่คนละฝั่งแม่น้ำ ต้องขาดการติดต่อ ฝ่ายหญิงได้ยินว่า ฝ่ายชายเจ็บหนัก ก็กระวนกระวายอยากไปเยี่ยมอาการ จึงเดินทางไปหาชายพายเรือขอให้ช่วย ชายพายเรือซึ่งแอบชอบหญิงนางนี้อยู่แล้ว จึงรับปากพาไปส่ง หากมีข้อแม้ขอแลกกับการหลับนอนด้วยหนึ่งคืน
ฝ่ายหญิงลังเลตัดสินใจไม่ได้ จึงไปปรึกษากับเพื่อนสาว แต่ปรากฎว่า เพื่อนสาวไม่มีคำตอบ ทำให้หญิงสาวต้องตัดสินใจเอง ... เธอตอบตกลง
เมื่อข้ามไปหาชายคนรักได้ เธอตัดสินใจเล่าเรื่องให้เขาฟัง เขาหึงหน้ามืดและมีปากเสียงกับเธอ
เพื่อนของฝ่ายชายผ่านมาเห็นเหตุการณ์ จึงพยายามเข้าช่วยเหลือ จนเกิดทะเลาะวิวาทกัน
ฝ่ายหญิงเห็นดังนั้น จึงตัดสินใจกระโดดน้ำตาย !!!
เมื่อถูกถามว่า ใครเป็นคนผิด ก็ปรากฎว่าคำตอบที่ได้มีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับแว่นตาของแต่ละคน ว่าจะมองจากมุมไหน กรอบใด
ฝ่ายหญิงอาจผิดเองที่ตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง
ฝ่ายชายอาจผิดที่ใจแคบ ไม่รับฟัง จนเป็นเหตุให้หญิงสาวต้องเสียใจ
เพื่อนหญิงอาจผิดเพราะไม่ช่วยให้คำปรึกษากับเพื่อนของตน
ชายพายเรืออาจผิดที่รักจนหลง จนยื่นข้อเสนอที่ทำให้ฝ่ายหญิงต้องเจ็บปวด
หรือ เพื่อนชายอาจจะผิดที่เข้ามายุ่งกับปัญหาของเพื่อน ...
ในความจริงอาจไม่มีใครผิดใครถูก และในความจริงแบบหนึ่งอาจมีความจริงอีกแบบอยู่ด้วยก็ได้ ถึงอย่างนั้น เราก็ยังชินกับการหาผู้ร้ายสักคน เพื่อให้เรื่องมันจบ กลับมาเป็นสังคมที่ “สงบ” ดังเดิม จนดูเหมือนว่าเราไม่ยอมจะเถียงกัน ไม่ยอมจะไปให้สุด ทั้งที่ข้อถกเถียงมากมายยังรอให้แลกเปลี่ยน สรุปแล้ว สังคมเชื่อว่า คนคิดเองได้ไหม
หลายคนคงลืมไปว่า นิ้วที่ชี้ออกไปนั้น มันมีตั้งสามนิ้วที่ชี้กลับเข้ามาที่ตัวเอง