Skip to main content

ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ

 

หลังการประกาศชัยชนะของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหลังการยุบพรรค แล้วล่าถอยในวันที่ 3 ธ.ค.

พอตกค่ำวันที่ 3 ธ.ค. เราจึงกลับมาเห็นบรรยากาศที่ไม่ค่อยคุ้นเคย แทนที่สนธิ ลิ้มทองกุล และแกนนำพันธมิตรฯ จะปราศรัยบนเวที หรือหลังรถปราศรัย ก็กลายเป็นเสวนา และวิเคราะห์การเมืองกันในห้องส่งของสถานีโทรทัศน์ ASTV อย่างไรก็ตาม สนธิ ลิ้มทองกุล ก็พยายามรักษากระแสและแรงสนับสนุนพันธมิตรฯ หลังยุติการชุมนุมเอาไว้ โดยเขาเผยว่าจะจำลองบรรยากาศการชุมนุมพันธมิตรตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาไว้ในห้องส่ง เพื่อแฟนๆ ASTV โดยเขากล่าวเมื่อ 3 ธ.ค. [1] ว่า

พี่น้องครับ พี่น้องหลายคนอาจจะเคยชินว่า ตื่นมาตอนเช้าก็เปิดโทรทัศน์ก็จะเห็นรายการข่าวจัดโดย คุณอัญชลี ไพรีรัก จัดโดย น้องเก๋ กมลพร วรกุล และต่อมาด้วย คุณสำราญ รอดเพชร ต่อมาเรื่อยๆ ถึง คุณบัณฑิต ต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งตกค่ำ ก็จะมีแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วงดนตรีตั้ว เสก ซูซู วงดนตรีแฮมเมอร์ วงดนตรีหลายๆ วงดนตรี

พี่น้องครับ พี่น้องยังจะได้รับความเคยชินเช่นนี้อยู่เหมือนเดิม ผมเห็นใจว่า ตกเย็นพี่น้องอาจจะรู้สึกหงุดหงิด ว่า เอ๊ะวันนี้ไม่มีที่ไปหรอ วันนี้เคยไปทำเนียบ มาทุกวัน วันนี้ตื่นมาตอนเย็นไม่รู้จะทำยังไง หรือว่าตกเย็นแล้วไม่รู้จะไปไหน พี่น้องครับ เราจะจำลองเหตุการณ์ที่ประท้วงข้างนอกเข้ามาสู่ห้องส่ง นับตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป หรือพรุ่งนี้ถ้าทำได้ทัน

เมื่อพี่น้องตื่นเช้าแล้วเปิด ASTV ตอน 7 โมงเช้า พี่น้องจะได้พบกับ คุณอัญชลี ไพรีรัก และ น้องเก๋ กมลพร วรกุล 7 โมงเช้าถึง 9 โมงเช้า 9 โมงเช้าต่อจากนั้นถึง 11 โมงเช้า ก็จะเป็นคุณสำราญ รอดเพชร พร้อมกับนักพูดฝีปากกล้า มานั่งวิเคราะห์ข่าว ตอนเช้าฟังการวิเคราะห์เหน็บแนมของคุณอัญชลี อย่างดุเดือดเผ็ดมันและชวนฮา 9 โมงถึง 11 โมง ได้รับการฟังการวิเคราะห์ข่าวของคุณสำราญ รอดเพชร ซึ่งจะประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น คุณประพันธ์ คูณมี ท่านทูตสุรพงษ์ ชัยนาม ท่านทูตกษิต ภิรมย์ และหลายต่อหลายท่าน 11 โมงถึงเที่ยงจะเป็นการฉายเดี่ยวของ คุณบัณฑิต นะครับ หรือคุณต๋องของผม พิธีกรปากกล้า หลังจากเที่ยงมีการประกาศข่าว หรือว่าอ่านข่าวรอบเที่ยงแล้ว บ่ายโมงเป็นต้นไปจนถึง 4 โมงเย็น จะเป็นรายการของคุณหมี ยุทธยง และ คุณปุ้ย วศมล ช่างปรีชา คู่หูคู่ฮา บนเวทีพันธมิตรฯช่วงบ่าย 4 โมงเย็นต่อไปจนถึง 6 โมงเย็น เป็นรายการ News Hour นำโดย คุณเติมศักดิ์ จารุปาน พิธีกรที่เด็ดขาด ลึกซึ้ง พิธีกรที่เด็ดขาด ลึกซึ้ง พูนเพียบด้วยปัญญา และสติ และควบคู่กับ เก๋ อุษณีย์ เอกอุษณีย์

ต่อจากนั้นไป จะเป็นรายการ อาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และต่อด้วยข่าวราชสำนัก

หมดจากข่าวราชสำนัก ประมาณ 3 ทุ่ม หรือ 2 ทุ่มครึ่ง ก็จะเป็นรายการ พบกับพันธมิตรฯ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เหมือนกับที่ทำเนียบ ไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรผิดเลย เพียงแต่ว่า การพบแกนนำนี้ วันนี้เราจะพาแกนนำทั้ง 2 รุ่นมา ยกเว้นบางคน ซึ่งขณะนี้ ติดภารกิจที่งานศพ เพื่อมาแนะนำตัวก่อน หลังจากนั้น ทุกๆ วัน จะมีแกนนำอย่างน้อย 1 คน เข้ามาร่วมสนทนา ผู้ให้การสนทนาก็อาจประกอบด้วย คุณแอน จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ คุณแอ้ม สโรชา พรอุดมศักดิ์ และอาจเป็น คุณอุษณีย์ เอกอุษณีย์ หลายๆ ท่านเข้ามาร่วม และขณะเดียวกัน แกนนำท่านอาจจะเชิญแขกผู้มีเกียรติบางท่านขึ้นมา และสนทนาให้ความรู้กัน จะเป็นเช่นนี้ไป วันจันทร์จนถึงวันอาทิตย์ไม่ขาด ยกเว้น เสาร์ อาทิตย์ ตอนบ่าย

ตอนบ่ายนั้น วันเสาร์และอาทิตย์ จะเป็นรายการวาไรตี้ พี่น้องจำวงดนตรีต่างๆ จำ วง แฮมเมอร์ จำ วง เสก ซูซู จำวง คีตานชาลี วงโฮป จำลำตัดได้ไหม จำการฟ้อนรำที่สวยงาม เราจะเอานี่มาจัดเป็นรูปร่างและมาเสนอให้พี่น้องดูในวันเสาร์ตอนบ่าย และวันอาทิตย์ตอนบ่าย ต่อจากนั้น ตั้ว ของเรา ศรัณยู วงศ์กระจ่าง ก็จะมีรายการของ ศรัณยู วงศ์กระจ่าง ให้พวกเราชม ในวันเสาร์และวันอาทิตย์วันละ 1 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ASTV ก็จะมีละครโทรทัศน์เป็นครั้งแรกแบบฟรีทีวีอื่นๆ โดยสนธิจะให้เป็นการกำกับโดยศรัณยู วงศ์กระจ่าง นักแสดงชื่อดังและอดีตพิธีกรเรื่องจริงผ่านจอที่ถูกถอดออกจากช่อง 7 เมื่อไม่นานนี้ หลังจากผันตัวมาเป็นแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 โดยรูปแบบจะเป็น ละครสะท้อนความจริงในสังคมไทย จะเป็นละครสะท้อนการต่อสู้ ของพ่อแม่ พี่น้อง จะเป็นละครที่ฉีกแนวออกจากละครน้ำเน่าของทุกๆ ช่อง จะเป็นละครที่ให้สาระ จะเป็นละครที่ให้อุดมการณ์ จะเป็นละครที่เน้นเรื่องศรัทธา เน้นเรื่องความเชื่อมั่น และเน้นในเรื่องความเพียรที่จะทำความดีให้กับสังคมไทย

สนธิออกตัวในรายการว่าการสร้างละครต้องใช้เงินเยอะ แต่เขาบอกว่าได้ยืนยันกับศรัณยูแล้วว่า ไม่ต้องห่วง ทำไปก่อนเถอะแล้วเงินมันจะมา สปอนเซอร์มันจะมา จะเป็นละครเรื่องเดียว และเจ้าเดียวในประเทศไทยที่จะมีคนโทรศัพท์มาบริจาคสมทบทุนการสร้างละคร

 

สนธิยังกล่าวว่า ASTV “ไม่ใช่โทรทัศน์ฟรีทีวีผ่านดาวเทียมอีกต่อไปแล้ว แต่ ASTV นั้นเป็นฟรีทีวีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เป็นเจ้าของ และ ASTV จะต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อเป็นอาวุธ เป็นเครื่องมือสื่อสาร เพื่อจะโยงใยพี่น้องทุกๆ ภาค และดูเหมือนว่าผู้ชม ASTV จะมีภารกิจที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือต้องบริจาคเป็นประจำเพื่อให้ ASTV อยู่ได้ด้วย โดยสนธิกล่าวว่า

พี่น้องครับ คนดู ASTV มีกว่า 15 ล้านคน พี่น้องครับ ASTV อยู่ได้ เพราะแรงใจ แรงบริจาคของพ่อแม่พี่น้อง ถ้าพ่อแม่พี่น้องต้องการจะเก็บ ASTV เอาไว้เพื่อเป็นสมบัติของพ่อแม่พี่น้อง เพื่อเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งเดียวเท่านั้นในประเทศไทย ที่กล้าให้ความจริงกับพ่อแม่พี่น้อง และ ASTV เท่านั้น ที่นำพาพี่น้องและให้พี่น้องเข้ามามีส่วนร่วม ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันกู้ชาติครั้งนี้ และกู้ได้สำเร็จเกือบจะหมดแล้วตอนนี้ ก็เพราะว่าเรายึดมั่นในการขายความจริงโดยไม่กลัวภยันอันตรายทั้งสิ้น พี่น้องครับ ไม่ได้เป็นการมาขอเงินขอทองพ่อแม่พี่น้อง แต่ว่าการสนับสนุนของพ่อแม่พี่น้องเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะว่า ASTV ทุกวันนี้อยู่ได้เพราะพ่อแม่พี่น้อง

000

การประกาศยุติการชุมนุม โดยอ้างว่าได้บรรลุวัตถุประสงค์ของการต่อสู้อันได้แก่ 1. คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 2. ขับไล่รัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิด เพื่อนำไปสู่การเมืองใหม่

ทั้งที่ คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลอีก 2 พรรค ไม่ได้ทำให้สภาพของรัฐบาลที่พันธมิตรฯ ขับโค่นสิ้นสุดลงอย่างฉับพลันทันที บรรดานักการเมืองที่รอดตายจากดาบของ ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญก็พร้อมไปเข้าร่วมพรรคใหม่ และหากไม่มี สัญญาณแทรกพวกเขาก็พร้อมกลับมาตั้งรัฐบาลในนามพรรค เพื่อไทย

ทั้งที่ กระแสสังคมที่กดดันและประณามพันธมิตรตลอดการชุมนุม 193 วัน และกระแสนั้นก็ดังขึ้นและชัดเจนขึ้นหลังปิดสนามบินสุวรรณภูมิ สภาพเงื่อนไขเช่นนี้ ก็ห่างไกลที่พันธมิตรฯ จะสามารถเอาชนะขั้วพลังประชาชนอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จนสามารถสถาปนาการเมืองใหม่ได้

ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่าตลอด 193 วัน พันธมิตรฯ ยังห่างไกลจากการบรรลุวัตถุประสงค์ของการต่อสู้ที่พวกเขาตั้งไว้ก่อนหน้านี้

คำประกาศชัยชนะก่อนยุติการชุมนุมจึงเป็นเพียงคำปลอบใจมวลชนที่อ่อนล้าจากยุทธการ ม้วนเดียวจบ และ สงครามครั้งสุดท้าย ระหว่างพันธมิตรฯ V.S. รัฐบาล คงไม่ยุติศึกเพียงเพราะคำสั่งยุบพรรคแน่นอน

ดังนั้น การประกาศยุติชุมนุม ตามมาด้วยการ จำลองม็อบไว้ใน ASTV จึงไม่ใช่อะไรอื่น หากแต่เป็นการเปลี่ยนยุทธวิธีการเคลื่อนไหว หลังจากบอบช้ำจากการใช้ยุทธวิธีชุมนุมกดดันกลางถนน จนถูกสังคมประณาม และลดการสูญเสียจากการถูก กองกำลังไม่ทราบฝ่าย จองกฐินด้วยการถล่มแบบรายวันจนเกิดบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จนถอยจากทำเนียบแทบไม่ทัน

ยุทธวิธีต่อสู้ด้วยการ จำลองม็อบไว้ใน ASTV แทนการชุมนุมจริง จึงเป็นการลดเสียงต้านพันธมิตรฯ ที่เกิดจากการชุมนุมกดดันบนท้องถนน หรือยึดสถานที่ราชการ และลดการบาดเจ็บล้มตายจากการถูกจองกฐินจาก กองกำลังไม่ทราบฝ่าย

ที่สำคัญคือเป็นการกลับมาทำสงครามในสมรภูมิ สื่อที่สนธิมีความถนัดกว่าสมรภูมิ การชุมนุม ที่จำลองมีบทบาทเด่น และในสมรภูมิสื่อนี้เองสนธิจะสามารถกุมสภาพการนำได้เหนือกว่าแกนนำคนอื่นๆ ผ่านการทำสงคราม สื่อและวางผังรายการ ASTV ที่ครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของ

การชุมนุมอยู่หน้าจอ ยังถนอมกำลังมวลชนของพันธมิตร ที่เหนื่อยล้าตลอดการชุมนุมบนท้องถนน 193 วัน โดยสามารถใช้ ASTV หล่อเลี้ยงข้อมูลให้กับผู้สนับสนุนพันธมิตรได้ตลอด 24 ชั่วโมงเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา และเมื่อมีเงื่อนไขที่เหมาะสม แกนนำก็สามารถใช้ ASTV ระดมพลเพื่อออกมาเคลื่อนไหวทุกเมื่อ

อาจมีคำถามว่าการ จำลองม็อบ จะรักษากระแสการต่อสู้ของพันธมิตรในระดับที่เข้มข้นอย่าง ม็อบจริงๆได้อย่างไร คำตอบที่ต้องไม่ละเลยก็คือ การก่อตัวขึ้นของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ได้มีองค์ประกอบเพียงการชุมนุมในพื้นที่จริงเท่านั้น แต่พื้นที่ข่าว ที่ได้รับการหนุนเสริมโดย ASTV และหนังสือพิมพ์ในเครือทั้งรูปแบบสิ่งพิมพ์ออนไลน์ ก็ช่วยรักษารูปมวยของการต่อสู้ไว้ด้วย

ที่ผ่านมา ASTV ก็มีบทบาทเชิงรุกสำหรับการชุมนุมด้วยซ้ำ ทั้งการถ่ายทอดสดการชุมนุมตลอด 24 ชั่วโมง และถ่ายทอดสดทุกวันยาวนานกว่า 193 วัน และมีการใช้ ASTV นัดหมายสถานที่ๆ ผู้ชุมนุมในแต่ละจังหวัด ในแต่ละอำเภอสามารถไปรวมตัวกันที่นั่น แล้วเดินทางเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ แบบ เต็มออก เต็มออก ฯลฯ ทำให้ ASTV เสมือนเป็นเวทีปราศรัย เป็นรถบัญชาการการชุมนุมแห่งที่สองของพันธมิตรฯ แบบที่สนธิเคยพูดเปรียบเทียบเมื่อ 29 พ.ย. ว่าการรักษา ASTV ก็เหมือนการรักษาที่มั่นอย่างทำเนียบรัฐบาล หรือ สนามบินสุวรรณภูมิ

โดยในวันนั้นเองที่เขาบัญชาการการชุมนุมมาจากห้องส่ง ASTV เรียกร้องให้ผู้ชุมนุมพันธมิตรที่ทำเนียบ-ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ รักษาพื้นที่ด้วยชีวิต ถ้าจำเป็นก็ต้องหลั่งเลือด ชนิดที่ว่า ถ้าบุกเข้ามา ถ้ายิงเรา เราก็ยิงสวนกลับไป[2]

000

 

สถานการณ์การเมืองไทยช่วงนี้จึงเป็นเพียงการพักรบชั่วคราวเท่านั้น หลังจากช่วงเวลาของวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผ่านพ้นไป จึงต้องจับตาว่าสนธิ ลิ้มทองกุลและแกนนำที่จะไปจัด จำลองม็อบผ่าน ASTV นั้น วันดีคืนดีพวกเขาจะบัญชาการพ่อยกแม่ยกผ่านทางโทรทัศน์ นัดหมายให้ไปปฏิบัติการตามแนวทาง อารยะขัดขืนหรือ ดาวกระจายหรือ ม้วนเดียวจบหรือไม่

เมื่อนั้นจะได้เห็นว่าการ จำลองม็อบ ผ่าน ASTV จะเป็นอาวุธที่รัฐบาลต้องครั้นคร้าม ประชาชนต้องเอือมระอา แบบการชุมนุม 193 วันของพันธมิตรเฟส 2 หรือไม่

หรือเป็นแค่ ‘Group Psychotherapy’ ของลุงๆ ป้าๆ นักรบมือตบ และนักรบศรีวิชัยผู้เสพติดการ มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญ

 

อ้างอิง

[1]สนธิเชิดชูวีรชนกู้ชาติ-ย้ายกิจกรรมชุมนุมสู่จอ ASTV, ASTVผู้จัดการออนไลน์, 3 ธ.ค. 2551 21:53 http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000143170

[2] สนธิสั่งมวลชนยอมหลั่งเลือด พิทักษ์ทุกฐานที่มั่น, ประชาไท, 30 พ.ย. 2551 http://www.prachatai.com/05web/th/home/14681

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
แดง ใบเตย  1. บทสรุปสำหรับผู้บริหารข้อเขียนชิ้นนี้ เขียนขึ้นเพื่อโจมตีกลุ่มปัญญาชนเก๋ไก๋ทั้งหลาย ที่บังอาจวิพากษ์วิจารณ์กระแส "เคอิโงะ"    2. ดวงของเคอิโงะแหม่มโพดำ"เคอิโงะ" เสี่ยงได้ไพ่ "แหม่มโพดำ" ดวงดีมากมาย  3. บทกวีแด่เคอิโงะเ ร า ก็ ไ ม่ ท ร า บ ว่ า จู่ ๆ คุ ณ ดั ง  ขึ้ น ม า ไ ด้ เ ยี่ ย ง ไร "เ ค อิ โ ง ะ"สำ ห รั บ ผ ม เ ริ่ ม แ ร ก ก็ อ อ ก จ ะ ห มั่ น ไ ส้ คุ ณ อ ยู่ ม า ก เ ล ย ที เ ดี ย วแ ต่ สำ ห รั บ ผู้ ที่ แ ส ด ง ค ว า ม ฉ ล า ด ห ลั ง เ ห ตุ ก า ร ณ์ นี่ ยิ่ ง น่ า ห มั่ น ไ ส้ ก ว่ ามั น ไ ม่ ใ ช่ เ รื่ อ ง ข อ ง ผ ม กั บ คุ ณ…
Hit & Run
Ko We Kyaw ไร่ปลูกสบู่ดำริมทางบนถนนระหว่างเมืองเจ้าปะต่าวกับมิตทีลา ภาคมัณฑะเลย์ ภาพถ่ายในเดือนพฤษภาคม 2551 (ที่มา: Kowekyaw/Prachataiburma)   พฤษภาคม 25511. ผมอยู่บนรถโดยสารเก่าๆ แล่นออกจากเมืองเจ้าปะต่าว (Kyaukpadaung) มุ่งสู่มิตทีลา (Meiktila) ภาคมัณฑะเลย์ ใจกลางเขตแล้งฝน (dry zone) ของสหภาพพม่า สองข้างทางซึ่งเป็นดินแดงๆ จึงเหมาะจะปลูกเฉพาะพืชทนแล้ง โดยเมืองเจ้าปะต่าวถือเป็นแหล่งปลูกตาล ส่วนเนินแห้งแล้งรอบทะเลสาบมิตทีลาก็เป็นแหล่งปลูกฝ้าย แต่สองข้างทางของถนนที่ผมกำลังเดินทางกำลังเปลี่ยนโฉมหน้าด้วยโครงการปลูกพืชพลังงานชนิดใหม่ “สบู่ดำ”…
Hit & Run
  โดย เพณิญ               ในสถานการณ์แบบนี้ ‘ตัวละคร' ที่น่าจับตามองและได้รับความนิยมอย่างมาก คงหนีไม่พ้น ‘อาซาคุระ เคตะ' นายกรัฐมนตรีหนุ่มสุดหล่อแห่งประเทศญี่ปุ่น และ ‘ลีซาน' พระราชาผู้เป็นที่รักของประชาชนมากที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี            ‘ตัวละคร' ทั้งสองปรากฏตัวอย่างมีนัยยะสำคัญและเป็นที่กล่าวขวัญถึงเป็นอย่างมาก หนึ่งคือ ‘อาซาคุระ เคตะ' ตัวละครที่ไม่เคยสนใจการเมือง แต่ต้องก้าวเข้ามารับหน้าที่นายกรัฐมนตรีในภาวะการเมืองสูญญากาศของประเทศญี่ปุ่นจาก CHANGE…
Hit & Run
อย่างที่รู้ๆ และแทบไม่อยากจะย้ำให้เจ็บช้ำหัวใจกันว่าเศรษฐกิจประเทศไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ (จากอเมริกา) ที่ส่งกระทบข้ามฟ้ามามาไกลถึงบ้านเรา ทำให้ผู้นำประเทศต้องออกโรงคิดหานโยบายมาแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน   บวกด้วยความที่นายกคนหนุ่มอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เห็นว่าคนจนเศรษฐกิจไม่ดี นายกต้องช่วยเหลือ และไม่มีอะไรดีไปกว่าการเพิ่มกำลังซื้อให้กับคน ที่เป็นการช่วยธุรกิจโดยไม่ต้องไปบิดเบือนกลไกตลาด แบบว่าเป็นการช่วยเศรษฐกิจชาติให้มีเงินหมุนเวียน   ดังนั้น โครงการใหม่ถอดด้าม “เช็คช่วยชาติ” จึงริเริ่มและดำเนินการอย่างรวดเร็ว เช็คจำนวน 9.6 ล้านใบ…
Hit & Run
  กรกช เพียงใจ  ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญา รัชดาผู้พิพากษาสองคนเดินมานั่งบนบัลลังก์ เบื้องหลังบัลลังก์เป็นผนังไม้อย่างดีสีน้ำตาลเข้ม ทำให้ทั้งห้องดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม สูงขึ้นไปบนผนังติดพระบรมฉายาลักษณ์ในกรอบสีทองเหลืองอร่ามทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ มีญาติผู้ต้องขังสองสามคน อัยการ ทนายความ เจ้าหน้าที่ผู้คุมตัวผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ต้องขังหญิงในชุดนักโทษอุฉกรรจ์สีน้ำตาล ขลิบปลายแขนแดง ‘ดารณี' ถูกจับกุมที่บ้านพัก ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และติดคุกมาแล้วมากกว่าครึ่งปี ระหว่างที่คดีเพิ่งเริ่มพิจารณา และนัดหมายการไต่สวนพยานครั้งแรกกันอีก 6 เดือนข้างหน้า 0000"ไอ้ที่พี่พูด…
Hit & Run
Ko We Kyaw เมื่อวันที่ 13 มีนาคม หรือเมื่อวานนี้ นักกิจกรรมพม่ารุ่น’88 ในประเทศไทย นำโดยสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองในพม่า (Assistance Association for Political Prisoners-Burma - AAPP) และสมัชชาเพื่อประชาธิปไตยในพม่า (the Forum for Democracy in Burma - FDB) จัด “Free Burma’s Political Prisoners Now!” (“ปล่อยนักโทษการเมืองในพม่าเดี๋ยวนี้!”) (www.fbppn.net) โดยมีการจัดแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (FCCT) กรุงเทพมหานคร และที่ศูนย์นานาชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อล่ารายชื่อกดดันให้รัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัวนักโทษการเมือง ซึ่งขิ่น โอมาร์ (Khin Ohmar)…
Hit & Run
  จันทร์ ในบ่อ ‘วันวาเลนไทน์' หรือ ‘วันเสียตัวแห่งชาติ'เป็นวันที่มีความเชื่อกันว่า ‘ผีกระจู๋' จะถูกปลดปล่อยออกมาเพ่นพ่านด้วยฤทธาแห่งความความกำหนัด โดยเฉพาะในวันที่ความรักเบ่งบานฉ่ำบรรดาพ่อมดหมอผีจะเกรงกลัวเป็นที่สุด เพราะเชื่อกันว่าอิทธิฤทธิ์แห่งมนต์ดำกฤษณาจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติอีกหลายเท่าตัว 
Hit & Run
  ธงดอง จันทร์อังคารพุธพฤหัสศุกร์  "ฉันเป็นคนบ้า เพราะว่าสติไม่ดีไม่ใช่คนไม่ดี ฉันมีสติไม่ดีฉันเป็นคนบ้า" ประเด็นที่ไม่พูดถึงไม่ได้แล้วในปัจจุบัน ก็คือประเด็น "คดีหมิ่นฯ" ที่กลายเป็นเรื่องกล่าวขวัญในสังคมอย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้เริ่มตั้งแต่หนุ่มไม่เต็มบาทนั่งเหม่อลืมยืนเคารพเพลงสรรเสริญในโรงภาพยนตร์, ม็อบคนบ้า(การเมืองจนเข้าเส้น)ที่ปราศรัยมันเกินเหตุจนเกิดเรื่อง, ฝรั่งเพี้ยนที่ชอบขีดๆ เขียนๆ เรื่อยเปื่อย จนลามมาถึงนักวิชาการ นักการเมือง นักท่องอินเตอร์เน็ตเพี้ยนๆ ออกมาโดนซิวเป็นระยะๆ ตามหน้าข่าวแต่ประเทศนี้มันก็ช่างน่าขันเหลือเกิน โทษสำหรับคนเพี้ยนบ้าแบบนี้…
Hit & Run
  จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์  เมื่อปีที่แล้ว ตอนที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก สถานีโทรทัศน์ในจีนถูกสั่งให้ดีเลย์สัญญาณออกอากาศออกไป 10 วินาที เพื่อพวกเขาจะได้มีเวลาจัดการกับการแพร่ภาพในกรณีที่เกิดการประท้วงจากกลุ่มที่เรียกร้องให้ปลดปล่อยทิเบต หรือกลุ่มทางการเมืองอื่นๆ  มาหนนี้ ดูเหมือนสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนจะไม่ได้เตรียมการอะไรไว้ระหว่างถ่ายทอดสดการกล่าวสุนทรพจน์ของโอบามาในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ เมื่อเวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 20 ก.พ. (เวลาประเทศจีน) เพราะขณะแพร่ภาพการกล่าวสุนทรพจน์ของโอบามา พร้อมๆ กับแปลไปด้วยนั้น อยู่ๆ…
Hit & Run
มุทิตา เชื้อชั่ง วันเด็กปีนี้ แม้ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี แต่ก็อยากจะให้คำขวัญ คำอวยพรกับเด็กๆ บ้าง... มีฟามสุขมั่กๆ อย่าแสบให้มากนักนะตัวเอง...   ปีนี้มหกรรมวันเด็กค่อนข้างคึกคัก ข่าวคราวต่างๆ ถูกรายงานเยอะแยะมากมายตามประสาบ้านเมืองที่สงบสุขแล้ว...ชิลๆ สังเกตได้ง่ายๆ เพราะเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ (ยิ่งดราม่าๆ หน่อยยิ่งเจ๋ง) มักจะมีสีสันอยู่ในกระแสมากเป็นพิเศษเสมอ   คำขวัญวันเด็กที่ทั่นนายกฯ "อภิสิทธิ์" ให้ในปีนี้ เด็กจริง เด็กโข่ง ต่างก็รู้กันทั่วหน้าแล้ว นั่นคือ "ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี"   ไม่รู้ว่าเด็กยุคดิจิตอลรุ่นนี้คิดยังไง...
Hit & Run
 จันทร์ ในบ่อ ก่อนอื่นขอ "สวัสดีปีใหม่ครับ" ปีใหม่นี้คนไทยมีนายกฯใหม่ แต่ยังต้องเซ็งที่มีการเมือง(โครต)เก่า ‘ผู้จัดการ' ก็คนหน้าเก่าเลยไม่รู้ว่าจะเรียกร้อง ‘การเมืองใหม่' กันให้วุ่นวายทำไมเป็นเดือนๆอีกฝ่ายก็อุตส่าห์ลงทุน ‘โฟนอิน' มาเป็นรอบๆ ขู่จนเสื้อเหลืองเสื้อเขียวสะดุ้งไปหลายเฮือก แต่สุดท้ายหวยล็อค ได้ฮาตรงที่เขาบอกกันว่า ‘ประชาธิปัตย์' ก็มากับเสียง ‘โฟนอิน' !?? ที่สำคัญโฟนอินนี้ทำเอา ‘เสื้อแดง' มึนตึ้บเป็นแถว เช้ามาพูดได้คำเดียวว่า "มาม่า...อร่อย "เอาล่ะ..เรื่องการเมืองไว้ค่อยว่ากันต่อ แต่ตอนนี้ขอพักฉลองเทศกาลปีใหม่สากลสักสองสามวันร่วมกับคนทั้งโลก ขออวยพรแบบสากลหน่อย"…
Hit & Run
  คิม ไชยสุขประเสริฐ  ข่าวคราวในวงการกีฬา เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา คงเป็นที่จดจำสำหรับคนไทยที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลหรือเป็นนักเชียร์ตัวยงสำหรับกีฬาต่างๆ ที่ลงท้ายด้วยทีมชาติไทยพ่ายทีมชาติเวียดนาม 1-2 ประตู ในฟุตบอลอาเซียน ซูซูกิ คัพ 2008  รอบชิงชนะเลิศนัดแรก ซึ่งจัดขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยเกมนี้มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรี เดินทางไปเชียร์ทีมไทยถึงขอบสนาม เรียกได้ว่าเป็นการแพ้กันคาบ้าน