Skip to main content
  โดย เพณิญ

 

 

 

           ในสถานการณ์แบบนี้ ตัวละคร' ที่น่าจับตามองและได้รับความนิยมอย่างมาก คงหนีไม่พ้น อาซาคุระ เคตะ' นายกรัฐมนตรีหนุ่มสุดหล่อแห่งประเทศญี่ปุ่น และ ลีซาน' พระราชาผู้เป็นที่รักของประชาชนมากที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี

            ตัวละคร' ทั้งสองปรากฏตัวอย่างมีนัยยะสำคัญและเป็นที่กล่าวขวัญถึงเป็นอย่างมาก

หนึ่งคือ อาซาคุระ เคตะ' ตัวละครที่ไม่เคยสนใจการเมือง แต่ต้องก้าวเข้ามารับหน้าที่นายกรัฐมนตรีในภาวะการเมืองสูญญากาศของประเทศญี่ปุ่นจาก CHANGE ซีรี่ย์แดนปลาดิบ ซึ่งรับบทโดยพระเอกสุดเท่ห์ ทาคุยะ คิมุระ (หลังจากซีรี่ย์เรื่องนี้จบลง ทาคุยะมีชื่อติดในผลสำรวจที่ว่า อยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดไปของญี่ปุ่นมากที่สุด ในอันดับที่ 3)

อีกหนึ่งคือ ลีซาน' หรือ พระเจ้าจองโจ พระราชาเจ้าของประโยค "ข้าจะทำให้รู้ว่า ความเสมอภาคเท่าเทียม และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น จะทำให้บ้านเมืองเจริญได้"

อันเป็นประโยคไฮไลต์จากซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน ซึ่งประโยคนี้คงสะท้อนในใจใครหลายคนที่ได้ยินได้ฟัง เพราะนอกจากจะสะท้อนให้ย้อนกลับมาดูสถานการณ์บ้านเมืองของประเทศไทยแล้วยังสะเทือนต่อกลยุทธ์การลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยอ้างเรื่องการรักษาความมั่นคงของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 

 

บทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรี

            เหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้กระแสตอบรับของซีรี่ย์เรื่อง CHANGE ดียิ่งกว่าราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพท์สมัยฟองสบู่ น่าจะเป็นเพราะเรื่องราวช่างเข้ากันกับสถานการณ์การเมืองของบ้านเรา ที่มีทั้งการทุจริตคอรัปชั่น มีการมุดมุ้งนี้ลอดมุ้งนั้น มีทั้งนักการเมืองอาวุโสและนักการเมืองเลือดใหม่ มีมือที่มองไม่เห็นคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง มีการใช้วิธีการสกปรกนำเอางบประมาณลับไปใช้ มีการยุบสภา เล่ห์เหลี่ยมและกลเกมการเมืองหลากหลาย เรียกได้ว่าครบรส

            ที่สำคัญนายกรัฐมนตรีมือใหม่ หัวใจประชาชนนามว่า อาซาคุระ เคตะ' ยังได้รับฉายาว่า เจ้าชายแห่งสภา เนื่องจากความเป็นคนหนุ่มรูปหล่อ ซึ่งสอดคล้องกับความหล่อเหลาและความเป็นคนรุ่นใหม่ของนายกรัฐมนตรีไทย

            และในความเหมือนที่อาจจะแตกต่างในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ประเทศ ลองจินตนาการว่าหากนายกรัฐมนตรีทั้งสองมาพบกัน บทสนทนาของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร

อาซาคุระ เคตะ : ยินดีมากที่ผมได้พบคุณ ใครๆ ต่างก็กล่าวถึงคุณ รวมทั้งมีการเปรียบเทียบกับผม

มาร์ค  :  แน่นอนเราอาจะมีลักษณะบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน ก่อนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี คุณเคยเป็นครูชั้นประถม 5 ในขณะที่ก่อนหน้านี้ผมเป็นอาจารย์

อาซาคุระ เคตะ : แต่ที่ผมเห็นต่างคือ ยังไงๆ หน้าตาของคุณก็หล่อสู้ผมไม่ได้ แต่เอาเถอะผมไม่ได้อยากตอกย้ำเรื่องนี้ ผมอยากคุยเรื่องการเมืองมากกว่า

มาร์ค : ก่อนอื่น คุณช่วยเลือกประโยคประทับใจที่ทำให้คุณก้าวเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นให้ผมฟังสักประโยคสิ เคตะ

อาซาคุระ เคตะ : ด้วยหูที่เหมือนของท่าน ผมสัญญาว่า ผมจะตั้งใจฟังเสียงที่เบาที่สุด ของผู้ที่เราเรียกเขาว่าเป็นผู้อ่อนแอ ด้วยขาสองข้างที่เหมือนท่าน ผมสัญญาว่า ผมจะวิ่งเข้าหาปัญหาต่างๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ด้วยสองมือที่เหมือนพวกท่าน ผมสัญญาว่าจะใช้มันทำงานให้หนัก จนด้านแข็ง จนเหงื่อหยดจากมือ เพื่อจะสร้างหนทางใหม่ ที่ประเทศนี้ควรจะเป็น ทุกๆ อย่างของผม ก็จะเป็นเหมือนของท่าน

มาร์ค : เยี่ยมมาก

อาซาคุระ เคตะ : แล้วประโยคประทับใจของคุณล่ะ

มาร์ค : ผมขอยืนยันว่าผมจะทำงานให้กับคนไทยทุกคนไม่ว่าจะเลือกผมหรือไม่เลือกผม ไม่ว่าจะสนับสนุนผมหรือแม้แต่ต่อต้านผม ท่านจะเป็นใครก็ตามหากท่านไม่คิดร้ายต่อบ้านเมืองท่านไม่ใช่ศัตรูของผม และท่านเป็นอีกคนหนึ่งที่ผมจะต้องรับใช้อย่างเต็มความสามารถ (17 ธันวาคม 2551 คำแถลงการณ์เนื่องในโอกาสรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ณ พรรคประชาธิปัตย์)

อาซาคุระ เคตะ : เท่ห์ระเบิดไปเลยที่กล้าพูดอย่างนั้น เพราะคุณย่อมรู้ว่าจำนวนคนที่เลือกคุณและไม่เลือกคุณ แตกต่างกันเท่าไหร่ แล้วเรื่องของคนที่ต่อต้านคุณ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

มาร์ค :  บนความสูญเสียของประเทศชาติในวันนี้ ใครก็ตามที่ประกาศชัยชนะ ผมถือว่าคน ๆ นั้นหรือกลุ่มคนเหล่านั้นคือศัตรูของประเทศไทยที่แท้จริง ไม่ว่าผมจะอยู่ในสถานะใด ผมจะไม่ยินยอมให้คนที่คิดร้ายกับประเทศไทยสามารถมามีอิทธิพลหรืออำนาจเหนือ ความเป็นอยู่ของชีวิตของประชาชนคนไทย และผมจะถือเป็นความรับผิดชอบสูงสุดที่จะเอาความสงบเรียบร้อยกลับคืนมาบนความถูกต้องเท่านั้น (11 เม.ย. 52 ณ โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท จังหวัดชลบุรี)

อาซาคุระ เคตะ : การปิดสถานีโทรทัศน์และเวปไซต์ต่างๆ เป็นหนึ่งในวิธีการสร้างความสงบเรียบร้อยที่คุณหมายถึงด้วยหรือ

มาร์ค :  ผมไม่คิดว่าคุณจะอนุญาตให้คนในประเทศของคุณไปออกวิทยุหรือทีวี แล้วพูดว่าไปเผาที่นั่นที่นี่กันเถอะ ไปฆ่าใครสักคนกันเถอะ (เดือนเมษายน 2552 คำให้สัมภาษณ์นิตยสารไฟแนนเชียล ไทมส์)

อาซาคุระ เคตะ : เอาเถอะ สำหรับผมนะ ผมรู้ว่าการที่ผมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะผมต้องการทำงานโดยใช้หัวใจของประชาชนคนหนึ่ง และผมไม่มีทางเป็นหุ่นเชิดให้ใคร การเมืองทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็คงประสบปัญหาคล้าย ๆ กัน คำว่าประชาชนนั้นหายไป หรือไม่ก็ไม่มีความหมายเลย นักการเมืองไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหนต่างเล่นการเมืองมากกว่าจะสนใจ และใส่ใจเจตจำนงของประชาชน

หมายเหตุ : บทสนทนาของมาร์ค เป็นบทสัมภาษณ์ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตอบคำถามต่อสื่อมวลชนหรือพูดต่อสาธารณะ หากแต่นำมาเรียบเรียงใหม่

 

ประโยคดีๆ จากพระราชา

กลับมาที่ ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน ซี่รี่ส์จากแดนกิมจิที่ดำเนินเนื้อเรื่องอย่างเข้มข้น โดยอิงประวัติศาสตร์เกาหลีในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นรัชสมัยของ พระเจ้าจองโจ (ลีซาน) พระราชาลำดับที่ 22 ของราชวงศ์โชซอน ซึ่งในประวัติศาสตร์ห้าร้อยปีของราชวงศ์โชซอน  พระเจ้าจองโจนับว่าทรงเป็นพระราชาที่ทรงประสบมรสุมและปัญหาต่าง ๆ มากที่สุดพระองค์หนึ่ง  แต่ด้วยความที่ทรงมีปณิธานอันมุ่งมั่นที่จะทำให้ประชาชนของพระองค์มี ชีวิตที่ดีขึ้น พระองค์จึงทรงพยายามที่จะการปฏิรูปและปรับปรุงประเทศชาติในด้านต่างๆ ทั้งในด้านการปกครอง พระองค์ทรงสลายความบาดหมางของกลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ ที่สั่งสมมานานนับร้อยปีลงได้ ทางด้านเศรษฐกิจ พระเจ้าจองโจก็ทรงบุกเบิกเศรษฐกิจแนวใหม่ ซึ่งนับว่าแปลกใหม่ในศตวรรษที่ 18

            พระเจ้าจองโจทรงสร้างความแข็งแกร่งเกรียงไกรให้กับกองทัพ สร้างความเป็นปึกแผ่นให้ชาติบ้านเมืองและด้วยความที่พระองค์ทรงเป็นพระ ราชาที่มีความคิดก้าวหน้า อีกทั้งทรงเป็นพระราชาผู้ปกครองอาณาจักรด้วยความโอบอ้อมอารีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ทรงใช้หลักประชาธิปไตยในการปกครองประชาชนของพระองค์ จึงทำให้พระองค์กลายมาเป็นพระราชาที่ได้รับการสรรเสริญว่าเป็นพระราชาที่ เป็นที่รักของราษฎร์มากที่สุดพระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์เกาหลี

           นอกเหนือจากเรื่องราวการเมืองการปกครองที่เข้มข้นแล้ว ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน ยังมีบทสนทนาเกี่ยวกับการปกครองบ้านเมืองที่โดดเด่น ซึ่งจะขอยกมาเป็นตัวอย่างดังนี้

 

"ข้าจะไม่ให้เลือดและหยาดเหงื่อของพวกเขาไร้ค่า"

"ข้าจะมอบโลกที่ปราศจากการทุจริตและการโป้ปดแก่พวกเขา"

"ข้าจะสร้างโลกที่ไม่มีคนหิวโหย การแบ่งแยก หรือ ความกังวล"

 

"เจ้ารู้หรือไม่ว่า เหตุใดคนเราถึงได้เปลี่ยนไปเมื่อมีอำนาจ เพราะมันสามารถใช้เป็นทางลัด ทำให้สะดวกรวดเร็วกว่าตอนที่ยังไม่มียังไงล่ะ อำนาจให้สิ่งนั้น เพราะเช่นนี้ยังไง ถึงไม่มีใครสามารถต่อต้านอำนาจได้ และคนเหล่านี้ถึงได้เปลี่ยนไป"

 

และใครยังติดใจในประโยคโดนๆ แบบนี้ก็ติดตามได้ใน ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน

 

..............................................................................................................................................

 

 


CHANGE นายกมือใหม่ หัวใจประชาชน

 

เรื่องราวของ อาซาคุระ  เคตะ  คุณครูชั้นประถมศึกษา ลูกชายคนที่ 2 ของเลขาธิการพรรครัฐบาล ที่ไม่สนใจการเมือง แต่อยู่ๆ ก็มีเหตุที่ทำให้ต้องก้าวเข้ามาสู้เส้นทางการเมืองที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม กลโกง การคอรัปชั่น ทั้งที่ตนไม่ต้องการ แต่เขาก็ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเวลาอันรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทัน เมื่อถึงจุดนี้แล้ว เขาจะต้องทำอย่างไร เพื่อที่จะไม่ให้เป็นหุ่นเชิดของนักการเมืองที่หวังกอบโกย และเพื่อเปลี่ยนแปลงให้เป็นสิ่งที่ดีกว่า

ซีรีส์แนวการเมืองสายเลือดญี่ปุ่น บทโดย ฟุคุดะ ยาสึชิ (Hero และ Gallileo) กำกับโดย ซาวาดะ เคนซาขุ และ ฮิราโนะ ชิน (ทีมจาก HERO และ Galileo) รวมถึงได้ดาราดังอย่าง คิมุระ ทาคุยะ มานำแสดงด้วย

 

ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน

สร้างจากเรื่องจริงอิงประวัติศาสตร์ของกษัตริย์องค์ที่ 22 พระเจ้าจองโจ หรือลีซาน แห่งอาณาจักรโชซอน ลีซานเป็นลูกชายคนเดียวของขององค์รัชทายาทแห่งโชซอน และเมื่อบิดาของเขาถูกใส่ร้าย เข้าใจผิดทำให้ถูกขังจนตาย องค์ชายน้อยจึงต้องก้าวสู่ราชบัลก์อย่างเลี่ยงไม่ได้ เขาต้องฝึกฝนเพื่อเตรียมให้เขาเป็นพระราชาที่ดี รวมถึงยังถูกปองร้ายโดยคนที่ต้องการกำจัดเขาให้พ้นจากตำแหน่ง โชคดีที่เขามีทั้งเพื่อนคู่กายและสหายคู่ชีวิตต่อมาพระองค์ก็ได้เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโชซอน ผู้ทำให้เกิดความเฟื่องฟูความรู้ทางศิลปวัฒนธรรม ได้มีการปฏิรูปหน่วยงานต่างๆ และวางรากฐานการปกครองให้กับอาณาจักร พระองค์ย้ายศาลของเมืองซูวอนโทมาไว้ใกล้กับสุสานของพระบิดา อีกทั้งพระองค์ยังสร้างป้อมปราการ ฮวาซอง ไว้พิทักษ์สุสาน ในปัจจุบันสถานที่นี้องค์การ ยูเนสโก ประกาศให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย

พระเจ้าจองโจ (ลีซาน) รับบทโดย ลีโซจิน (DAMO) พระมเหสีโยอึย รับบทโดย ปัก อึนฮเย (แดจังกึม) ทั้งยังมี ลีซุนเจ (คนดีที่โลกรอหมอโฮจุน) รับบทเป็น พระเจ้ายองโจ (ปู่ของพระเอก) ผู้เปิดเรื่องเลยทีเดียว รวมถึง คยอนมีรี (แดจังกึม, จูมง) ในบทพระนางเฮคยอง

             

 

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
ศรายุธ ตั้งประเสริฐ
Hit & Run
  โจว ชิงหมาเกิด     ประเด็นฮอตฮิตในรอบสัปดาห์นี้หนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือบทสัมภาษณ์ "สมชาย หอมละออ"แย้มผลสอบสลายชุมนุมพฤษภา′53 ผัวเมียทะเลาะกัน... ผิดทั้งคู่ (วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 14:00:45 น. สัมภาษณ์พิเศษ โดย พงศ์พิพัฒน์ บัญชานนท์)    
Hit & Run
เดือนมีนาคมแล้วค่ะท่านผู้อ่าน ช่วงเวลาที่นักเรียนชั้น ม.6 ต้องจำจากจรสถาบันอันเป็นที่รักเพื่อก้าวไปข้างหน้า ทั้งจากความต้องการของตัวเองและกระแสสังคมที่ต่างคาดหวังว่าการ ศึกษาคือหนทางแห่งการเป็น “เจ้าคนนายคน” หากท่านผู้อ่านเคยผ่านช่วงเวลาของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็นระบบเอนทรานซ์หรือระบบแอดมิชชันคงยังจำช่วงเวลาหฤโหดของการเข้าห้องสอบที่แบกเอาความฝันของตัวเอง ความคาดหวังของผู้บุพการี และหน้าตาของสถาบันระดับมัธยมศึกษา (ที่มักจะวัดกันด้วยจำนวนนักเรียนที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้)ตลอดจนท่านผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครู อาจารย์…
Hit & Run
ปีนี้บรรยากาศเหน็บหนาวที่มาพร้อมกับลานเบียร์หลายแห่งตามห้างสรรพสินค้า มีเรื่องสนุกสนานทวีคูณมากขึ้น เมื่อเกิดปรากฏการ “สาวลีโอ” ที่ยุ่งเหยิงอีรุงตุงนังเมื่อไปพันกับการเมืองยุคอำมาตย์ฝึกหัดครองเมือง เมื่อมาถึงปลายปีที่มีบรรยากาศหนาวๆ ชวนให้เปล่าเปลี่ยว ธรรมเนียมปฏิบัติของบรรษัทค่ายน้ำเมาต่างๆ จะต้องมีแคมเปญอะไรมาเป็นของกำนัลให้กับหนุ่มๆ คึกคักมีชีวิตชีวา โดยปฏิทินรูปแบบวาบหวามมักจะถูกเข็นออกมาในช่วงนี้ และลีโอก็ไม่เคยพลาด หลังจากที่ได้ “ลูกเกด - เมทินี กิ่งโพยม” มาช่วยเป็นแม่ทัพดูแลการผลิตด้านสื่อหวาบหวิวให้ค่ายลีโอ…
Hit & Run
สถานการณ์ในเมืองไทยตอนนี้ทำให้พวกเราไม่สามารถนำเสนออะไรหลายอย่างได้โดยเฉพาะสิ่งที่มาจากต่างประเทศ ก็เพราะประเทศสยามกำลังพยายามปิดกั้นไม่ให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลจากสื่อต่างชาติ หรือถ้าจะให้รับรู้ก็จะถูกบิดเบือนหรือรับเอามาดัดแปลงให้เป็นวาทศิลป์มุ่งสำเร็จความใคร่ในการทำลายล้างศัตรูของตนเอง โดยไม่สนถึงผลกระทบที่ตามมาว่าจะบานปลายร้ายแรงขนาดไหน
Hit & Run
ก่อนที่คนเสื้อแดงจะได้รับการยอมรับนับถืออย่างทุกวันนี้ เราผ่านอะไรมามากมาย และมาวันนี้เราอาจจะลืมอะไรไปมากมายเช่นกัน ทุกวันนี้การสอดแทรกประเด็นประชาธิปไตยเพื่อผูกโยงกับมวลชนคนรักทักษิณเป็นเรื่องหลักๆ ที่เราพูดถึงกัน โดยจุดสำคัญที่ฝ่ายที่เรียกว่าตนเองเป็น“ฝ่ายที่เป็นปัญญาชน-ฝ่ายที่ต้านลัทธิเสรีนิยม” สามารถมายืนข้างคนรักทักษิณได้อย่างไม่เคอะเขิน ก็คือการที่คุณทักษิณได้รับการเลือกตั้งมาตามวิถีประชาธิปไตยแล้วถูกโค่นอำนาจโดยการรัฐประหาร
Hit & Run
“กม.มั่นคงคุมเขตดุสิต แดงเย้ยตื่นตูม พท.ชี้ยั่วยุคนมาชุมนุม นายกฯ อ้างมีข่าวมือที่สาม”
Hit & Run
ขอ 'อภัย' ล่วงหน้า หากว่าเรื่องนี้จะ(ไม่) เกี่ยวข้องกับการ 'อภัย' ใน 'โทษ' ของคนตนหนึ่งที่กำลังเป็นประเด็นร้อน!
Hit & Run
ดูเหมือนว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์เวชชาชีวะจะให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์-รณรงค์ทางอินเทอร์เน็ตเป็นพิเศษโดยที่ผ่านมามีการเปิดตัวเว็บไซต์หลายโครงการอาทิโครงการต้นกล้าอาชีพhttp://www.tonkla-archeep.com/ เว็บไซต์ช่วยชาติที่แสดงข้อมูลและความคืบหน้าของแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรััฐบาล http://www.chuaichart.com/ เว็บโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชนhttp://www.chumchon.go.th/ โครงการคิดอย่างยั่งยืนตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของกอ.รมน. หรือ MOSO http://mosothai.com และล่าสุดhttp://ilovethailand.org เว็บที่ชวนคนมาแสดงความรักประเทศไทยผ่านบล็อกคลิปวิดีโอรูปถ่ายและข้อความสั้น
Hit & Run
คุณ ลิเดีย กูวารา อาจไม่ได้มีความงามตามแบบฉบับสาวทั่วไป แต่ จากองค์ประกอบการจัดวาง การตกแต่ง อุปกรณ์เสริมคือแครอทเป็นเหมือนแถบคาดกระสุน รวมถึงการโพสท์ท่าของเธอ ทำให้ดูมีเสน่ห์ด้วยพลังของความเป็นชาย (masculine) ...แม้แครอทจะดูเล็ก ๆ เหี่ยว ๆ ไปหน่อยก็ตาม
Hit & Run
ในปีนี้หนังสือพิมพ์ไทยรัฐคว้ารางวัล “ภาพข่าวยอดเยี่ยม” ไปครอง หลังจากนั้นมาไม่กี่วันก็แทบจะต้องเพิ่มตำแหน่งมิสป๊อบปูล่าไปให้ด้วย เพราะมันไม่ใช่ได้รางวัลแล้วก็แล้วกันไปแบบทุกปี หากแต่ถูกพูดถึงอย่างมากมาย โดยเฉพาะในโลกไซเบอร์ มีทั้งคำชื่นชมและผรุสวาทให้ระงม ฐานที่เกี่ยวพันกับการเมืองลูกกวาดหลากสีของเราเต็มๆ ในฐานะที่ไม่ใช่คณะกรรมการ (และไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ ด้วย) ขอประกาศสนับสนุนคณะกรรมการที่ให้รางวัลแก่ภาพนี้ โดยจะขอยกเหตุผลเพิ่มเติมจากท่านคณะกรรมการตัวจริงที่อาจพูดสั้นไป เพราะท่านคงไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับพวกไม่รู้จักจบจักสิ้น ไม่รู้จักแพ้ชนะ ทั้งยังไม่มีองค์ความรู้ด้านสื่อสารมวลชน…
Hit & Run
ภาพจาก: http://imaim.wordpress.com แรงกระเพื่อมของสังคมไทยในช่วงที่ผ่านมา ต่อเรื่อง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำให้ต้องมานั่งนับวันว่า เมื่อไหร่จะถึงวันที่กฎหมายฉบับนี้นี้จะเขาที่ประชุม ครม.เพื่อลุ้นเอาแค่กฎหมายฉบับนั้นจะผ่านครม.เข้าสู่สภาฯ ได้หรือไม่ แล้วค่อยไปว่ากันต่อด้วยเรื่องหน้าตาว่าจะออกมาสวย หล่อ เพียงใด ตามที่ รมว.คลัง ท่านบอกผ่านสื่อมวลชนไว้ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา มีกำหนด 2 สัปดาห์ นี่ก็คงอยู่ในช่วงระยะเวลานัดหมายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ล่าสุด รมว.คลังกล่าวผ่านสื่อว่า กระทรวงการคลังยังเดินหน้าแนวคิดการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.…