Skip to main content
 

จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์

 

 

เมื่อปีที่แล้ว ตอนที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก สถานีโทรทัศน์ในจีนถูกสั่งให้ดีเลย์สัญญาณออกอากาศออกไป 10 วินาที เพื่อพวกเขาจะได้มีเวลาจัดการกับการแพร่ภาพในกรณีที่เกิดการประท้วงจากกลุ่มที่เรียกร้องให้ปลดปล่อยทิเบต หรือกลุ่มทางการเมืองอื่นๆ

 

มาหนนี้ ดูเหมือนสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนจะไม่ได้เตรียมการอะไรไว้ระหว่างถ่ายทอดสดการกล่าวสุนทรพจน์ของโอบามาในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ เมื่อเวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 20 ก.พ. (เวลาประเทศจีน) เพราะขณะแพร่ภาพการกล่าวสุนทรพจน์ของโอบามา พร้อมๆ กับแปลไปด้วยนั้น อยู่ๆ เสียงของโอบามาก็ถูกเฟดลง และผู้ดำเนินรายการก็ตัดฉับไปที่ผู้สื่อข่าวที่วอชิงตันและถามเธอว่า โอบามามีวิธีรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร

http://www.youtube.com/watch?v=yxBVmkP04Ag

 

ช่วงที่ขาดหายไปเป็นตอนที่โอบามากล่าวถึงคนรุ่นก่อนที่ต้องเผชิญกับ ลัทธิคอมมิวนิสต์' และฟาสซิสม์'

 

สุนทรพจน์ของโอบามาที่ถูกแปลเป็นภาษาจีนเผยแพร่บนเว็บไซต์สำนักข่าวซินหัว ไชน่าเดลี่ รวมถึงเว็บดังหลายแห่ง คำว่า "คอมมิวนิสต์" ถูกตัดออกไปดื้อๆ รวมถึงท่อนที่โอบามากล่าวถึงเสรีภาพในแสดงความเห็นด้วย "ผู้ที่ยึดติดอยู่กับอำนาจที่ได้จากการคอร์รัปชั่น การโกหกหลอกลวงและการปกปิดความขัดแย้ง พึงทราบว่าท่านอยู่ในประวัติศาสตร์ข้างที่ไม่ถูกต้อง แต่เราจะยื่นมือช่วยเหลือ ถ้าท่านยินดีที่จะคลายหมัดของท่านออก" ขณะที่ในรายงานฉบับภาษาอังกฤษในเว็บไซต์ต่างๆ นั้น ความยังอยู่ครบ

 

หวัง จินฮง รองผู้อำนวยการ แผนกตัดต่อของ CCTV บอกว่าเขาไม่ได้ชมการถ่ายทอดพิธีสาบานตน แต่คิดว่าการตัดภาพกลับไปที่ห้องส่งเป็นเรื่องปกติ

 

"มักมีการตัดภาพ แม้แต่ขณะที่ถ่ายทอดการประชุมของจีนเอง คนอเมริกันอาจจะให้ความสำคัญกับพิธีสาบานตนของประธานาธิบดี แต่คนจีนอาจจะไม่ได้สนใจนัก"

 

ขณะที่บรรณาธิการคนหนึ่งของเว็บไซต์ไชน่าเดลี่บอกว่าไม่ได้มีการสั่งให้เซ็นเซอร์ และว่า ผู้แปลและบรรณาธิการกะกลางคืนนั้นตัดสินใจด้วยตัวของพวกเขาเอง

 

"ในฐานะชาวจีน เรามีพันธกิจที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาติ"

 

การเซ็นเซอร์แบบจะแจ้งนี้ทำให้นึกถึงตอนที่เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งในประชาไทแวะเข้าร้านหนังสือในเมืองจีน และพบการเซ็นเซอร์กันจะๆ ในหนังสือโลนลี่แพลนเน็ต ส่วนที่กล่าวถึง (และจิกกัด) จัตุรัสเทียนอันเหมิน โดยมีการนำสติ๊กเกอร์สีขาวแปะทับข้อความส่วนนั้นเอาไว้ (อ่านรายละเอียด: สำรวจแดนมังกร: พรรคคอมมิวนิสต์ในยุคไซเบอร์สเปซ)

 

การเซ็นเซอร์คงไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศน้องใหม่มหาอำนาจอันดับสามทางเศรษฐกิจของโลกอย่างจีนเท่านั้น แต่เกิดขึ้นทั่วไปในประเทศที่ยังจำกัดสิทธิเสรีภาพค่อนข้างสูงซึ่งประเทศแถวนี้/ตรงนี้ก็อินเทรนด์ไปกับประเทศกลุ่มนี้ไม่แพ้กัน  

 

โดยสงสัยจะลืมไปว่า ยิ่งปิดก็ยิ่งอยากรู้

ยิ่งอยากรู้ก็ยิ่ง เปิด !

เพราะแม้เทคโนโลยีที่ทันสมัยจะช่วยให้การปิดกั้นทำได้เร็วขึ้นในกรณีทีวีเฟดเสียงของโอบามาให้ค่อยลงแล้วตัดไปที่ห้องส่งก็ถือเป็นอีกความสำเร็จของความทันสมัยนั้น แต่ก็เทคโนโลยีอีกนั่นเองที่ทำให้เราได้เห็นฉากดังกล่าวครั้งแล้วครั้งเล่าผ่านคลิปต่างๆ ที่มีผู้บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ รวมถึงทราบข่าวสารเรื่องที่มีการเซ็นเซอร์ในเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว กลายเป็นว่าจากที่ไม่อยากให้ใครรู้กลับเป็นว่ารู้กันในวงกว้างขึ้นกว่าเดิม

 

"สิ่งที่โอบามาพูดนั้นเป็นความจริง แล้วไงต่อ" ความเห็นหนึ่งในอินเทอร์เน็ตกล่าว

"เขาดูถูกคนจีน 1.3 ล้านล้านคนไปเรียบร้อยแล้ว" ความเห็นอีกรายโต้กลับมา

 

ถ้าใช่ แล้วไง? ถ้าไม่ใช่ แล้วยังไง?

 

สิ่งที่โอบามาพูดจะถูกจะผิด คนที่ฟังไม่ใช่หรือจะต้องเป็นคนตัดสินมันเอง เช่นเดียวกับข้อมูลอีกล้านแปด(แถวๆนี้) ที่ถูกปิด ถูกกั้น ไม่ให้เข้าถึงได้

 

ถ้าบอกว่าหวังดีต่อกันจริงจะต้องเคารพกันและเชื่อว่า เรา เขา เธอ จะตัดสินใจเองได้ ไม่ใช่ต้องกลัวว่าจะเรา เขา และเธอเหล่านั้นกลวงโบ๋จนคิดเองไม่เป็น

 

การปกป้องอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู สุดท้ายแล้วมันอาจจะทำให้คนที่ถูกปกป้องอ่อนแออย่างสุดขีด เพราะไม่ได้เผชิญความจริง (ไม่ว่าความจริงเท็จๆ หรือความจริงจริงๆ) ด้วยตัวเองก็ได้

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

http://news.yahoo.com/s/ap/20090121/ap_on_re_as/as_inauguration_china_obama

http://www.miamiherald.com/news/world/AP/story/865577.html

http://www.americablog.com/2009/01/china-censors-obamas-inauguration.html

http://www.latimes.com/news/nationworld/nation/la-fg-china-censor22-2009jan22,0,5545412.story

http://uncyclopedia.wikia.com/wiki/Censorship

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
  ตติกานต์ เดชชพงศ  เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพิ่งมีโอกาสได้ไปดูฉากโหดๆ อาทิ หัวขาดกระเด็น เลือดสาดกระจาย กระสุนเจาะกระโหลกเลือดกระฉูด ในหนังไทย (ทุ่มทุนสร้างกว่า 80 ล้านบาท!) เรื่อง ‘โอปปาติก'  รู้สึกอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่งว่าหนังเรื่องนี้รอดพ้นเงื้อมมือกองเซ็นเซอร์ผู้เคร่งครัดมาได้ยังไง?เพราะด้วยการทำงานของหน่วยงานเดียวกันนี้ ทำให้หนังเรื่องหนึ่งถูกห้ามฉาย เพราะมีฉากพระสงฆ์เล่นกีตาร์, และฉากนายแพทย์บอกเล่าว่าตนก็มีึความรู้สึกทางเพศ แม้แต่ฉากเด็กผู้หญิงอาบน้ำ (ซึ่งเป็นเพียงตัวการ์ตูนญี่ปุ่น) ก็ยังถูกเซ็นเซอร์มาแล้ว ด้วยข้อหา ‘ทำให้เสื่อมเสียศีลธรรมอันดี'…
Hit & Run
วิทยากร บุญเรือง ผมไปเจอข่าวชิ้นหนึ่ง เหตุเกิดที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งไม่ว่าจะยังไง ข่าวชิ้นนี้ผมว่ามันสามารถสะท้อนอะไรได้หลายอย่าง สำหรับสังคมไทยที่เป็นอยู่ในปัจจุบันคือข่าวที่กลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาก่ออาชญากรรมในโรงพยาบาลศิริราช มาหากินกับพสกนิกรผู้จงรักภักดีได้ลงคอ ... (กรุณาอ่านให้จบก่อนด่า)ท่านพงศพัศ พงษ์เจริญ ตำรวจหน้าหล่อ ได้กล่าวว่า ที่โรงพยาบาลศิริราช มีเรื่องซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นนั่นคือมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาก่ออาชญากรรม และที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง คือเป็นการก่อเหตุในเขตพระราชฐาน โดยขณะนี้ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานแล้วเตือนไปยังแก๊งมิจฉาชีพที่ตั้งใจมาก่ออาชญากรรมว่า…
Hit & Run
พงษ์พันธุ์ ชุ่มใจ 26 กันยายน 2550ย่านพระเจดีย์สุเล, กรุงย่างกุ้ง   ภาพที่เห็นคือ...ประชาชนหลายพันคนออกมายืนเต็มถนนย่านพระเจดีย์สุเล ซึ่งเป็นย่านกลางเมือง โดยไม่ไกลนักมีกองกำลังรักษาความมั่นคงพม่าตั้งแถวอยู่เบื้องหน้า ป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้พระเจดีย์แห่งนี้"เราต้องการประชาธิปไตย" ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกล่าว"รัฐบาลนี้อันตรายโคตรๆ" ชายอีกคนหนึ่งกล่าวประชาชนส่วนหนึ่ง พยายามต่อสู้กับทหาร ทหารที่มีทั้งโล่ กระบอง แก๊สน้ำตา กระทั่งปืน โดยประชาชนพยายามขว้างอิฐ ขว้างหิน เข้าใส่แถวแนวของทหารพวกนั้นก้อนแล้ว ก้อนเล่า ... ถูกทุบเป็นก้อนย่อมๆก้อนแล้ว ก้อนเล่า ... ถูกขว้างสุดแรงเกิด…
Hit & Run
  อรพิณ ยิ่งยงพัฒนาดูเหมือนเรื่องน่าจะจบลงไปแล้ว กับความพยายามของ สนช.กว่า 60 คน ที่เข้าชื่อกันยื่นแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา (ป.อาญา) และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) ในมาตราที่เกี่ยวข้องกับการทำผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ก่อนที่สุดท้าย สนช.จะตัดสินใจถอนการแก้ไขออกไปก่อนแม้เรื่องนี้มีนัยยะที่น่าสนใจหลายประเด็น แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ กระแสความคิดที่เกิดขึ้น แม้ภายหลังการถอยและถอนการเสนอแก้กฎหมายแล้วก็ตามสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีจำนวน 242 คน โดย สนช. สามารถเข้าชื่อกันเพื่อเสนอหรือแก้ไขกฎหมายได้ ผ่านการเข้าชื่อเพียงจำนวนไม่น้อยกว่า 25 คน ยกเว้นกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงิน…
Hit & Run
จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์นอกจาก 24 มิถุนายน 2475 ซึ่งเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นประชาธิปไตย และ (อดีต) วันชาติแล้ว วันสำคัญที่เงียบเหงารองลงมา (อีกวัน) ก็คงหนีไม่พ้น 6 ตุลาคม 2519 ที่รับรู้กันว่า เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่นักศึกษา ประชาชน เพราะเข้าใจว่าเป็นคอมมิวนิสต์ สำหรับปีที่แล้ว วันนี้อาจคึกคัก เพราะถึงวาระตัวเลขกลมๆ 30 ปี ซ้ำยังเพิ่งผ่านพ้นรัฐประหาร 19 กันยายน มาหมาดๆ กระแสเรื่องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจึงยังมีอยู่ แต่พอปีนี้กระแสกลับไปเงียบเหงาเหมือนปีก่อนๆ วันที่ 6 ตุลาในปีนี้ กลายเป็นวันเสาร์ธรรมดาๆเมื่อถามถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา กับหลายๆ คน…
Hit & Run
ภาพันธ์ รักษ์ศรีทองเป็นข่าวคราวกันพักใหญ่ในรอบสัปดาห์จนผู้หลักผู้ใหญ่ต้องรีบออกมาเต้นเร่าร้อนกันทั่ว เมื่อคุณหนูสาวๆ มีแฟชั่นเทรนใหม่เป็นการนุ่งกระโปงสั้นจุ๊บจิมโดยไม่สวมใส่ ‘กุงเกงลิง’ ความนิยมนี้เล่นเอาหลายคนหน้าแดงผ่าวๆจนพากันอุทาน ต๊ายยย ตาย อกอีแป้นจะแตก อีหนูเอ๊ยย ทำกันไปได้อย่างไร ไม่อายผีสาง เทวดาฟ้าดินกันบ้างหรืออย่างไรจ๊ะ โอ๊ย..ย สังคมเป็นอะไรไปหมดแล้ว รับแต่วัฒนธรรมตะวันตกมาจนไม่ลืมหูลืมตา วัฒนธรรมไทยอันดีงามของไทยไปไหนโม๊ดดดดเรื่องนี้มองเล่นๆ เหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มันก็ไม่เล็ก จะว่าเป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่ใหญ่ แต่ไปๆ มาๆ คล้ายกับว่ารอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘กุงเกงลิง’…