Skip to main content
 

กรกช เพียงใจ

 

 

ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญา รัชดา

ผู้พิพากษาสองคนเดินมานั่งบนบัลลังก์ เบื้องหลังบัลลังก์เป็นผนังไม้อย่างดีสีน้ำตาลเข้ม ทำให้ทั้งห้องดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม สูงขึ้นไปบนผนังติดพระบรมฉายาลักษณ์ในกรอบสีทองเหลืองอร่าม

ทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ มีญาติผู้ต้องขังสองสามคน อัยการ ทนายความ เจ้าหน้าที่ผู้คุมตัวผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ต้องขังหญิงในชุดนักโทษอุฉกรรจ์สีน้ำตาล ขลิบปลายแขนแดง

ดารณี' ถูกจับกุมที่บ้านพัก ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และติดคุกมาแล้วมากกว่าครึ่งปี ระหว่างที่คดีเพิ่งเริ่มพิจารณา และนัดหมายการไต่สวนพยานครั้งแรกกันอีก 6 เดือนข้างหน้า

0000

"ไอ้ที่พี่พูด ก็เอามาจากวงสัมมนาของนักวิชาการ หรือหนังสือที่อ่านทั้งนั้น จริงๆ พี่อยากบอกทนายว่า ให้คุณสุพจน์ (ด่านตระกูล) มาเป็นพยานให้ในศาลที เพราะสิ่งที่พี่พูดก็เอามาจากการอ่านหนังสือของแก"  เสียงเธอแว่วผ่านกรงขังมายังคู่สนทนา

เพียงสองสามสัปดาห์หลังจากนั้น สุพจน์ก็จากโลกนี้ไปด้วยโรคมะเร็ง

"เขาเป็นคนใจร้อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร บางทีคุยกับผมไม่รู้เรื่อง มันยังดุผมเลย" คำบอกเล่าของพี่ชายของดารณีที่เทียวไปมา 12 ชั่วโมง ระหว่างภูเก็ต-กรุงเทพฯ  เพื่อเยี่ยมน้องสาวทุกสัปดาห์

"เขาเป็นหนอนหนังสือ มันอ่านไปทั่ว นี่ยังให้ผมไปขอใบประกาศปริญญาโทที่มหาลัยเกริก เพราะจะสมัครเรียน นิติศาสตร์ ของ มสธ. ที่เปิดรับสมัครในคุกด้วย สงสัยเขาจะว่าความเอง" พี่ชายแซวน้องสาว ขณะที่ตัวเองก็ถือหนังสือ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาติดตัวตลอดนับตั้งแต่น้องสาวโดนคดี เมื่อถามว่าทำไม เขาตอบว่า "ผมพยายามจะทำความเข้าใจ"

"เขาเป็นคนเชื่อมั่น ไม่ฟังใคร ผมเตือนแล้วเวลาพูดอะไรต้องระมัดระวัง ชาวบ้านหลายๆ คนที่สนามหลวงเขาจับกลุ่มปราศรัยกันเอง เวทีเล็กๆ แล้วชอบพูดประเด็นแบบนี้ แล้วพอได้เสียงเฮก็ได้ใจใหญ่ กลายเป็นดาวดวงใหม่"  เพื่อนนักเคลื่อนไหวพูดด้วยน้ำเสียงเนิบนิ่ง

"เขาน่าสงสารนะ เราก็มาให้กำลังใจเขา ไม่ได้รู้จักกันส่วนตัวหรอก คนอื่นหลายคนก็อยากมาเยี่ยม แต่ไม่กล้ามา คดีแบบนี้ใครๆ ก็กลัว แต่ป้าไม่กลัว เราไม่ได้ทำอะไรผิด" ป้าคนหนึ่งบอกระหว่างรอเยี่ยมดารณีในเรือนจำ

0000

เดือนแรกๆ

"เราทำเพื่อประเทศชาติขนาดนี้ แล้วโดนแบบนี้ ถามหน่อย แล้วอีกหน่อยใครเขาจะกล้าลุกขึ้นมาทำอะไร"

"อยู่ในนี้มันลำบาก แต่เราต้องเข้มแข็ง ต้องดูแลใจตัวเองให้ดี ก็ได้แต่คิดเสียว่า ท่านปรีดี (พนมยงค์) ยังโดนเยอะกว่าเรามากนัก"

"บ้านเรามันไปไม่ถึงไหนก็เพราะอย่างนี้ ไม่พอใจๆ ก็รัฐประหาร ทำลายระบบหมด ไม่เห็นหัวชาวบ้านเลย เราไม่ได้ขัดข้องเลยถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นรัฐบาล แต่ต้องเลือกตั้งมาตามระบบ มันเป็นหลักพื้นฐาน"

"ป่าวๆ ไม่ได้เห็นไทยรักไทยเป็นเทวดาด้วย แต่เขามีนโยบายเพื่อคนจน เรื่องปากท้องของคน ลดช่องว่างของคน เป็นเรื่องสำคัญสุดของประเทศนี้นะพี่ว่า แต่นโยบายมีปัญหาตรงไหนก็มาว่ากัน ไม่ใช่ทำแบบนี้ แล้วดึงเอาสถาบันลงมาในการเมือง มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เรื่องพวกนี้นักวิชาการก็พูดไม่ใช่เหรอ" 

"ถ้าโดนจับสมัยรัฐบาลเผด็จการ เราคงไม่เสียใจเท่านี้ เราสู้เพื่อประชาธิปไตย พวกคุณก็ได้ประโยชน์ด้วย แล้วสุดท้ายพอมีปัญหาก็ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยอะไร"

 

เดือนหลังๆ  

 "กับข้าวในนี้แย่มาก เราก็ขากรรไกรอักเสบ กระดูกบนล่างมันจะยัดติดกันอยู่แล้ว กินอะไรลำบากเพราะมันอ้าปากไม่ได้ จริงๆ หมอนัดไว้ว่าจะต้องผ่าตัดแต่โดนจับซะก่อน ตอนนี้น้ำหนักลดไปสิบกว่าโลแล้ว เวลาแปรงฟันทีก็ลำบาก ต้องเอาแปรงสีฟันกระแทกเข้าไปในปาก มันอ้าไม่ได้ ฟันหน้าบิ่นหมดแล้ว"

"นี่เขายึดชุดนอนไปอีกแล้ว คนอื่นๆ มีเกินสองชุดได้ไม่เห็นมีปัญหา"

"ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมจะต้องจำกัดน้ำขนาดนั้น อาบไม่เคยทันเลย ยิ่งใครมีเมนส์จะลำบากมาก ได้แค่ไม่กี่ขันเท่านั้น แล้วพอเข้าหน้าหนาวยิ่งลดลงอีก บอกว่าอากาศหนาวไม่ต้องอาบมาก นี่มันอะไร"

"จะออกจากเรือนจำมาศาลแต่ละที เขาจับขึ้นขาหยั่งตรวจภายในทั้งตอนเข้า ตอนออก เขากลัวเรื่องยาเสพติด แต่ไม่ดูเลยนี่มันคดีอะไร มันเป็นคดีการเมือง รู้สึกแย่มากจริงๆ มันเจ็บด้วย แล้วเจ้าหน้าที่ก็พูดจากับเราไม่ดี"

"ตอนนี้ได้มารวมกลุ่มกับคนอื่นๆ แล้ว ปกติถ้าเข้าแดนแรกรับใหม่ๆ เขาจะกันไม่ให้คุยกับใครเดือนนึง แต่นี่โดนไปสามเดือน ต้องไปนั่งเฉยๆ ใต้ตึกที่ทำการ จะไปห้องน้ำต้องขออนุญาต"

"คนในนี้นี่ยิ่งกว่าละครน้ำเน่าหลังข่าว เขาเป็นคนหาเรื่องพี่ พอเถียงกัน เจ้าหน้าที่มา เขาก็บีบน้ำตา บอกเราไปเตะขาเขา ทั้งที่เขาเอาขามาขวางไม่ให้เราไปห้องน้ำ เราก็พยามยามก้าวข้ามขาเขาไป แต่มันก็ไม่พ้น โดนขาเขาหน่อยนึง แล้วกลายเป็นเราหาเรื่องเขา โดนลงโทษ"

"มันไม่เมกเซ้นส์เลย ให้กินข้าวในขัน มีสองขันแยกเป็นขันเข้าห้องน้ำกับขันข้าว เมื่อสามปีที่แล้วเขาอนุญาตให้เอาทัฟเปอร์แวร์มาขายได้ แต่ยกเลิกไป บอกนักโทษอาจเอามาใช้เป็นอาวุธ ถามว่าเขาจะเอาทัฟเปอร์แวร์มาฟาดหัวกันเหรอ"

0000

เว็บบอร์ดต่างๆ 

สมควรแล้ว ยังน้อยไป: น่าจะโยกไปขังคุกชาย เอาให้หาย ทอม

ปากเหม็นดีนัก หน้าตาอย่างนังดาผู้ชายยังกลัวเลย 

หน้าขยักแขยงอย่างนี้ สมควรกับความชั่วของมันแล้ว 

บังอาจไปช่วยนายเหลี่ยมพูดจาลบหลู่สิ่งที่คนไทยเทิดทูลอย่างนั้น

เลวมากนังดา...

Notthat_likethat : รู้สึกเหมือนมีคนบอกว่า คนเรามีสิทธิเชิดหน้าลืมตาอ้าปาก

และแสดงความเห็นได้ แต่คนที่บอกเราอย่างนั้นกลับเอามืออุดปาก

และกดหัวเราไว้ หึๆๆๆ ได้เท่านี้หรอ หึๆๆๆ คงเพียงเท่านี้
แด่ประชาธิปไตยที่ไม่เคยมีอยู่จริง

 

ฟ้าประทาน : ถ้าเป็นกม.ในสมัยก่อนป่านนี้โดนตัดหัวเสียบประจานไปแล้ว

นี่ยังดีแค่ติดคุก ก็พูดจาซะขนาดนั้น ไม่มีใครยอมรับได้หรอก

คนไทยทั้งชาติเขารับไม่ได้ พูดจาให้ร้ายสถาบัน มันสมควรแล้วหรือ
ทำไมถึงคิดถึงพูดได้ขนาดนั้น เสียดายที่อุตส่าห์เคยเป็นนักนสพ.

แต่อะไรทำให้กล้าทำผิดได้ขนาดนั้น ก็ต้องก้มหน้ารับกรรมกับสิ่งที่ตนทำไว้มันก็ถูกแล้ว

 

Kamikaze : ทำผิดก็ต้องรับผิด ครับ เพราะอยู่ภายใต้กฎหมายไทย

ผมเห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ นี่เป็นตรรกะที่ง่ายมากๆ พูดไปโดยไม่รู้จักเซฟตัวเอง

ก็ต้องรับผิดชอบในคำพูดนั้นครับ ต่อให้ไม่มี 112 แล้วเกิดเจ้าเค้าเอาเรื่องขึ้นมา

ก็โดนข้อหาหมิ่นประมาทอยู่ดี อย่ามาอ้างว่าประชาธิปไตยเลย

ไม่มีที่ใดที่จะประชาธิปไตยได้ "จริงๆ" หรอก

 

 

 

ไร้ความยุติธรรม : ไม่หน้าเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย

ฆาตกรฆ่าคนตายหลายศพได้รับการประกันตัวแต่ดา ตอปิดโด ขึ้นไปวิจาร์ณ ไฮปาร์คที่สนามหลวง

โดนติดคุกแบบไม่ให้ประกันตัวครั้งแล้วครั้งเล่า ระหว่างคนฆ่าคนตายกับด่าคนอื่น

ท่านว่าอะไรรุนแรงกว่ากัน นี่มันยิ่งกว่าอยุติธรรมเสียอีก

นี่มันต้องเรียกว่าไม่มีมาตราฐานเลยแม้แต่นิดเดียว

แล้วทำไมคดีเดียวกัน แป็ะลิ้มไม่เห็นโดนแบบนี้บ้าง

ทั้งๆที่เจ้านี่ก็เอาคำพูดของเจ้ดาไปพูดเหมือนกัน แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเราเคารพบูชา

หายไปไหนหมด ไม่รู้จะไปกราบไหว้ใครได้ที่ไหนแล้วตอนนี้

ล้วนเป็นสิ่งจอมปลอม หลอกลวงทั้งสิ้น ต้องขอให้องค์กรจากต่างประเทศเข้ามาตรวจสอบ

เพราะระบบความยุติธรรมในไทยถอยหลังไปสู่ยุคโบราณเป็นร้อยๆปี

 

Sazzi : เพื่อนศศิไม่ได้เป็น พธม. แต่เพื่อนศศิบอกว่า หากมีโอกาสได้เจอไอ้-อีที่จาบจ้วงสถาบันเมื่อไหร่
จะไม่ยอมเสียโอกาสที่จะเหยียบปากไอ้-อี พวกนั้นเลย ต้องบอกอีกหน่อยว่า ปกติเพื่อนศศิสุภาพค่ะ 5555 ;)

 

กลิ่นธูป-**: เหมือนยุคกลางเลย ใครเป็นฝ่ายตรงข้ามก็ส่งเข้าคุกข้อหา "นอกรีต"
เมื่อเข้าคุกไปก็ถูกทรมานแสนสาหัส ชุดนักโทษยังให้สวมชุดนักโทษคดีอุกฉกรรจ์
นี่หรือบ้านเมืองที่อวดอ้าง คุณธรรม เมตตาธรรม แต่ยามใดที่มีคนคิดต่างออกมาพูดบางสิ่งที่ส่งผลกระทบ

(ทั้งที่จะเป็นจริงหรือเป็นเท็จ) แทนที่จะใช้วิธีชี้แจงแก้ต่าง กลับเลือกใช้กฏหมายรุนแรงจัดการ

เป็นการ...ปิดปาก

 

ddd: ถ้าการออกมานอกบ้าน ไปยืนบนเวทีแล้วด่าคนอื่น คุกคามคนอื่น อาฆาต

แบบที่ดา ทำ แล้วมีคนยกย่อง (ในนี้)ว่าเป็นการกระทำของวีรสตรี
ผมว่า ต้องกลับมามองตัวเองกันเสียบ้าง ว่าทำไมถึงชื่นชอบคนแบบดา
สาวกประชาไท ทั้งหลาย ควรคิดว่า การพูดถึงบุคคลอื่น แบบที่ดาพูดนั้น

 ไม่ว่าจะกล่าวถึงสถาบัน หรือ คนทั่วไป ก็ควรได้รับโทษในข้อหาหมิ่น ฯ เหมือนกัน
ดีใจที่ศาลไม่ให้ประกัน เพราะ ออกมาเธอก็อาจจะทำเหมือนที่เธอทำมาตลอดแน่ ๆ
อยู่ในนั้นน่าจะดีกว่า นะ คุณ ดา

สองมาตรฐาน : กฎหมายหมิ่นประมาทของไทย มีสองมาตรฐาน
1.สำหรับคนทั่วไป ถ้าคุณพูดเรื่องจริงและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
คุณไม่ต้องรับโทษ เช่นพูดว่า ทักษิณอมเพชรซาอุ ทำให้แรงงานไทย ไปซาอุไม่ได้

2.สำหรับ ในหลวง ราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

แม้คุณจะพูดเรื่องจริงและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม คุณก็ต้องติดคุก ติดหลายปีซะด้วย
เห็นหรือยังครับว่า กฎหมายหมิ่นประมาทของไทย มีสองมาตรฐาน

 

เศรษฐกิจพอเพียง : ติดคุก ตายๆๆ ไปซะให้หมด ไอพวกเหื้ย
เรื่องเยอะแยะมีให้พูด เสือกไม่พูดกัน เอาเรื่องที่คนไทยส่วนมากเค้านับถือ เทิดทูน มากล่าวร้าย
พ่อแม่มีง ก้อคงมีนิสัย แบบพวกมีง จับมันแล้ว ต้องจับพ่อแม่ โครตเหง้า มันมาประหารด้วย

0000

ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญา รัชดา

ผู้พิพากษาสองคนเดินมานั่งบนบัลลังก์ เบื้องหลังบัลลังก์เป็นผนังไม้อย่างดีสีน้ำตาลเข้ม ทำให้ทั้งห้องดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม สูงขึ้นไปบนผนังติดพระบรมฉายาลักษณ์ในกรอบสีทองเหลืองอร่าม

ทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ มีญาติผู้ต้องขังสองสามคน อัยการ ทนายความ เจ้าหน้าที่ผู้คุมตัวผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ต้องขังหญิงในชุดนักโทษอุฉกรรจ์สีน้ำตาลขลิปปลายแขนแดง ในสภาพผ่ายผอมลงไปถนัดตา ดวงตาลึกคล้ำ เท้าที่เปลือยเปล่า แลดูด้าน สกปรก ยืนไหล่ห่อ ทิ้งมือสองข้างแนบลำตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง เงยหน้าเล็กน้อยเพื่อแหงนมองไปยังบัลลังก์ที่อยู่สูงขึ้นไป .... ใครบางคนที่ไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน กำลังยืนร้องไห้โดยไร้เสียงสะอื้นอยู่หลังห้อง

 

 

ขอขอบคุณ

ประเวศ ประภานุกูล ทนายความของดารณี ชาญเชิงศิลปกุล ผู้ถ่ายทอดคำพูดและเรื่องราวของลูกความ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ที่ให้ข้อมูล

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
   อรพิณ ยิ่งยงพัฒนาในเกมช่วงชิงพื้นที่สื่อ กลยุทธ์หนึ่งก็คือ ทำยังไงก็ได้ ให้ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เป็นข่าว ส่วนฝ่ายตนนั้น ต่อให้เป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายแต่ถ้าได้พื้นที่ข่าวก็ถือว่าได้เปรียบใน ระดับหนึ่ง เพราะอย่างน้อยก็พอทำให้ชื่อเสียงเรียงนามเป็นที่คุ้นหูอยู่ในความจดจำ ดีกว่าเป็นบุคคลโนเนมที่ไม่มีใครรู้จักเช่นเดียวกัน ช่วงนี้ ดูเหมือนว่านายกรัฐมนตรีพูดอะไร ให้สัมภาษณ์ว่าอะไร สื่อมักจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ สังเกตได้ว่าเวลาอ่านหรือฟังข่าวในเวลานี้ ผู้สื่อข่าวจะหยิบคำพูดของนายกรัฐมนตรีมาเปิดเผยแบบยาวๆพูดแบบตามตำรา ก็คือ แหล่งข่าวเป็นผู้นำในรัฐบาล พูดอะไรก็ย่อมเป็นข่าวอยู่แล้ว…
Hit & Run
ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง"ไปตายให้หนอนแดกเถอะ..ไป๊"ผมกำลังหาคำพูดที่ถ่ายทอดความคิดของคนบางคนที่มีอำนาจในบ้านเมืองนี้ แม้อำนาจของเขาจะยึดโยงจากการเลือกตั้งด้วยการกากบาทของเรา กระนั้นก็เถอะ..เท่าที่รู้สึกได้ เขาอาจกำลังอยากบอกกับคุณด้วยถ้อยคำแบบนี้ อาจเป็นการบอกกล่าวที่ซ่อนถ้อยความหิวกระหายมาช้านานแล้ว ตั้งแต่อำนาจถูกกระชากไปจากมือ และที่เขาบอกแบบนี้ได้ อาจเป็นเพราะเขากำลังมองคุณเป็นเพียง ‘มดปลวก' อันอ่อนแอ ไม่มีประโยชน์โดยเฉพาะถ้าคุณป่วยหรือไม่สบาย มันจะยิ่งสะท้อนความอ่อนแอไร้ประโยชน์เสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด มากไปกว่านั้น หากโชคร้าย…
Hit & Run
จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์ เสาร์ที่ผ่านมา มีงานประชุมชื่อ Barcamp Bangkok จัดขึ้นที่ร้าน Indus สุขุมวิท 26 งานนี้ งานนี้อาจเรียกได้ว่า เป็นงานที่มีผู้จัดมากที่สุดก็ว่าได้ เพราะผู้ร่วมงานหลายคนมากันแต่เช้าเพื่อช่วยจัดโต๊ะเก้าอี้ แปะป้าย บางคนทำสมุดทำมือมาแจก หลายคนเตรียมหัวข้อพร้อมสไลด์มาพูดในงาน ------------------------------------- http://www.flickr.com/photos/poakpong http://www.flickr.com/photos/plynoi ทันทีที่งานเริ่ม กระดาษแผ่นแล้วแผ่นแล้ว ถูกทยอยนำไปแปะบนกระจกของร้าน ว่ากันว่า หัวข้อที่พูดกันในงาน มักเป็นเรื่องเกี่ยวกับเว็บแอพพลิเคชันใหม่ๆ เทคโนโลยีโอเพนซอร์ส…
Hit & Run
มุทิตา เชื้อชั่งด้วยทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ ขนาบไปด้วยทะเลยาวเหยียด เหมาะเป็นเส้นทางขนส่งวัตถุดิบสารพัด ประจวบฯ จึงเป็นที่หมายตาของโครงการขนาดใหญ่ ไม่ว่าโรงไฟฟ้าหรือโรงงานอุตสาหกรรม สำหรับชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งไม่เห็นด้วยกับโครงการเหล่านี้ ก็นับเป็นความอาภัพของชีวิต เพราะภูมิศาสตร์แบบนี้เองที่ทำให้พวกเขาต้องต่อสู้คัดค้านกับรัฐหรือทุนขนาดใหญ่กันไม่หยุดหย่อน ไม่โครงการนั้น ก็โครงการนี้ และไม่รู้ว่าด้วยความอาภัพนี้หรือไม่ที่ทำให้ขบวนการประชาชนที่นี่ ‘แข็งแกร่ง' จะว่าที่สุดในประเทศก็คงไม่ผิดนัก ล่าสุด มีการต่อสู้คัดค้านโรงถลุงเหล็กของเครือสหวิริยา ซึ่งเป็นโครงการขนาดมหึมา ที่จะไปลงในพื้นที่แม่รำพึง…
Hit & Run
ตติกานต์ เดชชพงศคงรู้กันหมดแล้วว่า สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีถูกยึด และต่อจากนี้ ทีวีช่องนี้จะไม่มีรายการบันเทิง ‘ไร้แก่นสาร' อีก จะมีก็แต่รายการที่มีประโยชน์ สร้างสรรค์สังคม มีคุณค่า ประเทืองปัญญากว่ารายการทีวีแบบเดิมๆๆๆๆ ฯลฯ แล้วทีวีช่องนั้นก็ถูกเรียกเสียใหม่ว่า ‘ทีวีสาธารณะ' ในฐานะประชาชนคนหนึ่งซึ่งเติบโตมากับสิ่งที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ ‘รสนิยมสาธารณ์' ไม่ว่าจะเป็น ละครน้ำเน่า (ผ่านยุคของ พจมาน สว่างวงศ์, ดาวพระศุกร์ หรือ โสรยา ใน ‘จำเลยรัก' มามากกว่าหนึ่งยุค!) รวมถึงเกมโชว์ที่ ‘ได้รับแรงบันดาลใจ' มาจากต่างประเทศ และการ์ตูนญี่ปุ่นที่เอะอะก็ต่อสู้กัน (แม้แต่การ์ตูนแมวหุ่นยนต์ ‘โดราเอมอน'…
Hit & Run
  วิทยากร  บุญเรืองกลุ่ม แบ๊คซ้าย' มิถุนาฯ   23 ธันวาคม 2550...เป็นอีกวาระหนึ่งที่เราจะต้องออกไปช่วยเพื่อนรัก ‘นักการเมือง' (กลุ่มคนที่ถูกประณามมากที่สุดในสังคมไทยปัจจุบัน)สื่อต่างๆ ชอบที่จะกระแซะแซวว่า นักการเมืองมักจะมืออ่อนนอบน้อมกราบไหว้ประชาชนเสมอในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งมันก็ถูก แต่ถ้ามองในมุมกลับกัน คนอีกบางจำพวกนั้น ‘ไม่มี' ช่วงเวลาพิเศษไหนเลยที่จะลงมาไหว้กราบกรานขอคะแนนจากประชาชน หนำซ้ำพวกเรากลับต้องกราบกรานไหว้เขาอยู่เป็นกิจวัตรใครล่ะน่าเกลียดกว่ากัน? สำหรับวาระสำคัญก่อนการเลือกตั้ง การรณรงค์ไม่ให้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ทำนองที่ว่า ‘…
Hit & Run
   พงษ์พันธุ์ ชุ่มใจใครที่ไม่ได้มาเชียงใหม่หลายปี หากมาเยือนปีนี้ คงผิดหูผิดตาเลยทีเดียวไม่ใช่แค่งานพืชสวนโลก ไม่ใช่แค่ ‘ช่วง ช่วง' หรือ ‘หลิน ฮุ่ย' ไม่ใช่แค่ร้าน ‘ไอเบอรี่' ของโน้ต อุดม ที่ทำให้ ‘หน้าตา' เมืองเชียงใหม่เปลี่ยนไปหากแต่ยังมีเจ้าสิ่งก่อสร้างขนาดยักษ์ ที่ชื่อว่า ‘ทางลอด' ผุดขึ้นทุกมุมเมือง ซึ่งเบื้องหลังของมัน ยังมีเรื่องราวอันยาวนานของการพัฒนา ‘เมือง' อีกด้วย!หลายปีมานี้ ยวดยานใน จ.เชียงใหม่ ต้องประสบกับความทุลักทุเลในการข้ามสี่แยก เนื่องจากมีโครงการก่อสร้างทางลอดแยก ผุดขึ้นบนถนนสายหลักของเมืองเชียงใหม่ เช่น การก่อสร้างทางลอด 7 แห่ง บนถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี…
Hit & Run
"ต้นตอของปัญหาใหญ่ๆ ในสังคม พบว่าเรื่องหนึ่งคือ คนที่เป็นเจ้าของปัญหาไม่มีช่องทางส่งเสียงของตัวเองในช่องทางสื่อสารมวลชน ยิ่งวิทยุและทีวีนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง พื้นที่ของคนเดือดร้อน ถูกเบียดออกมาบนท้องถนนที่ออกมาประท้วงให้คนเมืองใหญ่รำคาญ" 
Hit & Run
จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์หลังจากได้อ่านข้อความในหนังสือที่ คมช. ส่งถึงคณะทำงานพิจารณากลั่นกรองเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ของ กกต. ที่ตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบว่า หนังสือ ซึ่งออกโดย คมช. (สปค.ศปศ.คมช. ลับ-ด่วนมาก ที่ คมช ๐๐๐๓.๕/๔๘๐ ลง ๑๔ กันยายน ๒๕๕๐) นั้น เข้าข่ายความผิดฐาน เจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวไม่เป็นกลางในการเลือกตั้ง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๕๗ หรือไม่ เพื่อขอให้ทบทวนบทบาทของคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน เนื่องจากการออกหนังสือฉบับดังกล่าวของ คมช.เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ แล้ว ก็เกิดความรู้สึก ‘สบายใจ'…
Hit & Run
   ภาพันธ์ รักษ์ศรีทองเป็นเรื่องปกติในสังคมการเมืองแบบไทยๆ เมื่อมีบางคนใน ‘ตองหนึ่ง' อดีตผู้บริหารไทยรักไทยเรียกร้องในสิทธิความเป็นมนุษย์ที่พึงมีต่อองค์กร ‘ไม่ใช่พ่อ' และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อขอให้เข้ามาดูแลสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติห้ามอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยยุ่งเกี่ยวการเมืองทุกรูปแบบกรณี ซึ่งอาจเป็นการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพในการพูดและแสดงออก แทบฉับพลันทันทีนั้น เสียงแขวะฝอยเลาะตะเข็บก็ดังควากออกมาอย่างหยามหยันมากมายตามหน้าสื่อต่างๆเมื่อตามรอยตะเข็บที่เลาะไป ใช่จะไม่มีมูล…
Hit & Run
"ความพยายามสร้างกติกาอันบิดเบี้ยวตลอดปีกว่าที่ผ่านมา ส่งผลให้ ‘ผี' ยิ่งน่ากลัวสำหรับคนที่กลัว และยิ่งน่าพิสมัยสำหรับผู้ที่ไม่กลัว และผู้ที่ไม่กลัวส่วนใหญ่นั้นแม้จะอยู่ห่างไกล ไร้อำนาจ แต่ก็สามารถแสดงพลังเงียบของตนได้อย่างมีนัยสำคัญ"  ภาพจาก dschild.exteen มุทิตา  เชื้อชั่ง ผมเป็นคนกลัวผีมากจนแทบจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกลัวผี และรู้สึกว่าสังคมไทยกำลังกลัว ‘ผี' อย่างหนัก ข้อสังเกตที่เห็นได้ชัดอย่างหนึ่งคือ จากที่เคยมีคำอธิบายมากมายว่าทำไมจึงต้องกลัว ‘ผี' หรือไล่ ‘ผี' แต่นานวันเข้า สถานการณ์เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ความกลัว ‘ผี'…
Hit & Run
ภาพจาก http://www.kathmandu-bkk.com/คิม ไชยสุขประเสริฐช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีปัญหายุ่งยากใจกันอยู่นิดหน่อยในออฟฟิศ เรื่องการทำเสื้อทีมว่าจะเอาแบบไหน-สีอะไร ที่ยังไงก็ไม่ลงตัวสักที เพราะสีแต่ละสีตอนนี้ถูกนำเอาไปทำสัญลักษณ์ของกลุ่มต่างๆ กันไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแม่สีอย่าง สีแดง สีเหลือง หรือสีขั้นสองอย่างสีเขียว สีส้ม หรือสีม่วง