Skip to main content
 

กรกช เพียงใจ

 

 

ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญา รัชดา

ผู้พิพากษาสองคนเดินมานั่งบนบัลลังก์ เบื้องหลังบัลลังก์เป็นผนังไม้อย่างดีสีน้ำตาลเข้ม ทำให้ทั้งห้องดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม สูงขึ้นไปบนผนังติดพระบรมฉายาลักษณ์ในกรอบสีทองเหลืองอร่าม

ทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ มีญาติผู้ต้องขังสองสามคน อัยการ ทนายความ เจ้าหน้าที่ผู้คุมตัวผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ต้องขังหญิงในชุดนักโทษอุฉกรรจ์สีน้ำตาล ขลิบปลายแขนแดง

ดารณี' ถูกจับกุมที่บ้านพัก ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และติดคุกมาแล้วมากกว่าครึ่งปี ระหว่างที่คดีเพิ่งเริ่มพิจารณา และนัดหมายการไต่สวนพยานครั้งแรกกันอีก 6 เดือนข้างหน้า

0000

"ไอ้ที่พี่พูด ก็เอามาจากวงสัมมนาของนักวิชาการ หรือหนังสือที่อ่านทั้งนั้น จริงๆ พี่อยากบอกทนายว่า ให้คุณสุพจน์ (ด่านตระกูล) มาเป็นพยานให้ในศาลที เพราะสิ่งที่พี่พูดก็เอามาจากการอ่านหนังสือของแก"  เสียงเธอแว่วผ่านกรงขังมายังคู่สนทนา

เพียงสองสามสัปดาห์หลังจากนั้น สุพจน์ก็จากโลกนี้ไปด้วยโรคมะเร็ง

"เขาเป็นคนใจร้อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร บางทีคุยกับผมไม่รู้เรื่อง มันยังดุผมเลย" คำบอกเล่าของพี่ชายของดารณีที่เทียวไปมา 12 ชั่วโมง ระหว่างภูเก็ต-กรุงเทพฯ  เพื่อเยี่ยมน้องสาวทุกสัปดาห์

"เขาเป็นหนอนหนังสือ มันอ่านไปทั่ว นี่ยังให้ผมไปขอใบประกาศปริญญาโทที่มหาลัยเกริก เพราะจะสมัครเรียน นิติศาสตร์ ของ มสธ. ที่เปิดรับสมัครในคุกด้วย สงสัยเขาจะว่าความเอง" พี่ชายแซวน้องสาว ขณะที่ตัวเองก็ถือหนังสือ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาติดตัวตลอดนับตั้งแต่น้องสาวโดนคดี เมื่อถามว่าทำไม เขาตอบว่า "ผมพยายามจะทำความเข้าใจ"

"เขาเป็นคนเชื่อมั่น ไม่ฟังใคร ผมเตือนแล้วเวลาพูดอะไรต้องระมัดระวัง ชาวบ้านหลายๆ คนที่สนามหลวงเขาจับกลุ่มปราศรัยกันเอง เวทีเล็กๆ แล้วชอบพูดประเด็นแบบนี้ แล้วพอได้เสียงเฮก็ได้ใจใหญ่ กลายเป็นดาวดวงใหม่"  เพื่อนนักเคลื่อนไหวพูดด้วยน้ำเสียงเนิบนิ่ง

"เขาน่าสงสารนะ เราก็มาให้กำลังใจเขา ไม่ได้รู้จักกันส่วนตัวหรอก คนอื่นหลายคนก็อยากมาเยี่ยม แต่ไม่กล้ามา คดีแบบนี้ใครๆ ก็กลัว แต่ป้าไม่กลัว เราไม่ได้ทำอะไรผิด" ป้าคนหนึ่งบอกระหว่างรอเยี่ยมดารณีในเรือนจำ

0000

เดือนแรกๆ

"เราทำเพื่อประเทศชาติขนาดนี้ แล้วโดนแบบนี้ ถามหน่อย แล้วอีกหน่อยใครเขาจะกล้าลุกขึ้นมาทำอะไร"

"อยู่ในนี้มันลำบาก แต่เราต้องเข้มแข็ง ต้องดูแลใจตัวเองให้ดี ก็ได้แต่คิดเสียว่า ท่านปรีดี (พนมยงค์) ยังโดนเยอะกว่าเรามากนัก"

"บ้านเรามันไปไม่ถึงไหนก็เพราะอย่างนี้ ไม่พอใจๆ ก็รัฐประหาร ทำลายระบบหมด ไม่เห็นหัวชาวบ้านเลย เราไม่ได้ขัดข้องเลยถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นรัฐบาล แต่ต้องเลือกตั้งมาตามระบบ มันเป็นหลักพื้นฐาน"

"ป่าวๆ ไม่ได้เห็นไทยรักไทยเป็นเทวดาด้วย แต่เขามีนโยบายเพื่อคนจน เรื่องปากท้องของคน ลดช่องว่างของคน เป็นเรื่องสำคัญสุดของประเทศนี้นะพี่ว่า แต่นโยบายมีปัญหาตรงไหนก็มาว่ากัน ไม่ใช่ทำแบบนี้ แล้วดึงเอาสถาบันลงมาในการเมือง มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เรื่องพวกนี้นักวิชาการก็พูดไม่ใช่เหรอ" 

"ถ้าโดนจับสมัยรัฐบาลเผด็จการ เราคงไม่เสียใจเท่านี้ เราสู้เพื่อประชาธิปไตย พวกคุณก็ได้ประโยชน์ด้วย แล้วสุดท้ายพอมีปัญหาก็ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยอะไร"

 

เดือนหลังๆ  

 "กับข้าวในนี้แย่มาก เราก็ขากรรไกรอักเสบ กระดูกบนล่างมันจะยัดติดกันอยู่แล้ว กินอะไรลำบากเพราะมันอ้าปากไม่ได้ จริงๆ หมอนัดไว้ว่าจะต้องผ่าตัดแต่โดนจับซะก่อน ตอนนี้น้ำหนักลดไปสิบกว่าโลแล้ว เวลาแปรงฟันทีก็ลำบาก ต้องเอาแปรงสีฟันกระแทกเข้าไปในปาก มันอ้าไม่ได้ ฟันหน้าบิ่นหมดแล้ว"

"นี่เขายึดชุดนอนไปอีกแล้ว คนอื่นๆ มีเกินสองชุดได้ไม่เห็นมีปัญหา"

"ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมจะต้องจำกัดน้ำขนาดนั้น อาบไม่เคยทันเลย ยิ่งใครมีเมนส์จะลำบากมาก ได้แค่ไม่กี่ขันเท่านั้น แล้วพอเข้าหน้าหนาวยิ่งลดลงอีก บอกว่าอากาศหนาวไม่ต้องอาบมาก นี่มันอะไร"

"จะออกจากเรือนจำมาศาลแต่ละที เขาจับขึ้นขาหยั่งตรวจภายในทั้งตอนเข้า ตอนออก เขากลัวเรื่องยาเสพติด แต่ไม่ดูเลยนี่มันคดีอะไร มันเป็นคดีการเมือง รู้สึกแย่มากจริงๆ มันเจ็บด้วย แล้วเจ้าหน้าที่ก็พูดจากับเราไม่ดี"

"ตอนนี้ได้มารวมกลุ่มกับคนอื่นๆ แล้ว ปกติถ้าเข้าแดนแรกรับใหม่ๆ เขาจะกันไม่ให้คุยกับใครเดือนนึง แต่นี่โดนไปสามเดือน ต้องไปนั่งเฉยๆ ใต้ตึกที่ทำการ จะไปห้องน้ำต้องขออนุญาต"

"คนในนี้นี่ยิ่งกว่าละครน้ำเน่าหลังข่าว เขาเป็นคนหาเรื่องพี่ พอเถียงกัน เจ้าหน้าที่มา เขาก็บีบน้ำตา บอกเราไปเตะขาเขา ทั้งที่เขาเอาขามาขวางไม่ให้เราไปห้องน้ำ เราก็พยามยามก้าวข้ามขาเขาไป แต่มันก็ไม่พ้น โดนขาเขาหน่อยนึง แล้วกลายเป็นเราหาเรื่องเขา โดนลงโทษ"

"มันไม่เมกเซ้นส์เลย ให้กินข้าวในขัน มีสองขันแยกเป็นขันเข้าห้องน้ำกับขันข้าว เมื่อสามปีที่แล้วเขาอนุญาตให้เอาทัฟเปอร์แวร์มาขายได้ แต่ยกเลิกไป บอกนักโทษอาจเอามาใช้เป็นอาวุธ ถามว่าเขาจะเอาทัฟเปอร์แวร์มาฟาดหัวกันเหรอ"

0000

เว็บบอร์ดต่างๆ 

สมควรแล้ว ยังน้อยไป: น่าจะโยกไปขังคุกชาย เอาให้หาย ทอม

ปากเหม็นดีนัก หน้าตาอย่างนังดาผู้ชายยังกลัวเลย 

หน้าขยักแขยงอย่างนี้ สมควรกับความชั่วของมันแล้ว 

บังอาจไปช่วยนายเหลี่ยมพูดจาลบหลู่สิ่งที่คนไทยเทิดทูลอย่างนั้น

เลวมากนังดา...

Notthat_likethat : รู้สึกเหมือนมีคนบอกว่า คนเรามีสิทธิเชิดหน้าลืมตาอ้าปาก

และแสดงความเห็นได้ แต่คนที่บอกเราอย่างนั้นกลับเอามืออุดปาก

และกดหัวเราไว้ หึๆๆๆ ได้เท่านี้หรอ หึๆๆๆ คงเพียงเท่านี้
แด่ประชาธิปไตยที่ไม่เคยมีอยู่จริง

 

ฟ้าประทาน : ถ้าเป็นกม.ในสมัยก่อนป่านนี้โดนตัดหัวเสียบประจานไปแล้ว

นี่ยังดีแค่ติดคุก ก็พูดจาซะขนาดนั้น ไม่มีใครยอมรับได้หรอก

คนไทยทั้งชาติเขารับไม่ได้ พูดจาให้ร้ายสถาบัน มันสมควรแล้วหรือ
ทำไมถึงคิดถึงพูดได้ขนาดนั้น เสียดายที่อุตส่าห์เคยเป็นนักนสพ.

แต่อะไรทำให้กล้าทำผิดได้ขนาดนั้น ก็ต้องก้มหน้ารับกรรมกับสิ่งที่ตนทำไว้มันก็ถูกแล้ว

 

Kamikaze : ทำผิดก็ต้องรับผิด ครับ เพราะอยู่ภายใต้กฎหมายไทย

ผมเห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ นี่เป็นตรรกะที่ง่ายมากๆ พูดไปโดยไม่รู้จักเซฟตัวเอง

ก็ต้องรับผิดชอบในคำพูดนั้นครับ ต่อให้ไม่มี 112 แล้วเกิดเจ้าเค้าเอาเรื่องขึ้นมา

ก็โดนข้อหาหมิ่นประมาทอยู่ดี อย่ามาอ้างว่าประชาธิปไตยเลย

ไม่มีที่ใดที่จะประชาธิปไตยได้ "จริงๆ" หรอก

 

 

 

ไร้ความยุติธรรม : ไม่หน้าเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย

ฆาตกรฆ่าคนตายหลายศพได้รับการประกันตัวแต่ดา ตอปิดโด ขึ้นไปวิจาร์ณ ไฮปาร์คที่สนามหลวง

โดนติดคุกแบบไม่ให้ประกันตัวครั้งแล้วครั้งเล่า ระหว่างคนฆ่าคนตายกับด่าคนอื่น

ท่านว่าอะไรรุนแรงกว่ากัน นี่มันยิ่งกว่าอยุติธรรมเสียอีก

นี่มันต้องเรียกว่าไม่มีมาตราฐานเลยแม้แต่นิดเดียว

แล้วทำไมคดีเดียวกัน แป็ะลิ้มไม่เห็นโดนแบบนี้บ้าง

ทั้งๆที่เจ้านี่ก็เอาคำพูดของเจ้ดาไปพูดเหมือนกัน แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเราเคารพบูชา

หายไปไหนหมด ไม่รู้จะไปกราบไหว้ใครได้ที่ไหนแล้วตอนนี้

ล้วนเป็นสิ่งจอมปลอม หลอกลวงทั้งสิ้น ต้องขอให้องค์กรจากต่างประเทศเข้ามาตรวจสอบ

เพราะระบบความยุติธรรมในไทยถอยหลังไปสู่ยุคโบราณเป็นร้อยๆปี

 

Sazzi : เพื่อนศศิไม่ได้เป็น พธม. แต่เพื่อนศศิบอกว่า หากมีโอกาสได้เจอไอ้-อีที่จาบจ้วงสถาบันเมื่อไหร่
จะไม่ยอมเสียโอกาสที่จะเหยียบปากไอ้-อี พวกนั้นเลย ต้องบอกอีกหน่อยว่า ปกติเพื่อนศศิสุภาพค่ะ 5555 ;)

 

กลิ่นธูป-**: เหมือนยุคกลางเลย ใครเป็นฝ่ายตรงข้ามก็ส่งเข้าคุกข้อหา "นอกรีต"
เมื่อเข้าคุกไปก็ถูกทรมานแสนสาหัส ชุดนักโทษยังให้สวมชุดนักโทษคดีอุกฉกรรจ์
นี่หรือบ้านเมืองที่อวดอ้าง คุณธรรม เมตตาธรรม แต่ยามใดที่มีคนคิดต่างออกมาพูดบางสิ่งที่ส่งผลกระทบ

(ทั้งที่จะเป็นจริงหรือเป็นเท็จ) แทนที่จะใช้วิธีชี้แจงแก้ต่าง กลับเลือกใช้กฏหมายรุนแรงจัดการ

เป็นการ...ปิดปาก

 

ddd: ถ้าการออกมานอกบ้าน ไปยืนบนเวทีแล้วด่าคนอื่น คุกคามคนอื่น อาฆาต

แบบที่ดา ทำ แล้วมีคนยกย่อง (ในนี้)ว่าเป็นการกระทำของวีรสตรี
ผมว่า ต้องกลับมามองตัวเองกันเสียบ้าง ว่าทำไมถึงชื่นชอบคนแบบดา
สาวกประชาไท ทั้งหลาย ควรคิดว่า การพูดถึงบุคคลอื่น แบบที่ดาพูดนั้น

 ไม่ว่าจะกล่าวถึงสถาบัน หรือ คนทั่วไป ก็ควรได้รับโทษในข้อหาหมิ่น ฯ เหมือนกัน
ดีใจที่ศาลไม่ให้ประกัน เพราะ ออกมาเธอก็อาจจะทำเหมือนที่เธอทำมาตลอดแน่ ๆ
อยู่ในนั้นน่าจะดีกว่า นะ คุณ ดา

สองมาตรฐาน : กฎหมายหมิ่นประมาทของไทย มีสองมาตรฐาน
1.สำหรับคนทั่วไป ถ้าคุณพูดเรื่องจริงและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
คุณไม่ต้องรับโทษ เช่นพูดว่า ทักษิณอมเพชรซาอุ ทำให้แรงงานไทย ไปซาอุไม่ได้

2.สำหรับ ในหลวง ราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

แม้คุณจะพูดเรื่องจริงและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม คุณก็ต้องติดคุก ติดหลายปีซะด้วย
เห็นหรือยังครับว่า กฎหมายหมิ่นประมาทของไทย มีสองมาตรฐาน

 

เศรษฐกิจพอเพียง : ติดคุก ตายๆๆ ไปซะให้หมด ไอพวกเหื้ย
เรื่องเยอะแยะมีให้พูด เสือกไม่พูดกัน เอาเรื่องที่คนไทยส่วนมากเค้านับถือ เทิดทูน มากล่าวร้าย
พ่อแม่มีง ก้อคงมีนิสัย แบบพวกมีง จับมันแล้ว ต้องจับพ่อแม่ โครตเหง้า มันมาประหารด้วย

0000

ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญา รัชดา

ผู้พิพากษาสองคนเดินมานั่งบนบัลลังก์ เบื้องหลังบัลลังก์เป็นผนังไม้อย่างดีสีน้ำตาลเข้ม ทำให้ทั้งห้องดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม สูงขึ้นไปบนผนังติดพระบรมฉายาลักษณ์ในกรอบสีทองเหลืองอร่าม

ทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ มีญาติผู้ต้องขังสองสามคน อัยการ ทนายความ เจ้าหน้าที่ผู้คุมตัวผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ต้องขังหญิงในชุดนักโทษอุฉกรรจ์สีน้ำตาลขลิปปลายแขนแดง ในสภาพผ่ายผอมลงไปถนัดตา ดวงตาลึกคล้ำ เท้าที่เปลือยเปล่า แลดูด้าน สกปรก ยืนไหล่ห่อ ทิ้งมือสองข้างแนบลำตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง เงยหน้าเล็กน้อยเพื่อแหงนมองไปยังบัลลังก์ที่อยู่สูงขึ้นไป .... ใครบางคนที่ไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน กำลังยืนร้องไห้โดยไร้เสียงสะอื้นอยู่หลังห้อง

 

 

ขอขอบคุณ

ประเวศ ประภานุกูล ทนายความของดารณี ชาญเชิงศิลปกุล ผู้ถ่ายทอดคำพูดและเรื่องราวของลูกความ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ที่ให้ข้อมูล

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
  ตติกานต์ เดชชพงศ  เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพิ่งมีโอกาสได้ไปดูฉากโหดๆ อาทิ หัวขาดกระเด็น เลือดสาดกระจาย กระสุนเจาะกระโหลกเลือดกระฉูด ในหนังไทย (ทุ่มทุนสร้างกว่า 80 ล้านบาท!) เรื่อง ‘โอปปาติก'  รู้สึกอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่งว่าหนังเรื่องนี้รอดพ้นเงื้อมมือกองเซ็นเซอร์ผู้เคร่งครัดมาได้ยังไง?เพราะด้วยการทำงานของหน่วยงานเดียวกันนี้ ทำให้หนังเรื่องหนึ่งถูกห้ามฉาย เพราะมีฉากพระสงฆ์เล่นกีตาร์, และฉากนายแพทย์บอกเล่าว่าตนก็มีึความรู้สึกทางเพศ แม้แต่ฉากเด็กผู้หญิงอาบน้ำ (ซึ่งเป็นเพียงตัวการ์ตูนญี่ปุ่น) ก็ยังถูกเซ็นเซอร์มาแล้ว ด้วยข้อหา ‘ทำให้เสื่อมเสียศีลธรรมอันดี'…
Hit & Run
วิทยากร บุญเรือง ผมไปเจอข่าวชิ้นหนึ่ง เหตุเกิดที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งไม่ว่าจะยังไง ข่าวชิ้นนี้ผมว่ามันสามารถสะท้อนอะไรได้หลายอย่าง สำหรับสังคมไทยที่เป็นอยู่ในปัจจุบันคือข่าวที่กลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาก่ออาชญากรรมในโรงพยาบาลศิริราช มาหากินกับพสกนิกรผู้จงรักภักดีได้ลงคอ ... (กรุณาอ่านให้จบก่อนด่า)ท่านพงศพัศ พงษ์เจริญ ตำรวจหน้าหล่อ ได้กล่าวว่า ที่โรงพยาบาลศิริราช มีเรื่องซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นนั่นคือมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาก่ออาชญากรรม และที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง คือเป็นการก่อเหตุในเขตพระราชฐาน โดยขณะนี้ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานแล้วเตือนไปยังแก๊งมิจฉาชีพที่ตั้งใจมาก่ออาชญากรรมว่า…
Hit & Run
พงษ์พันธุ์ ชุ่มใจ 26 กันยายน 2550ย่านพระเจดีย์สุเล, กรุงย่างกุ้ง   ภาพที่เห็นคือ...ประชาชนหลายพันคนออกมายืนเต็มถนนย่านพระเจดีย์สุเล ซึ่งเป็นย่านกลางเมือง โดยไม่ไกลนักมีกองกำลังรักษาความมั่นคงพม่าตั้งแถวอยู่เบื้องหน้า ป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้พระเจดีย์แห่งนี้"เราต้องการประชาธิปไตย" ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกล่าว"รัฐบาลนี้อันตรายโคตรๆ" ชายอีกคนหนึ่งกล่าวประชาชนส่วนหนึ่ง พยายามต่อสู้กับทหาร ทหารที่มีทั้งโล่ กระบอง แก๊สน้ำตา กระทั่งปืน โดยประชาชนพยายามขว้างอิฐ ขว้างหิน เข้าใส่แถวแนวของทหารพวกนั้นก้อนแล้ว ก้อนเล่า ... ถูกทุบเป็นก้อนย่อมๆก้อนแล้ว ก้อนเล่า ... ถูกขว้างสุดแรงเกิด…
Hit & Run
  อรพิณ ยิ่งยงพัฒนาดูเหมือนเรื่องน่าจะจบลงไปแล้ว กับความพยายามของ สนช.กว่า 60 คน ที่เข้าชื่อกันยื่นแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา (ป.อาญา) และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) ในมาตราที่เกี่ยวข้องกับการทำผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ก่อนที่สุดท้าย สนช.จะตัดสินใจถอนการแก้ไขออกไปก่อนแม้เรื่องนี้มีนัยยะที่น่าสนใจหลายประเด็น แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ กระแสความคิดที่เกิดขึ้น แม้ภายหลังการถอยและถอนการเสนอแก้กฎหมายแล้วก็ตามสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีจำนวน 242 คน โดย สนช. สามารถเข้าชื่อกันเพื่อเสนอหรือแก้ไขกฎหมายได้ ผ่านการเข้าชื่อเพียงจำนวนไม่น้อยกว่า 25 คน ยกเว้นกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงิน…
Hit & Run
จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์นอกจาก 24 มิถุนายน 2475 ซึ่งเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นประชาธิปไตย และ (อดีต) วันชาติแล้ว วันสำคัญที่เงียบเหงารองลงมา (อีกวัน) ก็คงหนีไม่พ้น 6 ตุลาคม 2519 ที่รับรู้กันว่า เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่นักศึกษา ประชาชน เพราะเข้าใจว่าเป็นคอมมิวนิสต์ สำหรับปีที่แล้ว วันนี้อาจคึกคัก เพราะถึงวาระตัวเลขกลมๆ 30 ปี ซ้ำยังเพิ่งผ่านพ้นรัฐประหาร 19 กันยายน มาหมาดๆ กระแสเรื่องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจึงยังมีอยู่ แต่พอปีนี้กระแสกลับไปเงียบเหงาเหมือนปีก่อนๆ วันที่ 6 ตุลาในปีนี้ กลายเป็นวันเสาร์ธรรมดาๆเมื่อถามถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา กับหลายๆ คน…
Hit & Run
ภาพันธ์ รักษ์ศรีทองเป็นข่าวคราวกันพักใหญ่ในรอบสัปดาห์จนผู้หลักผู้ใหญ่ต้องรีบออกมาเต้นเร่าร้อนกันทั่ว เมื่อคุณหนูสาวๆ มีแฟชั่นเทรนใหม่เป็นการนุ่งกระโปงสั้นจุ๊บจิมโดยไม่สวมใส่ ‘กุงเกงลิง’ ความนิยมนี้เล่นเอาหลายคนหน้าแดงผ่าวๆจนพากันอุทาน ต๊ายยย ตาย อกอีแป้นจะแตก อีหนูเอ๊ยย ทำกันไปได้อย่างไร ไม่อายผีสาง เทวดาฟ้าดินกันบ้างหรืออย่างไรจ๊ะ โอ๊ย..ย สังคมเป็นอะไรไปหมดแล้ว รับแต่วัฒนธรรมตะวันตกมาจนไม่ลืมหูลืมตา วัฒนธรรมไทยอันดีงามของไทยไปไหนโม๊ดดดดเรื่องนี้มองเล่นๆ เหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มันก็ไม่เล็ก จะว่าเป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่ใหญ่ แต่ไปๆ มาๆ คล้ายกับว่ารอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘กุงเกงลิง’…