Skip to main content

 

ภาพจากเว็บไซต์ artshole โดย Richard Sayer

ตติกานต์ เดชชพงศ

เมื่อไม่กี่วันก่อน อาจารย์ 2 ท่านจากสถาบันอุดมศึกษาเก่าแก่ ออกแถลงการณ์เตือนให้ คนทำสื่อ' และ คนบริโภคสื่อ' ระมัดระวังภาวะ สื่อเป็นพิษ' อันเนื่องมาจากการบริโภคข้อมูลปนเปื้อน ความรุนแรง' ที่แฝงเร้นมากับข่าวและบทความอันท่วมท้นล้นหลามในยุคสารสนเทศครองเมือง

ไม่แน่ใจนักว่า สื่อเป็นพิษ' จะก่อให้เกิดอาการอะไรที่เป็นผลร้ายแรงกับสุขภาพร่างกายหรือไม่ แต่ถ้าพูดถึงอาการ อาหารเป็นพิษ' ซึ่งคนส่วนใหญ่ บริโภค' เข้าไปเพราะไม่รู้เท่าทัน จะทำให้ผู้บริโภคอาเจียน ท้องเสีย หน้ามืดหมดแรง หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตเพราะพิษเข้าสู่กระแสเลือด...

ส่วนอาการ สื่อเป็นพิษ' ตามที่อาจารย์ทั้ง 2 ท่านแสดงความห่วงใย แม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าส่งผลอย่างไรต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย แ่ต่ก็ค่อนข้างแน่ใจว่าภาวะนี้ส่งผลต่อสุขภาพจิตของผู้บริโภคสื่อเป็นอาหารหลักมิใช่น้อย...

สังเกตได้จากความสามารถในการมองโลก มองชีวิต และมองผู้คนรอบตัว ถูกกัดกร่อนไปทีละน้อย จนถึงขั้นที่ผู้บริโภคสื่อเป็นพิษเห็นว่า ผู้ที่คิดแตกต่างจากตัวเองเป็นคนเลว คนโง่ สมควรขับไล่ไปอยู่ประเทศอื่น หรือไม่ก็ถึงขั้น สมควรตาย'

ซึ่งถ้าอาการรุนแรงถึงขั้นนั้น ความเป็นมนุษย์คงถูกแทนที่ไปแล้วด้วยความบ้าคลั่ง

ไม่ว่าจะ อาหารเป็นพิษ' หรือ สื่อเป็นพิษ' ดูเหมือนว่าทั้ง 2 ภาวะมีผลข้างเคียงที่รุนแรงไม่แพ้กัน แต่น่าสนใจตรงที่ว่าภาวะเหล่านั้น ล้วนมี แมลงวัน' เป็นพาหะด้วยกันทั้งคู่

แมลงวันที่เป็นแมลงขนาดเล็ก ตามความหมายตรงตัว เป็นพาหะหนึ่งซึ่งนำเชื้อโรคมาสู่อาหาร จากการไต่ตอมของเหล่าแมลงวัน และเป็นที่รู้กันว่า แมลงวัน' ในความหมายเชิงเปรียบเทียบ หมายถึง สื่อมวลชน' ด้วย

สื่อมวลชนในยุคหนึ่งปวารณาตนเป็นแมลงวัน ผู้เวียนวนกับความสกปรกและเน่าเหม็นของเหตุการณ์บ้านเมืองต่างๆ ที่ส่อเค้าไปในเชิงผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นพิษเป็นภัยต่อคนในสังคม และจะนำข้อมูลมาตีแผ่ให้ผู้บริโภคได้รับรู้

เมื่อเวลาผ่านไป สื่อมวลชนได้กลายร่างเป็นกระจก, เป็นตะเกียง, เป็นยาม, เป็นไฟส่องทาง, เป็นหมาเฝ้าบ้าน หรือกระทั่งถูกคนจำนวนมากขนานนามว่าเป็น อีแอบ' ในโลกอินเทอร์เน็ต...แต่ก็ดูเหมือนว่าสันดานแมลงวัน' ยังคงแอบแฝงอยู่ในภาพลักษณ์ใหม่ๆ ของสื่อมวลชนเสมอมา

ในความรับรู้ของคนส่วนใหญ่ แมลงวันเป็นได้แค่สัตว์น่ารำคาญที่ไต่ตอมของสกปรกเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง แมลงวันมีหลายชนิด หลากสายพันธุ์

ทั้งแมลงวันบ้าน, แมลงวันหลังลาย, แมลงวันหัวเขียว, แมลงวันทอง, แมลงวันผึ้ง, แมลงวันดอกไม้, แมลงวันตอมตา ฯลฯ แมลงวันเหล่านั้นมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันออกไป

แมลงวันบางชนิดกินผลไม้เป็นอาหาร และอีกบางชนิดมีประโยชน์ เพราะมีส่วนช่วยในการผสมเกสรดอกไม้ ในขณะที่แมลงวันบางจำพวกชื่นชอบที่จะไต่ตอมเนื้อสัตว์และอาหารที่มีกลิ่นคาว

การเหมารวมว่าแมลงวันมีแต่โทษ เป็นพาหะที่น่ารังเกียจ ไต่ตอมเฉพาะของสกปรก และเป็นพาหะของโรคมากมาย จึงไม่ถูกต้องเสียทีเดียว

ที่สำคัญคือ เราไม่อาจปฏิเสธการดำรงอยู่ของแมลงวันได้...

คุณูปการของแมลงวันนั้นยังมี แม้แต่แมลงวันที่ชอบไต่ตอมของเน่าเหม็นอยู่ไม่ห่าง ก็เป็น คำเตือน' ชั้นดีให้ผู้บริโภคจงหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้นให้พ้น แต่ถ้า เลือกแล้ว' ที่จะบริโภคสิ่งเดียวกับที่แมลงวันเคยไต่ตอม ก็คงต้องเตรียมเนื้อเตรียมตัวรับมือกับภาวะ อาหารเป็นพิษ' (หรือ สื่อเป็นพิษ') ให้ดีๆ

แมลงวันเหล่านี้รู้ดีว่า กลิ่นคาว' มีแรงดึงดูดเฉพาะตัว และคนมากมายชอบกลิ่นและรสอันรุนแรงจัดจ้าน อาทิ ส้มตำปลาร้า หอยดอง ลาบเลือด แม้แต่อาหารตะวันตก เช่น ชีสแพงๆ หรือโยเกิร์ต ก็หนีไม่พ้นการหมักดองหรือภาวะที่เฉียดใกล้การเน่าเสีย แต่ก็ยังได้รับความนิยมในหมู่คนจำนวนมาก

เรื่องราวความผิดปกติ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และความเน่าเหม็นหมักหมมในสังคม จึงเป็นสิ่งที่สื่อมวลชนที่มีสัญชาติญาณแมลงวันจำนวนหนึ่งให้ความสำคัญ เพราะถือว่าเรื่องเหล่านั้นคือสิ่งที่คนในสังคม ต้องรู้' ไม่ว่าจะเพื่อหาทางหลีกเลี่ยง หรือหาทางตรวจสอบแก้ไขก็ตาม

การข้องแวะต่ออาหารกลิ่นแรงของแมลงวันที่เป็นแมลง และการนำเสนอข่าวค(ร)าวด้วยการใช้ถ้อยคำรุนแรงและตรงไปตรงมาเพื่อเรียกร้องความสนใจของแมลงวันที่เป็นสื่อ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ

กระนั้น ก็ไม่อาจเรียกได้ว่านั่นคือ อุดมการณ์' หรือการอุทิศตน' ของเหล่าแมลงวัน เพราะแท้ที่จริงมันคือการดำเนินวิถีชีวิตตามสัญชาติญาณของแมลงวันก็เท่านั้น

สิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้บริโภค จึงไม่ได้อยู่ที่การเรียกร้องให้แมลงวันเปลี่ยนสันดาน และไม่ได้อยู่ที่การปราบปรามแมลงวันทุกชนิดให้สิ้นซาก แต่ควรจะเป็นการรู้เท่าทันและเข้าใจในธรรมชาติของเหล่าแมลงวัน และพยายามหลีกเลี่ยงในสิ่งที่อาจส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ

ส่วนบรรดาแมลงวันที่ำสำคัญตนว่าเป็นผู้กุมชะตากรรมของสังคม อาจต้องทำความเข้าใจเสียใหม่ว่า แมลงวันไม่ใช่พระเจ้า ไม่ใช่ผู้รู้ ไม่ใช่ผู้ตัดสิน

แมลงวันเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของโลกใบนี้เท่านั้น ไม่ได้แตกต่างอะไรจากสิ่งมีชีิวิตอื่นๆ เลย

 

 

 

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
แดง ใบเตย  1. บทสรุปสำหรับผู้บริหารข้อเขียนชิ้นนี้ เขียนขึ้นเพื่อโจมตีกลุ่มปัญญาชนเก๋ไก๋ทั้งหลาย ที่บังอาจวิพากษ์วิจารณ์กระแส "เคอิโงะ"    2. ดวงของเคอิโงะแหม่มโพดำ"เคอิโงะ" เสี่ยงได้ไพ่ "แหม่มโพดำ" ดวงดีมากมาย  3. บทกวีแด่เคอิโงะเ ร า ก็ ไ ม่ ท ร า บ ว่ า จู่ ๆ คุ ณ ดั ง  ขึ้ น ม า ไ ด้ เ ยี่ ย ง ไร "เ ค อิ โ ง ะ"สำ ห รั บ ผ ม เ ริ่ ม แ ร ก ก็ อ อ ก จ ะ ห มั่ น ไ ส้ คุ ณ อ ยู่ ม า ก เ ล ย ที เ ดี ย วแ ต่ สำ ห รั บ ผู้ ที่ แ ส ด ง ค ว า ม ฉ ล า ด ห ลั ง เ ห ตุ ก า ร ณ์ นี่ ยิ่ ง น่ า ห มั่ น ไ ส้ ก ว่ ามั น ไ ม่ ใ ช่ เ รื่ อ ง ข อ ง ผ ม กั บ คุ ณ…
Hit & Run
Ko We Kyaw ไร่ปลูกสบู่ดำริมทางบนถนนระหว่างเมืองเจ้าปะต่าวกับมิตทีลา ภาคมัณฑะเลย์ ภาพถ่ายในเดือนพฤษภาคม 2551 (ที่มา: Kowekyaw/Prachataiburma)   พฤษภาคม 25511. ผมอยู่บนรถโดยสารเก่าๆ แล่นออกจากเมืองเจ้าปะต่าว (Kyaukpadaung) มุ่งสู่มิตทีลา (Meiktila) ภาคมัณฑะเลย์ ใจกลางเขตแล้งฝน (dry zone) ของสหภาพพม่า สองข้างทางซึ่งเป็นดินแดงๆ จึงเหมาะจะปลูกเฉพาะพืชทนแล้ง โดยเมืองเจ้าปะต่าวถือเป็นแหล่งปลูกตาล ส่วนเนินแห้งแล้งรอบทะเลสาบมิตทีลาก็เป็นแหล่งปลูกฝ้าย แต่สองข้างทางของถนนที่ผมกำลังเดินทางกำลังเปลี่ยนโฉมหน้าด้วยโครงการปลูกพืชพลังงานชนิดใหม่ “สบู่ดำ”…
Hit & Run
  โดย เพณิญ               ในสถานการณ์แบบนี้ ‘ตัวละคร' ที่น่าจับตามองและได้รับความนิยมอย่างมาก คงหนีไม่พ้น ‘อาซาคุระ เคตะ' นายกรัฐมนตรีหนุ่มสุดหล่อแห่งประเทศญี่ปุ่น และ ‘ลีซาน' พระราชาผู้เป็นที่รักของประชาชนมากที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี            ‘ตัวละคร' ทั้งสองปรากฏตัวอย่างมีนัยยะสำคัญและเป็นที่กล่าวขวัญถึงเป็นอย่างมาก หนึ่งคือ ‘อาซาคุระ เคตะ' ตัวละครที่ไม่เคยสนใจการเมือง แต่ต้องก้าวเข้ามารับหน้าที่นายกรัฐมนตรีในภาวะการเมืองสูญญากาศของประเทศญี่ปุ่นจาก CHANGE…
Hit & Run
อย่างที่รู้ๆ และแทบไม่อยากจะย้ำให้เจ็บช้ำหัวใจกันว่าเศรษฐกิจประเทศไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ (จากอเมริกา) ที่ส่งกระทบข้ามฟ้ามามาไกลถึงบ้านเรา ทำให้ผู้นำประเทศต้องออกโรงคิดหานโยบายมาแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน   บวกด้วยความที่นายกคนหนุ่มอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เห็นว่าคนจนเศรษฐกิจไม่ดี นายกต้องช่วยเหลือ และไม่มีอะไรดีไปกว่าการเพิ่มกำลังซื้อให้กับคน ที่เป็นการช่วยธุรกิจโดยไม่ต้องไปบิดเบือนกลไกตลาด แบบว่าเป็นการช่วยเศรษฐกิจชาติให้มีเงินหมุนเวียน   ดังนั้น โครงการใหม่ถอดด้าม “เช็คช่วยชาติ” จึงริเริ่มและดำเนินการอย่างรวดเร็ว เช็คจำนวน 9.6 ล้านใบ…
Hit & Run
  กรกช เพียงใจ  ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญา รัชดาผู้พิพากษาสองคนเดินมานั่งบนบัลลังก์ เบื้องหลังบัลลังก์เป็นผนังไม้อย่างดีสีน้ำตาลเข้ม ทำให้ทั้งห้องดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม สูงขึ้นไปบนผนังติดพระบรมฉายาลักษณ์ในกรอบสีทองเหลืองอร่ามทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ มีญาติผู้ต้องขังสองสามคน อัยการ ทนายความ เจ้าหน้าที่ผู้คุมตัวผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ต้องขังหญิงในชุดนักโทษอุฉกรรจ์สีน้ำตาล ขลิบปลายแขนแดง ‘ดารณี' ถูกจับกุมที่บ้านพัก ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และติดคุกมาแล้วมากกว่าครึ่งปี ระหว่างที่คดีเพิ่งเริ่มพิจารณา และนัดหมายการไต่สวนพยานครั้งแรกกันอีก 6 เดือนข้างหน้า 0000"ไอ้ที่พี่พูด…
Hit & Run
Ko We Kyaw เมื่อวันที่ 13 มีนาคม หรือเมื่อวานนี้ นักกิจกรรมพม่ารุ่น’88 ในประเทศไทย นำโดยสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองในพม่า (Assistance Association for Political Prisoners-Burma - AAPP) และสมัชชาเพื่อประชาธิปไตยในพม่า (the Forum for Democracy in Burma - FDB) จัด “Free Burma’s Political Prisoners Now!” (“ปล่อยนักโทษการเมืองในพม่าเดี๋ยวนี้!”) (www.fbppn.net) โดยมีการจัดแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (FCCT) กรุงเทพมหานคร และที่ศูนย์นานาชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อล่ารายชื่อกดดันให้รัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัวนักโทษการเมือง ซึ่งขิ่น โอมาร์ (Khin Ohmar)…
Hit & Run
  จันทร์ ในบ่อ ‘วันวาเลนไทน์' หรือ ‘วันเสียตัวแห่งชาติ'เป็นวันที่มีความเชื่อกันว่า ‘ผีกระจู๋' จะถูกปลดปล่อยออกมาเพ่นพ่านด้วยฤทธาแห่งความความกำหนัด โดยเฉพาะในวันที่ความรักเบ่งบานฉ่ำบรรดาพ่อมดหมอผีจะเกรงกลัวเป็นที่สุด เพราะเชื่อกันว่าอิทธิฤทธิ์แห่งมนต์ดำกฤษณาจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติอีกหลายเท่าตัว 
Hit & Run
  ธงดอง จันทร์อังคารพุธพฤหัสศุกร์  "ฉันเป็นคนบ้า เพราะว่าสติไม่ดีไม่ใช่คนไม่ดี ฉันมีสติไม่ดีฉันเป็นคนบ้า" ประเด็นที่ไม่พูดถึงไม่ได้แล้วในปัจจุบัน ก็คือประเด็น "คดีหมิ่นฯ" ที่กลายเป็นเรื่องกล่าวขวัญในสังคมอย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้เริ่มตั้งแต่หนุ่มไม่เต็มบาทนั่งเหม่อลืมยืนเคารพเพลงสรรเสริญในโรงภาพยนตร์, ม็อบคนบ้า(การเมืองจนเข้าเส้น)ที่ปราศรัยมันเกินเหตุจนเกิดเรื่อง, ฝรั่งเพี้ยนที่ชอบขีดๆ เขียนๆ เรื่อยเปื่อย จนลามมาถึงนักวิชาการ นักการเมือง นักท่องอินเตอร์เน็ตเพี้ยนๆ ออกมาโดนซิวเป็นระยะๆ ตามหน้าข่าวแต่ประเทศนี้มันก็ช่างน่าขันเหลือเกิน โทษสำหรับคนเพี้ยนบ้าแบบนี้…
Hit & Run
  จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์  เมื่อปีที่แล้ว ตอนที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก สถานีโทรทัศน์ในจีนถูกสั่งให้ดีเลย์สัญญาณออกอากาศออกไป 10 วินาที เพื่อพวกเขาจะได้มีเวลาจัดการกับการแพร่ภาพในกรณีที่เกิดการประท้วงจากกลุ่มที่เรียกร้องให้ปลดปล่อยทิเบต หรือกลุ่มทางการเมืองอื่นๆ  มาหนนี้ ดูเหมือนสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนจะไม่ได้เตรียมการอะไรไว้ระหว่างถ่ายทอดสดการกล่าวสุนทรพจน์ของโอบามาในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ เมื่อเวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 20 ก.พ. (เวลาประเทศจีน) เพราะขณะแพร่ภาพการกล่าวสุนทรพจน์ของโอบามา พร้อมๆ กับแปลไปด้วยนั้น อยู่ๆ…
Hit & Run
มุทิตา เชื้อชั่ง วันเด็กปีนี้ แม้ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี แต่ก็อยากจะให้คำขวัญ คำอวยพรกับเด็กๆ บ้าง... มีฟามสุขมั่กๆ อย่าแสบให้มากนักนะตัวเอง...   ปีนี้มหกรรมวันเด็กค่อนข้างคึกคัก ข่าวคราวต่างๆ ถูกรายงานเยอะแยะมากมายตามประสาบ้านเมืองที่สงบสุขแล้ว...ชิลๆ สังเกตได้ง่ายๆ เพราะเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ (ยิ่งดราม่าๆ หน่อยยิ่งเจ๋ง) มักจะมีสีสันอยู่ในกระแสมากเป็นพิเศษเสมอ   คำขวัญวันเด็กที่ทั่นนายกฯ "อภิสิทธิ์" ให้ในปีนี้ เด็กจริง เด็กโข่ง ต่างก็รู้กันทั่วหน้าแล้ว นั่นคือ "ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี"   ไม่รู้ว่าเด็กยุคดิจิตอลรุ่นนี้คิดยังไง...
Hit & Run
 จันทร์ ในบ่อ ก่อนอื่นขอ "สวัสดีปีใหม่ครับ" ปีใหม่นี้คนไทยมีนายกฯใหม่ แต่ยังต้องเซ็งที่มีการเมือง(โครต)เก่า ‘ผู้จัดการ' ก็คนหน้าเก่าเลยไม่รู้ว่าจะเรียกร้อง ‘การเมืองใหม่' กันให้วุ่นวายทำไมเป็นเดือนๆอีกฝ่ายก็อุตส่าห์ลงทุน ‘โฟนอิน' มาเป็นรอบๆ ขู่จนเสื้อเหลืองเสื้อเขียวสะดุ้งไปหลายเฮือก แต่สุดท้ายหวยล็อค ได้ฮาตรงที่เขาบอกกันว่า ‘ประชาธิปัตย์' ก็มากับเสียง ‘โฟนอิน' !?? ที่สำคัญโฟนอินนี้ทำเอา ‘เสื้อแดง' มึนตึ้บเป็นแถว เช้ามาพูดได้คำเดียวว่า "มาม่า...อร่อย "เอาล่ะ..เรื่องการเมืองไว้ค่อยว่ากันต่อ แต่ตอนนี้ขอพักฉลองเทศกาลปีใหม่สากลสักสองสามวันร่วมกับคนทั้งโลก ขออวยพรแบบสากลหน่อย"…
Hit & Run
  คิม ไชยสุขประเสริฐ  ข่าวคราวในวงการกีฬา เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา คงเป็นที่จดจำสำหรับคนไทยที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลหรือเป็นนักเชียร์ตัวยงสำหรับกีฬาต่างๆ ที่ลงท้ายด้วยทีมชาติไทยพ่ายทีมชาติเวียดนาม 1-2 ประตู ในฟุตบอลอาเซียน ซูซูกิ คัพ 2008  รอบชิงชนะเลิศนัดแรก ซึ่งจัดขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยเกมนี้มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรี เดินทางไปเชียร์ทีมไทยถึงขอบสนาม เรียกได้ว่าเป็นการแพ้กันคาบ้าน