แม้หลายคนจะเหมารวมละครทีวีของไทยว่าเป็นละครน้ำเน่าเสียส่วนใหญ่ แต่ฉันก็เชื่อว่าละครที่สร้างมาจาก นวนิยาย ก็น่าจะมีเนื้อหาสาระบางอย่างสอนใจคนดูได้บ้าง ไม่ใช่จะดูแต่เพียงฉากตบกันของบรรดาเมียน้อยของคุณอนิรุจเท่านั้น
ฉันพบว่านวลเมียน้อยที่รักอย่างทาส และอรอินทร์ที่รักอย่างบ้าคลั่ง ยังไม่ชอกช้ำเท่ากับชีวิตจริงของเด็กผู้หญิงกระยันคนหนึ่งที่ฉันกำลังจะบันทึกถึงเธอ ผ่านถ้อยคำบอกเล่าจากปากของเธอเอง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับเพื่อนผู้หญิงชนกลุ่มน้อยคนอื่นๆจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นที่เธอเป็นอยู่
เธอชื่อว่า "ส้มโอ" จุดเริ่มต้นของชีวิตที่คล้ายกับชาวกระยันหลายคนที่อพยพมากับฝูงชีวิตที่หวังจะมาขุดทองในประเทศไทย ทิ้งท้องนาท้องไร่และฝูงวัวควายไว้ข้างหลัง เพื่อมาเป็นตุ๊กตาหน้าร้านขายของในหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวบ้านใหม่ในสอย
แต่แล้วเธอกลับพบว่า เงินเดือนที่ได้รับเพียงน้อยนิดและบางครั้งได้บ้างไม่ได้บ้าง แทบจะไม่พอส่งกลับไปให้พ่อแม่และน้องๆที่ยังรอคอยอยู่อีกฝั่งแม่น้ำสาละวิน ทำให้เธอถูกเรียกตัวให้กลับพม่า นานหลายปีที่เธอรีรอและบอกปัดพ่อแม่ด้วยความหวังว่า คงจะมีทางที่ดีกว่าการกลับไปพบความยากลำบากที่เธออุตสาห์หลีกหนีมาเสียไกล
จนกระทั่งส้มโอได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะกลับบ้าน เธอได้มาหาหมอใส่ห่วงเพื่อให้หมอถอดห่วงทองเหลืองที่คอออกให้ที่หมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ
ที่นี่เองที่เธอได้พบกับทางแยกของชีวิต หนุ่มใหญ่วัยหกสิบเศษจากเมืองกรุงเข้ามาติดพันเธออย่างรวดเร็ว เพียงเจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง เขาก็รุกเธอด้วยการส่งพ่อสื่อแม่ชักเพื่อขอเธอแต่งงาน
ส้มโอพบว่าหนุ่มใหญ่แสดงท่าทางจริงใจ และแสดงความจริงจังที่จะตบแต่งเธอเป็นเมียอย่างออกหน้าออกตา เขาพาเธอไปรู้จักบ้านช่องที่กว้างขวางราวกับรีสอร์ทซึ่งสร้างไว้ใกล้เมือง ทำให้เธอรู้สึกมั่นคงทางใจว่าจะไม่ถูกทอดทิ้งไปไหน และนี่ก็คือความหวังที่จะทำให้เธอไม่ต้องกลับพม่า พ่อแม่และน้องๆ ที่รอคอยก็คงจะพอใจกับทางเลือกของเธอ
นี่เป็นรักครั้งแรกของหญิงสาวซื่อบริสุทธิ์ แม้วัยของเธอจะบรรลุนิติภาวะแล้วก็ตาม แต่ประสบการณ์ชีวิตกลับเพิ่งเริ่มต้น เธอมั่นใจว่าเขารักเธอและคงจะรักเธอคนเดียวตลอดไปเพราะเขาบอกว่าเป็นหม้ายมาหลายปี หากเธอตกลงยอมแต่งงานกับเขาเธอก็จะมีชีวิตที่สุขสบาย มีบ้านช่องใหญ่โต และหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตครอบครัวอย่างมีความสุข เขาเองก็รับรองเป็นมั่นเหมาะว่าเธอจะสบายไปทั้งชาติ
ความสุขของส้มโอผ่านไปเร็วนัก หนุ่มใหญ่ให้เธอเข้ามาอยู่ในบ้านซึ่งจะเปิดเป็นกิจการเป็นบ้านพักรับรองนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันสามีของส้มโอเทียวไปกลับกรุงเทพฯ - แม่ฮ่องสอน อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เธอรู้เพียงแต่ว่าเขามีธุรกิจที่ต้องไปดูแลจึงไม่อาจที่จะอยู่กับเธอที่แม่ฮ่องสอนได้นานๆ เหมือนสามีทั่วไป
เดือนที่สามของการแต่งงาน เธอก็ได้พบความจริงที่ทำให้หัวใจแทบแตกสลาย เมื่อสามีของเธอแนะนำเธอให้รู้จักกับหญิงวัยใกล้เคียงกับเขา และเรียกเธอว่า "เมีย" ส้มโอเฝ้าถามตัวเองว่าแล้วเธอล่ะอยู่ในฐานะอะไร "เมียน้อย" "เมียเก็บ" หรือแค่ "นางบำเรอ"
วันที่เธอรู้ว่าทุกสิ่งที่หวังเอาไว้กำลังจะกลายเป็นเพียงแค่ความฝัน บ้านหลังใหญ่ที่เธอมีสิทธิ์แค่คนอาศัย ที่ดินแปลงนั้นที่เธอเฝ้าดูแล ทุกสิ่งทุกอย่างเธอไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ แม้แต่สามีของเธอก็เป็นสามีของคนอื่น
ความหวังเดียวคือการมีลูกกับเขาสักคนเพื่อเป็นโซ่ทองคล้องใจ ก็คงเป็นไปไม่ได้ เมื่อเธอมารู้ภายหลังว่าเขาทำหมันแล้วหลังจากมีลูกสาวมาแล้วสี่คน ทุกอย่างถูกปิดเป็นความลับ เธอเป็นเพียงบ้านเล็กที่ซุกตัวเงียบสงบอยู่เพียงลำพัง
และที่น่าปวดใจที่สุดคือภรรยาของเขายินยอมพร้อมใจให้สามีหาเมียอย่างเธอมาอยู่ในพักซึ่งใช้เป็นบ้านพักตากอากาศของเขา
เธอกลายเป็นหญิงสาวในเงามืด หลบลี้หนีหน้าผู้คนที่ต้องกลับกลายเป็นเมียเก็บอย่างออกหน้าออกตา เธอต้องเดินตามสามีที่มีภรรยาใหญ่เดินอยู่เคียงข้าง ด้วยความรู้สึกมืดมน
ทุกวันนี้หญิงสาวที่ซื่อบริสุทธิ์คนนั้นได้ตายไปแล้ว ส้มโอใช้ชีวิตไปวันๆกับเบียร์และบุหรี่ที่เธอสูบอยู่เสมอ ด้วยเงินที่เมียหลวงเจียดให้ ไม่มากไปกว่าเงินเดือนของแม่บ้านและยามที่จ้างไว้เพื่อคอยเปิดปิดบ้านหลังใหญ่ที่มีเธอเพียงคนเดียวอาศัยอยู่ ซึ่งนานๆสามีของเธอก็จะเดินทางมาที่บ้านพักตากอากาศแห่งนี้โดยมีภรรยาติดตามมาด้วยทุกครั้ง
เมื่อถูกถามถึงอนาคตเธอเองก็ตอบไม่ได้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร เธอรู้ตัวดีว่าคนไร้สัญชาติ ไร้การศึกษาเช่นเธอไม่สามารถเรียกร้องความเป็นธรรมใดๆให้กับตัวเองได้ เพราะเธอมีอยู่เพียงสองทางคือทิ้งเขาเสียแล้วกลับไปอยู่กับพ่อ-แม่ที่ประเทศพม่า หรือยอมรับสภาพที่เธอเป็นอยู่ ไปจนกว่าเธอจะเป็นฝ่ายถูกทอดทิ้งเสียเองไม่วันใดก็วันหนึ่ง.