สาละวิน,ลูกรัก
หากมีคำถามจากใครสักคนถามแม่ว่า เดือนไหนของปีที่รู้สึกว่ายาวนานกว่าเดือนอื่นๆ คำตอบของแม่อาจจะแตกต่างออกไปจากคนอื่นๆ เพราะแม่คิดว่าเดือนที่มีจำนวนวันน้อยที่สุดเป็นเดือนที่แม่รู้สึกว่ายาวนานกว่าทุกๆเดือน
ความรู้สึกว่าเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่ยาวนานกว่าใคร อาจจะวัดไม่ได้เป็นจำนวนวันเพราะว่ามันตีค่าเป็น “ความรู้สึก” แม่มีเหตุผลหลายอย่างประกอบความรู้สึกอันนี้ สิ่งหนึ่งก็คือ หลายสิ่งที่ดีเกิดขึ้นกับแม่ในเดือนนี้เสมอ ๆ
เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่น่าจดจำ มีอากาศที่อบอุ่นพอเหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยว แม่ยังรู้สึกว่าในแต่ละวันจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า
ยามเช้าของกุมภาพันธ์เรามักตื่นขึ้นมาโดยเร็วด้วยอากาศที่ไม่หนาวจนเกินไป และสายหมอกที่ยังเคลียคลุมจนดูเหมือนว่ายังเช้าอยู่แม้จะสายมากแล้ว กว่าแสงแดดอุ่นจะกรุ่นขึ้นจนร้อนผ่าวก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงวัน
พอบ่ายคล้อย เราจะรู้สึกร้อนนิดๆจนบางครั้งต้องสลัดผ้าลงอาบน้ำในแม่น้ำลำคลองที่ไหนสักแห่ง เพลินอยู่กับสายน้ำจมดิ่งอยู่กับห้วงแห่งความสุข และเอื่อยช้าไปกับกาลเวลาที่หยุดนิ่งรอบๆตัว
แม่พบรักเดือนกุมภาพันธ์ และคลอดลูกอันเป็นที่รักในเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนนั้นแม่รู้สึกถึงการรอคอยวันเกิดของตัวเองในวันเริ่มต้นของเดือนมีนาคม การรอคอยทำให้รู้สึกว่ากุมภาพันธ์ช่างแสนนาน
แต่แม่รู้แล้วว่า แม่กลับจดจำเหตุการณ์ต่างๆในเดือนกุมภาพันธ์ได้ดีและชัดเจนกว่าเดือนเกิดของตัวเอง ที่ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วและบางครั้งก็รวดร้าวจนอยากลบเลือน
คล้ายป่าที่เปลี่ยนสีผลัดใบในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งงดงามและรวดร้าว ต้นไม้ทิ้งใบรายเรียงสีน้ำตาลเข้มคลุมผืนป่า เหลือเพียงกิ่งก้านแอ่นฟ้อนทาบทาท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม รอคอยฤดูแล้งอันโหดร้ายที่กำลังมาเยือนอย่างเชื่องช้า
มีนา เมษา และพฤษภา ที่ป่าทั้งป่าหลับใหลก่อนถูกปลุกให้ตื่นอีกครั้งด้วยฝนแรกที่ฉ่ำชื้น ทว่าฤดูฝนแม่ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก
ฤดูฝนเป็นฤดูกาลแห่งมือผู้กุมหว่านเมล็ดพันธ์ ผู้กุมชะตามกรรมของมนุษย์ทุกคนบนโลก สายฝนทำให้ฟ้าและดินเท่าเทียมกัน
แต่สายฝนทำให้ชื้นแฉะและอับโชคสำหรับแม่ นั่นเป็นการสรุปโดยใช้เพียง “ความรู้สึก” อาจเป็นเพราะท้องฟ้ามักวิปโยคในหน้าฝน เรามักจะอดทำกิจกรรมกลางแจ้งในตอนกลางวันเมื่อฝนหลั่งลงมา และความหดหู่จะแทรกซึมเข้าไปในจิตใจของแม่ในยามค่ำคืนที่ฝนพรำ
กุมภาพันธ์ปีนี้ สาละวินอายุครบสามขวบ ลูกเองก็รอคอยวันสุดท้ายของเดือน เมื่อแม่บอกลูกว่าจะมีเค้กวันเกิดให้เหมือนทุกๆ ปี ลูกคงจำเค้กวันเกิดในปีก่อนๆ ได้เพียงรางเลือน เพราะลูกยังไม่เข้าใจถึง “วันเกิด” ของตัวเอง แต่แม่ก็สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะสร้าง “ความทรงจำ” ที่ดีให้ลูกในทุกๆ เดือนกุมภาพันธ์
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเราเดินทางท่องเที่ยวด้วยกัน แม้ไม่ได้วางแผนอะไรไว้แต่ความรู้สึกเรียกร้องให้ออกเดินทางคงเกิดขึ้นจากความงดงามของธรรมชาติรอบตัวของเดือนกุมภาพันธ์ แม่เลือกเส้นทางตัดผ่านภูเขาและสายน้ำ
เรามีเพียงพาหนะสองล้อที่แบกพวกเราทั้งสามขึ้นเขาลงห้วยสู่ป่าสนวัดจันทน์ แม่นึกถึงเพลงที่มีเนื้อหาว่า “ภูบ่สูง แต่ว่าห้วยมันลึก ภูบ่ลึกแต่ว่าเมืองมันไกล ภูบ่เล็กแต่ว่าฟ้ามันใหญ่....” ใครเลยจะลึกซึ้งถึงความหมายของมันเท่ากับเราสามคนในยามนี้ ก็ในเมื่องูใหญ่ที่เรียกว่าถนนทางหลวงซอกซอนไปได้ทุกที่และดูเหมือนจะฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น
แต่เส้นทางที่เราไปเป็นเส้นทางที่ตัดผ่านหมู่บ้านเล็กๆกลางป่าใหญ่ บางครั้งเรารู้สึกว่าเราไม่ได้ขี่รถบนถนน แต่กำลังเดินเล่นบนสันเขาที่เชื่อมระหว่างสันเขาอีกลูกไปสู่อีกลูกไม่รู้จบ และบางทีก็รู้สึกราวกับว่าเราเคลื่อนตัวไปบนทะเลทรายนุ่มนิ่ม ในขณะที่ล้อรถจมลงไปบนดินแดงที่ลึกกว่าคืบ
เราป่ายปืนด้วยสองล้อสูงขึ้นไปสูงขึ้นไป พ่อของลูกรู้สึกตื่นเต้นกับตัวเองและภาพบรรยากาศรอบตัว เราอยู่สูงจากภูเขาที่มองลงไปเห็นเป็นทิวแถวอยู่ไกลๆ ก่อนจะลัดเลาะเข้าสู่ป่าสนผืนใหญ่ที่มีเขตแดนเชื่อมต่อหลายอำเภอ
ป่าสนยามนี้แตกต่างไปจากเมื่อห้าปีก่อนที่แม่เคยสัมผัสคงเป็นเพียง “ความรู้สึก” เพราะนอกจากป่าสนจะเติบโตขึ้นกว่าเดิมก็คงไม่มีอะไรแตกต่างเมื่อชาวบ้านแถบนี้ต่างก็ดูแลต้นไม้ของเขามานานชั่วนาตาปีไม่เปลี่ยนแปลง
เราพบปะมิตรสหายร่วมเดินทางที่วัดจันทน์ ก่อนจะมุ่งสู่เมืองเชียงใหม่ เราสามคนใช้เวลาท่องเที่ยวที่นั่นอยู่หลายวัน เป็นการเดินทางที่แสนเหนื่อยและน่าจดจำอีกครั้งในชีวิตของแม่
ซึ่งรียกได้ว่าเป็นการเดินทางท่องเที่ยวรอบสองปีของเรา แม่เก็บรูปถ่ายการเดินทางไว้ให้ลูกดูตอนโตเก็บภาพประทับใจไว้ในลิ้นชักแห่งความทรงจำ และบันทึกถึงลูกอันเป็นที่รักก่อนที่เดือนกุมภาพันธ์จะจากไป
รักลูก
แม่