Skip to main content
ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวนั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาตลอดในสังคมไทย ไม่ว่าจะในชุมชนสลัม ชนบท ตัวเมือง อะไรคือแรงจูงใจต่อการกระทำการ? และเมื่อเป็นโทษอาญาที่มีกำหนดไว้ในทางนิติบัญญัติ แต่ทำไมปัญหาความรุนแรงในครอบครัวจึงมักเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เรากำลังปล่อยผ่านมันไปในสังคม และกำลังทำให้เกิดความสูญเสียของผู้บริสุทธิ์เพิ่มขึ้นอยู่หรือเปล่า?
สังคมไทยเป็นสังคมที่มีการหล่อหลอมให้เกิดความเคารพพินบพินอบต่อญาติผู้ใหญ่ มีความเกรงใจและสร้างความยำเกรงไม่ให้มีความแข็งกร้าวในการวิจารณ์ หรือจะเรียกเป็นลักษณะสังคมอย่างอุปถัมป์ค้ำชูก็เป็นได้ เมื่อความรุนแรงเกิดขึ้นจากการไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่เกิดขึ้น บุคคลภายนอกย่อมไม่อยากเข้ามายุ่มย่ามยุ่งเกี่ยวในเหตุผลง่ายๆว่า “นั่นเป็นเรื่องภายในครอบครัวเขา” เราจึงมีเหยื่ออธรรมเกิดขึ้นตลอดเวลา มีผู้เยาว์และเยาวชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและการเยียวยาด้านจิตใจเกิดขึ้นนับแสนๆคนต่อปี
หลายคนมักอ้างอำนาจของผู้เป็นผู้ใหญ่ มักอ้างว่าการผ่านน้ำร้อนมามากกว่าทำให้ความเจริญในสติปัญญานั้นสูงกว่า การถูกลงโทษด้วยความรุนแรงนั้นก็สมควรได้รับแล้วที่จะพยายามอวดรู้อวดฉลาดด้วยข้อมูลที่อ่านจากหนังสือ และสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก
แต่เราจะปล่อยผ่านให้สังคมของเรามีการลงโทษเช่นนี้เกิดขึ้นต่อไปจริงๆหรือ?
นี่คือปัญหาซึ่งนักสังคมสงเคราะห์มากมายต่างถกเถียงและตั้งคำถาม และเป็นคำถามเดียวกับที่เด็กและเยาวชนจำนวนมากได้แต่เก็บคำถามเหล่านั้นไว้กับตัวเอง
อีกปัญหาหนึ่งซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการที่กระบวนการยุติธรรมที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นนั้น คือความต้องการ ‘ความสงบในครอบครัว’ ในการอ้างว่าต้องการให้คนในรอบครัวรักกัน อยู่ด้วยกันอย่างสงบราบคาบ แต่สุขภาพจิตของผู้ถูกทำร้ายเล่า? ที่มันถูกทำร้ายจนย่อยยับจากความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น พวกเขาจะรักษามันอย่างไร พวกเขาจะปล่อยให้การสูญเสียเลือด สูญเสียสภาพจิตไปอย่างไม่มีทางรักษา และปล่อยให้ผู้ที่กระทำการทำร้ายร่างกายเขานั้นเดินลอยชายไปทั่วบ้านในขณะที่ความหวาดกลัวยังเกิดขึ้นกับผู้ถูกกระทำยังคุกรุ่นต่อไปเรื่อยๆ เช่นนั้นเหรอ.. ความสงบอย่างจอมปลอมนั่น
 
 
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 59 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงภายในครอบครัวเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นกับเราโดยตรง โดยเราเป็นผู้ถูกกระทำ เลือดของเราที่กองอาบอยู่เต็มพื้น กลิ่นเลือดที่คาวกลบเต็มปากและน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความทรมานจากการถูกชกต่อยด้วยมือเท้ากระหน่ำไปทั้งตัว ครอบครัวเราพยายามบอกให้ปล่อยให้ผ่านไป ให้เรื่องจบอย่างสงบ แต่เราไม่ยอมเช่นนั้น หากปล่อยผ่านอาชญากรรมเช่นนี้ผ่านไป แล้วในอนาคตเล่า มีหลักค้ำประกันอะไรที่จะยืนยันว่าเราจะไม่ถูกทำร้ายร่างกายอีก เราเลือกที่จะดำเนินคดีความเป็นคดีอาญา และตอนนี้กำลังอยู่ภายใต้อำนาจของเจ้าหน้าที่สืบสวนที่จะส่งมอบต่อไปในชั้นอัยการ เราจึงขอเลี่ยงที่เล่ารายละเอียดของเหตุการณ์เพื่อไม่ให้มีผลต่อรูปคดีที่กำลังจะดำเนินไป
สุขภาพจิตของเราไม่ปรกติอีกเลยนับแต่นั้น (โดยเดิมเราก็มีปมจากการถูกทำร้ายร่างกายในครอบครัวมานับแต่เด็ก รวมทั้งเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แต่เดิมแล้ว) เราเพิ่งผ่านการพยายามฆ่าตัวตายมาเพียงหนึ่งเดือน ในวันแรกเราเต็มไปด้วยอารมณ์กราดเกรี้ยวถึงความอยุติรรมที่เกิดขึ้นกับเรา เราไม่สามารถเคี้ยวข้าวได้อย่างเต็มคำ จนแทบไม่กินข้าว
เรานอนไม่หลับมีอาการหวาดกลัวและผวาอยู่ตลอดเวลาเมื่อได้ยินเสียงเปิด-ปิดประตู หรือเสียงต่างๆรอบข้าง
79 ชั่วโมงผ่านไปในที่สุดเราก็ได้หลับ เรามีอาการมือไม้สั่น เรานึกถึงแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ที่กระทำต่อเรานั้นอยู่ใกล้ตัวเราตลอดเวลา เส้นประสาทเราตึงเครียด
 
หากกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถที่จะมายุ่งเกี่ยวได้ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ความสงบสุขในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ’ ถ้าเช่นนั้นก็ต้องยอมแลกมาด้วย ‘สภาพจิตใจอันย่อยยับของผู้เยาว์คนหนึ่งจนไม่สามารถที่จะรักษาให้กลับคืนมาได้’ พร้อมกับความรู้สึกเกลียดแค้นชิงชังของเขาซึ่งจะคุกรุ่นอยู่ภายใต้ความสงบอันราบคาบต่อไป
-ภูมิวัฒน์ แรงกสิวิทย์
สามารถติดตามความคืบหน้าของคดีได้ผ่าน facebook: https://www.facebook.com/johncandyf
ที่มา :https://www.facebook.com/notes/pumiwat-rangkasiwit/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%A7-domestic-violence-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2/738319436270419?notif_t=like&notif_id=1469093837118572
 

บล็อกของ ภูมิวัฒน์ แรงกสิวิทย์

ภูมิวัฒน์ แรงกสิวิทย์
การที่เราจะพูดถึงการ์ตูนนั้น เราต้องเข้าใจต่อสิ่งที่เรียกว่าสารัตถะ ของประเด็นที่เราจะพูดเสียก่อน สารัตถะในที่นี้มีความหมายอิงไปในทางว่า "คุณลักษณะอันเป็นแก่นแท้"
ภูมิวัฒน์ แรงกสิวิทย์
 เราเคยดูละครน้ำเน่ามาสมัยเด็กๆ เพราะแม่เลี้ยงของเราชอบที่จะเปิดดู จนกระทั้งมัธยมต้นถึงได้เลิกดูละครพรรค์นั้นและหันมาดูหนังต่างชาติแทน ในละครไทยสิ่งที่ขาดไม่ได้คงเป็นตัวอิจฉา และจุดจบของตัวอิจฉานั้นมีอยู่สามอย่าง ตาย ติดคุก และเป็นบ้า 
ภูมิวัฒน์ แรงกสิวิทย์
ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวนั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้น