Skip to main content

 

 


ฉันเกิดในประเทศประหลาด
อันมีเอกลักษณ์
เอกสิทธิ์
และบางเอกสาร
ไม่เหมือนที่ใดในโลก

ฉันเติบโตในประเทศประหลาด
เรามี "เหตุผล"(หากจะเรียกเช่นนั้น)
ไม่เหมือนใคร

ที่นี่, เราไม่เคยสะทกสะท้านต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายนอก
..อย่าว่าแต่เสียงร่ำไห้ภายใน
เพราะเรามีเหตุผลอันวิจิตร
(และพิสดาร)
คอยอธิบายซ้ำซ้ำได้เสมอ

และอันที่จริง – เพียงความประหลาดนั้นก็อธิบายตัวมันเองได้ดีอยู่แล้ว
"เราไม่เหมือนใคร"

 

ความประหลาด-ไม่เหมือนใครของที่นี่
คงจะเพียงน่าขัน
กระทั่งน่ารักน่าเอ็นดู
หากเพียงแต่มันจะไม่กดขี่หรือจองจำใคร
ไม่เป็นเหตุของความทารุณหรือแม้แต่การสังหารใคร

 

การที่ฉันกับใครอีกหลายคนเกิดและเติบโตในประเทศประหลาด
จึงไม่ได้หมายความว่า
เราจะต้องยอมรับกฎหมาย-กฎเกณฑ์ประหลาด
และความอำมหิตของมัน

และแม้จะเกิด-เติบโตในประเทศประหลาด
แต่เราก็จะไม่ใช้เหตุผลประหลาด ตรรกะพิสดาร หรือวิธีการวิตถาร
ไปตอบโต้มัน


เราจะใช้เพียงเหตุผลธรรมดา-ธรรมดา
สามัญสำนึกธรรมดา-ธรรมดา

ของคนธรรมดา-ธรรมดา
รื้อมัน


 

 

เผยแพร่ครั้งแรกที่ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=390032267707781&l=53cdd50003

บล็อกของ กานต์ ณ กานท์

กานต์ ณ กานท์
ใครที่ได้อ่านบทความ “นายกฯ ของวิกฤตการเมือง” [1] ของนิธิ เอียวศรีวงศ์ ที่เพิ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน คงรู้สึกงุนงงไม่น้อยว่า อาจารย์นิธิ “กำลังคิดอะไรอยู่”เพราะไม่เพียงในเนื้อหาของบทความดังกล่าว อาจารย์นิธิได้ประกาศไว้ชัดเจนว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ “เหมาะจะเป็นนายกรัฐมนตรีในยามนี้ที่สุด” แต่เหตุผลของความ “เหมาะสมที่สุด” คือ “นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องกล้าเผชิญกับแรงกดดันจากกองทัพ รวมทั้งแรงกดดันจากองค์กรอิสระอีกมากที่คณะรัฐประหารตั้งขึ้น อย่างอาจหาญและมีศักดิ์ศรีด้วย ดังที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้แสดงให้เห็นอย่างนุ่มนวล แต่สง่างามในครั้งนี้”…
กานต์ ณ กานท์
  โธ่เอ๋ย…ประเทศใด?เหมือนคนจับไข้นั่งไม่ติดหลอนตนว่าอยู่เมืองนิรมิตย้ำจำ ย้ำคิด กำกวมโธ่เอ๋ย… “ประชาธิปไตย”หลักการวางไว้ (หลวมๆ)ครึ่งใบ – ค่อนใบ (บวมๆ)รัฐธรรมนูญกองท่วมพานแล้ว!โธ่เอ๋ย… “ประชาชน”กี่ครั้ง กี่หน ทนแห้วแหงนคอรอฟ้าล้าแววมืดแล้ว ดึกแล้ว …ทนคอยอนิจจา… อนิจจัง…ความเอยความหวังอย่าถดถอยแม้กี่ผีซ้ำด้ามพลอยฝากรูปฝังรอยเกลื่อนเมือง โธ่เอ๋ย…ประเทศใด?หลอนตนว่าใครต่างลือเลื่องงามหรูตรูตรามลังเมลืองเฮ้ย! เมืองทั้งเมืองจะจมแล้ว!!
กานต์ ณ กานท์
  การอ้างว่าต้องเร่งผลักดันให้ "ร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร"i ผ่านออกมาเป็นกฎหมายบังคับใช้ เพื่อจะได้ยกเลิก "กฎอัยการศึก"ii ทั่วประเทศนั้น ฟังแล้วชวนให้รู้สึกทั้งขบขันและเศร้าใจ ผู้ที่ได้อ่านเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ นี้ ย่อมซาบซึ้งดีถึงนัยยะที่นำไปสู่ความว่างเปล่าของข้ออ้างนั้น แต่ที่น่าเศร้าใจไม่แพ้กันก็คือ การที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตอบข้อท้วงติงในประเด็นความชอบธรรมของรัฐบาลและสนช.ที่มาจากการรัฐประหาร ในการร่างและพิจารณาออกกฎหมาย ด้วยการย้อนว่า "...ที่ผ่านมาสนช.ได้ผ่านกฎหมายมาเป็น 100 ฉบับ ขนาดรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายแม่ ยังออกจากสนช..."iii…
กานต์ ณ กานท์
  ฤาอีกกี่รำลึกคร่ำ- ครวญฝากคำผ่านแผ่นดิน กู่ร้องฟ้องแผ่นหิน …ก็เงียบสิ้นอยู่ฉะนี้?
กานต์ ณ กานท์