Skip to main content

มาริยา มหาประลัย



 
 10_7_01
 

เวลาได้ยินคำว่า “สวยเลือกได้” (แน่นอนว่าเขาไม่ได้พูดถึงฉัน) ฉันอดคิดไม่ได้ว่า “สวย” ในที่นี้เรา “เลือก” กันได้จริงเหรอ


เพราะเอาเข้าจริง ความขาว สวย หมวย อึ๋ม ตี๋ ล่ำ หำใหญ่ จมูกโด่ง ฯลฯ ที่เราเรียกคุณลักษณะเหล่านี้ว่า “ความสวย-หล่อ” นั้น ชาติมหาอำนาจเป็นคนกำหนดรูปแบบขึ้นมาและใช้มันเป็นอาวุธในการล่าอาณานิคมทางวัฒนธรรม ความสวยจึงไม่ใช่เรื่อง “สวยๆ” อย่างเดียว แต่มันยังแฝงเรื่องอำนาจและชนชั้นทางสังคมมาอย่างแยบคายภายใต้เปลือกอันน่ามอง


เช่น ความตี๋หมวยบ่งบอกว่าเป็นลูกหลานคนจีนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลางไปจนถึงผู้มีอันจะกิน (แต่ถ้าเป็นสมัยโบราณโน้น คนจีนในไทยกลับถูกมองว่าเป็น ”เจ๊ก” ไม่ใช่ “ตี๋” ซึ่งดูอินเทรนด์กว่าเป็นไหนๆ) รูปร่างกำยำล่ำสันแสดงว่าเป็นผู้มีเวลาว่างและสตางค์มากพอจะออกกำลังกายในฟิตเนส แถมยังมีระเบียบวินัยในการดูแลตัวเองอย่างดีเยี่ยม ผิวขาวเนียนใสไร้สิวเป็นเครื่องแสดงว่าใช้ชีวิตอยู่ในห้องแอร์ไร้มลพิษ กรรมกรหน้าไหนจะหน้าขาวขึ้นมาได้ต่อให้โบกครีมกันแดด SPF 50 ในเมื่อยังต้องตากแดดตากลมเพื่อนมสองเต้าและลูกอยู่...ชิมิเคอะ!


เรื่องความขาวนั้น ฉันเคยนึกว่ามีแต่บ้านเรานี่ล่ะว้าที่บ้าความขาว จนกระทั่งเมื่อฉันไปเที่ยวมัลดีฟท์แล้วเจอโฆษณาครีมไวเทนนิ่งสำหรับผู้ชาย อ๊ายส์! เห็นแล้วขนลุกซู่ นี่เราไม่ได้ทำการล่าอาณานิคมด้วยปืนรบกันอีกแล้ว แต่ใช้วัฒนธรรมเป็นอาวุธแทน เหมือนจะไม่รุนแรงเพราะไม่มีใครนองเลือดให้เห็นกันจะๆ แต่มันคือการกลืนชาติในนามของโลกาภิวัตน์ซึ่งมีอเมริกาเป็นศูนย์กลางจักรวาล


มนุษย์ต่างดาวคงงงพิลึกถ้าโฉบมาบนโลกแล้วพบว่า โลกที่เคยเต็มไปด้วยความหลากหลายทางชาติพันธุ์กลายเป็นโลกที่ผู้คนล้วนจมูกโด่ง ตัวขาว ตาสองชั้น ฯลฯ แทบจะโขกโป๊กออกมาจากพิมพ์เดียวกันหมดเด๊ะๆ!


ความหล่อความสวยยังขึ้นอยู่กับบริบทของเวลาและสถานที่ อั้ม พัชราภาเป็นได้อ้ำอึ้งแน่ถ้าเธอไปอยู่ในหมู่เกาะแถบแปซิฟิกใต้ ซึ่งผู้หญิงที่นั่นต้องอ้วนมากๆถึงจะเรียกว่าสวย ผู้หญิงเอว 24 จะกลายเป็นคนอ้วนทันทีถ้าอยู่ในยุควิคตอเรียนที่ผู้หญิงถูกคอร์เซ็ทบีบรัดจนผู้ชายสามารถโอบรอบเอวผู้หญิงได้ด้วยแขนข้างเดียว และต่อให้คุณเกิดมาสวยเหมือนแอนเจลิน่า โจลี แต่ดันเกิดในประเทศจีนสมัยก่อนราชวงศ์ชิง คุณก็จะไม่มีสิทธิ์ “เกิด” ตราบใดที่ไม่ได้มี “เท้าดอกบัว” และไม่ใช่ริมฝีปากอันน่าจูบนั้นหรอกที่จะเป็นตัวดึงดูดทางเพศ เพราะข้อเท้าเปล่าเปลือยต่างหากที่ผู้ชายสมัยนั้นถือว่ามันเย้ายวนรัญจวนใจเป็นที่สุด เช่นเดียวกับปัจจุบัน ความมหึมาของเครื่องเพศชายจะไม่มีความหมายอะไรเลยถ้ามันไม่ทำให้อีกฝ่ายถึงจุดสุดยอดได้...ชิมิเคอะ!


(นอกเรื่อง : ที่บอกว่า ‘Size doesn’t matter’ น่ะมันพูดโดยผู้ชาย และเอาไว้บอกกับผู้ชายทั้งนั้นแหละ ต่อให้ยกข้อมูลทางการแพทย์มาว่าจีสปอตไม่ได้ลึกขนาดต้องการจู๋ยาวๆก็เถอะ แต่อย่าลืมว่าเวลาเราร่วมเพศ เราไม่ได้ร่วมเพศกันแค่ทางกายภาพ แต่เราร่วมเพศกันทางจิตวิทยาด้วย...ชิมิเคอะ!)


ทาทา ยังเคยให้สัมภาษณ์เมื่อคราวโกอินเตอร์อัลบั้มแรกว่า เธอต้อง “ยุบหนอ-พองหนอ” เพื่อเอาใจแฟนๆแต่ละประเทศ ครั้นไปอินเดียก็ต้องเร่งอึ๋มเข้าไว้ เพราะที่นั่นชอบสาวอวบ พอไปเกาหลีก็ต้องสะเด็ดไขมันออกให้ผอมอย่างที่คนกิมจิชอบ ส่วนบียอนเซ่ ก็เคยสารภาพว่า ที่จริงเธอชอบให้ตัวเองมีเนื้อหนังมากกว่านี้ หล่อนจีบปากให้สัมภาษณ์ว่า “ผอมแบบนี้มันไม่สมกับเป็นสาวผิวสีเอาเสียเลยค่ะคุณขา”


สาวๆค่อนโลกอยากมีหุ่นผอมเพรียวอย่างเธอ หนุ่มๆเองก็น้ำลายหกพลางครางซี้ดซ้าดเวลาเห็นเธอ สาวๆกรีดร้องอยู่หน้ากระจกว่า “อ๊ายส์! ฉันอยากผอมเหมือนบียอนเซ่!” แต่อีกฟากหนึ่งของโลกจะมีเสียงบียอนเซ่ตะโกนอยู่ว่า “อ๊ายส์! ฉันอยากอ้วน! คิดดูแล้วมันน่าเจ็บปวดไม่น้อยที่เกิดมาเป็นสาวผิวสีแล้วไม่สามารถเป็นอย่างสาวผิวสีได้ ไม่ต่างอะไรกับที่ผู้หญิงบ้านเราที่อยากหมวย ผู้ชายมัลดีฟท์ต้องทาไวเทนนิ่ง หรือเกิดเป็นเกย์ต้องก้ามปู…ชิมิเคอะ!


ครั้งหนึ่งเคยมีผู้ชายบอกฉันว่า “มาริยาครับ ผมไม่ได้รักคุณที่หน้าตานะครับ แต่ผมรักคุณที่หัวใจมากกว่า” เหมือนจะโรแมนติคแต่บังเอิญคนฟังดันเป็นคนกวนตีนและคิดเยอะอย่างฉัน เลยฟังแล้วแทบระเบิดหัวเราะก๊ากออกมาลั่นโลก อ๊ายส์! พูดมานี่ไม่มวนท้องคล้ายลูกในท้องดิ้นรึไงคะคุณขา ’ไรยะ! หนังหน้าดิฉันนี่มันเข้าขั้นวิกฤตจนรักหน้าตาฉันไปด้วยไม่ได้หรือไงคะ! ต๊าย! แล้วนี่ถ้าขืนเป็นแฟนกันไป ปากคุณไม่ต้องบอกรักฉันพะงาบๆ แต่ตาต้องคอยมองไปไกลๆ ที่ขอบฟ้าจะได้ไม่เห็นหน้าฉันเรอะ! เพราะขืนเห็นหน้าเมื่อไรคงคุณต้องรีบสะกดจิตตัวเองว่า “โอม...ฉันรักเธอที่หัวใจ” แล้วลืมหนังหน้าของฉันไปซะ…ชิมิเคอะ!


ของแบบนี้มันมาเป็นแพ็คเกจคู่ จะเอาหัวใจแบบนี้ก็ต้องเอาหน้าตาแบบนี้ไปด้วย เอาความคิดแบบนี้ เอาการเมือง วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสังคม ทุกองค์ประกอบที่ก่อเกิดเป็นตัวตนของฉันไปด้วย จะมาชำแหละเป็นส่วนๆแบบเขียงหมู อันนี้เอา อันนี้ไม่เอาคงไม่ได้หรอก ฉันขายเป็นอาหารเซ็ทนะเฟ้ย! ไม่ได้ขายอาหารตามสั่ง!

 

แต่เอาเถอะคุณผู้อ่านขา กะเทยชาย อ๊ายส์! กระทาชายนายนั้นปลอดภัยจากดิฉันแล้ว แต่เห็นฉันมั่นๆเริ่ดๆเชิดๆแบบนี้ เชื่อไหมว่าครั้งหนึ่งความมั่นใจของฉันเคยแหว่งวิ่นไปเหมือนกัน เพียงเพราะเข้าไปดู Hi5 ของหลายๆ คนมากๆ เข้า นี่อาร้าย! ทำไมแม่คุณทูนหัวทั้งหลายถึงหน้าตาดีราวกับหลุดมาจากภาพแฟชั่นที่รีทัชเรียบร้อยแล้วกันเช่นนี้ จะทำอะไรก็ดูดีไปหมด ทำตาโปนแก้มก็ยังน่ารัก ฉันลองแลบลิ้นแบบนางๆทั้งหลายบ้างก็พบว่าตัวเองตัวอะไรไม่รู้พยายามตวัดลิ้นกินเศษอาหารที่ติดอยู่มุมปาก อ๊ายส์! เสียรมณ์!


ได้แค่พาลบ่นกับตัวเองไปอย่างนั้นแหละคุณขา เพราะข้าพเจ้าคนหนึ่งล่ะก็ชอบคนสวยๆเหมือนกัน พอสติกลับมา (แต่สตางค์ไม่เคยกลับมา) ก็คิดได้ว่า ถ้าเทียบกันที่หนังหน้า ฉันก็คงแพ้ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นชก แต่ถ้าดวลกันที่ความกวนตีนและช่างสำบัดสำนวน ฉันคิดว่าหมัดฮุกและฟุตเวิร์คของฉันใช้การได้ดีเสมอ คริๆฮิฮะ


แม้สังคมป่วยๆจะกำหนดความสวยแบบป่วงๆขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เมื่อเกิดมาหน้าตาผิดระเบียบความสวยแล้วคุณจะไม่มีสิทธิ์หายใจได้เต็มปอดมิใช่หรือ ไม่ต้องรอให้โฆษณามาบอกว่าคุณต้องหน้าขาวไม่งั้นผู้ชายจะไม่รักเหมือนโฆษณาพอนด์ส เอากระปุกพอนด์สปาหัวผู้ชายที่มันมองคนแค่นั้นแม่งเลย (แต่พอเป็นอั๋น-วิทยา ก็ยั้งมือไว้ทันที) คุณนั่นแหละที่ควรจะตอบตัวเองให้ได้ว่าคุณจะเลือกใช้ชีวิตอย่างไร จะปล่อยให้คนสวยเลือกได้แต่ฝ่ายเดียวจนเราได้แต่รอเก็บเศษโอกาสที่เขาไม่เอาแล้วได้ไง...ชิมิเคอะ!

 

หึหึ...ว่าแล้ว พรุ่งนี้ฉันก็ต้องไป “หาหมอ” เสียหน่อย เสร็จแล้วจะไปเข้าฟิตเนส ตกเย็นทานอาหารเพื่อสุขภาพ ก่อนนอนพอกครีมที่หน้า เพื่อดำรง “อำนาจ” ไว้


และไม่ลืมพัฒนาความกวนตีนให้ยิ่งขึ้นไปไม่ให้เสีย “อำนาจ” เช่นกัน

บล็อกของ กิตติพันธ์ กันจินะ

กิตติพันธ์ กันจินะ
กิตติพันธ์ กันจินะ บางทีแล้วการที่เราออกมาทำกิจกรรมเพื่อสังคมนั้น มันก็มีรูปแบบที่หลากหลายแตกต่างกันไปตามบริบทของการทำงานและพื้นที่สภาพแวดล้อม ซึ่งนั่นล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการทำงานของกลุ่มคนที่มากมายหลายประเภทเฉกเช่นดอกไม้ในสวนน่ายล ท่ามกลางบรรยากาศสังคมอมยิ้มไม่ออกเช่นนี้ เยาวชนคนหนุ่มสาวก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่เข้าไปอยู่ในบริบทของความย้อนแย้งขัดเกลาเราเขาเช่นนี้ กล่าวคือมีทั้งเยาวชนที่เห็นด้วยกับแนวทางของซีกพันธมิตร และเยาวชนที่ไม่เห็นด้วยก็มีมาก ส่วนกลุ่ม “สองไม่เอา” นั่นก็มีไม่น้อย ทว่า กลุ่มที่ดูจะมีคือ “กรูไม่เอาสักอย่าง” เสียอีกที่มีเยอะ
กิตติพันธ์ กันจินะ
กิตติพันธ์ กันจินะความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นเมื่อมีการชุมนุมของพี่ๆ ทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ และ กลุ่มต้านพันธมิตรฯ คือ “อีกแล้วเหรอ”  ซึ่งเป็นความรู้สึกที่กลัวว่าเหตุการณ์จะนำพาไปสู่เหตุการณ์ “รัฐประหาร” เหมือนเมื่อครั้งปี 2549 อีกหนที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรฯ ถูกมองว่า เป็น “เงื่อนไข” สำคัญที่ทำให้เกิดการรัฐประหารในครั้งล่าสุด แถมยังไม่ค่อยมีบทบาทมากนักในการต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการแต่งตั้งเลยแม้แต่นิด ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่คนอื่นๆ ทั่วไป เขาจะมองว่ากลุ่มพันธมิตร เอาดี เห็นงาม กับการทำให้เกิดเหตุการณ์เยี่ยงนั้นสำหรับนักประชาธิปไตยอีกฝากแล้ว…
กิตติพันธ์ กันจินะ
กิตติพันธ์ กันจินะ หลายวันที่ผ่านมาผมและเพื่อนๆ หลายคน ที่ติดตามข่าวเรื่องการชุมนุมของ “พันธมิตร” ต่างใจจดใจจ่ออยู่กับจุดมุ่งหมายท้ายสุดที่จะเดินไปถึง พร้อมๆ กับกระแสข่าวการ “ปฏิวัติ” ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็เชื่อมั่นว่าการชุมนุมโดย “สันติ” อย่างมี “สติ” เป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนที่สามารถดำเนินการได้ แต่การสลายการชุมนุมโดยการใช้ “ความรุนแรง” ที่ “ไร้สติ” นั้นเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์และปรารถนายิ่งนัก
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัย1“ขอโดลเช่ เดอ ลาเช่ ขนาดกลางแก้วหนึ่งค่ะ เพิ่มกาแฟอีกชอตและะ No whip cream ค่ะ อ้อ! ขอแบบไลท์ด้วยนะคะ Low Calories ด้วย ขอบคุณค่ะ” เฮือก! โล่งอก! ฉันพูดประโยคยาวยืดนี่จบซะที! จะมีใครรู้ไหมนะว่าฉันต้องฝึกพูดคำว่า “โดลเช่ เดอ ลาเช่” มาตั้งกี่ครั้งกว่าจะมาเสนอหน้าสั่งกาแฟชื่อประหลาดอย่างคล่องปากนี่ได้ แต่คริๆ...คงไม่มีใครรู้หรอก เพราะฉันวางมาดดีไม่มีหลุดราวกับเรียนการแสดงจากครูแอ๋วมาเสียขนาดนี้ ใครๆก็ดูแต่เปลือกกันทั้งนั้นแหละเธอ! เอาล่ะ สะบัดบ๊อบไปนั่งรอกาแฟได้แล้วย่ะยัยมาริยา อ๊ายส์! จ่ายเงินก่อนสิยะเธอ!!  ฉันใช้ริมฝีปากที่ทาลิปสติค Christian Dior อย่างบรรจง ค่อยๆ ดูดกาแฟ…
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัยปล. คาวีเป็นชื่อพระเอกในละครตบจูบเรื่อง “สวรรค์เบี่ยง” ทางช่อง 3 ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้สวัสดีค่ะ คุณคาวี พักนี้มีข่าวข่มขืนขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์กันพรึ่บพรั่บ ราวกับคนในบ้านเมืองของเราร่วมแรงแข็งขัน (และแข่งขัน) กันข่มขืนเป็นเมกะโปรเจ็กต์ ตั้งแต่รุ่นเด็กประถมยันอาจารย์มหาวิทยาลัย ดูแล้วชวนห่อเหี่ยวละเหี่ยใจเสียฉิบ ไม่ยักเหมือนเวลาดูคุณคาวีข่มขืนเลยนะคะ ดูแล้วได้ความบันเทิงเริงเมืองปนโรแมนติค ก็แหม…เวลาพูดถึงคนร้ายข่มขืนผู้หญิงทีไร ใครๆ ก็นึกถึงแต่ผู้ชายตัวดำๆ ไว้หนวดเครารุงรัง หน้าเถื่อนๆ ยืนดักอยู่ตามซอกตึก เหม็นกลิ่นเหล้าคุ้งเคล้ากลิ่นเหงื่อปนกลิ่นคาวปลาตามตัว…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมต้องคิดหนักและเหนื่อยกับการใช้พลังในการพัฒนาโครงการ “กล้าเลือก กล้ารับผิดชอบ” ของเครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ ประเทศไทย โครงการนี้เป็นโครงการที่จะสร้างกลไกระดับพื้นที่เพื่อรณรงค์ สร้างความเข้าใจเรื่องเอดส์ เพศศึกษาอย่างรอบด้าน และสนับสนุนให้เยาวชน ตระหนักและมีทัศนคติที่ดีในการเรียนรู้เรื่องการป้องกันเอดส์ รู้จักประเมินความเสี่ยงของตนเอง และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเพศของตนให้ปลอดภัยผ่านการดำเนินการกับกลุ่มเครือข่ายเยาวชนในพื้นที่ 8 กลุ่ม ใน 20 จังหวัดกระจายไปในภาคต่างๆ ซึ่งจะต้องดำเนินการตลอดระยะเวลา 12 เดือน…
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัย
กิตติพันธ์ กันจินะ
ประมาณวันที่ 14 เมษายน 2551 นี้ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550  ก็จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ หลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวและได้มีประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2551ส่งผลให้ต้องมีการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกลุ่ม องค์กร เยาวชน องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับพื้นที่ อย่างขะมักเขม้นอย่างไรก็ตามสำหรับเจตนารมณ์แล้ว กฎหมายฉบับดังกล่าวมีขึ้นมาเพื่อให้เกิดกลไกการสนับสนุนการมีส่วนร่วมและพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมทั้งภาครัฐและเอกชน…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ผมได้แรงบันดาลจากการเขียนเรื่องนี้จากภาพยนตร์เรื่อง “ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น” หนังใหม่ ที่กำลังฉายในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านท่านๆ ว่ากันด้วยเรื่องของเนื้อหาในหนังนั้น ผมก็ยังไม่ได้ไปชม เพียงแต่ดูเนื้อในจากเว็บไซต์ก็พอสรุปคร่าวๆ ได้ว่าภาพยนตร์นี้เป็นเรื่องราวของวัยรุ่น 4 วัยในความรัก 4 มุม ทั้ง รักที่ต้องแย่งกัน รักนักร้องดาราคนโปรด รักนอกใจ และรักข้างเดียว ....อืม เอาเป็นว่า ใครอยากรู้เรื่องมากขึ้นลองเข้าเว็บไซต์ www.pidtermyai.com  ดูแล้วกันนะครับในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเสนอชีวิตที่เกิดขึ้นของวัยรุ่นจำนวนหนึ่งในช่วงปิดเทอมใหญ่ ซึ่งบางคนก็ใช้เวลาไปแข่งกันขอเบอร์ผู้หญิง…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ใครจะไปรู้ว่าเทคโนโลยีบางอย่างจะทำให้เราไม่พลาดการสื่อสารที่สำคัญได้จริงๆ เรื่องเกิดเมื่อวันหนึ่ง, ขณะที่ผมกำลังออนไลน์โปรแกรมแชทยอดนิยมนั้น พี่ต้าร์ (วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ แห่งกลุ่ม Y-ACT) ก็ได้เข้าโปรแกรมออนไลน์ MSN จากในค่ายแห่งหนึ่ง ณ สวนแสนปาล์ม นครปฐม ซึ่งเป็นการอบรมนักศึกษาอาชีวศึกษากว่า 30 สถาบัน  “อยากดูป่ะ” พี่ต้าร์ถามและได้เปิดโปรแกรมวิดีโอออนไลน์ขึ้นมาผมตอบว่าอยาก – สักพัก ภาพเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ พี่ๆ ได้ปรากฏออกมา และมีภาพของเพื่อนๆ เยาวชนที่เข้าร่วมค่ายกำลังทำกิจกรรมอย่างสนุกสนานผมถามพี่ต้าร์ว่ามาทำอะไรกัน?พี่ต้าร์ บอกว่า “วันนี้น้องอาชีวะกว่า สามสิบสถาบัน…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ในที่สุดนายกทักษิณ ก็ได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน หลังจากที่ต้องเร่ร่อนรอนแรมอยู่ต่างประเทศตั้งปีกว่า กลับมาหนนี้ถือว่าได้กลับมาพิสูจน์ตัวเองในคดีต่างๆ ที่ตกเป็นจำเลย และยังได้กลับมาอยู่ใกล้ครอบครัวของตนเสียด้วย ยังไม่นับรวมถึงการที่จะต้องเข้ามาเคลียร์เรื่องอะไรอีกหลายอย่างที่เกิดขึ้นภายในพรรคและการเมืองที่ยังไม่ค่อยลงตัวสักเท่าใดนัก  ผมดูการกลับมาของคุณทักษิณ แล้วนึกถึงชีวิตของเด็กๆ ที่เร่ร่อนไร้บ้านอีกหลายคน ที่ต่างก็พเนจรไปในที่ต่างๆ ไม่ได้กลับบ้าน หรือบ้างก็ไม่มีบ้านอยู่อาศัย ซึ่งชะตากรรมของเขาหลายๆ คน ถือว่า "หนัก" กว่าคุณทักษิณหลายเท่า…
กิตติพันธ์ กันจินะ
  หลังจากที่โครงการเยาวชนไทยไม่ทอดทิ้งสังคม หรือ โครงการเยาวชน1000ทาง 1 ได้ดำเนินการมาจนจบวาระหนึ่งปีก็ถือว่าเรียนจบครบเทอมพอดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทีมงานหลายคนต่างได้รับความรู้และประสบการณ์ในการทำงานเพื่อสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนเข้ามาทำกิจกรรมเพื่อสังคมมากยิ่งขึ้น แม้ว่าโครงการเยาวชน1000ทาง จะเกิดจากความร่วมมือของเครือข่ายเยาวชนที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคมมาหลายปี แต่สำหรับประเทศไทยนั้นนับว่ามีโครงการที่สนับสนุนกิจกรรมของเยาวชน "มือใหม่" ไม่มากนัก ฉะนั้นโครงการเยาวชน1000ทาง ถือว่าเป็นโครงการที่ภาครัฐสนับสนุนให้เกิดการทำงานโดยเยาวชนดำเนินการ มีผู้ใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นที่ปรึกษาการทำงาน…