Skip to main content

อุ่นใจ บัว


เขาเสยผมที่ยาวประ่บ่าแล้วรวบไว้ด้านหลังเบาๆ พลางเอื้อมมือดันเพื่อปิดประตูห้องหมายเลข
415


วันนี้เป็นวันที่เขาต้องขนย้ายข้าวของและสัมภาระต่างๆ กลับบ้านที่ต่างจังหวัด หลังจากเมื่อสี่ปีที่แล้ว เขาเดินทางออกจากบ้านเพื่อย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ อย่างเต็มตัว


สี่ปีที่ผ่านมามีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เขากำลังนึกถึงภาพของความหลังครั้งอดีต โดยเฉพาะความหลังที่เกิดขึ้นภายในห้องพักที่อยู่เบื้องหน้า หนึ่งในเรื่องราวที่ผุดขึ้นมาในม่านความคิดของเขาก็คือเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหญิงสาวห้าคน


เขาจำได้ว่า ห้องพักที่เขาย้ายมาอยู่นี้ เป็นห้องพักลำดับที่สี่ ที่เขาทำการย้ายข้าวของมาอยู่อย่างเป็นกิจจะลักษณะ


ก่อนหน้านั้นหลายปี เขาอยู่คนเดียวมาตลอด จนกระทั้งครั้งที่สาม ที่ย้ายห้อง เขาย้ายมาอยู่กับแฟนสาว เธอเป็นรุ่นพี่ที่เขามีความรู้สึกรักและผูกพันอย่างมาก ทั้งสองอาศัยอยู่ห้องเดียวกันประมาณเจ็ดเดือน จนเดือนที่แปด ทั้งคู่ต้องแยกกันอยู่ เหตุเพราะต้องเลิกกัน


เหตุผลที่ทั้งคู่เลิกกันนั้น เป็นเหตุผลง่ายๆ นั่นคือ เธอบอกกับเขาว่า “เธอมีอะไรกับผู้ชาย” ณ ห้วงเวลานั้นเอง ที่เขาพยายามใช้ความคิดอยู่หลายวันว่าควรเลิกหรือควรให้อภัยเธอดี จนสุดท้ายเขาจึงได้ตัดสินใจเลิกกับเธอ เพราะคิดว่าเธอต้องการคบกับชายคนนั้นมากกว่า ดังนั้นการตัดสินใจเลิกกันจึงเกิดขึ้นบนเงื่อนไขที่ว่า เราเลิกกันวันนี้ แต่วันหนึ่งเราอาจกลับมาคบกันเหมือนเดิมก็ได้ หากเวลานั้นเราทั้งคู่ยังคงคิดถึงและรักกันอยู่ และภายหลังจากนั้นเรื่องราวของเธอก็อยู่ในความทรงจำของเขาเสมอมา เพื่อนๆ หลายคนที่รู้จักเขาจะรู้ดีว่าเขารักเธอมาก ตอนที่ทั้งสองคบกัน เขาไม่ติดต่อกับผู้หญิงคนอื่นเลย เขาปิดตัวเอง ไม่ยอมเผลอใจสร้างเงื่อนไขในรักใหม่ เขาเลือกที่จะคบกับเธอเพียงคนเดียว แต่เมื่อทั้งสองเลิกกัน จุดหักเหในชีวิตเขาจึงเกิดขึ้น


หลังจากนั้น เขาจึงได้ย้ายเข้ามาอยู่ในห้องพักแห่งใหม่ และตอนนี้เอง เรื่องที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น เมื่อเพื่อนสาวคนหนึ่งที่เขาเคยรู้จักครั้งที่ไปเที่ยวผับยามราตรีเมื่อหลายเดือนก่อน มาเยี่ยมเยียนเขาถึงที่ห้อง – ในคืนนั้น ที่ริมระเบียงเขาและเธอได้พูดคุยกัน ชื่นชมพระจันทร์เสี้ยวบนท้องฟ้า ที่มีเมฆหนาทึบลอยไปมา ทั้งสองพูดคุยกันอยู่ไม่นานนัก ก็ดูเหมือนว่ามือไม้ของเขาจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเสียแล้ว


และในคืนนี้เองที่เขาและเพื่อนสาวมีอะไรกัน ถึงแม้จะไม่มีการสอดใส่ก็ตาม แต่เธอก็ได้ใช้ปากอันอ่อนนุ่มช่วยให้เขาไปถึงจุดหมายปลายทางได้สำเร็จ เขาครุ่นคิดอยู่นานก่อนที่จะมีอะไรกับเธอ เพราะในตอนแรก ก่อนที่ร่างของทั้งเขาและเพื่อนสาวจะไปอยู่บนเตียง ทั้งสองได้พูดคุยกันว่าจะสามารถมีอะไรกันได้มากแค่ไหน และเธอเองก็บอกเขาว่ายังไม่พร้อม เขาพยักหน้ารับ เพราะเขาเองก็ยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบอะไรมากนัก จนในที่สุดทั้งสองก็ทำได้แค่เพียงกอดจูบและใช้ปากสื่ออารมณ์ของตนเท่านั้น


เพียงแค่สองวันที่เขาย้ายมาอยู่ที่ห้องพักแห่งนี้ ดูเหมือนว่าวิถีชีวิตทางเพศจะเลื่อนไหลมากขึ้น การอยู่คนเดียวครั้งนี้กับครั้งก่อนต่างกันมาก ครั้งก่อนเป็นช่วงที่เขายังไม่มีประสบการณ์อะไรมากนัก แต่ครั้งนี้ดูเหมือนประสบการณ์ทางเพศ ท่วงท่า จังหวะ ถ้อยทีถ้อยอาศัย เริ่มมีลวดลายมากขึ้น การอยู่คนเดียวในครานี้จึงต่างจากเมื่อก่อนมาก


เขาจำได้ดีว่า ผู้หญิงคนที่สามที่มีอะไรกับเขาในห้องนี้ มีที่มาจากการที่เขาและเพื่อนชายไปเที่ยวกัน และในค่ำคืนนั้นเอง เขาก็ได้พบกับรุ่นพี่คนหนึ่ง เธออายุมากกว่าเขาหลายปี ทั้งสองพูดคุยกันอย่างถูกคอในผับ ด้วยฤทธิ์ของน้ำเมาทำเอามือไม้ของเขาไม่อยู่กับที่ หญิงสาวมองเขาด้วยสายตาสิเน่หาและเย้ายวน เขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไร หากแต่เขาก็คิดเพียงว่าคืนนี้มีเฮแน่เรา!


และคืนนั้นเองที่เขาตัดสินใจ ขอให้หญิงสาวรุ่นพี่ช่วยไปส่งเขากลับห้องพัก รุ่นพี่ใจดียิ้มรับและอาสาพาเขาไปส่งยังห้องพัก...เมื่อไปถึงยังห้องพักแล้ว พี่สาวที่เพิ่งได้พบกันในค่ำคืนนี้ก็ขอตัวลากลับ เขารู้สึกเสียดาย ที่ระหว่างเขาและสาวรุ่นพี่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นดั่งที่เขาหวังไว้


ไม่กี่วันต่อมาหลังจากนั้น พี่สาวคนเดิมก็โทรศัพท์มาชวนเขาไปเที่ยว และทั้งสองคนได้ไปเที่ยวด้วยกัน เขาค่อนข้างจะชอบและรู้สึกดีที่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ๆ กับรุ่นพี่สาว คืนนี้อาการเมาของเขามีไม่มากนัก แม้ว่าปริมาณเหล้าจะหมดไปมากกว่าที่คิดไว้ ทว่าสุดท้ายฤทธิ์ของน้ำเมาและความหลงใหลในสาวรุ่นพี่คงผสมกัน จนทำให้ค่ำคืนนี้จบลงด้วยการมีอะไรกันของเขาและสาวรุ่นพี่ ที่ห้องนอนของเขา...


ภายหลังจากคืนนั้น ทั้งสองคนได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันในห้องเพื่อวาดรูป ทำโปสการ์ด ทำกับข้าวร่วมกัน จนหนึ่งเดือนให้หลัง รุ่นพี่สาวได้บอกกับเขาว่าเธอมีแฟนแล้วและบอกให้เขาทำใจ อย่าคิดมาก เป็นพี่น้องกันจะดีกว่า....จากนั้นมาเขาและเธอก็ไม่ได้เจอกันอีก แต่ทั้งสองก็ยังคงติดต่อพูดคุยกันทางโทรศัพท์อยู่บ้างนานๆ ครั้ง


ต่อมาไม่กี่เดือนจากนั้น เขาก็ได้ไปเที่ยวอีกครั้ง และครั้งนี้เอง เขาใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง หญิงสาวที่ไม่ได้รู้จักมักคุ้นอะไรกันมากนัก ก็กลับมาค้างคืนที่ห้องพักของเขาด้วยกัน เขารู้สึกหดหู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น และสิ่งที่ร้ายกว่านั้น ก็คือ เขาอ้างกับเธอว่าเขามีแฟนแล้วและกลัวว่าแฟนจะรู้ แต่แล้วหญิงสาวก็กลับบอกเขาว่า เธอก็มีแฟนอยู่แล้วเช่นกัน แต่สุดท้ายทั้งสองต่างก็ตกลงที่จะมีอะไรกัน และต่างก็จากกันด้วยดี


ช่วงหลังเหตุการณ์ดังกล่าว.....เขาเริ่มโทรศัพท์ไปหาแฟนคนแรกอีกครั้ง ทั้งคู่เริ่มพูดคุยกันด้วยดีอีกหน แม้ว่าเธอจะกำลังคบกับแฟนคนใหม่อยู่ก็ตาม แต่เขาก็พยายามที่จะหาโอกาสที่จะได้พบกับเธออยู่เสมอ ทั้งกินข้าว ดูหนัง หรือแม้แต่ไปเที่ยวด้วยกันก็ตาม ดูเหมือนว่าเวลาที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง หรือเวลาที่ได้สบตาและสัมผัสเนื้อตัวกัน ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดำเนินไปเหมือนอย่างที่ทั้งคู่เคยเป็น เคยทำด้วยกัน เพียงแต่ว่าการกระทำในครั้งนี้ เป็นเวลาที่เธอมีแฟนใหม่แล้ว และเขาก็ไม่ต่างอะไรกับมือที่สาม


เมื่อคิดได้ว่าสิ่งที่กำลังกระทำอยู่ไม่ดี เขาจึงหยุดการกระทำทุกอย่าง ไม่พูด ไม่คุย ไม่ติดต่อกับแฟนคนแรกอีกเลย....


ไม่นานนักเขาก็ปิดกั้นตัวเองอีกครั้ง...ไม่คบ ไม่คุย กับผู้หญิงคนไหนอยู่นานหลายเดือน จนผู้หญิงอีกคนที่เขารู้จักในผับ นั่นคือ รุ่นพี่สาว ซึ่งเธอคนนี้ก็ได้เข้ามาทักทายและพูดคุย เลี้ยงเหล้าให้กับเขาตอนที่ไปเที่ยวด้วยกัน ทั้งสองมีอะไรกัน และหลังจากนั้น รุ่นพี่สาวก็บอกเขาเสมอว่า เขากับเธอเป็นแฟนกันแล้ว หากแต่สำหรับเขาแล้ว เธอเป็นเพียงพี่สาวคนหนึ่ง ที่เคยมีอะไรกัน และเป็นที่พึ่งเมื่อยามที่อีกฝ่ายมีปัญหา


ช่วงหลังๆ มานี้ เขาสับสนกับตัวเองมาก เหมือนว่าเขากำลังอยู่ในวังวนของความลุ่มหลงอะไรบางอย่าง แม้ว่าเขาจะมีความสุขที่ได้คบหาและมีเซ็กส์กับผู้หญิงหลายคน แต่สุดท้ายเขาและเธอก็เหมือนเป็นเพียงแค่ทางผ่านของกันและกันเท่านั้น มีผู้หญิงหลายคนที่เขาคบและไม่ได้มีเซ็กส์ด้วย พวกเธอเหล่านั้นมีความแตกต่างกันไปตามความคิด มุมมอง และท่าที


หลายคนที่เคยมีอะไรกันหรือเคยคบกันกับเขา เมื่อสิ้นสุดความสัมพันธ์ เขาและเธอก็ยังคงติดต่อ พูดคุย รู้จักกันอยู่ ไม่ได้เลิกราห่างเหินกันเลย เพียงแต่ว่าแต่ละคนต้องรักษาระดับความสัมพันธ์ไว้ไม่ให้อารมณ์ความรู้สึกเดิมๆ มันหวนคืนให้จุดติดเหมือนน้ำมันกับไฟ


แน่นอนว่า มันมีอะไรซับซ้อนมากมายกว่าที่เราคิดเสียอีก สำหรับเรื่องของคนสองคน ซึ่งจริงๆ แล้วมันเกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ เสมอ ทุกครั้งที่เขามีอะไรกับคู่สัมพันธ์ ความรู้สึกแรกที่คิดถึงเสมอคือ “ความปลอดภัย” และ “ความยินยอม” ของแต่ละคน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ มันช่วยทำให้ชีวิตทางเพศของแต่ละคนมีความสุขและพอใจร่วมกันๆ กัน และได้ทำให้ความปลอดภัยและยินยอมยังอยู่ในความคิดของแต่ละคนด้วย


เมื่อเรื่องเหล่านี้ฝังอยู่ในใจ ก็จะเกิดเป็นสำนึกให้ตระหนักอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมีอะไรกับใคร สำหรับเขาแล้ว เขาไม่อายเลยที่จะพูดคุยเรื่องการป้องกันกับแต่ละคน ไม่ว่าหญิงคนแรกหรือคนต่อมาก็ตาม ทั้งที่มีอะไรกันข้างในหรือนอกห้อง 415 ก็ตาม


วันนี้, วันที่เขาเก็บข้าวของออกจากห้อง 415 จึงเป็นวันที่เขานึกย้อนถึงอดีตด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่เกิดจากความสุข รอยยิ้มที่เกิดจากการพูดคุยเรื่องเพศอย่างเปิดเผยกับคู่แต่ละคน รอยยิ้มที่เกิดจากความปลอดภัยและยินยอมในความสัมพันธ์


เป็นรอยยิ้มที่เกิดขึ้นหน้าห้องที่เขายืนมองด้านในด้วยแววตาปีติ


ด้านหน้าห้องที่เขายืนอยู่, เขาค่อยๆ เอื้อมมือขวาไปปิดประตูห้องอย่างเบาๆ หมายเลขห้อง 415 ติดตรงประตู บอกให้เขารู้ว่าเรื่องราวตลอดระยะเวลาสี่ปีของเขากับหญิงสาวห้าคนกำลังจะผ่านไปและเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเขาคิดว่ามันเป็นบทเรียนที่มีค่ามากๆ สำหรับชีวิตที่เขาเลือก แม้ว่าสังคมจะยังไม่ค่อยยอมรับในความรักระหว่างเขากับหญิงคนอื่นๆ ก็ตาม แต่เขาก็เชื่อมั่นเสมอมาว่า “รักเพศเดียวกันคือทางเลือกของความรัก”


ชีวิตหญิงรักหญิงที่เลือกแล้ว ของ “แนน” ย่อมมีมากกว่าเรื่องในห้อง 415 อย่างแน่นอน....

 

 

 

บล็อกของ กิตติพันธ์ กันจินะ

กิตติพันธ์ กันจินะ
กิตติพันธ์ กันจินะ บางทีแล้วการที่เราออกมาทำกิจกรรมเพื่อสังคมนั้น มันก็มีรูปแบบที่หลากหลายแตกต่างกันไปตามบริบทของการทำงานและพื้นที่สภาพแวดล้อม ซึ่งนั่นล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการทำงานของกลุ่มคนที่มากมายหลายประเภทเฉกเช่นดอกไม้ในสวนน่ายล ท่ามกลางบรรยากาศสังคมอมยิ้มไม่ออกเช่นนี้ เยาวชนคนหนุ่มสาวก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่เข้าไปอยู่ในบริบทของความย้อนแย้งขัดเกลาเราเขาเช่นนี้ กล่าวคือมีทั้งเยาวชนที่เห็นด้วยกับแนวทางของซีกพันธมิตร และเยาวชนที่ไม่เห็นด้วยก็มีมาก ส่วนกลุ่ม “สองไม่เอา” นั่นก็มีไม่น้อย ทว่า กลุ่มที่ดูจะมีคือ “กรูไม่เอาสักอย่าง” เสียอีกที่มีเยอะ
กิตติพันธ์ กันจินะ
กิตติพันธ์ กันจินะความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นเมื่อมีการชุมนุมของพี่ๆ ทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ และ กลุ่มต้านพันธมิตรฯ คือ “อีกแล้วเหรอ”  ซึ่งเป็นความรู้สึกที่กลัวว่าเหตุการณ์จะนำพาไปสู่เหตุการณ์ “รัฐประหาร” เหมือนเมื่อครั้งปี 2549 อีกหนที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรฯ ถูกมองว่า เป็น “เงื่อนไข” สำคัญที่ทำให้เกิดการรัฐประหารในครั้งล่าสุด แถมยังไม่ค่อยมีบทบาทมากนักในการต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการแต่งตั้งเลยแม้แต่นิด ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่คนอื่นๆ ทั่วไป เขาจะมองว่ากลุ่มพันธมิตร เอาดี เห็นงาม กับการทำให้เกิดเหตุการณ์เยี่ยงนั้นสำหรับนักประชาธิปไตยอีกฝากแล้ว…
กิตติพันธ์ กันจินะ
กิตติพันธ์ กันจินะ หลายวันที่ผ่านมาผมและเพื่อนๆ หลายคน ที่ติดตามข่าวเรื่องการชุมนุมของ “พันธมิตร” ต่างใจจดใจจ่ออยู่กับจุดมุ่งหมายท้ายสุดที่จะเดินไปถึง พร้อมๆ กับกระแสข่าวการ “ปฏิวัติ” ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็เชื่อมั่นว่าการชุมนุมโดย “สันติ” อย่างมี “สติ” เป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนที่สามารถดำเนินการได้ แต่การสลายการชุมนุมโดยการใช้ “ความรุนแรง” ที่ “ไร้สติ” นั้นเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์และปรารถนายิ่งนัก
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัย1“ขอโดลเช่ เดอ ลาเช่ ขนาดกลางแก้วหนึ่งค่ะ เพิ่มกาแฟอีกชอตและะ No whip cream ค่ะ อ้อ! ขอแบบไลท์ด้วยนะคะ Low Calories ด้วย ขอบคุณค่ะ” เฮือก! โล่งอก! ฉันพูดประโยคยาวยืดนี่จบซะที! จะมีใครรู้ไหมนะว่าฉันต้องฝึกพูดคำว่า “โดลเช่ เดอ ลาเช่” มาตั้งกี่ครั้งกว่าจะมาเสนอหน้าสั่งกาแฟชื่อประหลาดอย่างคล่องปากนี่ได้ แต่คริๆ...คงไม่มีใครรู้หรอก เพราะฉันวางมาดดีไม่มีหลุดราวกับเรียนการแสดงจากครูแอ๋วมาเสียขนาดนี้ ใครๆก็ดูแต่เปลือกกันทั้งนั้นแหละเธอ! เอาล่ะ สะบัดบ๊อบไปนั่งรอกาแฟได้แล้วย่ะยัยมาริยา อ๊ายส์! จ่ายเงินก่อนสิยะเธอ!!  ฉันใช้ริมฝีปากที่ทาลิปสติค Christian Dior อย่างบรรจง ค่อยๆ ดูดกาแฟ…
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัยปล. คาวีเป็นชื่อพระเอกในละครตบจูบเรื่อง “สวรรค์เบี่ยง” ทางช่อง 3 ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้สวัสดีค่ะ คุณคาวี พักนี้มีข่าวข่มขืนขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์กันพรึ่บพรั่บ ราวกับคนในบ้านเมืองของเราร่วมแรงแข็งขัน (และแข่งขัน) กันข่มขืนเป็นเมกะโปรเจ็กต์ ตั้งแต่รุ่นเด็กประถมยันอาจารย์มหาวิทยาลัย ดูแล้วชวนห่อเหี่ยวละเหี่ยใจเสียฉิบ ไม่ยักเหมือนเวลาดูคุณคาวีข่มขืนเลยนะคะ ดูแล้วได้ความบันเทิงเริงเมืองปนโรแมนติค ก็แหม…เวลาพูดถึงคนร้ายข่มขืนผู้หญิงทีไร ใครๆ ก็นึกถึงแต่ผู้ชายตัวดำๆ ไว้หนวดเครารุงรัง หน้าเถื่อนๆ ยืนดักอยู่ตามซอกตึก เหม็นกลิ่นเหล้าคุ้งเคล้ากลิ่นเหงื่อปนกลิ่นคาวปลาตามตัว…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมต้องคิดหนักและเหนื่อยกับการใช้พลังในการพัฒนาโครงการ “กล้าเลือก กล้ารับผิดชอบ” ของเครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ ประเทศไทย โครงการนี้เป็นโครงการที่จะสร้างกลไกระดับพื้นที่เพื่อรณรงค์ สร้างความเข้าใจเรื่องเอดส์ เพศศึกษาอย่างรอบด้าน และสนับสนุนให้เยาวชน ตระหนักและมีทัศนคติที่ดีในการเรียนรู้เรื่องการป้องกันเอดส์ รู้จักประเมินความเสี่ยงของตนเอง และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเพศของตนให้ปลอดภัยผ่านการดำเนินการกับกลุ่มเครือข่ายเยาวชนในพื้นที่ 8 กลุ่ม ใน 20 จังหวัดกระจายไปในภาคต่างๆ ซึ่งจะต้องดำเนินการตลอดระยะเวลา 12 เดือน…
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัย
กิตติพันธ์ กันจินะ
ประมาณวันที่ 14 เมษายน 2551 นี้ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550  ก็จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ หลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวและได้มีประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2551ส่งผลให้ต้องมีการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกลุ่ม องค์กร เยาวชน องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับพื้นที่ อย่างขะมักเขม้นอย่างไรก็ตามสำหรับเจตนารมณ์แล้ว กฎหมายฉบับดังกล่าวมีขึ้นมาเพื่อให้เกิดกลไกการสนับสนุนการมีส่วนร่วมและพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมทั้งภาครัฐและเอกชน…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ผมได้แรงบันดาลจากการเขียนเรื่องนี้จากภาพยนตร์เรื่อง “ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น” หนังใหม่ ที่กำลังฉายในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านท่านๆ ว่ากันด้วยเรื่องของเนื้อหาในหนังนั้น ผมก็ยังไม่ได้ไปชม เพียงแต่ดูเนื้อในจากเว็บไซต์ก็พอสรุปคร่าวๆ ได้ว่าภาพยนตร์นี้เป็นเรื่องราวของวัยรุ่น 4 วัยในความรัก 4 มุม ทั้ง รักที่ต้องแย่งกัน รักนักร้องดาราคนโปรด รักนอกใจ และรักข้างเดียว ....อืม เอาเป็นว่า ใครอยากรู้เรื่องมากขึ้นลองเข้าเว็บไซต์ www.pidtermyai.com  ดูแล้วกันนะครับในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเสนอชีวิตที่เกิดขึ้นของวัยรุ่นจำนวนหนึ่งในช่วงปิดเทอมใหญ่ ซึ่งบางคนก็ใช้เวลาไปแข่งกันขอเบอร์ผู้หญิง…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ใครจะไปรู้ว่าเทคโนโลยีบางอย่างจะทำให้เราไม่พลาดการสื่อสารที่สำคัญได้จริงๆ เรื่องเกิดเมื่อวันหนึ่ง, ขณะที่ผมกำลังออนไลน์โปรแกรมแชทยอดนิยมนั้น พี่ต้าร์ (วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ แห่งกลุ่ม Y-ACT) ก็ได้เข้าโปรแกรมออนไลน์ MSN จากในค่ายแห่งหนึ่ง ณ สวนแสนปาล์ม นครปฐม ซึ่งเป็นการอบรมนักศึกษาอาชีวศึกษากว่า 30 สถาบัน  “อยากดูป่ะ” พี่ต้าร์ถามและได้เปิดโปรแกรมวิดีโอออนไลน์ขึ้นมาผมตอบว่าอยาก – สักพัก ภาพเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ พี่ๆ ได้ปรากฏออกมา และมีภาพของเพื่อนๆ เยาวชนที่เข้าร่วมค่ายกำลังทำกิจกรรมอย่างสนุกสนานผมถามพี่ต้าร์ว่ามาทำอะไรกัน?พี่ต้าร์ บอกว่า “วันนี้น้องอาชีวะกว่า สามสิบสถาบัน…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ในที่สุดนายกทักษิณ ก็ได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน หลังจากที่ต้องเร่ร่อนรอนแรมอยู่ต่างประเทศตั้งปีกว่า กลับมาหนนี้ถือว่าได้กลับมาพิสูจน์ตัวเองในคดีต่างๆ ที่ตกเป็นจำเลย และยังได้กลับมาอยู่ใกล้ครอบครัวของตนเสียด้วย ยังไม่นับรวมถึงการที่จะต้องเข้ามาเคลียร์เรื่องอะไรอีกหลายอย่างที่เกิดขึ้นภายในพรรคและการเมืองที่ยังไม่ค่อยลงตัวสักเท่าใดนัก  ผมดูการกลับมาของคุณทักษิณ แล้วนึกถึงชีวิตของเด็กๆ ที่เร่ร่อนไร้บ้านอีกหลายคน ที่ต่างก็พเนจรไปในที่ต่างๆ ไม่ได้กลับบ้าน หรือบ้างก็ไม่มีบ้านอยู่อาศัย ซึ่งชะตากรรมของเขาหลายๆ คน ถือว่า "หนัก" กว่าคุณทักษิณหลายเท่า…
กิตติพันธ์ กันจินะ
  หลังจากที่โครงการเยาวชนไทยไม่ทอดทิ้งสังคม หรือ โครงการเยาวชน1000ทาง 1 ได้ดำเนินการมาจนจบวาระหนึ่งปีก็ถือว่าเรียนจบครบเทอมพอดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทีมงานหลายคนต่างได้รับความรู้และประสบการณ์ในการทำงานเพื่อสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนเข้ามาทำกิจกรรมเพื่อสังคมมากยิ่งขึ้น แม้ว่าโครงการเยาวชน1000ทาง จะเกิดจากความร่วมมือของเครือข่ายเยาวชนที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคมมาหลายปี แต่สำหรับประเทศไทยนั้นนับว่ามีโครงการที่สนับสนุนกิจกรรมของเยาวชน "มือใหม่" ไม่มากนัก ฉะนั้นโครงการเยาวชน1000ทาง ถือว่าเป็นโครงการที่ภาครัฐสนับสนุนให้เกิดการทำงานโดยเยาวชนดำเนินการ มีผู้ใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นที่ปรึกษาการทำงาน…