โลกเปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ ความสัมพันธ์ทางเพศของมนุษย์มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ในสังคมสมัยก่อน เช่น ในภาคเหนือ การจีบสาวของคนล้านนาจะมีการค่าว (คล้ายลำตัดของภาคกลาง) ตอบโต้กันไปมา การจีบกันต้องให้เกียรติผู้หญิงเป็นคนเลือกคู่ หรือหากจะแต่งงานก็ต้องมีการใส่ผี คือการวางเงินสินสอดจากฝ่ายชายเพื่อบอกกับผีปู่ผีย่าของฝ่ายหญิงให้ทราบว่าจะคบกันแบบสามีภรรยา
ขณะที่เรื่องเพศในปัจจุบันมีความแตกต่างออกไปตามสภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคม ความสัมพันธ์ทางเพศมีความแปลกใหม่ทั้งรูปแบบ และเนื้อหาที่หลากหลายขึ้น อาทิ รักเดียวใจเดียว รักนวลสงวนตัว รักเพศเดียวกัน รักต่างเพศ มีเซ็กส์ทางโทรศัพท์ เซ็กส์ทางอินเตอร์เน็ต มีเพศสัมพันธ์โดยไม่สอดใส่ การช่วยเหลือตัวเอง รักนอกสมรส คบหากันโดยไม่แต่งงาน หรือหากเกี่ยวกับวัยรุ่นก็อาจมีการฝังมุกในอวัยวะเพศชาย และการใส่แส้ม้ากับอวัยวะเพศชายในขณะมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น
ในที่ประชุมแห่งหนึ่ง ผู้เข้าร่วมประชุมเล่าว่า เขาเคยมีเซ็กส์ทางอินเตอร์เน็ตกับคนที่ไม่เคยพบหน้ามาก่อน ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นส่ายหน้า มองอย่างสงสัย และแสดงสายตาอย่างรับไม่ได้
ทำไมจึงเกิดอาการรับไม่ได้หรือไม่ยอมรับ?
มีคำอธิบายจากพี่ที่รู้จักคนหนึ่งว่า รูปแบบเพศสัมพันธ์ที่ได้รับการยอมรับจากสังคมคือ หนึ่งต้องเป็นเพศสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิง สองต้องเป็นเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการแต่งงาน สามต้องเป็นเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากความโรแมนติกของชายหญิง สี่เป็นเพศสัมพันธ์เพื่อการอนามัยเจริญพันธ์ และห้า เป็นเพศสัมพันธ์ที่ไม่ผาดโผน เป็นต้น นอกจากนี้ขอเสริมว่าต้องเป็นเพศสัมพันธ์ของผู้ใหญ่เท่านั้น
ดังนั้นหากมีใครบอกว่ามีเพศสัมพันธ์กับคนรักเพศเดียวกัน หรือมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน หรือเป็นเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่น หรือมีกับคนที่ไม่ได้รู้จักกันเลยผ่านทางอินเตอร์เน็ต นั่นจึงเป็นที่มาของแววตาสงสัย และหันหัวส่ายหน้าต่อพฤติกรรมที่ว่ามานี้
อย่างไรก็ตาม แม้เพศวิถีในปัจจุบันจะมีหลายรูปแบบ แต่ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเพศสัมพันธ์โดดๆ เพราะการที่คนๆ หนึ่งจะมีความสัมพันธ์อย่างไร กับใคร ใช่ว่าจะทำได้เลย หากยังคำนึงถึงเงื่อนไข สภาพแวดล้อม และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาภายหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งนั้นด้วย
ทั้งนี้เมื่อเราย้อนมองดูปรากฏการณ์ทางเพศของวัยรุ่น หากผู้ใหญ่มองว่าวัยรุ่นสมัยนี้มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุยังน้อย มีคู่มาก หรือมีรูปแบบที่ต่างกันออกไป ผู้ใหญ่ก็อาจจะต้องคำนึงด้วยว่าเพศสัมพันธ์และความสัมพันธ์ทางเพศนั้นมีเงื่อนไขต่างๆ เป็นตัวกำหนดเช่นกัน ไม่ควรตัดสินว่าพฤติกรรมวัยรุ่นเป็นปัญหา หรือตีตราว่าเป็นเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
ผลจากความคิดของผู้ใหญ่ที่มองวัยรุ่นเป็นปัญหา ส่งผลทำให้วัยรุ่นบางคนมองว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ไม่อยากเชื่อฟังผู้ใหญ่ หรืออาจแสวงหาความรักและความรู้เรื่องเพศที่ผิดๆ จากที่อื่น ที่ไม่ใช่จากพ่อ แม่ หรือครู ซึ่งมีผลทางอ้อมที่ทำให้เขามีความรู้ไม่รอบด้าน จนนำไปสู่เซ็กส์ที่ไม่ได้ป้องกัน
เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าผู้ใหญ่ยังห่วงใยวัยรุ่น และไม่อยากให้เกิดช่องว่างระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ ก็อาจต้องยอมรับและเข้าใจต่อเพศวิถีของวัยรุ่นที่เป็นอยู่ และในรูปแบบที่แปลกใหม่และแตกต่างกว่าเดิมในอนาคตข้างหน้า แล้วมาร่วมกันคิดหาวิธีการ ‘ที่เป็นมิตร’ ที่ผู้ใหญ่จะสื่อสารเรื่องเพศกับวัยรุ่น เพื่อให้วัยรุ่นมีคุณภาพชีวิตที่ปลอดภัยและรับผิดชอบ