Skip to main content

มาริยา มหาประลัย

20080507 สวรรค์เบี่ยง

ปล. คาวีเป็นชื่อพระเอกในละครตบจูบเรื่อง “สวรรค์เบี่ยง” ทางช่อง 3 ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้

สวัสดีค่ะ คุณคาวี

พักนี้มีข่าวข่มขืนขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์กันพรึ่บพรั่บ ราวกับคนในบ้านเมืองของเราร่วมแรงแข็งขัน (และแข่งขัน) กันข่มขืนเป็นเมกะโปรเจ็กต์ ตั้งแต่รุ่นเด็กประถมยันอาจารย์มหาวิทยาลัย ดูแล้วชวนห่อเหี่ยวละเหี่ยใจเสียฉิบ

ไม่ยักเหมือนเวลาดูคุณคาวีข่มขืนเลยนะคะ ดูแล้วได้ความบันเทิงเริงเมืองปนโรแมนติค

ก็แหม…เวลาพูดถึงคนร้ายข่มขืนผู้หญิงทีไร ใครๆ ก็นึกถึงแต่ผู้ชายตัวดำๆ ไว้หนวดเครารุงรัง หน้าเถื่อนๆ ยืนดักอยู่ตามซอกตึก เหม็นกลิ่นเหล้าคุ้งเคล้ากลิ่นเหงื่อปนกลิ่นคาวปลาตามตัว...อี๋!!! เหม็นสาปความจน! ไม่เหมือนคุณคาวีนี่คะ ขาวตี๋รวยหล่อหอเจี๊ยะน่าหม่ำซะขนาดนั้น อุ๊ย! เขิน...

ชีวิตคุณคาวีนั้นเล่าก็น่าสงสารยิ่งนัก พ่อก็ไม่รัก เลยมีปมเป็นคนขาดความอบอุ่น ขวางโลก แสดงความรักไม่เป็น ต้องหาทางออกด้วยการข่มขืนผู้หญิง อะไรไม่ได้ดั่งใจเป็นได้อาละวาดฟาดงวงฟาดงาใส่ ต๊าย! หล่อแต่เลวนะคะเนี่ย!   

แต่ถึงคุณจะโง่สมกับเป็นพระเอกละครไทยขนาดนี้ แต่ยังไงเสียทั้งนางเอกและคนดูก็รักและพร้อมจะเข้าใจคุณเสมอว่าที่คุณทำไปก็เพราะความแค้น อีหรอบเดียวกับที่ประคบประหงมความเข้าใจให้เพื่อนของคุณ อย่างคุณหฤษฎิ์จาก “จำเลยรัก” คุณพินิจนัยจาก “ลิขิตกามเทพ” และจากอีกสารพัดละครไทย  

ตัดภาพฉับมาที่ข่าวแรงงานต่างด้าวข่มขืนหญิงไทย ข่าวมอเตอร์ไซค์รับจ้างกระชากสวาทนักศึกษา ฯลฯ ไม่ยักกะเห็นคนจะพยายามค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของอาชญากรรมดังกล่าว นอกจากโดยด่วนสรุปว่าเป็นคนหื่นห่าเป็นสันดาน แทนที่จะพยายามใช้โอกาสนี้เข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริง และนำสาเหตุที่แท้จริงนั้นมาใช้ป้องกันและแก้ไขการข่มขืนได้ต่อไป

“เป็นผู้หญิงอย่าแต่งตัวโป๊ อย่าเดินในที่เปลี่ยวๆคนเดียว” คือคาถาสามัญประจำบ้านที่เราใช้กันตลอด คุณคาวีและพระเอกละครจอมข่มขืนอีกหลายคนฟังแล้วคงหัวเราะก๊าก เพราะนางเอกที่คุณข่มขืนกันไม่เห็นต้องลงทุนแต่งตัวโป๊กันสักนาง คุณก็ข่มขืนได้ แถมต่อให้คุณเลวต่อเธอแค่ไหน สุดท้ายเธอก็รัก แหม...ไม่ต้องเรียน MBA ก็รู้ว่าการลงทุนของคุณคุ้มค่ายิ่งกว่ากักตุนเงินดอลลาร์เพื่อเก็งกำไรเมื่อปี ‘40!

ต๊าย! แล้วนี่สมมติผู้หญิงสวยและชอบแต่งตัวเซ็กซี่ถูกข่มขืน แปลว่าหล่อนสมควรแล้วที่จะโดนกระทำระยำตำบอนใช่ไหมคะ! แปลว่าหล่อนหาที่เองใช่ไหมคะ! แปลว่าการข่มขืนผู้หญิงแต่งตัวโป๊เป็นความชอบธรรมใช่ไหมคะ! ชิมิเคอะ!!!

คนเขาชอบโทษกันว่าผู้หญิงเราแต่งตัวโป๊เพราะรับสื่อตะวันตกมาก แล้วที่ผู้ชายไทยชอบข่มขืนผู้หญิงนี่เพราะรับสื่อบ้านตัวเองมากไปไหมคะเนี่ย!

แต่แหม...จะว่าแต่ผู้ชายก็คงไม่ถูก เพราะละครที่ผลิตขึ้นมาให้พระเอกข่มขืนนางเอกเนี่ย คนแต่งก็นักเขียนผู้หญิง แถมคนดูคนอ่านคนชอบก็ผู้หญิง เอ๊ะ! คิดแล้วงงว่าตกลงผู้หญิงอยากโดนข่มขืนกันรึไง คุณคาวีงงเหมือนดิฉันไหมคะ  

ฟากหนึ่งเราบอกว่าการข่มขืนเป็นสิ่งเลวทรามต่ำช้า แต่อีกฟากหนึ่งเราก็ติดละครที่พระเอกข่มขืนนางเอกกันอย่างงอมแงม เมื่อไรหนอคุณภาคย์จะปล้ำดาวพระศุกร์ อุ้ย! วันนี้โกโบริจะปล้ำอังศุมาลินแล้วต้องรีบกลับบ้านไปดูคนโดนเอา เปิดไปหน้าข่าวบันเทิงในหนังสือพิมพ์เราก็อ่านเบื้องหลังการถ่ายทำฉากพระเอกปล้ำนางเอก ฯลฯ

ก็ไม่แปลกหรอกที่คนดูจะชอบคุณ คนคัดนักแสดงเขาอ่านเกมขาดจะตายไป ก็ทั้งบรรดานักแสดงชายที่มาเล่นบทพระเอกจอมข่มขืนน่ะ ล้วนแต่เป็นผู้ชายที่มีภาพลักษณ์อบอุ่น น่าซบกันทั้งนั้น คนที่ดูอบอุ่นลงตัวเป็นผู้ชายในฝันอย่างเคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ หรือมาร์ท กฤษฎา พรเวโรจน์แบบนี้มาข่มขืนผู้หญิงมันคง “น่าดู” และทำให้การข่มขืนดู “เบา” กว่าให้คนดูเห็นกรรมกรตัวดำเมื่อมมาข่มขืนเยอะ อู๊ย! แค่คิดว่าเป็นพี่เคนดิฉันก็ทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วค่า!  

แถมพระเอกที่ชอบข่มขืนนางเอกแต่ละคนก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ลากมากดีมีอันจะกินทั้งนั้น ใครกันหนอไปจินตนาการว่าผู้ร้ายข่มขืนคนน่ะต้องจน ต้องขี้ยา ขี้เมา และขี้เอาเสมอไป ไม่จริ๊ง! ดิฉันขอขึ้นเสียงสูงเถียงสุดขาดใจดิ้น ไอ้ครั้นเรื่องไหนพระเอกติดเกาะกับนางเอกสองต่อสอง อู๊ย! โรแมนติคค่ะ! เนื้อแนบเนื้อ มีเพียงหาดทราย ทะเล สายลมและสองเราเอากันเคล้าเสียงคลื่นครืนๆ ต๊าย! อะไรก็ดูจะเป็นใจเสียจริง ขนาดจะข่มขืนกันทั้งทียังโรแมนติคเลยค่ะ! คิดดูสิคะ หลังแนบทรายยังไง้...ยังไงก็โรแมนติคกว่าโดนหลังแนบพงหญ้าหรือดงอ้อยอย่างในข่าวเห็นๆ

ต๊าย!...เขายังเรียกฉากพระเอกข่มขืนนางเอกว่า “เลิฟซีน” เชียวนะคะ คุณคาวีช่วยตอบให้ดิฉันหายข้องใจหน่อยสิคะว่า คนโดนข่มขืนนี่มันเลิฟกันยังไง(ฟะ)!

คุณคาวีว่าสังคมไทยเรานี่เสพติดการข่มขืนหรือเปล่าคะ แต่แหม...ครั้นจะรังเกียจการข่มขืนก็ชิงชังเฉพาะการที่คนที่ “วรรณะ” ต่ำกว่าเรามาข่มขืน เช่น คนที่ฐานะต่ำกว่ามาข่มขืนเรา เดี๋ยวเนื้อตัวเราจะแปดเปื้อนความจน ผู้หญิงแต่งตัวโป๊น่ะเหรอคะ โดนไปเถอะค่ะ กิ๊วๆ! สมน้ำหน้ากะลาหัวเจาะ! แต่ถ้าคนรวยๆ หล่อๆ อย่างคุณคาวีมาข่มขืนเราน่ะเหรอคะ ไม่ค่ะ...ไม่มีปัญหาค่ะ อย่าค่ะ...อย่าช้า! กำลังโรแมนติค!!!   

ก็ไม่แปลกหรอกนะคะถ้ามีเด็กมีคุณคาวีเป็นไอดอล โตขึ้นอยากเป็นพระเอก จะได้ข่มขืนนางเอกได้ง่ายๆ ดิฉันว่ามันก็สมเหตุสมผลอยู่มิใช่น้อย

แต่หนูจ๋า เป็นพระเอกอย่างเดียวไม่พอหรอกลูก คุณพี่มาริยาคนสวยขอเสริมว่าต้องเป็นพระเอกที่รวยด้วยนะจ๊ะ จะได้ข่มขืนนางเอกได้ทั้งอย่าง “ชอบทำ” และ “ชอบธรรม” ดังนั้น ส่วนถ้าเห็นผู้หญิงแต่งตัวโป๊ล่ะก็ปล้ำแม่งเลย ส่วนน้องผู้หญิง จำไว้นะคะว่า โดนทั้งทีต้องเอาให้รวยหน่อย เปลี่ยนพรหมจรรย์ให้เป็นทุนเลยค่ะหนูขา!   

ขอเกทับกันล่วงหน้าเลยค่ะว่า คุณคาวีได้ตกกระป๋องแน่ เพราะต่อไปสวรรค์เบี่ยงของคุณคงเอียงกะเท่เร่สู้สังคมของฉันไม่ได้ ความเน่ามันคนละชั้นกันย่ะ! 

บล็อกของ กิตติพันธ์ กันจินะ

กิตติพันธ์ กันจินะ
กิตติพันธ์ กันจินะ บางทีแล้วการที่เราออกมาทำกิจกรรมเพื่อสังคมนั้น มันก็มีรูปแบบที่หลากหลายแตกต่างกันไปตามบริบทของการทำงานและพื้นที่สภาพแวดล้อม ซึ่งนั่นล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการทำงานของกลุ่มคนที่มากมายหลายประเภทเฉกเช่นดอกไม้ในสวนน่ายล ท่ามกลางบรรยากาศสังคมอมยิ้มไม่ออกเช่นนี้ เยาวชนคนหนุ่มสาวก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่เข้าไปอยู่ในบริบทของความย้อนแย้งขัดเกลาเราเขาเช่นนี้ กล่าวคือมีทั้งเยาวชนที่เห็นด้วยกับแนวทางของซีกพันธมิตร และเยาวชนที่ไม่เห็นด้วยก็มีมาก ส่วนกลุ่ม “สองไม่เอา” นั่นก็มีไม่น้อย ทว่า กลุ่มที่ดูจะมีคือ “กรูไม่เอาสักอย่าง” เสียอีกที่มีเยอะ
กิตติพันธ์ กันจินะ
กิตติพันธ์ กันจินะความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นเมื่อมีการชุมนุมของพี่ๆ ทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ และ กลุ่มต้านพันธมิตรฯ คือ “อีกแล้วเหรอ”  ซึ่งเป็นความรู้สึกที่กลัวว่าเหตุการณ์จะนำพาไปสู่เหตุการณ์ “รัฐประหาร” เหมือนเมื่อครั้งปี 2549 อีกหนที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรฯ ถูกมองว่า เป็น “เงื่อนไข” สำคัญที่ทำให้เกิดการรัฐประหารในครั้งล่าสุด แถมยังไม่ค่อยมีบทบาทมากนักในการต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการแต่งตั้งเลยแม้แต่นิด ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่คนอื่นๆ ทั่วไป เขาจะมองว่ากลุ่มพันธมิตร เอาดี เห็นงาม กับการทำให้เกิดเหตุการณ์เยี่ยงนั้นสำหรับนักประชาธิปไตยอีกฝากแล้ว…
กิตติพันธ์ กันจินะ
กิตติพันธ์ กันจินะ หลายวันที่ผ่านมาผมและเพื่อนๆ หลายคน ที่ติดตามข่าวเรื่องการชุมนุมของ “พันธมิตร” ต่างใจจดใจจ่ออยู่กับจุดมุ่งหมายท้ายสุดที่จะเดินไปถึง พร้อมๆ กับกระแสข่าวการ “ปฏิวัติ” ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็เชื่อมั่นว่าการชุมนุมโดย “สันติ” อย่างมี “สติ” เป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนที่สามารถดำเนินการได้ แต่การสลายการชุมนุมโดยการใช้ “ความรุนแรง” ที่ “ไร้สติ” นั้นเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์และปรารถนายิ่งนัก
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัย1“ขอโดลเช่ เดอ ลาเช่ ขนาดกลางแก้วหนึ่งค่ะ เพิ่มกาแฟอีกชอตและะ No whip cream ค่ะ อ้อ! ขอแบบไลท์ด้วยนะคะ Low Calories ด้วย ขอบคุณค่ะ” เฮือก! โล่งอก! ฉันพูดประโยคยาวยืดนี่จบซะที! จะมีใครรู้ไหมนะว่าฉันต้องฝึกพูดคำว่า “โดลเช่ เดอ ลาเช่” มาตั้งกี่ครั้งกว่าจะมาเสนอหน้าสั่งกาแฟชื่อประหลาดอย่างคล่องปากนี่ได้ แต่คริๆ...คงไม่มีใครรู้หรอก เพราะฉันวางมาดดีไม่มีหลุดราวกับเรียนการแสดงจากครูแอ๋วมาเสียขนาดนี้ ใครๆก็ดูแต่เปลือกกันทั้งนั้นแหละเธอ! เอาล่ะ สะบัดบ๊อบไปนั่งรอกาแฟได้แล้วย่ะยัยมาริยา อ๊ายส์! จ่ายเงินก่อนสิยะเธอ!!  ฉันใช้ริมฝีปากที่ทาลิปสติค Christian Dior อย่างบรรจง ค่อยๆ ดูดกาแฟ…
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัยปล. คาวีเป็นชื่อพระเอกในละครตบจูบเรื่อง “สวรรค์เบี่ยง” ทางช่อง 3 ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้สวัสดีค่ะ คุณคาวี พักนี้มีข่าวข่มขืนขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์กันพรึ่บพรั่บ ราวกับคนในบ้านเมืองของเราร่วมแรงแข็งขัน (และแข่งขัน) กันข่มขืนเป็นเมกะโปรเจ็กต์ ตั้งแต่รุ่นเด็กประถมยันอาจารย์มหาวิทยาลัย ดูแล้วชวนห่อเหี่ยวละเหี่ยใจเสียฉิบ ไม่ยักเหมือนเวลาดูคุณคาวีข่มขืนเลยนะคะ ดูแล้วได้ความบันเทิงเริงเมืองปนโรแมนติค ก็แหม…เวลาพูดถึงคนร้ายข่มขืนผู้หญิงทีไร ใครๆ ก็นึกถึงแต่ผู้ชายตัวดำๆ ไว้หนวดเครารุงรัง หน้าเถื่อนๆ ยืนดักอยู่ตามซอกตึก เหม็นกลิ่นเหล้าคุ้งเคล้ากลิ่นเหงื่อปนกลิ่นคาวปลาตามตัว…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมต้องคิดหนักและเหนื่อยกับการใช้พลังในการพัฒนาโครงการ “กล้าเลือก กล้ารับผิดชอบ” ของเครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ ประเทศไทย โครงการนี้เป็นโครงการที่จะสร้างกลไกระดับพื้นที่เพื่อรณรงค์ สร้างความเข้าใจเรื่องเอดส์ เพศศึกษาอย่างรอบด้าน และสนับสนุนให้เยาวชน ตระหนักและมีทัศนคติที่ดีในการเรียนรู้เรื่องการป้องกันเอดส์ รู้จักประเมินความเสี่ยงของตนเอง และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเพศของตนให้ปลอดภัยผ่านการดำเนินการกับกลุ่มเครือข่ายเยาวชนในพื้นที่ 8 กลุ่ม ใน 20 จังหวัดกระจายไปในภาคต่างๆ ซึ่งจะต้องดำเนินการตลอดระยะเวลา 12 เดือน…
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัย
กิตติพันธ์ กันจินะ
ประมาณวันที่ 14 เมษายน 2551 นี้ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550  ก็จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ หลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวและได้มีประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2551ส่งผลให้ต้องมีการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกลุ่ม องค์กร เยาวชน องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับพื้นที่ อย่างขะมักเขม้นอย่างไรก็ตามสำหรับเจตนารมณ์แล้ว กฎหมายฉบับดังกล่าวมีขึ้นมาเพื่อให้เกิดกลไกการสนับสนุนการมีส่วนร่วมและพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมทั้งภาครัฐและเอกชน…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ผมได้แรงบันดาลจากการเขียนเรื่องนี้จากภาพยนตร์เรื่อง “ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น” หนังใหม่ ที่กำลังฉายในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านท่านๆ ว่ากันด้วยเรื่องของเนื้อหาในหนังนั้น ผมก็ยังไม่ได้ไปชม เพียงแต่ดูเนื้อในจากเว็บไซต์ก็พอสรุปคร่าวๆ ได้ว่าภาพยนตร์นี้เป็นเรื่องราวของวัยรุ่น 4 วัยในความรัก 4 มุม ทั้ง รักที่ต้องแย่งกัน รักนักร้องดาราคนโปรด รักนอกใจ และรักข้างเดียว ....อืม เอาเป็นว่า ใครอยากรู้เรื่องมากขึ้นลองเข้าเว็บไซต์ www.pidtermyai.com  ดูแล้วกันนะครับในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเสนอชีวิตที่เกิดขึ้นของวัยรุ่นจำนวนหนึ่งในช่วงปิดเทอมใหญ่ ซึ่งบางคนก็ใช้เวลาไปแข่งกันขอเบอร์ผู้หญิง…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ใครจะไปรู้ว่าเทคโนโลยีบางอย่างจะทำให้เราไม่พลาดการสื่อสารที่สำคัญได้จริงๆ เรื่องเกิดเมื่อวันหนึ่ง, ขณะที่ผมกำลังออนไลน์โปรแกรมแชทยอดนิยมนั้น พี่ต้าร์ (วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ แห่งกลุ่ม Y-ACT) ก็ได้เข้าโปรแกรมออนไลน์ MSN จากในค่ายแห่งหนึ่ง ณ สวนแสนปาล์ม นครปฐม ซึ่งเป็นการอบรมนักศึกษาอาชีวศึกษากว่า 30 สถาบัน  “อยากดูป่ะ” พี่ต้าร์ถามและได้เปิดโปรแกรมวิดีโอออนไลน์ขึ้นมาผมตอบว่าอยาก – สักพัก ภาพเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ พี่ๆ ได้ปรากฏออกมา และมีภาพของเพื่อนๆ เยาวชนที่เข้าร่วมค่ายกำลังทำกิจกรรมอย่างสนุกสนานผมถามพี่ต้าร์ว่ามาทำอะไรกัน?พี่ต้าร์ บอกว่า “วันนี้น้องอาชีวะกว่า สามสิบสถาบัน…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ในที่สุดนายกทักษิณ ก็ได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน หลังจากที่ต้องเร่ร่อนรอนแรมอยู่ต่างประเทศตั้งปีกว่า กลับมาหนนี้ถือว่าได้กลับมาพิสูจน์ตัวเองในคดีต่างๆ ที่ตกเป็นจำเลย และยังได้กลับมาอยู่ใกล้ครอบครัวของตนเสียด้วย ยังไม่นับรวมถึงการที่จะต้องเข้ามาเคลียร์เรื่องอะไรอีกหลายอย่างที่เกิดขึ้นภายในพรรคและการเมืองที่ยังไม่ค่อยลงตัวสักเท่าใดนัก  ผมดูการกลับมาของคุณทักษิณ แล้วนึกถึงชีวิตของเด็กๆ ที่เร่ร่อนไร้บ้านอีกหลายคน ที่ต่างก็พเนจรไปในที่ต่างๆ ไม่ได้กลับบ้าน หรือบ้างก็ไม่มีบ้านอยู่อาศัย ซึ่งชะตากรรมของเขาหลายๆ คน ถือว่า "หนัก" กว่าคุณทักษิณหลายเท่า…
กิตติพันธ์ กันจินะ
  หลังจากที่โครงการเยาวชนไทยไม่ทอดทิ้งสังคม หรือ โครงการเยาวชน1000ทาง 1 ได้ดำเนินการมาจนจบวาระหนึ่งปีก็ถือว่าเรียนจบครบเทอมพอดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทีมงานหลายคนต่างได้รับความรู้และประสบการณ์ในการทำงานเพื่อสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนเข้ามาทำกิจกรรมเพื่อสังคมมากยิ่งขึ้น แม้ว่าโครงการเยาวชน1000ทาง จะเกิดจากความร่วมมือของเครือข่ายเยาวชนที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคมมาหลายปี แต่สำหรับประเทศไทยนั้นนับว่ามีโครงการที่สนับสนุนกิจกรรมของเยาวชน "มือใหม่" ไม่มากนัก ฉะนั้นโครงการเยาวชน1000ทาง ถือว่าเป็นโครงการที่ภาครัฐสนับสนุนให้เกิดการทำงานโดยเยาวชนดำเนินการ มีผู้ใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นที่ปรึกษาการทำงาน…