Skip to main content

ผมใส่เครื่องหมายไปยาลน้อยหลังคำว่า “ม็อบพันธมิตร ฯ” ด้วยละไว้ในฐานที่เข้าใจว่าผู้อ่านแต่ละคนสามารถที่จะเลือกใส่คำต่อท้ายคำว่า “พันธมิตร” ลงไปได้ตามที่เห็นสมควร เพราะรู้สึกกระดากละอายเกินกว่าที่จะเรียกกลุ่มนี้ด้วยชื่อเต็ม ๆ ที่ต่อท้ายด้วยคำว่า “ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย”


ครั้งแล้ว ครั้งเล่าที่คนกลุ่มนี้แสดงให้เห็นถึงลักษณะที่ตรงกันข้ามกับคำว่า “ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” คือมีแต่ความใจแคบ เอาแต่ใจตนเอง ขาดความอดทนอดกลั้นทางการเมือง ความอดทนอดกลั้นทางการเมืองที่เป็นคุณลักษณะสำคัญของการอยู่ร่วมกัน (เพราะจะได้ไม่ต้องฆ่ากัน)


นอกจากขาดความอดทนอดกลั้นแล้วกลุ่มพันธมิตร ฯ ยังทำร้ายคนที่คิดเห็นต่างออกไปจากพวกตน โดยไม่สนใจต่อสายตาของสาธารณชนผู้เป็นกลางที่เฝ้ามองอยู่ว่าจะรู้สึกนึกคิดอย่างไรหรือไม่กลัวเลยว่าจะสูญเสียมวลชนที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกข้าง พฤติกรรมและบุคลิกแบบนี้มีแต่เผด็จการเท่านั้นที่ทำได้


ใครที่มีความคิดเห็นแตกต่างไปจากม็อบพันธมิตร ฯ จะถูกทำให้กลายเป็นศัตรู/ปิศาจ/คนไม่รู้จริง/รับใช้ทักษิณ/ขายชาติ ฯลฯ ด้วยการโฆษณาชวนเชื่ออันเหลวไหล ปลุกระดมอารมณ์รวมหมู่อย่างบ้าคลั่งมึนเมา


ผมอยากจะพูดถึงกรณีของคุณศรราม เทพพิทักษ์ พระเอกยอดนิยมที่พูดถึงทัศนะของตนเองในเชิงไม่เห็นด้วยเมื่อมีคนถามเกี่ยวกับการชุมนุมของพันธมิตร ฯ


ผมไม่ไปยุ่งกับใครหรอกครับพันธมิตรฯ เดินขบวนอะไรผมไม่ยุ่งหรอก ผมไหว้พระทุกวันขอให้ในหลวงแข็งแรงนะ ใครที่มันทำให้ในหลวงไม่สบายใจ ก็ขอให้คุณพระคุณเจ้าดลจิตดลใจให้มันคิดได้เถอะนะครับ ถ้ามันยังเป็นคนไทย ขอให้มันทำให้ในหลวงอย่าเครียดเลย เราพูดภาษาแบบชาวบ้านนะครับ ผมใช้คำพูดแบบชาวบ้านไปคิดเอาเอง”


คำพูดไม่กี่คำของเขาทำให้กลุ่มพันธมิตร ฯ ไม่พอใจอย่างแรงและรุมโจมตีเขาในรูปแบบต่าง ๆ กระทั่งคุณศรราม เทพพิทักษ์ ต้องแสดงความใจกว้างด้วยการยอมออกมาขอโทษทั้งที่ตนเองไม่ได้ผิดอะไร


หากยอมขอโทษทั้งที่ตนเองไม่ผิดแล้วทำให้ปัญหาจบไป ในบางสถานการณ์ก็เป็นสิ่งที่ไม่เสียหาย มิพักต้องเอ่ยถึงว่าอาชีพของคุณศรราม เทพพิทักษ์ นั้นต้องอาศัยความนิยมชมชอบจากประชาชน จึงไม่ใช่เรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรงหากจำเป็นต้องขอโทษเพื่อให้เรื่องเงียบหายไปและเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ส่วนสิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์หรือด่าคนอื่นนั้นสงวนไว้สำหรับพวกพันธมิตร ฯ และเครือข่ายเพียงเท่านั้น


ท่ามกลางความขัดแย้งที่มองไม่เห็นจุดจบ คุณศรราม เทพพิทักษ์ เป็นเหยื่อชิ้นเล็ก ๆ ที่โดนคนพวกนี้เล่นงานได้โดยไม่ต้องลงแรงอะไรมาก แม้ว่าในฐานะของบุคคลสาธารณะ เสียงของคุณศรราม เทพพิทักษ์ อาจจะดัง แต่ที่สุดแล้วก็ถูกกลบให้เงียบหายไปโดยกระแสเสียงของกลุ่มพันธมิตร ฯ


เราสามารถยกตัวอย่างรูปแบบการกระทำของกลุ่มพันธมิตร ฯ ต่อกรณีนี้ได้อย่างเช่น ส่ง SMS ผ่านสื่อโทรทัศน์เพื่อชื่นชมพวกตัวเองและกล่าวหาว่าร้ายคุณศรรามต่าง ๆ นานา หรือการใช้ช่องทางของอินเตอร์เนตที่เครือผู้จัดการมีพร้อมอยู่แล้วรุมกระหน่ำด่าพ่อล่อแม่ หรือใช้วาจาป่าเถื่อนของซ้อเจ็ดแห่งเวบไซต์ผู้จัดการป้ายสีให้เสียหาย คอลัมน์ของซ้อเจ็ดนอกจากจะเขียนในเรื่องบนเตียงราวตาเห็นแล้ว พักหลังซ้อเจ็ดหันมาเขียนเรื่องการเมืองกะเขาด้วย (ช่างเป็นอะไรที่อเนกประสงค์เสียจริง ๆ ซ้อเจ็ดจึงอาจจะเป็นประเภทที่ “ได้หมด”) รวมไปถึงการโห่ร้องขับไล่เวลาที่คุณศรราม เทพพิทักษ์ ไปโชว์ตัว


เราอาจเรียกการกระทำเหล่านี้ได้ว่าเป็นการข่มขืนใจต่อผู้ที่มีความคิดเห็นแตกต่าง เป็นการข่มขืนตามระบอบประชาธิปไตย เป็นการข่มขืนที่ได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญปี 50 ที่พวกพันธมิตร ฯ และเครือข่ายร่างมันออกมา


คุณศรราม เทพพิทักษ์ เงียบเสียงไป ในขณะที่ดาราอย่างคุณศรัณยู วงศ์กระจ่าง ที่อยู่ในกลุ่มพันธมิตร ฯ ตั้งหน้าตั้งตาด่าคนอื่นต่อไป เขาบอกว่า


ไม่รู้ ไม่เข้าใจอย่าพูด อย่าเสือกพูดในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้” (น่าสงสัยว่าคงจะมีแต่ดาราอย่างคุณศรัณยู วงศ์กระจ่าง เท่านั้นที่รู้และเข้าใจ การห้ามไม่ให้คนอื่นพูดเพราะหาว่าคนอื่นไม่รู้นั้นเป็นลักษณะของเผด็จการชนชั้นกลางอย่างไม่ต้องสงสัย)


คุณศรัณยู วงศ์กระจ่าง ก็เช่นเดียวกับดารานักร้องหลายคนที่ใช้โอกาสทองของความขัดแย้ง อ้างอวดจิตสำนึกสาธารณะของตนเองด้วยการกระโจนขึ้นเวทีของพันธมิตร ฯ ทำในสิ่งที่ตนเองถนัดนั่นคือ “แสดงละคร” แต่เป็น “ละครเวที” ที่เขียนบทและซักซ้อมมาแล้ว


คุณศรัณยู วงศ์กระจ่าง ขึ้นเวทีพันธมิตร ฯ บ่อย เขาขึ้นไปแสดงภูมิรู้ทางการเมืองเท่าทีเขามี พูดจากับกล้องและประชาชนอย่างเป็นกันเองด้วยมาดของนักการเมือง และร้อง “เพลงแปลง” กระทบกระเทียบ ประชดประชัน เสียดสีนักการเมืองและประชาชนที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม เขาเปลี่ยนบทบาทจากนักแสดงที่เก่งกาจเป็นคนชั้นกลางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสำนึกสาธารณะ!


คุณศรัณยู วงศ์กระจ่าง ยอมทิ้งหล่อ แล้วปล่อยตัวเซอร์ๆ ดูเป็นคนง่าย ๆ เข้ากับประชาชน เขาออกแอ็คชั่นเต็มที่ ทั้งเต้น ร้อง และปราศรัย เรียกได้ว่าเป็นแบบฉบับของนักแสดงคนชั้นกลางที่นอกจากจะประสบความสำเร็จในอาชีพของตนเองแล้ว ยังดูเหมือนว่าจะคิดหรือทำอะไรเพื่อ “ส่วนรวม” อีกด้วย


ผมเชื่อว่าหากจังหวะเวลาเหมาะ คุณศรัณยู วงศ์กระจ่าง คงจะลงสมัครเป็นผู้แทนอย่างแน่นอน ไม่สนามระดับชาติก็สนามท้องถิ่น มันเป็นสูตรสำเร็จไปแล้วว่าหากใครต้องการหาเสียงและต้องการเรียกคะแนนจากชนชั้นกลางในกรุงเทพ ฯ ก็ต้องขึ้นเวทีโจมตีสิ่งที่เรียกว่า “ระบอบทักษิณ” แม้ว่าจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ก็ตาม


ใครที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับ “ระบอบทักษิณ” ไม่ว่าจะทางตรงหรืออ้อมหรือทำอะไรที่กลุ่มพันธมิตร ฯ ตีความแล้วว่า “อาจจะ” เป็นการขัดขวางกลุ่มพันธมิตร ฯ ในการจัดการกับ “ระบอบทักษิณ” จะได้รับปฏิกริยาตอบโต้จากกลุ่มพันธมิตร ฯ อย่างเช่นที่คุณศรราม เทพพิทักษ์ โดนข่มขืนใจให้ต้องออกมาขอโทษ.


บล็อกของ เมธัส บัวชุม

เมธัส บัวชุม
การประท้วงของกลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ภายใต้การนำของ สาวิทย์ แก้วหวาน ผู้ซึ่งเป็นแกนนำสหภาพแรงงาน ฯ เป็นการประท้วงในสไตล์เดียวกับการประท้วงของกลุ่มพันธมิตร นั่นคือเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวประกันเพื่อให้ได้ตามความต้องการของตนเอง 
เมธัส บัวชุม
หลังจากอิดออดเพื่อรักษาท่าทีแต่พองามแล้ว “ผู้ร้าย” สองคนก็เปิดตัวเปิดใจกระโจนเข้าสู่วง ”การเมือง” เต็มตัว “ผู้ร้าย” คนแรก
เมธัส บัวชุม
ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนในอำเภอเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี นานมาแล้วที่ผมไม่ได้ออกไปไหน เพื่อนพาไปเที่ยวป่าและแวะที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่แลดูลี้ลับ วังเวงและยากไร้
เมธัส บัวชุม
สังคมไทยเป็นสังคมที่อยู่กับความโง่ มีความโง่เป็นเจ้าเรือน นับวันความโง่ยิ่งแผ่ขยายแพร่กระจายไปราวเชื้อโรค หลายคนโง่โดยสุจริต  คนเหล่านี้น่าเห็นใจ ถูกครอบงำด้วยความไม่รู้  อคติ ความเกลียดชังทำให้ประสิทธิภาพในการคิดเสื่อมถอย สติปัญญาถูกบิดเบือนไป คนประเภทนี้โง่เพราะถูกอคติทำลายจนมืดบอด
เมธัส บัวชุม
  ในระหว่างที่รัฐบาลกำลังรวนเรเพราะความไร้ฝีมือและความเน่าจากภายใน แทนที่จะทุ่มสมองและแรงงานเพื่อกระหนาบกระหน่ำรัฐบาลโจร คนเสื้อแดงเฉดต่าง ๆ ก็กลับใช้โอกาสนี้วิพากษ์วิจารณ์กันรุนแรงกระทั่งแตกออกเป็นสาย
เมธัส บัวชุม
ในโลกโลกาภิวัฒน์ที่มนุษย์กำลังเดินทางไปในอวกาศเพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก และเตรียมหาที่อยู่บนดาวดวงอื่น ทั้งวิตกกังวลกับโรคระบาดชนิดใหม่ ๆ ซึ่งอาจทำให้มนุษย์ต้องสูญพันธุ์ ประเทศไทยยังคงสนุกสนานเหมือนเด็กเล่นขายของกับการกล่าวหาเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกระทั่งล้มสถาบันสนุกครับ สนุก
เมธัส บัวชุม
ตื่นเช้าขึ้นมา หากไม่มีอะไรเร่งด่วนต้องทำ ผมจะนั่งเขียนโน่น เขียนนี่พร้อม ๆ กับที่เข้าไปในบอร์ดประชาไท อ่านกระทู้ต่าง ๆ อยู่เงียบ ๆ มานานจนเกือบจะกลายเป็นกิจวัตร (ยกเว้นเสาร์-อาทิตย์) แต่หลังเช้าไปแล้ว ผมก็ทำอย่างอื่น ไม่ได้นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ จึงไม่อาจติดตามความเคลื่อนไหวในบอร์ดประชาไทได้อีก ดังนั้นจึงได้อ่านเพียงบางกระทู้เท่านั้นและล้วนแล้วแต่เป็นการอ่านผ่านๆ ทั้งสิ้น
เมธัส บัวชุม
พักหลัง ผมเข้าไปเยื่ยมชมเว็บไซต์ "ASTVผู้จัดการ" บ่อยครั้ง เพื่ออยากรู้ว่าชาวสีเหลืองหรือกลุ่มพันธมิตรคิดอ่านกันอย่างไร มีนวัตกรรมอะไรบ้างในการทำลายฝ่ายตรงข้าม ศึกษากลวิธีในการเต้าข่าว การใส่ไคล้ การใช้ภาษาของบรรดาคอลัมนิสต์ กระทั่งแวะเข้าไปอ่าน "เรื่องนินทาราวตาเห็น" ของ "ซ้อเจ็ด" ผู้โด่งดัง
เมธัส บัวชุม
หลายวันก่อน ได้อ่านบทความของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ เรื่อง “ทางออกจากทักษิณ” (มติชนรายวัน, 20 ก.ค. 52.) บทความนี้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอย่างมากเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนเสื้อเหลืองและแดง  เนื้อหาของบทความ นอกจากปัญญาชนรายนี้จะออกตัวให้กลุ่มพันธมิตรหรือเสื้อเหลืองโดยยกระดับความคิด และการกระทำของคนกลุ่มนี้ว่าเกิดจากทัศนะและความเข้าใจในประชาธิปไตยที่แตกต่างจากกลุ่มเสื้อแดงซึ่งทั้งสองกลุ่มล้วนแล้วแต่มีจุดอ่อน  
เมธัส บัวชุม
นานมาแล้ว ที่ผมไม่เคยเจ็บป่วยขนาดต้องไปโรงพยาบาลหรือหาหมอ อย่างมากก็แค่ซื้อยาแก้เจ็บคอมากิน แต่ครั้งนี้เจ็บคอหลายวัน บวกกับอาการมึนหัว เบื่ออาหาร เพลีย และปวดเมื่อยเนื้อตัวอย่างหนักขนาดทาถูสบู่ตามตัวยังรู้สึกปวดไปถึงกระดูก เวลานอนต้องนอนตะแคงอย่างเดียวจะนอนหงายหรือคว่ำไม่ได้เพราะปวดเมื่อย(ขนาดนั้น) ผมจึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลแม้จะยังสงสัยอยู่ว่าคิดถูกหรือผิดกันแน่ น่าตกใจพอสมควรที่คนป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่เต็มล้นโรงพยาบาล (แต่แทบไม่มีคนที่อยู่วัยเดียวกับผม) ผมคิดในใจว่าถ้าตนเองเป็นเพียงโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ก็คงจะมารับเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่โรงพยาบาลนี่แหละ…
เมธัส บัวชุม
การล่า 1 ล้านรายชื่อของสามเกลอแห่ง "ความจริงวันนี้" เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่อดีตนายก ฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นประเด็นให้คนเสื้อแดงถกเถียงแก้เซ็งไปพลาง ๆ โหมโรงการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป มีความคิดเห็นค่อนข้างหลากหลายในหมู่คนเสื้อแดงด้วยกัน ทั้งนี้เพราะคนเสื้อแดงนั้นมีความหลากหลายในตัวเองอยู่แล้ว คือมีตั้งแต่ "แดงอนุรักษ์" ไปจนถึง "แดงถอนรากถอนโคน" ซึ่งลักษณะที่ว่านี้ไม่มีในหมู่คนเสื้อเหลือง
เมธัส บัวชุม
เป็นความคิดที่ดีของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีความพยายามจะ “รื้อฟื้น” วันชาติขึ้น เพราะมันมีความหมายและนัยสำคัญต่อประชาธิปไตยและการเมืองไทยอย่างมาก วันชาติเป็นผลพวงของการยึดอำนาจของคณะราษฎรเพื่อเปลี่ยนประเทศไทยสู่ระบอบการปกครองแบบใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเสียงและความคิดเห็นของประชาชน ภายใต้หลักนิติรัฐที่ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเสมอกัน