เป็นการพังทลายลงของสถาบันตุลาการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของความน่าเชื่อถือ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญพิพากษายุบพรรคการเมืองซีกรัฐบาลรวดเดียว 3 พรรค อย่างรวบรัดตัดความ เร่งร้อนลนลานและผิด ๆ ถูก ๆ
นักวิชาการผู้เคารพในหลักการ และคอการเมืองทั้งหลายพากันวิพากษ์วิจารณ์กันขรมถึงสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ทำลงไป เริ่มตั้งแต่ประเด็นเรื่องคุณสมบัติของตุลาการผู้เอาตัวรอดด้วยการท่องคาถาคุณธรรม จริยธรรม เป็นนิจสิน อย่างนายจรัล ภักดีธนากุล ไปจนถึงการย้ายสถานที่พิจารณาตัดสินคดีอย่างปุบปับ รวมไปถึงการนำทหารป่าหวายเข้ามาอารักขาตุลาการ แทนที่จะหยุดยั้งเหล่ามารพันธมิตร
บางคนต่อรองไว้ว่าร้อยนึงเอาบาทเดียว ทายว่าพรรคการเมืองจะต้องโดนยุบแน่ ๆ เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้นซึ่งผลก็ออกมาดังที่รู้กัน
ก่อนหน้าการตัดสินยุบพรรค คุณจาตุรนต์ ฉายแสง ได้เสนออย่างแหลมคมให้นายกรัฐมนตรีลาออกเพื่อตั้งรัฐบาลใหม่หากมีการยุบพรรคเกิดขึ้นก็จะไม่กระทบกระเทือนต่อรัฐบาลมากนัก อย่างไรก็ตาม การแก้เกมในแบบของคุณจาตุรนต์ ฉายแสงก็ไม่ได้รับการขานรับ
ผมลองคิดเล่น ๆ หลังการตัดสินยุบพรรคของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า อยากให้พรรคซีกรัฐบาลเมินเฉยต่อคำตัดสิน ไม่ต้องสนใจต่อคำพิพากษายุบพรรค ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยยกเอาความไม่ชอบธรรมต่างๆ ในการพิจารณาคดีตั้งแต่คุณสมบัติของตุลาการ การรวบรัดข้ามขั้นตอน การย้ายสถานที่อย่างปุบปับ ความผิดพลาดของคำวินิจฉัยในขณะที่อ่านจนต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนอันแสดงให้เห็นถึงความไม่รอบคอบ ตลอดจนยกเอากรณีต่าง ๆ ของลัทธิพันธมิตร ฯ ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลมาเทียบเคียง ฯลฯ
เพราะอย่างไรเสียในทางหลักการตลอดจนการวิพากษ์วิจารณ์ในแง่มุมต่าง ๆ พรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลต่างก็ไม่ยอมรับนับถือตุลาการ และคำตัดสินของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว
ถึงวินาทีนี้ ผมคิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปกลัวศาลหรือต้องปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลอีกต่อไปเพราะครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นกลาง การเลือกปฏิบัติ การแสดงออกซึ่งความเป็นปรปักษ์ การไม่ยึดหลักการ การรับใช้ฝ่ายการเมืองอย่างออกนอกหน้า
การขัดขืนต่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะช่วยให้เกิดการทบทวนกระบวนการยุติธรรมเสียใหม่ ว่าที่จริงศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่น่านับถือมาแต่ต้นเพราะแต่งตั้งตามอำเภอใจจากคณะรัฐประหาร ดังนั้นจะเป็นไรไปถ้ารัฐบาล นักการเมืองจะเพิกเฉยต่อคำวินิจฉัยของตุลาการ น่าเสียดายที่พรรคการเมืองซีกรัฐบาลไม่ลอง "ขัดขืน" อย่างมีอารยะต่อการ "ข่มขืน" ด้วยคำตัดสินของบรรดาตุลาการ
อย่างไรก็ตาม ในสายตาประชาชนอย่างน้อยก็คนเสื้อแดง ความศักดิ์สิทธิ์ของศาลรัฐธรรมนูญนั้นไม่มีเหลือแล้ว ผมเชื่อว่าหากตุลาการอย่างนายจรัล ภักดีธนากุล เกิดพลัดหลงเดินเข้าไปในซอยใดซอยหนึ่งที่ไม่คุ้นเคยและมีคนเสื้อแดงจำได้ นายจรัล ภักดีธนากุลจะโดนสหบาทาโดยไม่ต้องสงสัย แบบเดียวกับที่นักศึกษาหัวก้าวหน้ามีอารมณ์โมโหเมื่อเห็นอธิการบดีปากถือศีลอย่างนายสุรพล นิติไกรพจน์ หรือเห็นนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ ข้าช่วงใช้เผด็จการ เดินลอยหน้าลอยตาผ่านไป
ประชาชนต้องจัดการกับองค์กรอิสระที่ตรวจสอบไม่ได้ ไม่มีพลังอะไรอีกแล้วที่จะจัดการกับองค์กรอิสระอย่างกกต. กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญได้นอกจากพลังของประชาชนเท่านั้น จะไปหวังพึ่งเทวดา พึ่งฟ้า พึ่งฝนก็คงไม่ได้เพราะเทวดาฟ้าฝนนั้นเป็นสิ่งที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ที่สำคัญคือไม่มีเหตุมีผลเอาเสียเลย
ก็ในเมื่อศาลไม่น่าเคารพ เราก็ไม่จำเป็นต้องเคารพ ทำไมนักการเมืองและประชาชนเป็นหมื่นเป็นล้านต้องยอมรับชะตากรรมอันอยุติธรรมจากการตัดสินของคนไม่กี่คน ทำไมเราต้องเชื่อฟังคำวินิจฉัยของคนที่ไม่น่ายอมรับนับถือด้วยเล่า
นอกจากจะจัดการกับองค์กรอิสระที่ตรวจสอบไม่ได้แล้ว พลังประชาชนต้องหาทางลดทอนอำนาจของสถาบันตุลาการลงหรือกันออกไปจากการเมืองให้มากที่สุด เพราะที่ผ่านมาชัดเจนแล้วว่าสถาบันตุลาการนั้นนอกจากจะไม่ยึดโยงกับเสียงของประชาชนแล้ว ยังเป็นปฏิปักษ์ต่อความเป็นนิติรัฐ ปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยด้วย
กองทัพก็เป็นสถาบันหนึ่งที่แตะต้องไม่ได้ อำนาจของกองทัพนั้นแปรผกผันกับความก้าวหน้าของระบอบประชาธิปไตย ต้องช่วยกันหาทางลดบทบาทอำนาจของกองทัพลงให้ได้เช่นกัน
แม้ว่าประชาชนเสื้อแดงจะไม่รุนแรงก้าวร้าว หรือมีพฤติกรรมอันธพาลแบบพวกก่อการร้ายพันธมิตร แต่ในระยะยาวแล้ว ประชาชนเสื้อแดงนี่แหละที่จะเป็นผู้ชนะ พระเอกอาจต้องยอมเจ็บหรือกลืนเลือดบ้าง นั่นเป็นเรื่องธรรมดาของการเป็นพระเอก รวมถึงการที่พระเอกจำยอมให้นางอิจฉาได้จัดตั้งรัฐบาลบ้าง เพื่อที่ว่านางอิจฉาจะได้ไม่ต้องตามอาฆาตมาดร้ายพระเอกไปตลอดชีวิต แต่เชื่อว่าเถิดว่านางอิจฉาต้องตายเพราะแรงอิจฉาและความต่ำช้าตนเอง และพระเอกก็คือพระเอกอยู่วันยังค่ำ
อาจท้อแท้ผิดหวังกระทั่งเจ็บปวดกันบ้าง แต่พลังประชาชนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องก้าวต่อไป ไม่มีก้าวซ้าย ก้าวขวา นอกจากก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น ก้าวไปข้างหน้าเท่านั้นเอง.