Skip to main content
ผมได้มีโอกาสดูหนังเรื่อง "ผู้หญิง 5 บาป" เพราะเคเบิลทีวีเอามาฉายซ้ำแล้วซ้ำอีก อันที่จริงหนังเกรดต่ำแบบนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดอยากจะดูเลย แต่ผมก็เหมือนคนอื่น ๆ คือฉากรักร้อน ๆ ดิบ ๆ ที่ปรากฏอยู่มากมายสะกดให้ต้องหยุดดู


หนังเรื่องนี้เหมือนหนังโป๊ะที่ดูแล้ว ถึงจุดออกัสซั่มแล้ว ไม่ควรจะมีอะไรให้พูดถึงอีกหรือหากอยากจะพูดถึงก็คงเป็นเรื่องความไม่เอาไหนของคนทำหนังที่อุตส่าห์ขนดาราและนักแสดงรับเชิญมาเพียบ แต่ทำได้เพียงแค่หลอกขายฉาก "เอากัน" เท่านั้น โดยให้ผู้หญิง 5 คนผลัดกันมาเล่าประสบการณ์ทางเพศที่โลดโผนโจนทะยาน (มีอะไรกับลูกศิษย์ตัวเอง โดนยามข่มขืน ได้กับวินมอไซค์)


ผู้หญิง 5 คนทำทีเหมือนสำนึกผิด แต่คนที่มีสมองอยู่บ้างคงรู้ว่าจุดเน้นของหนังไม่ใช่เรื่องผิดหรือเรื่องบาปแต่อย่างใด หากแต่ต้องการโชว์ประสบการณ์ทางเพศ 5 แบบมากกว่า (คนดูก็คงไม่อยากไปนั่งฟังใครสำนึกผิดหากแต่อยากดูฉากเอากันนั่นแหละ) หนังแบบนี้คงถูกใจอย่างยิ่งสำหรับคนที่ปากว่าตาขยิบ


จะว่าไปคนที่ขุดคุ้ยขึ้นมาโจมตีเรื่องที่ "บุญยอด สุขถิ่นไทย" ไปปรากฏเพียงแวบๆ ในหนังโดยเชื่อมโยงเข้ากับเรื่องจริยธรรมนั้นค่อนข้างบ้องตื้นเพราะการแสดงของนักการเมืองรายนี้ ดูแล้วไม่มีอะไรน่าเกลียด คนทำหนังต่างหากที่น่าถูกโจมตีในฐานะที่หลอกเอาคนดัง ๆ มาสร้างราคาให้หนัง


อย่างไรก็ตาม ที่บ้องตื้นยิ่งกว่าคนที่สร้างประเด็นนี้ขึ้นก็คือการตอบโต้ของ "บุญยอด สุขถิ่นไทย" เอง

เขาบอกว่า
"...โลกในแผ่นฟิล์ม หรือโลกมายา คือการแสดง แต่ในชีวิตจริงมีคุณธรรม การมาพาดหัวข่าวแบบนี้ทำให้เสียหาย...


"...อยู่ในวงการมา 20 ปี ทำรายการสารประโยชน์มาตลอด และจะนำเงินที่ได้ ไปให้สื่อดังกล่าวที่เกี่ยวข้อง ไปอบรมจริยธรรม ให้ทำสื่ออย่างมีคุณธรรม ไม่เอียงข้าง เลือกเอาว่าจะเป็นสื่อแท้หรือสื่อเทียม..." http://www.prachatai.com/05web/th/home/15614


คุณบุญยอด สุขถิ่นไทย ตอบโต้โดยไม่ลังเลที่จะอวดอ้างว่าในชีวิตจริงของตนเองมีคุณธรรม (เหรอ?)ไม่ลังเลที่จะกล่าวหาสื่อที่โจมตีตนเองว่า "เอียงข้าง" "สื่อเทียม" (แต่คุณสุนัย จุลพงศธร เรียกเขาว่า "ผู้สื่อข่าวเผด็จการ") งานนี้เขาบอกว่าจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากสื่อที่ลงข่าว 20 ล้านบาท


เมื่อตามไปดูสื่อที่เล่นข่าวเรื่องนี้จริงจังอย่าง "ประชาทรรศน์" พบว่ามีการขยายประเด็นให้มันใหญ่โตบานปลาย

"ประชาทรรศน์ออนไลน์" ลงข่าวว่า

บุญยอด'5บาปหยุด!อ้างโลกมายา

"พระมหาโชว์" ถล่มยับจริยธรรม ส.. "บุญยอด สุขถิ่นไทย" ระบุข้ออ้างร่วมเล่นหนังเรต R เป็นงานศิลปะ เป็นเรื่องของโลกมายาฟังไม่ขึ้น เพราะหากเป็นศิลปะที่ทำลายความดีงามหรือทำลายคนอื่นก็ไม่ถูกต้อง แค่คนทั่วไปร่วมแสดงก็แย่อยู่แล้ว แต่นี่เป็นถึง ส.. ยิ่งต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชน เทียบผลงาน "ภิกษุสันดานกา" ใช้ศิลปะด่าคนอื่นเป็นเรื่องเลวร้าย ด้าน "เชาวรินทร์" ซัดทำสถาบัน ส..เสียหาย แค่เงิน 3 พันบาท ยังยอมรับเล่นหนังอย่างว่า แล้วจะไว้ใจให้ทำงานในสภาได้อย่างไร ขณะที่บุญยอด ยังหลงประเด็นย่ำอยู่ที่เดิมยันไม่ได้แก้ผ้าเล่นหนัง (http://www.prachatouch.com/content.php?id=18358) 18 ก.พ. 2009


ไม่แน่ใจว่าประชาทรรศน์มีเจตนาอะไรในการเล่นข่าวของ บุญยอด สุขถิ่นไทย ทั้งพยายามบิดให้ผู้อ่านเห็นว่านักการเมืองรายนี้สมควรถูกประณาม


ในความเห็นของผม ส.ส. บุญยอด สุขถิ่นไทย นั้นสมควรถูกประณามแน่ ๆ แต่ไม่ใช่ในฐานะที่เล่นหนังเกรดต่ำหรือถูกหลอกให้มีส่วนร่วมกับหนังเกือบโป๊ะ หากแต่สมควรถูกประณามในฐานะที่ฝักใฝ่เผด็จการ ดูเหมือนเขาจะมีฝีปากกล้าเป็นพิเศษเวลาตอบโต้กับฝ่ายประชาธิปไตย แต่เขาเงียบเป็นเป่าสากเวลาที่ทหารยึดอำนาจหรือแก๊งค์พันธมิตรยึดสนามบิน


จุดเด่นที่เป็นจุดด้อยของบุญยอด สุขถิ่นไทย ก็คล้ายๆ กับของคนอย่างจรัล ภักดีธนากุล นั่นคือชอบอวดอ้างเรื่องคุณธรรม/จริยธรรม คนแบบนี้มีต่อมจริยธรรมตื้น อะไรกระทบนิดหน่อยต่อมจริยธรรมก็จะทำงานทันที


ปฏิกริยาตอบโต้ของต่อมจริยธรรม คือการสะท้อนกลับออกไปโดยอัตโนมัติว่าตนเองมีจริยธรรมในขณะที่กล่าวหาว่าฝ่ายตรงข้ามไม่มี (แบบเดียวกับที่เขากล่าวหาว่าคุณสุนัย จุลพงศธร เป็นสุนัขรับใช้สมุนทรราช) http://www.thairath.co.th/news.php?section=newsthairathonline&content=120970


ประชาทรรศน์เล่นไปแหย่คนที่มีต่อมจริยธรรมตื้น ต่อมที่ว่านี้อาจ "แตก" ได้ง่าย ๆ หากถูกแหย่มาก ๆ เข้า

 

 

 

บล็อกของ เมธัส บัวชุม

เมธัส บัวชุม
การประท้วงของกลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ภายใต้การนำของ สาวิทย์ แก้วหวาน ผู้ซึ่งเป็นแกนนำสหภาพแรงงาน ฯ เป็นการประท้วงในสไตล์เดียวกับการประท้วงของกลุ่มพันธมิตร นั่นคือเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวประกันเพื่อให้ได้ตามความต้องการของตนเอง 
เมธัส บัวชุม
หลังจากอิดออดเพื่อรักษาท่าทีแต่พองามแล้ว “ผู้ร้าย” สองคนก็เปิดตัวเปิดใจกระโจนเข้าสู่วง ”การเมือง” เต็มตัว “ผู้ร้าย” คนแรก
เมธัส บัวชุม
ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนในอำเภอเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี นานมาแล้วที่ผมไม่ได้ออกไปไหน เพื่อนพาไปเที่ยวป่าและแวะที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่แลดูลี้ลับ วังเวงและยากไร้
เมธัส บัวชุม
สังคมไทยเป็นสังคมที่อยู่กับความโง่ มีความโง่เป็นเจ้าเรือน นับวันความโง่ยิ่งแผ่ขยายแพร่กระจายไปราวเชื้อโรค หลายคนโง่โดยสุจริต  คนเหล่านี้น่าเห็นใจ ถูกครอบงำด้วยความไม่รู้  อคติ ความเกลียดชังทำให้ประสิทธิภาพในการคิดเสื่อมถอย สติปัญญาถูกบิดเบือนไป คนประเภทนี้โง่เพราะถูกอคติทำลายจนมืดบอด
เมธัส บัวชุม
  ในระหว่างที่รัฐบาลกำลังรวนเรเพราะความไร้ฝีมือและความเน่าจากภายใน แทนที่จะทุ่มสมองและแรงงานเพื่อกระหนาบกระหน่ำรัฐบาลโจร คนเสื้อแดงเฉดต่าง ๆ ก็กลับใช้โอกาสนี้วิพากษ์วิจารณ์กันรุนแรงกระทั่งแตกออกเป็นสาย
เมธัส บัวชุม
ในโลกโลกาภิวัฒน์ที่มนุษย์กำลังเดินทางไปในอวกาศเพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก และเตรียมหาที่อยู่บนดาวดวงอื่น ทั้งวิตกกังวลกับโรคระบาดชนิดใหม่ ๆ ซึ่งอาจทำให้มนุษย์ต้องสูญพันธุ์ ประเทศไทยยังคงสนุกสนานเหมือนเด็กเล่นขายของกับการกล่าวหาเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกระทั่งล้มสถาบันสนุกครับ สนุก
เมธัส บัวชุม
ตื่นเช้าขึ้นมา หากไม่มีอะไรเร่งด่วนต้องทำ ผมจะนั่งเขียนโน่น เขียนนี่พร้อม ๆ กับที่เข้าไปในบอร์ดประชาไท อ่านกระทู้ต่าง ๆ อยู่เงียบ ๆ มานานจนเกือบจะกลายเป็นกิจวัตร (ยกเว้นเสาร์-อาทิตย์) แต่หลังเช้าไปแล้ว ผมก็ทำอย่างอื่น ไม่ได้นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ จึงไม่อาจติดตามความเคลื่อนไหวในบอร์ดประชาไทได้อีก ดังนั้นจึงได้อ่านเพียงบางกระทู้เท่านั้นและล้วนแล้วแต่เป็นการอ่านผ่านๆ ทั้งสิ้น
เมธัส บัวชุม
พักหลัง ผมเข้าไปเยื่ยมชมเว็บไซต์ "ASTVผู้จัดการ" บ่อยครั้ง เพื่ออยากรู้ว่าชาวสีเหลืองหรือกลุ่มพันธมิตรคิดอ่านกันอย่างไร มีนวัตกรรมอะไรบ้างในการทำลายฝ่ายตรงข้าม ศึกษากลวิธีในการเต้าข่าว การใส่ไคล้ การใช้ภาษาของบรรดาคอลัมนิสต์ กระทั่งแวะเข้าไปอ่าน "เรื่องนินทาราวตาเห็น" ของ "ซ้อเจ็ด" ผู้โด่งดัง
เมธัส บัวชุม
หลายวันก่อน ได้อ่านบทความของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ เรื่อง “ทางออกจากทักษิณ” (มติชนรายวัน, 20 ก.ค. 52.) บทความนี้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอย่างมากเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนเสื้อเหลืองและแดง  เนื้อหาของบทความ นอกจากปัญญาชนรายนี้จะออกตัวให้กลุ่มพันธมิตรหรือเสื้อเหลืองโดยยกระดับความคิด และการกระทำของคนกลุ่มนี้ว่าเกิดจากทัศนะและความเข้าใจในประชาธิปไตยที่แตกต่างจากกลุ่มเสื้อแดงซึ่งทั้งสองกลุ่มล้วนแล้วแต่มีจุดอ่อน  
เมธัส บัวชุม
นานมาแล้ว ที่ผมไม่เคยเจ็บป่วยขนาดต้องไปโรงพยาบาลหรือหาหมอ อย่างมากก็แค่ซื้อยาแก้เจ็บคอมากิน แต่ครั้งนี้เจ็บคอหลายวัน บวกกับอาการมึนหัว เบื่ออาหาร เพลีย และปวดเมื่อยเนื้อตัวอย่างหนักขนาดทาถูสบู่ตามตัวยังรู้สึกปวดไปถึงกระดูก เวลานอนต้องนอนตะแคงอย่างเดียวจะนอนหงายหรือคว่ำไม่ได้เพราะปวดเมื่อย(ขนาดนั้น) ผมจึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลแม้จะยังสงสัยอยู่ว่าคิดถูกหรือผิดกันแน่ น่าตกใจพอสมควรที่คนป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่เต็มล้นโรงพยาบาล (แต่แทบไม่มีคนที่อยู่วัยเดียวกับผม) ผมคิดในใจว่าถ้าตนเองเป็นเพียงโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ก็คงจะมารับเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่โรงพยาบาลนี่แหละ…
เมธัส บัวชุม
การล่า 1 ล้านรายชื่อของสามเกลอแห่ง "ความจริงวันนี้" เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่อดีตนายก ฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นประเด็นให้คนเสื้อแดงถกเถียงแก้เซ็งไปพลาง ๆ โหมโรงการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป มีความคิดเห็นค่อนข้างหลากหลายในหมู่คนเสื้อแดงด้วยกัน ทั้งนี้เพราะคนเสื้อแดงนั้นมีความหลากหลายในตัวเองอยู่แล้ว คือมีตั้งแต่ "แดงอนุรักษ์" ไปจนถึง "แดงถอนรากถอนโคน" ซึ่งลักษณะที่ว่านี้ไม่มีในหมู่คนเสื้อเหลือง
เมธัส บัวชุม
เป็นความคิดที่ดีของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีความพยายามจะ “รื้อฟื้น” วันชาติขึ้น เพราะมันมีความหมายและนัยสำคัญต่อประชาธิปไตยและการเมืองไทยอย่างมาก วันชาติเป็นผลพวงของการยึดอำนาจของคณะราษฎรเพื่อเปลี่ยนประเทศไทยสู่ระบอบการปกครองแบบใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเสียงและความคิดเห็นของประชาชน ภายใต้หลักนิติรัฐที่ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเสมอกัน