Skip to main content

 

 (บทความตอนนี้จะเป็นเรื่องเบาๆเพื่อให้เตรียมตัวกันให้พร้อมก่อนชมภาพยนตร์เรื่อง Prometheus)

 
Alien 
“ในอวกาศจะไม่มีใครได้ยินเสียงกรีดร้องของคุณ” (In Space No One Can you Scream)
 
              คำโปรโมทจากโปสเตอร์ของภาพยนตร์สยองขวัญไซไฟเล็กๆเรื่องหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาตามกระแสหนังไซไฟในยุค Post Star War ที่สร้างความคลั่งไคลไปทั่วและส่งอานิสงค์มายังภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ได้โอกาสสร้างเพื่อเกาะกระแสความดัง ด้วยชื่อของผู้กำกับโนเนมในขณะนั้นอย่าง ริดลีย์ สก๊อต หรือทีมนักแสดงที่หลายคนเห็นแล้วต่างส่ายหน้าว่า แทบจะไม่มีดาราแถวหน้าเลยทำให้อนาคตของหนังนั้นดูมืดมนพอๆกับเรื่องราวในหนังที่เราแถมไม่ได้เห็นแสงสว่างจากพระอาทิตย์เลยแม้แต่น้อย ทว่าหลังจากที่หนังเข้าฉาย ทุกอย่างก็พลันเปลี่ยนไป หนังได้กลายเป็นตำนานของความสยองขวัญบทหนึ่งที่หลายคนจดจำส่งชื่อผู้กำกับโนเนมคนนั้นกลายเป็นผู้กำกับระดับออสการ์ในเวลาต่อมา ส่งชื่อนักแสดงหญิงโนเนมอีกคนให้กลายเป็นนักแสดงแอ็คชั่นหญิงชื่อดังในเวลาต่อมา และที่สำคัญหนังได้ทำให้สัตว์ประหลาดที่ถูกเรียกว่า เอเลี่ยนนั้นกลายเป็นสัตว์ในตำนานจนมีภาคต่อถึง 3 ภาค บวกกับภาคแยกที่ไปเผชิญหน้ากับอสูรอีกตนที่ชื่อว่า พรีเดเตอร์ถึง 2 ภาคต่อยอดเป็นการ์ตูนคอมมิค เกม และอีกมากมาย และล่าสุดกับการกลับมาทำต้นกำเนิดของมันอีกครั้งของริดลีย์ สก๊อตที่จะเติมเต็มเรื่องราวของแฟรนไชส์นี้ให้ไกลยิ่งขึ้น
 
เรื่องราวของความสยองขวัญนั้นเกิดขึ้นเมื่อลูกเรือขนส่งพาณิชย์นามว่า นอสโตโม่ที่บรรทุกลูกเรือ 7 คน ซึ่งจู่ๆพวกเขาได้รับสัญญาณกู้ชีพมาจากดาวร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งในตอนแรกพวกเขาไม่ต้องการไปที่นั้นเพราะคิดว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขา แต่ด้วยสัญญาของบริษัททำให้ยานต้องไปที่ดาวนั้นก่อนที่พวกเขาจะได้พบว่า ที่นั้นมียานอวกาศลำหนึ่งจอดนิ่งสงบอยู่ภายใต้บรรยากาศอันเลวร้ายของดาว ที่นั้นพวกเขาได้สิ่งที่น่าตื่นตะลึง พวกเขาพบร่างที่คาดว่าน่าจะเป็นซากของมนุษย์ต่างดาว(ที่ภายหลังถูกเรียกว่า Space Jockey) กับแท่นอะไรสักอย่าง พวกเขาคาดว่า เจ้าสิ่งนี้น่าจะถูกทะลวงจนเสียชีวิตจากด้านใน ระหว่างนั้นเองลูกเรือคนหนึ่งได้ถูกบางอย่างเกาะเข้าที่ใบหน้า บางอย่างที่พวกเขาไม่รู้จักก่อนที่มันจะหลุดร่วงจากร่างกายของเขาไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อลูกเรือคนนี้ตื่นมา เขาก็ยังใช้ชีวิตปกติก่อนที่ฉากสุดช็อคจะเกิดขึ้นเมื่อไอ้นั้นทะลวงร่างของเขาออกมาท่ามกลางความตกตะลึง มันได้หนีไปก่อนจะพัฒนากลายเป็นสัตว์ประหลาดสุดสยองที่คอยไล่เก็บพวกเขาทีล่ะคนจนเหลือเพียงผู้ช่วยนักบินหญิง ริปลีย์ที่เหลือรอดจนได้เผชิญหน้ากับมัน
 
Space Jockey
 
  นักวิจารณ์หลายคนบอกว่า สิ่งที่ทำให้หนังเอเลี่ยนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดนั้นมีหลายเหตุผล
อย่างแรกก็คือ การมาอยู่ถูกที่ถูกทางเพราะ เรื่องราวของมันเกิดขึ้นในยุคที่หนังไซไฟพึ่งเริ่มเป็นที่นิยมจากความสำเร็จของ Star War อย่างที่สองก็คือ ตัวหนังเลือกที่จะสร้างหนังให้เห็นตัวสัตว์ประหลาดหรือเอเลี่ยนน้อยที่สุด ซึ่งแน่นอนว่ามันได้สร้างผลกับความกลัวของคนดูได้เป็นอย่างดี ด้วยวิธีที่ถูกเรียกว่า วิธีของ ฮิตท์ค๊อก ที่เล่นงานคนดูด้วยฉากสุดช็อคและนอกจากนั้นหนังพยายามไม่ให้ฉากฆ่าแบบจะๆเลย ซึ่งยิ่งสร้างสิ่งที่เรียกว่า จินตนการให้คนดูกลัวได้มากเลยทีเดียวจนถูกเรียกว่า Jaw ภาคอวกาศ หรือ Texas Chainsaw ฉบับไซไฟไปเลยทีเดียว ข้อที่สาม การออกแบบตัวละครสัตว์ที่น่าจดจำจากงานเขียนของ เอช อาร์ กีเกอร์ ที่ออกแบบชีวะจักรกลตัวนี้ได้อย่างมีเสน่ห์และน่าหลงใหลนี่ยังไม่รวมฉากต่างๆของเรื่องที่สรรสร้างออกมาจนน่าขนลุกอย่างยิ่ง ข้อที่สี่ ปริศนาของหนังที่ไม่อาจจะคลี่คลายได้และมีเสน่ห์อันได้แก่ ไข่พวกนั้นมาจากไหน(ก่อนถูกตอบในเอเลี่ยน 2) และยานพวกนี้ขนไข่พวกนี้ไปทำไม และที่สำคัญมันกำลังจะไปไหน (คำถามจะถูกตอบในหนังเรื่อง Prometheus) และเจ้า Space Jockey คือตัวอะไร ทำไมมันถึงมาอยู่ทีนี่ คำถามมากมายสุดแสนซับซ้อนที่ทำให้แฟนหนังหลายคนพยายามค้นหาคำตอบในหนังภาคต่อมาแต่ก็ไม่เจอมันเสียที(เช่นเดียวตัวผู้กำกับ) และข้อสุดท้ายคือ การที่หนังวิพากษ์หลายเรื่องไปไกลกว่าหนังสัตว์ร้ายหลายเรื่อง ทั้งการเป็นที่บอกเล่าเกี่ยวกับผู้หญิงแกร่งที่แทบจะเป็นจุดขายของสก๊อตในช่วงนั้นและสานต่อไปยังคาเมร่อนในภาคสองครับ 
 
…..
 
 
Aliens 
 
คราวนี้คือสงคราม (This Time is War)
 
 
 
หลังจากหนังทำเงินอย่างเกินคาดหมายในภาคที่แล้ว หนังเรื่องนี้ก็ทำท่าจะมีภาคต่อขึ้นมาทันทีครับ โดยคราวนี้หนังไปตกอยู่ในมือของผู้กำกับโนเนมในเวลานั้น แต่เป็นเจ้าโลกในตอนนี้อย่าง เจมส์ คาเมร่อน ที่ตอนนั้นผลงานสร้างชื่อของเขาอย่างคนเหล็กยังไม่ทันเสร็จเสียอีก และเขานี่เองที่เปลี่ยนให้หนังสัตว์ประหลาดไล่กินคนเรื่องนี้ให้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เริ่มต้นด้วยการนำตัวละครของซิกอร์นีย์ วีเวอร์อย่าง ริบลีย์กลับมาและส่งเธอกับหน่วยทหารกลับไปยังดาวดวงเดิมอีกครั้งซึ่งที่นั้นทำให้เธอได้เผชิญหน้ากับอสูรกายในความหวาดกลัวของเธออีกครั้งหนึ่งและคราวนี้พวกมันไม่ได้มาตัวเดียวแต่เป็นนับร้อยตัว
ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างที่ภาคนี้ได้ทำลงไปก็คือ เปลี่ยนริบลีย์จากหญิงสาวที่มีอดีตฝังใจเพราะความกลัวในตัวเอเลี่ยนพวกนั้นมาเป็นหญิงสาวสุดแกร่งที่กล้าต่อกรกับเอเลี่ยนได้อย่างยอดเยี่ยมส่งผลให้เราเห็นพัฒนาการของตัวละครอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้หนังยังได้อธิบายถึงว่า อะไรที่ฟักไข่เอเลี่ยนนับพันใบได้
และนั้นทำให้เกิด นางพญาเอเลี่ยนขึ้นมานั้นเอง
 
 
ซึ่งการมาของนางพญาเอเลี่ยนจะขัดกับความคิดของริดลีย์ สก๊อตโดยสิ้นเชิงเพราะ ในฉบับไดเรคเตอร์ คัทนั้นรีดลีย์อธิบายว่า ใครเกิดจากเหยื่อที่ถูกรังไหมของเอเลี่ยนห่อหุ้มจะกลายสภาพเป็นไข่ ทว่าการมาของนางพญาเอเลี่ยนนั้นกลับกลายเป็นการโจทย์ที่น่าสนใจด้วยภาพวงจรของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า แมลงทำให้คนส่วนมากเลือกจะเชื่อในฉบับคาเมร่อนมากกว่า
 
สิ่งที่หนังในภาคนี้ได้พูดถึงก็คือ การสะท้อนภาพทุนนิยมในระบบสงครามออกมาได้อย่างน่าสนใจ ภาพของทหารที่รับคำสั่งจากบริษัทเวย์แลนด์ให้ไปช่วยเหลือคนในดาวนั้นโดยไม่รู้ว่า มันเป็นเพียงคำสั่งหลอกที่ส่งคนไปตายเท่านั้นทำให้เรามองเห็นภาพของกองทัพสหรัฐในสงครามเวียดนามที่พวกเขาถูกส่งไปที่นั้นโดยไม่รู้ว่า พวกเขาไปตายกันทำไมนอกจากการโฆษณาชวนเชื่อและการสร้างข้อมูลผิดๆอย่างว่า เราไปช่วยเหลือคนที่นั้นจากคอมมิวนิสต์ผู้ชั่วร้ายหรือหากแปรเปลี่ยนยุคนี้ก็คือ เราไปช่วยคนในประเทศนั้นจากเผน็จการและผู้ก่อร้าย(อย่างซัดดัม ฮุสเซนหรืออัลไคด้า) โดยที่ตัวทหารไม่ได้รับรู้ถึงผลประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ในคำสั่งนี้เช่นกัน หากในหนังคือการเอาตัวอ่อนเอเลี่ยนหรือนางพญากลับมา ในโลกของเราคงเป็นการขายอาวุธที่ทำได้มหาศาลในยุคสงครามหรือการเข้าไปเอาทรัพยากรธรรมชาติของที่นั้นได้แก่น้ำมันหรือแร่ธาตุเป็นต้น ส่วนเอเลี่ยนหากเราดูกันที่คำแปลๆจริงนั้นก็คือ คนต่างด้าว หรือพูดง่ายๆคนที่ไม่ใช่ชาติเดียวกับเรานั้นเอง ดังนั้นหากจะเปรียบเอเลี่ยนเป็นเวียดกงก็ไม่แปลกนัก ไม่แปลกที่เราเห็นภาพทหารที่มีอาวุธทำลายสูงถูกฆ่าไปง่ายๆด้วยศัตรูที่น่าจะด้อยกว่า(อย่างเวียดกงหรือผู้ก่อการร้าย) ซึ่งเป็นภาพสะท้อนความหวาดกลัวของคนอเมริกาที่มีต่อสงครามเวียดนามเป็นอย่างดี ที่สำคัญหากย้อนไปดูหนังอย่าง Terminator ก็สะท้อนภาพของความหวาดกลัวต่อสงครามเย็นออกมาได้อย่างไม่เคอะเขิน 
 
 
และความที่คาเมร่อนกำลังเขียนบท Rambo ภาค 2 อยู่พอดี (ภาคนี้แรมโบ้จะกลับไปที่เวียดนามและยิงถล่มใส่เวียดกงทั้งกองทัพเพียงคนเดียว) ตัวเอเลี่ยนภาคนี้จึงได้รับอิทธิพลมาจากหนังนี้ได้อย่างสนใจเพราะริบลีย์แถมจะเป็นด้านกลับของแรมโบ้เวอร์ชั่นผู้หญิงไปเสียด้วยซ้ำ เราจึงเห็นเธอยิงถล่มเอเลี่ยนกันเมามันเพื่อปลอบประโลมคนอเมริกันที่กำลังเจ็บปวดกับความพ่ายแพ้ของตนว่า อย่างน้อยในหนังคุณก็ชนะนะ 
จะว่าไปคาเมร่อนได้ทดลองหลายอย่างในหนังเรื่องนี้ก่อนจะไปพัฒนาต่อยอดในหนังของตัวเองอย่าง เรื่องหญิงแกร่งที่เริ่มจากริบลีย์ไปสู่ลินดา แฮมิลตันในคนเหล็กสองที่กลายเป็นหญิงแกร่งไปเรียบร้อยแล้วและไปสู่ผู้หญิงแกร่งคนอื่นๆ หรือประเด็นความเป็นมนุษย์ในสิ่งที่ไม่เป็นมนุษย์อย่างบิช๊อป หุ่นแอนดรอย์ที่มีจิตใจความเป็นมนุษย์มากกว่ามนุษย์เสียอีกได้ต่อยอดกลายเป็น Terminator ในภาคสองและการย้ายไปสู่ร่างใน Avatar ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หนังภาคนี้จะทำเงินได้มากที่สุด และถูกขนานนามว่าดีที่สุดเทียบเท่าภาคแรก
และส่งเอเลี่ยนกลายเป็นตำนานไปในที่สุด
…..
 
 
Alien 3
 
Film by David Fincher 
 
 
รู้ไหมครับว่าสิ่งที่เหมือนกันระหว่าง เจมส์ คาเมร่อนกับเดวิด ฟิชเชอร์คืออะไร แน่นอนสองผู้กำกับขั้นเทพนั้นแทบจะไม่มีอะไรเหมือนกันเลยทั้งสไตล์การเล่าเรื่อง การกำกับการแสดงและวิธีการมองมนุษย์ แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งคู่เหมือนกันนั้นก็คือ การที่หนังเรื่องแรกของพวกเขาถูกแทรกแซงจากนายทุนเหมือนๆกัน อย่าง คาเมร่อนนั้นเขาถูกแทรกแซงจนเป็นแค่ผู้กำกับแต่ชื่อในหนังเรื่อง Piranha 2 ที่มาปลาปิรันย่าบินได้ตัวแรกของโลกนั้นล่ะครับ ส่วนฟิชเชอร์คือเรื่องนี้นั้นเอง และทั้งคู่เหมือนกันอีกอย่างก็คือ หนังเรื่องแรกของพวกเขาเป็นหนังภาคต่อทั้งคู่เลยครับ ดังนั้นทั้งคู่เลยประกาศไม่ยอมรับหนังทั้งสองเรื่องเป็นผลงานของตัวเองเลยไม่ยุ่งเกี่ยวกับใดๆทั้งสิ้นชนิดที่ว่า
 
แค้นฝังใจเลยก็ว่าได้
 
ครับหลังจากเอเลี่ยนภาค 2 ทำเงินถล่มถลายยิ่งกว่าภาคแรกหนังก็ก้าวสู่การเป็นหนังภาคต่อในทันใด มีการเตรียมสร้างภาคสามมานานมากแต่หนังก็ไม่ได้สร้างสักทีจนกระทั่งมาได้ดาวิด ฟิชเชอร์ที่ตอนนี้กำลังรุ่งกับหนังโฆษณาอยู่พอดีครับ แต่ก็มีปัญหาเยอะไปหมด
 
เรื่องราวของภาคนี้ดำเนินเรื่องต่อจากภาคสองครับ ในยายช่วยเหลือที่ริบลีย์กำลังเดินทางกลับนั้นดันเผอิญมีตัวเกาะตัวหนึ่งติดมาด้วยทำให้ยานฉุกเฉินตกมายังดาวร้างที่เป็นคุกขังนักโทษครับ ตัวละครทุกตัวจากาภาคสองตายเกือบหมดแล้วไอ้ตัวเกาะหน้าตัวหนึ่งหลุดออกมาไปฝังไข่ในร่างของหมาตัวหนึ่งแล้วกลายเป็น Alien พันธุ์ใหม่ไป จากนั้นมันก็ไล่ฆ่าคนในคุกหมดทั้งริบลีย์ต้องร่วมมือกับคนในคุกสู้กับมัน แบบไม่มีอาวุธ และที่สำคัญริบลีย์ก็พึ่งรู้ว่าตัวเองมีตัวอ่อนของนางพญาอยู่ในตัวด้วย
 
 
สี่งที่เอเลี่ยนเป็นอยู่เสมอนั้นการที่หนังเปลี่ยนแนวทางการเล่าในทุกภาคตามผู้กำกับที่ทำครับอย่างภาคแรกเป็นหนงัรทึกขวัญ ภาคสองเป็นหนังแอ็คชั่นสุดมัน ส่วนภาคสามนี้ฟิชเชอร์ได้แสดงลายเซ็นของตัวเองออกมาด้วยการทำหนังระทึกขวัญที่ว่าด้วยความกลัวในจิตใจครับ ที่คราวนี้เขาทำให้ริบลีย์ สาวสุดแกร่งในภาคนี้ให้กลายเป็นสาวอ่อนแอแบบสุดๆครับ ชนิดที่ว่าหมดสภาพสาวแกร่งที่สามารถต่อกรกับเอเลี่ยนเป็นร้อยๆตัวได้ไปเลย ภาคนี้นอกจากร่างกายของเธอจะอ่อนแอแล้วสภาพจิตใจของเธอยังอ่อนแอไปพอๆกันด้วย นอกจากการรู้ว่าตัวเองกำลังจะตายเพราะเอเลี่ยนในตัวเองแล้วการเห็นคนอื่นที่เธอรักต้องตายก็ยิ่งทำให้เธออ่อนแอลงไปครับ นั้นคือสิ่งที่ฟิชเชอร์ต้องการแสดงให้เห็นว่า ริบลีย์ไม่ใช่ฮีโร่อะไร เธอเป็นมนุษย์คนหนึ่งก็เท่านั้นเอง เธอไม่ใช่เครื่องจักรที่ไร้ความรู้สึกแต่เธอเพียงต้องการความสงบและหาใครสักคนที่เข้าใจเธอเท่านั้นเอง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่เอเลี่ยนภาคต่างๆไม่เคยทำมาก่อนในการย้อนไปสำรวจจิตใจของมนุษย์แบบตรงๆ จนทำให้สามารถรวมงานนี้เข้าเป็นงานของเขาได้โดยไม่เคอะเขิน
 
เพียงแต่ว่าเพราะหนังมันถ่ายช้าครับ(ฟิชเชอร์เล่นหลายเทคมาก) ทำให้กำหนดการฉายมันเลื่อนออกไปไม่ได้ ทางสตูต้องการให้หนังออกมาตามกำหนดเพื่อโกยเงินไวในขณะที่ฟิชเชอร์ไม่ต้องการแบบนั้นทำให้หนังถูกตัดไวมาและฟิชเชอร์ส่ายหน้าออกไปจากงานนี้ก่อนทำให้หนังภาคนี้กลายเป็นความพ่ายแพ้ของทุกฝ่ายไปเลยทีเดียว ซึ่งหากจะเปรียบก็คือ สตูดิโอก็คือบริษัทเวย์แลนด์นั้นเองที่ต้องการเอเลี่ยนไปโดยไม่เข็ดหลาบนั้นเอง
 
…..
Alien : Resurrection 
 
และการปิดตำนานก็มาถึง
 
 
คราวนี้เรื่องราวผ่านไป 200 ปีและบริษัทเวย์แลนด์ตัวแสบของทุกภาคได้ล่มสลายไปแล้ว และที่เข้ามาแทนก็คือ กองทัพสหรัฐที่เข้ามาคืนชีพเจ้าอสูรร้ายพวกนี้อีกครั้งโดยการโคลนนิ่งมันมาจากเลือดของริบลีย์ที่เหลืออยู่และผลก็คือได้ตัวริบลีย์กลับมาด้วย และอสูรร้ายพวกนี้ก็ฉลาดขึ้นเพราะมีเซลของมนุษย์อยู่ในตัวด้วยครับ เรียกว่าเป็นอสูรพันธุ์ใหม่นั้นเองและเหมือนเดิมครับ มันหลุดออกมาไล่ฆ่าคนทั้งยานอีกทำให้ริบลีย์ต้องร่วมมือกับกลุ่มนักค้าเถื่อนให้ช่วยพาหนีไปจากยานลำนี้และทำลายพวกมันให้สิ้นซาก
 
ครับนี่คือผลงานโกอินเตอร์ของผู้กำกับ Ameile ที่หลายคนหลงรักอย่าง ณอง ปิแอร์ เณอเนต์ ที่ได้มากำกับหนังเรื่องนี้เพราะทางทีมงานของ FOX สนใจการกำกับหนังประหลาดๆของเขาในบ้านเกิดได้นั้นเอง ซึ่งเขาได้นำสไตล์ประหลาดของเขามาผสมผสานในหนังเรื่องนี้ได้ครับ ผลก็คือหนังทั้งประหลาดและงดงามอย่างบอกไม่ถูก
 
สรุปง่ายๆคือก็คือ มันดูน่าลุ่มหลงครับ
 
 
สิ่งที่หนังได้ถามก็คือ อะไรคือภัยร้ายที่สุดของจักรวาล คำตอบนั้นไม่พ้นที่จะเป็น มนุษย์อย่างแน่นอน เพราะพวกเขาได้นำพาเจ้าเอเลี่ยนกลับมาเพื่อนำมันกลับเป็นอาวุธ และคิดว่าพวกเขาจะควบคุมมันอยู่เพียงแต่ว่า สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็คือ พวกเขาคุมมันไม่ได้ นั้นเพราะความโลภที่ครอบงำในตัวมนุษย์นั้นเองที่ได้นำพาหายนะมาสู่ตัวเอง จะว่าไปแล้วหนังเอเลี่ยนนั้นหากไม่นับภาคแรกเราจะเห็นว่าตัวละครที่ถูกความโลภครอบงำล้วนแล้วแต่พบจุดจบหายนะทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นพนักงานตัวแสบในภาคสอง บริษัทเวย์แลนด์ในภาคสาม และมากองทัพสหรัฐ ทหาร นักวิทยาศาสตร์ นักค้าของเถื่อนที่ต่างพบจุดจบจากความโลภของตัวเองกันชนิดกรรมทันตา ดูแล้วน่าสมเพชใช่เล่นสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ลองคิดว่าถ้าไม่มีความโลภบริษัทเวย์แลนด์ในภาคแรก ลูกเรือเจ็ดคนจะกลายเป็นเหยื่อของเอเลี่ยนหรือไม่ เช่นเดียวกับภาคสองก็บริษัทนี้เองที่ให้คนไปตั้งเมืองที่ดาวดวงเดิมอีกทำให้คนตายทั้งเมืองและกลายเป็นเอเลี่ยนกันไปหมด และความโลภของคนที่ทำให้ยานของริบลีย์ที่น่าจะรอด ดันมีตัวเกาะหน้าติดมาจนยานตกและคนทั้งหมดต้องตายไปด้วย ยิ่งมุ่งมองไปยังคนที่สร้างมันอย่าง Space Jokey ที่เอาตัวมันยังไม่รอดแล้ว ดังนั้นความโลภจึงเป็นบ่อเกิดแห่งหายนะอย่างแท้จริงและมีอยู่ในทุกคน และความโลภนี่เองที่ทำให้มีการทดลองที่ผิดศีลธรรมอย่างการโคลนนิ่งขึ้นมาซึ่งนอกจากจะทำให้มีริบลีย์เกิดขึ้นมาอีกแล้วมันยังได้ส่งผลให้เกิดอสูรกายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาด้วย ซึ่งความสยองของมันน่ากลัวเทียบเคียงแฟรงเกนสไตน์เลยด้วยซ้ำไป
 
 
สิ่งที่ดีที่สุดในหนังเรื่องนี้นั้นก็คือ หลังจากที่ร่อนเรอยู่ในอวกาศมานานถึง 2 ศตวรรษ ทั้งเกิดและตายและเกิดอีกครั้งหนึ่ง
 
ริบลีย์ก็ได้กลับบ้านของเธอเสียที่
 
เพียงแต่ว่าในโลกใบนี้ เธออาจจะกลายเป็นเอเลี่ยนในโลกของตัวเองก็ได้ กระนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นเช่นไรนอกจากอวยพรให้ริบลีย์พบกับความสุขที่เธอตามหามาตลอดชีวิตท่ามกลางโลกที่คนบาปไม่มีวันหมดไปจากโลก
…..
 

บล็อกของ Mister American

Mister American
ปี 2515 ณ หมู่บ้านห่างไกลผู้คนในจังหวัดกาญจนบุรี แย้ม เด็กสาวผู้เคยป่วยหนักจนเกือบตายได้มีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้น เธอเริ่มพูดจาด้วยคำหยาบคายกับคนในครอบครัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เริ่มโกหกและยุแยงให้คนในบ้านแตกคอกัน รวมทั้งลุกขึ้นมาตอนกลางคืนเพื่อนกินของสดทำให้คนในครอบครัวโดยเฉพาะ หยาด เกิดความสงสัยขึ
Mister American
สัปเหร่อ : คนตายคือ ครู และ คนอยู่คือ นักเรียน           “ความตาย...มันฆ่าเฮาได้แค่ครั้งเดียว แต่ความฮัก มันฆ่าเฉาไปเรื่อยๆๆ จนกว่าเฮาสิตายพุ่นเด้”บักมืด 
Mister American
                ระหว่างที่เขียนต้นฉบับบทความนี้อยู่นั้น การโหวตประธานรัฐสภาและรองประธานสองคนการประชุมสภาวันแรกได้จบลงแล้ว และ ผลคือ คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา จากพรรคประชาชาติ ดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาคนใหม่ ร่วมกับ รองประธานสภาสองท่านจากพรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อ
Mister American
            คงไม่มีอนิเมชั่นเรื่องใดในซีซั่นนี้ที่เรียกว่า สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับบรรดาคนดูอนิเมชั่น และ คนดูหนังหลายคนได้เท่ากับ อนิเมชั่นซีรีย์เรื่อง Oshi no Ko หรือ ชื่อไทยว่า เกิดใหม่เป็นลูกโอชิ ผลงานดัดแปลงจากมังงะขายดีของ อากะ อาคาซากะ ที่ได้ฤกษ์ออกฉายไปเมื่อ
Mister American
                "พรมนิ้วลงไป หวังให้อัสนีกึกก้องด้วยละอองแสง                   กระหน่ำตีเข้าไปให้ถึงปลายทางของความเจ็บปวด
Mister American
                พอ Hellraiser ภาคใหม่จะลงฉายใน Hulu กันในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ (ซึ่งไทยจะได้ดูกันใน Disney Plus) นับว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของพินเฮดและเหล่าซีโนไบร์ต หนึ่งในไอค่อนของโลกสยองขวัญที่โด่งดังไม่แพ้ เฟรดดี้ ครูเกอร์ แห่ง Nightmare of elm street , เ
Mister American
พึ่งจบกันไปหมาด ๆ สำหรับอนิเมชั่นเรื่องดังประจำซีซั่นนี้อย่าง Lycoris  Recoli จากค่าย A-1 Picture ที่นอกจากจะเป็นม้ามืดประจำซีซั่นนี้ที่ได้รับความนิยมแบบถล่มทลายจนแซงหน้าบรรดาอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์เรื่องอื่น ๆ ไปแบบไม่มีกังขา โดผลโหวตจากสำนักอนิเมชั่นต่าง ๆ โหวตให้เรื่องนี้อยู่
Mister American
“ทำไมถึงไม่มีหนังสัตว์ประหลาดไทยดี ๆ ออกมาสักทีวะ ?”
Mister American
คงไม่ต้องบอกว่า ณ ช่วงเวลานี้ หลาย ๆ คนคงให้ความสนใจกับการชุมนุมของบรรดาหนุ่มสาววัยรุ่นที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือ กลุ่มนักเรียน นักศึกษาคนรุ่นใหม่ที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ขับไล่เผด็จการ และ เปลี่ยนแปลงประเทศใหม่ กันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะปรากฏการณ์ของการชุมนุมที่เกิ