Skip to main content

 

     ผ่านไปได้ไม่นานครับสำหรับการประกาศออสการ์ครั้งที่ 85 ซึ่งภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมนี้ก็ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง Argo ของนักแสดงหนุ่มที่ผันตัวเองมาเป็นผู้กำกับอย่าง Ben Affleck ที่คว้ารางวัลนี้ไปได้ตามคาดหลังจากที่สถาบันทางภาพยนตร์ต่าง ๆ ต่างมอบรางวัลให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กันราวกับเป็นเอกฉันท์และชนะหนังเต็งจ๋าอีกเรื่องอย่าง Life of Pi ไปได้และทำให้นักแสดงและผู้กำกับหนุ่มคนนี้ได้รับรางวัลออสการ์เสียทีหลังจากทำหนังมาสักพักหนึ่งแล้วก็ตาม นอกจากนี้ที่มีการกล่าวขวัญกันในงานก็ได้แก่คนที่มาประกาศชื่อผู้ได้รับรางวัลนี้นั้นก็คือ สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐอเมริกาอย่าง นางมิเชล โอบาม่า ที่แม้ไม่ได้มาปรากฏตัวในงาน เพียงแต่วีดีโอลิงค์มาเท่านั้นก็เรียกเสียงฮือฮ่าให้กับผู้ชมอย่างยิ่ง
 
      แต่ที่น่าสนใจก็คือการที่ Argo ได้รับรางวัลนี่ล่ะครับ
 
 
     เพราะอะไรน่ะเหรอครับ
 
     เพราะ Argo นั้นเป็นหนังระทึกขวัญการเมืองที่สร้างขึ้นมาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปี 1979 เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงพระเจ้าชาร์แห่งอิหร่านได้บุกเข้าไปในสถานทูตสหรัฐอเมริกาและจับกุมตัวประกันเอาไว้หลายสิบคน ทว่ากลับมีตัวประกันหนีรอดไปได้หกคนทำให้ทางการอเมริกาต้องหาทางช่วยพวกเขาออกมาให้ได้ โดยอาศัยนักพาหลบหนีอันดับ 1 ของ CIA อย่างโทนี่ เมนเดส ให้หาแผนการในการพาพวกเขาหนี ทว่าแผนการที่เขาเสนอนั้นดันเป็นแผนการที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครกล้าทำบนโลกนั้นก็คือ การปลอมตัวให้ทั้งหกคนให้เป็นทีมงานถ่ายหนังชาวอเมริกาที่เข้าไปหาโลเคชั่นถ่ายหนังในประเทศนั้นน่ะเอง
 
 
      ด้วยความร่วมมือของผู้กำกับและมือเอ็ฟเฟ็กค์ชั้นยอดแห่งฮอลลีวู้ดอย่าง Lester Siegal ผู้กำกับชรามือฉมัง และ John Chamber ได้ทำให้แผนการนี้สมบูรณ์และกลายเป็นหนึ่งในการฉกตัวประกันครั้งสำคัญของ CIA ไปในที่สุดครับ
 
       และแน่นอนว่า สิ่งที่หนังได้พยายามแสดงให้เห็นนั้นนอกจากแผนฉกตัวประกันสุดระทึกแล้วมันยังเป็นหนังที่วิพากษ์สิ่งที่เกิดขึ้นกับอเมริกาได้เป็นอย่างดีว่า สิ่งที่พวกเขาทำลงไปนั้นอาจจะกลับมาย้อนให้พวกเขาเดือดร้อนเองก็ไปได้ในอนาคต
 
       เราได้รับรู้ข้อมูลจากหนังเรื่อง Bowing For Columbine ไว้ว่า อเมริกานั้นมักจะเข้าไปแส่การเมืองในประเทศต่าง ๆ เสมอ ทั้งตรงและทางอ้อมอย่างเช่นที่เกิดขึ้นในอิหร่านที่อเมริกาได้หนุนให้พระเจ้าชาร์ขึ้นครองราชย์แทน หนังได้บอกเราว่า พระเจ้าชาร์เป็นกษัตริย์ที่พยายามปรับปรุงให้อิหร่านทันสมัยเหมือนชาติตะวันตก ทว่าพวกเขากลับเป็นพวกที่ใช้เงินบรรลัยไปกับเรื่องที่ไร้สาระตั้งแต่ ให้ภรรยาอาบน้ำนมทุกวัน การสั่งมื้อเที่ยงจากฝรั่งเศสมาทานด้วยเครื่องบินความเร็วสูงรวมทั้งการตั้งกลุ่มไล่ล่าคนที่ไม่เห็นด้วยขึ้นมา ท่ามกลางแผ่นดินที่แร้นแค้น ผู้คนอยากจนและแทบไม่มีอะไรกินแม้แต่น้ำข้าว การกดขี่นี้ได้ทำให้ประชาชนลุกฮือขึ้นขับไล่ชาร์ออกจากประเทศไป และ โคไมนี่ ผู้นำศาสนาขึ้นเป็นผู้นำแทนในที่สุดส่งผลให้อิหร่านเปลี่ยนระบบการปกครองเป็นศาสนาและกลายเป็นศัตรูของอเมริกาไปในที่สุด
 
 
        ส่วนพระเจ้าชาร์นั้นหนีไปพึ่งพิงสหรัฐที่นิวยอร์ค
 
        สิ่งที่เราได้ยินจากหนังก็คือ ชาร์ทำเรื่องเลวร้ายไว้มากมายทำไมสหรัฐจะต้องช่วยเขาไว้ คำตอบที่ออกมาจากคนในรัฐบาลก็คือ อเมริกาจะช่วยไอ้บัดซบทุกคนที่ทำประโยชน์ให้อเมริกาได้
 
        นั้นเองที่ทำให้เรารู้ว่า อเมริกาไม่ใช่คนดีหรือพระเอกอย่างที่เรารู้ ๆ กันในหนังเรื่องนี้
 
        ทว่าเมื่อเราไม่รู้สึกชอบอเมริกานัก หนังกลับให้เราเห็นว่า การช่วยตัวประกันนั้นเป็นอีกเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เช่นเดียวกับชาว อิหร่านที่ไม่ได้ผิดอะไรทั้งสิ้น
 
        แต่เป็นอเมริกาต่างหากที่ทำตัวเองให้เป็นแบบนี้
 
        จะว่าไปหนังเรื่องนี้ก็เสมือนคำตอบของหนังเรื่อง Zero Dark Thirty ที่ถามว่า อเมริกาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร (การที่มีผู้ก่อการร้ายเอาเครื่องบินพุ่งชนตึก)
 
         คำตอบมาจากหนังเรื่องนี้และสิ่งที่อเมริกาทำลงไปทั้งหมดนั้นเอง 
 
         กระนั้นหนังก็ยังคงเป็นอเมริกาที่ถ่ายทอดให้เห็นภาพของชนชาวอิหร่านที่บุกเข้ามาในสถานทูตนั้นเป็นพวกป่าเถื่อน รุนแรง บ้าคลั่ง ไม่มีสมอง เพราะเชื่อฟังการปลุกระดมของโคไมนี่เท่านั้น
 
         พวกเขาคิดอะไรไม่เป็นจึงเชื่อการชักจูงได้ง่ายเช่นนี้ นั้นคือ สิ่งที่หนังพยายามจะพูดโดยสวนทางกับเรื่องราวที่เราได้รู้ตอนต้นว่า มันเกิดแบบนี้เพราะการ สูบเลือดสูบเนื้อของพระเจ้าชาร์และอเมริกาที่ทำกับคนอิหร่านเขาต่างหาก 
 
          อย่างว่าล่ะครับ ใครจะลุกขึ้นมาล้มระบอบล่ะครับ ถ้าระบอบนั้นไม่เลวทรามต่ำช้าจริง ๆ 
 
          กระนั้นใครจะคิดเลยว่า ปัจจุบันนี้แม้ว่า โคไมนี่จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็มีกลุ่มผู้ต่อต้านตำแหน่ง Supreme Ledder of Iran ที่ตอนนี้คนทีีดำรงตำแหน่งก็คือ Ali Khamenie ขึ้นในอิหร่านเพราะ พวกเขาทนไม่ได้แล้วกับการปกครองโดยเผด็จการที่ไม่คิดฟังเสียงของประชาชนเลยแม้แต่น้อย 
 
          ซึ่งเป็นความน่าตกใจของอิหร่านไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว อาจจะเพราะพวกเขาเป็นวัยรุ่นได้ไปเรียนต่างประเทศและได้รับรู้ถึงความผิดปกติของประเทศตนก็เป็นได้ว่า 
 
          ทำไมถึงเป็นแบบนี้
 
          อิหร่านตอนนี้เป็นสังคมที่มีการเซ็นเซอร์ข่าวสูงมาก เช่นเดียวกับสิทธิเสรีภาพอื่น ๆ ก็แทบจะไม่มีเหลือ เนื่องจากทางการอิหร่านเซ็นเซอร์เอาไว้ไม่ให้คนในประเทศได้รับรู้อะไรทั้งสิ้น รวมทั้งออกกฎหมายต่าง ๆ ออกมาโดยอิงหลักศาสนาที่เรารู้ว่า มันไม่อาจจะตามทันโลกใบนี้ได้อีกแล้ว
 
          นี่เองที่ทำให้อิหร่านอยู่ในสภาพทางสามแพร่งที่ต้องใช้เวลาในเปลี่ยนแปลงจากภายใน
 
          เช่นเดียวกับอเมริกาที่พวกเขาคงต้องใช้เวลาอีกสักพักเช่นกัน
 
 
          ดังนั้นหากจะสรุปแล้ว Argo กำลังจะพูดถึงอเมริกาว่า ควรจะปล่อยให้ทุกอย่างอยู่เฉย ๆ ไปตามครรลองและเวลาของมันไป ไม่ควรไปแทรกแซงประเทศเขา เหมือนเช่นในหนังที่มีจังหวะหนึ่งพูดถึง สงครามในอัฟกานิสถานที่อเมริกาเข้าไปช่วยเหลือกองโจรพื้นเมืองในการต่อสู้กับรัสเซีย
 
        กองโจรกลุ่มนั้นมีชื่อ มูจาฮีดีน 
 
        โอซาม่า บินลาเดน ก็อยู่ในกลุ่มกองโจรนั้นด้วย
 
        และอีกไม่นานเขาจะกลายเป็นศัตรูผู้เปิดฉากสงครามก่อการร้ายที่เปลี่ยนโฉมโลกได้ทั้งใบไปเลย
 
         นี่คือหนึ่งตัวอย่างของการไปแส่ไม่เข้าเรื่องของอเมริกาครับ
 
         ฉะนั้นคำตอบของ Argo ที่ต้องการบอกกับอเมริกาและโลกก็คือ อย่าไปก้าวก่ายเรื่องของชาวบ้าน ไม่เช่นนั้นภัยอาจจะมาถึงตัวเข้าสักวัน แต่อเมริกาหรือมหาอำนาจอื่น ๆ ก็ไม่เคยจำสักครั้ง
 
       และผู้รับเคราะห์ก็คงไม่พ้นประชาชนตาดำ ๆ แบบพวกเรานี่เอง
 
ป.ล. ขออภัยที่บทความมาช้าเล็กน้อยนะครับ 

บล็อกของ Mister American

Mister American
ปี 2515 ณ หมู่บ้านห่างไกลผู้คนในจังหวัดกาญจนบุรี แย้ม เด็กสาวผู้เคยป่วยหนักจนเกือบตายได้มีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้น เธอเริ่มพูดจาด้วยคำหยาบคายกับคนในครอบครัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เริ่มโกหกและยุแยงให้คนในบ้านแตกคอกัน รวมทั้งลุกขึ้นมาตอนกลางคืนเพื่อนกินของสดทำให้คนในครอบครัวโดยเฉพาะ หยาด เกิดความสงสัยขึ
Mister American
สัปเหร่อ : คนตายคือ ครู และ คนอยู่คือ นักเรียน           “ความตาย...มันฆ่าเฮาได้แค่ครั้งเดียว แต่ความฮัก มันฆ่าเฉาไปเรื่อยๆๆ จนกว่าเฮาสิตายพุ่นเด้”บักมืด 
Mister American
                ระหว่างที่เขียนต้นฉบับบทความนี้อยู่นั้น การโหวตประธานรัฐสภาและรองประธานสองคนการประชุมสภาวันแรกได้จบลงแล้ว และ ผลคือ คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา จากพรรคประชาชาติ ดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาคนใหม่ ร่วมกับ รองประธานสภาสองท่านจากพรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อ
Mister American
            คงไม่มีอนิเมชั่นเรื่องใดในซีซั่นนี้ที่เรียกว่า สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับบรรดาคนดูอนิเมชั่น และ คนดูหนังหลายคนได้เท่ากับ อนิเมชั่นซีรีย์เรื่อง Oshi no Ko หรือ ชื่อไทยว่า เกิดใหม่เป็นลูกโอชิ ผลงานดัดแปลงจากมังงะขายดีของ อากะ อาคาซากะ ที่ได้ฤกษ์ออกฉายไปเมื่อ
Mister American
                "พรมนิ้วลงไป หวังให้อัสนีกึกก้องด้วยละอองแสง                   กระหน่ำตีเข้าไปให้ถึงปลายทางของความเจ็บปวด
Mister American
                พอ Hellraiser ภาคใหม่จะลงฉายใน Hulu กันในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ (ซึ่งไทยจะได้ดูกันใน Disney Plus) นับว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของพินเฮดและเหล่าซีโนไบร์ต หนึ่งในไอค่อนของโลกสยองขวัญที่โด่งดังไม่แพ้ เฟรดดี้ ครูเกอร์ แห่ง Nightmare of elm street , เ
Mister American
พึ่งจบกันไปหมาด ๆ สำหรับอนิเมชั่นเรื่องดังประจำซีซั่นนี้อย่าง Lycoris  Recoli จากค่าย A-1 Picture ที่นอกจากจะเป็นม้ามืดประจำซีซั่นนี้ที่ได้รับความนิยมแบบถล่มทลายจนแซงหน้าบรรดาอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์เรื่องอื่น ๆ ไปแบบไม่มีกังขา โดผลโหวตจากสำนักอนิเมชั่นต่าง ๆ โหวตให้เรื่องนี้อยู่
Mister American
“ทำไมถึงไม่มีหนังสัตว์ประหลาดไทยดี ๆ ออกมาสักทีวะ ?”
Mister American
คงไม่ต้องบอกว่า ณ ช่วงเวลานี้ หลาย ๆ คนคงให้ความสนใจกับการชุมนุมของบรรดาหนุ่มสาววัยรุ่นที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือ กลุ่มนักเรียน นักศึกษาคนรุ่นใหม่ที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ขับไล่เผด็จการ และ เปลี่ยนแปลงประเทศใหม่ กันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะปรากฏการณ์ของการชุมนุมที่เกิ