ถ้าพูดถึงหนังสือที่ขายดีมาแรงแซงทางโค้งในช่วงเวลาที่แสนซบเซาและน่าเบื่อนี้ แน่นอนว่า ชื่อของไลท์โนเวล หนังสือนิยายแปลไทยจากญี่ปุ่นที่กลายเป็นหนังสือกระแสแรงในงานหนังสือที่ผ่านมาสองสามปีนี้ แน่นอนว่า สาเหตุที่มันเข้าถึงคนอ่านได้ง่ายจนกลายเป็นหนังสือชายดีในทุกงานหนังสือนั้นต้องบอกว่า เป็นเพราะ ภาษาที่อ่านง่าย บวกกับ เนื้อหาที่สนุกและหลากหลายทำให้มันได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นและนักอ่านรุ่นใหม่ทั้งหลาย จากหนังสือที่หลายคนหมางเมินกลายเป็นหนังสือกระแสหลักที่หลายคนค่ายต่างกระโจนเข้ามาในวงการนี้กันมากมายจนปัจจุบันน่าจะมีค่ายที่ทำไลท์โนเวลออกมาประมาณเกือบ 10 ค่ายเห็นจะได้แล้วครับ เรียกได้ว่า เป็นยุคทองของไลท์โนเวลอย่างแท้จริงเลยครับ แน่นอนว่า หลายคนถามผมว่า ถ้าจะเริ่มอ่านนิยายประเภทนี้ควรเริ่มจากเรื่องไหนดี (เพราะมีให้พรึ่บไปหมด) หลายคนก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงครับ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจว่า คงต้องเขียนถึงโนเวลพวกนี้ว่า ถ้าจะแนะนำไลท์โนเวลแปลไทยในขณะนี้ให้อ่าน เรื่องไหนที่ควรลองหามาอ่าน และนี่คือ 10 โนเวลที่ควรหามาอ่านครับ ถ้าคุณจะเริ่มอ่านไลท์โนเวลครับ
1. Fate Zero
ลิขสิทธิ์โดยค่าย Dexpress
จำนวนเล่ม 2 เล่มยังไม่จบ
สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์
สงครามระหว่างจอมเวทย์ทั้ง 7 คน และเซอร์เวนท์ของ 7 ตน ที่ทำสงครามต่อสู้กันให้เหลือเพียงหนึ่งเดียวเพื่อครอบครองสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ที่ว่ากันสามารถดลบันดาลความฝันและความปรารถนาของผู้คนให้เป็นจริง ได้นี่คือ เรื่องราวของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 4 สงครามที่ว่ากันว่า รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา นี่คือเรื่องราวของชายผู้มีฉายาว่า มือสังหารจอมเวทย์นาม เอมิยะ คิริสึงุที่เข้าร่วมสงครามจอกครั้งนี้เพื่อหวังจะได้สร้างครอบครัวอันแสนสงบกับภรรยาและลูกสาว โดยมีความปรารถนาที่อยากให้โลกสงบสุขเป็นความปรารถนาของเขา ทว่าสงครามจอกครั้งนี้กลับเป็นสงครามที่เขาได้เรียนรู้ว่า อุดมคติของเขาเป็นแค่สิ่งลวงตาเมื่อต้องปะทะกับชายที่มีวิถีทางคล้ายกับเขานาม โคโตมิเนะ คิเรย์ สงครามครั้งนี้กำลังเริ่มอุบัติขึ้น
ทำไมถึงต้องอ่าน ?
Fate Zero เป็นผลงานไลท์โนเวลที่ดัดแปลงมาจากโครงเรื่องของ นาสุ คิโนโกะ ของค่าย Typemoon ค่ายเกมชื่อดังของญี่ปุ่น เจ้าของผลงานดัง ๆ อย่าง Fate Stay Night หรือ Tsukihime ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นอนิเมะไปแล้ว โดย Fate Zero นั้นเป็นภาคต้นของ Fate Stay Night ที่นำภาพของสงครามครั้งใหญ่ที่สุดมาเขียนขยายต่อด้วยฝีมือของนักเขียนบทผู้ได้รับฉายาว่า จอมมาร นาม อุโรโบชิ เก็น เจ้าของผลงานดัง ๆ อย่าง Mahou Shoujo Madoka (สาวน้อยเวทย์มนต์มาโดกะ) อันโด่งดัง ที่เป็นผลงานแฟนตาซีที่ยั่วล้อและเย้ยหยันอุดมคติของมนุษย์อย่างเจ็บปวด ผ่านการพาคนดูไปสำรวจชีวิตของตัวละครต่าง ๆ อย่างถึงพริกถึงขิง ให้เราได้ผูกผันกับตัวละครทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นมาสเตอร์ที่เป็นจอมเวทย์ คนรอบข้าง ไปจนถึงเซอร์เวนท์ที่เป็นวิญญาณของวีรบุรุษในตำนานจนเรารู้สึกผูกผัน และจากนั้นก็นำความเชื่อ อุดมคติ อุดมการณ์เหล่านั้น มาเหยียบย้ำ ฉีกหน้า กระทืบซ้ำด้วยความสะใจ การปะทะกันของอุดมการณ์ และมุมมองที่แตกต่าง นี่คือ ไลท์โนเวลที่อ่านแล้วนอกจากจะสนุกแบบแฟนตาซีอลังการ มันยังเป็นโนเวลที่เย้ยหยัน สิ้นหวัง และ มองเห็นความเป็นจริงของโลกได้ว่า บางครั้งโลกใบนี้มันก็โหดร้ายเกินกว่าอุดมคติจะเป็นจริงได้ วินาทีที่ความเชื่อ ความดีถูกทำร้ายลงไปนั่นล่ะคือ สิ่งที่ Fate ภาคนี้ได้กระทำลงไป ให้เราไม่เชื่อในอะไรทั้งสิ้น
แม้กระทั่งคุณความดีก็ตาม
2. No Game No Life
ลิขสิทธิ์ โดย A-Plus
จำนวนเล่ม 2 เล่มยังไม่จบ
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสองพี่น้องฮิคิโคโมริแถมเป็นนีทหลุดไปยังโลกแฟนตาซีที่ทุกอย่างตัดสินด้วยเกม ?
เรื่องของเกมเมอร์ในตำนานนามว่า คูฮะคุ ที่ไม่ว่าเกมอะไรก็พิชิตได้จนกลายเป็นตำนานเมืองไปแล้ว แน่นอนว่าตัวจริงของพวกเขานั้นดันเป็นสองพี่น้องฮิคิโคโมรินามว่า โซระ และ ชิโระ ที่คนหนึ่งเป็นนีท อีกคนก็หวาดกลัวไม่กล้าคุยกับพูดคุยทำให้ทั้งคู่คลุกอยู่แต่ในบ้านเล่นเกมกันจนมีฝีมือระดับเทพ ทว่าพวกเขากลับรู้สึกว่างเปล่าและอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถทำได้เสียที กระทั่งวันหนึ่งมีเมล์ส่งมาท้าแข่งเกมกับพี่น้องคู่นี้ ซึ่งเป็นเกมหมากรุก แน่นอนว่า ชิโระได้ใช้ความสามารถของเธอเอาชนะได้และทำให้ทั้งคู่หลุดไปยังโลกที่ทุกอย่างตัดสินด้วยเกม เป็นโลกที่ไม่มีสงคราม และตัดสินทุกอย่างด้วยเกม แม้กระทั่งแข่งเอาดินแดนกันก็ตาม ที่นั้นเองทั้งคู่ต้องช่วยเหลือมนุษย์กลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่ต่อสู้แย่งชิงดินแดนกับเหล่าเผ่าพันธุ์อื่นกลับมาให้ได้
เรื่องราวของสองพี่น้องเก่งเกมกับโลกที่ทุกอย่างตัดสินด้วยเกมเริ่มขึ้นแล้ว
ทำไมถึงต้องอ่าน ?
ผลงานไลท์โนเวลของนักเขียนการ์ตูนผู้อยู่ในวงการมาหลายปีอย่าง ยู คามิยะ ที่กระโดดลงมาจับผลงานโนเวลของตัวเองบ้าง หลังจากทำหน้าที่ในการวาดภาพประกอบให้คนอื่นมาตั้งนาน ซึ่งผลงานเรื่องนี้ก็เรียกว่า เป็นผลงานแจ้งเกิดของเขาในเส้นทางไลท์โนเวลเลยก็ว่าได้ ด้วยเนื้อเรื่องแนวแฟนตาซีที่น่าสนใจโดยเฉพาะเรื่องของเกมที่ทุกอย่างตัดสินด้วยเกม แน่นอนว่า มันเป็นโลกอุดมคติที่ไม่มีสงครามและการฆ่าฟันตามที่ใครหลายคนเคยฝัน ทว่า โลกใบนี้ก็ไม่ได้สงบสุขและไร้ความขัดแย้ง เพียงแต่ความขัดแย้งมันย้ายไปอยู่ในเกมแทน
แน่นอนว่า งานมันสะท้อนภาพของสังคมว่า ไม่มีหรอก โลกที่ไร้ขัดแย้ง ต่อให้ไม่มีสงครามคนเราก็มองหาอย่างอื่นมาสร้างความขัดแย้งและแย่งชิงกันได้อยู่ดี เกมเองก็เป็นภาพตัวแทนของสงครามย่อย ๆ อย่างหนึ่งเหมือนกันเพียงแต่ไม่มีการฆ่าฟันกันก็เท่านั้น
ความน่าสนใจของนิยายเรื่องนี้คือ การวางคาแรคเตอร์ตัวละครไว้ให้เป็นสองพี่น้องฮิคิโคโมริที่มีปัญหาเรื่องการปรับตัวกับชีวิตจนต้องหนีจากสังคม แน่นอนว่า เมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องใช้แรงกาย แรงสมองมากกว่าที่บ้านนั้น พวกเขาจะเอาตัวรอดไปได้อย่างไร นี่ยังไม่รวมการชิงไหวชิงพริบระหว่างเกมที่โนเวลทำได้ดีจนลุ้นตัวโก่งกันไปเลยทีเดียว จึงนับได้ว่า เป็นงานแฟนตาซีอีกเรื่องที่พาเรากระโจนไปในเกมวางแผนย่อย ๆ เลยก็ว่าได้
ชีวิตเปรียบเหมือนเกม ไม่มีใครอยู่ได้โดยปราศจากเกมเหล่านี้ได้ทั้งนั้น
สมดังคำว่า No Game No Life
3. Hyouka (ปริศนาความทรงจำ)
ลิขสิทธิ์โดย Enterbook
จำนวนเล่ม 3 เล่มยังไม่จบ
บางครั้งชีวิตประจำวันของเราก็เต็มไปด้วยเรื่องลึกลับเสมอ ?
เรื่องราวชีวิตอันแสนน่าเบื่อของ โฮเรกิ โฮทาโร่ ชายหนุ่มผู้มีคติว่า ใช้ชีวิตให้เปลืองพลังงานน้อยที่สุดและรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตไม่ใช่น้อย เขาได้รับการไหว่วานจากพี่สาวให้เข้าชมรมวิจัยวรรณกรรมหรือ Hyouka แทน เนื่องจากไม่มีใครมาเข้าชมรมแม้แต่คนเดียว ทว่าเมื่อไปถึงโฮเรกิก็พบว่า ในชมรมมีคนมาเข้าอยู่แล้วนั่นก็คือ เด็กสาวนามว่า จิทันดะ เอรุ แล้ว และนั่นเองที่ทำให้โฮเรกิได้เข้าไปช่วยเหลือเธอในการสืบหาความทรงจำที่หายไปของเธอว่า ในอดีตสมัยเธอเด็ก ๆ ลุงของเธอพูดว่าอะไร และ Hyouka มีความหมายอย่างไร โดยร่วมมือกับบรรดาพ้องเพื่อนชมรมวิจัยวรรณกรรมคนอื่น ๆ ตามหาความทรงจำอันนี้
ทำไมต้องอ่าน ?
เอาจริงแล้ว Hyouka ไม่ใช่ไลท์โนเวลนะครับ จริง ๆ แล้วมันเป็นนิยายแนวสืบสวนในโรงเรียนธรรมดาเรื่องหนึ่งครับ แต่เนื่องจากมันได้รับการดัดแปลงมาเป็นอนิเมชั่นฉายสองปีก่อนและโด่งดังเอามาก ๆ ด้วย ทำให้มีการรีปกใหม่ออกมาโดยใช้คาแรคเตอร์ในอนิเมชั่นแทน
ครับ แน่นอนว่ามันโนเวลแนวสืบสวนก็จริง แต่ก็ไม่มีใครมาตายแบบนิยายสืบสวนทั่วไปครับ ส่วนมากเนื้อหาของเรื่องก็เป็นการสืบสวนเล็ก ๆ น้อยในชีวิตประจำวันแทน อย่างเช่น ใครเป็นคนปิดประตู หรือ เสียงนั้นมาจากที่ไหน แน่นอนว่า การตามหาความทรงจำที่หายไปนั้นก็ถือว่า เป็นงานสืบสวนที่แปลก เพราะไม่มีใครตายเลย
แน่นอนว่า เมื่อไม่มีใครตาย หลายคนก็สงสัยว่า งานสืบสวนมันจะไปในทิศทางไหน เพราะนิยายสืบสวนมักจะมีคนตายเสมอ แต่เมื่อไม่มีคนตายจะเป็นยังไง และอย่างที่เห็นครับว่า ไม่มีคนตายก็เขียนนิยายสืบสวนดี ๆ ได้ แถมยังเป็นนิยายที่เปิดเผยความจริงชวนช็อคออกมาได้น่าสะพรึงและทำให้เรารู้ นิยายสืบสวนไม่จำเป็นต้องมีคนตายก็เป็นนิยายสืบสวนได้เหมือนกันครับ
ที่สำคัญชีวิตวัยรุ่นเรื่องนี้ก็ดูมืดมนจนรู้สึกได้เหมือนกัน
4. oda nobuna no yabou (จอมนางอหังการโอดะ โนบุนะ)
ลิขสิทธิ์โดย Zenshu
จำนวนเล่ม 3 เล่มยังไม่จบ
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณหลุดไปในโลกเซ็นโกคุ (สงครามกลางเมืองญี่ปุ่น) และพบว่า ขุนศึกเลื่องชื่อในสงครามนี้เป็นผู้หญิง ?
เรื่องราวของซางาระ โยชิฮารุ นักเรียนหนุ่มม.ปลายที่หลุดไปอยู่ในโลกสมัยสงครามเซ็นโกคุอย่างไม่ทราบสาเหตุ และด้วยความสับสนนั้นเอง เขาถูกทหารโจมตีและได้รับการช่วยเหลือจากลุงแก่ ๆ คนหนึ่งนามว่า คิโนชิตะ โทคิจิโร่ หรือที่จะเป็น โทโยมิ ฮิเดโยชิ ไดเมียวผู้รวบรวมญี่ปุ่นในอนาคต แต่ลุงโทคิจิโร่ดันพลาดถูกสังหารเสียก่อน และอาจจะทำให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นโยชิฮารุจึงต้องสวมรอยเป็นเขาแทนเพื่อปกป้องประวัติศาสตร์ด้วยการไปเข้ากับกองทัพของตระกูลโอดะและช่วยเหลือสาวน้อยคนหนึ่งเอาไว้ และนั่นเองที่เขาได้พบกับผู้นำตระกูลโอดะ นาม ว่า โนบุนะ ที่ดันเป็นผู้หญิงแทน
และที่สำคัญกว่านั้นขุนศึกของตระกูลโอดะทุกคนก็ล้วนเป็นผู้หญิงกันหมดทุกคนอีกด้วย
ทำไมถึงต้องอ่าน ?
แน่นอนว่า นี่คือโนเวลที่นำประวัติศาสตร์ช่วงสงครามกลางเมืองยุคเซ็นโกคุมาดัดแปลงได้อย่างครบรสและทำได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง แม้ว่าจะมีการดัดแปลงตัวละครในประวัติศาสตร์ให้เป็นผู้หญิงเกือบทั้งหมดจนดูเป็นการ์ตูนฮาเร็มสมัยนิยมไปก็จริง ทว่า เนื้อหาของเรื่องก็ยังคงหยิบจับประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นมาย่อยใหม่ให้เข้าใจง่าย ทั้งวางเรื่องราวได้อย่างเข้มข้น ทั้งบุ๋นและบู้และแสดงภาพของสงครามออกมาได้อย่างน่าสนใจว่า สงครามนั้นมีผลกระทบกับผู้คนมากมายแค่ไหน โนเวลแสดงภาพการพัฒนาด้านตัวละครออกมาได้ค่อนข้างมีการพัฒนา ที่สำคัญมันเป็นเสมือนตำราสอนประวัติศาสตร์ให้กับคนในประเทศไม่พอยังเป็นตำราวิพากษ์ประวัติศาสตร์ไปด้วย (อย่างเช่นประเด็นเรื่องร่องเขาเป็นต้น) ความสนุกของเรื่องนี้จึงสลับไประหว่างมุขตลกล้อเลียนประวัติศาสตร์ที่เข้าใจง่ายสำหรับคนไทยหรือผู้เริ่มต้น มันยังพาเราไปมองเห็นว่า สิ่งที่สำคัญกว่าสงครามนั้นคือ การสร้างไมตรีและมิตรที่ยั่งยืนกว่าเหมือนเช่นที่โยชิฮารุพยายามเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นเพราะ มองเห็นภาพขุนนางยอดนักบริหารมากกว่าทรราชแห่งกลียุคในตัวเด็กสาวคนนี้
การเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์จะทำได้หรือไม่ ลองติดตามดูครับ
5. Yuusha ni narenakatta ore wa shibushibu shuushoku (จอมมารสุดซ่าส์กับผู้กล้าร้านสะดวกซื้อ)
ลิขสิทธิ์โดย Luckpim
จำนวนเล่ม 1 เล่มยังไม่จบ
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทั้งผู้กล้าและจอมมารมาทำงานอยู่ในร้านสะดวกซื้อเดียวกัน
หลังเกิดเหตุการณ์จอมมารถูกสังหารอย่างไร้สาเหตุส่งผลให้อาชีพผู้กล้า ทั้งร้านขายอาวุธ ชุดเกราะ พากันเจ๊งกันไปทั้งบาง แน่นอนว่าความฝันของ ราอูล หนุ่มบ้านนอกที่อยากเป็นผู้กล้าและทำคะแนนสอบได้โดดเด่นต้องเป็นหมันไปในทันที ชีวิตของเขาต้องพกผันกลับบ้านก็ไม่ได้เพราะ หมู่บ้านต่างหวังกับเขาไว้มาก สุดท้ายชีวิตของเขาต้องมาทำงานอยู่ในร้านไอเท็มช็อบเลออนสาขาเมืองหลวงอย่างซังกะตาย กระทั่งวันหนึ่งมีพนักงานใหม่เข้ามาสมัครงานและเขาได้พบว่า พนักงานใหม่คนนั้นคือ ฟีโน่ ซึ่งเป็นลูกของจอมมารที่พึ่งถูกสังหารไปหยก
และที่สำคัญกว่านั้น ฟีโน่ ดันเป็นผู้หญิงอีกต่างหาก
ชีวิตของราอูลจึงต้องทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้ฟีโน่ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวในโลกมนุษย์เลย ให้เธอทำงานได้อย่างราบรื่นให้ได้
ทำไมถึงต้องอ่าน ?
รู้จักผู้กล้ากับจอมมารไหมครับ
ถ้าเป็นแฟนเกมอย่าง Dragon Quest ในอดีตจะพบว่าเราจะได้เห็นเป็นผู้กล้าที่ต้องออกเดินทางไปปราบจอมมารเพื่อช่วยโลกและองค์หญิงมาให้ได้ แน่นอนว่า ผู้กล้านั้นนับว่าเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นไปแล้ว โดยเฉพาะคนเล่นเกมทั้งหลายที่ต่างคุ้นเคยเรื่องราวแบบนี้เป็นอย่างดี แน่นอนว่า ความซ้ำซากของระบบผู้กล้าจอมมารนั้นทำให้มีการพยายามเปลี่ยนแปลงและตั้งคำถามใหม่ในโนเวลหลายเรื่อง ที่ต่างหยิบจับตำนานผู้กล้าจอมมารเสียใหม่ในมุมที่ต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็นมุมมองเชิงเศรษฐศาสตร์แบบจอมมารเศรษฐศาสตร์ เป็นต้น ซึ่งนับว่าเป็นการหยิบตำนานนี้มาตีความใหม่ได้น่าสนใจ อย่างเช่นเรื่องนี้นอกจากจะมีอารมณ์เซอร์วิสตามการ์ตูนสมัยใหม่ก็ตาม แต่ว่า มันก็ได้วิพากษ์สังคมของโลกไว้น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นการวิพากษ์ระบบทุนนิยมกับสงครามว่า มีการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน (ถ้าไม่มีจอมมาร ทั้งผู้กล้า และ คนผลิตอาวุธทั้งหลายก็ไม่อาจจะทำอาชีพนี้ได้ต่อไป) และสะท้อนให้เห็นว่า ทุกสิ่งนั้นเชื่อมโยงกันราวกับโซ่ที่ทำให้เห็นว่า ทุกอย่างนั้นอยู่ในผลประโยชน์กันทั้งสิ้น
ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่บริสุทธิ์จริง ๆ นั่นเอง
จะว่าไปนี่ก็เป็นงานวิพากษ์ระบบที่น่าสนใจในการตั้งคำถามที่ว่า โลกนี้มันวุ่นวายนั้นเพราะ มีความชั่วร้ายอยู่ หรือเราต่างหากที่สร้างความชั่วร้ายขึ้นมาบนโลกกันแน่
6. Girl und Panzer (สาวปิ้งซิ่งแทงค์)
ลิขสิทธิ์โดย Dexpress
จำนวนเล่ม 1 เล่มยังไม่จบ
รถถัง + สาวน้อยชุดนักเรียน + การแข่งขัน + เนื้อหอม ?
เรื่องราวเกิดขึ้นในโลกแห่งหนึ่ง ณ โรงเรียนอาโอไรที่ตั้งขึ้นบนเรือขนาดใหญ่ด้วยจุดประสงค์ต้องการหลอมรวมเด็ก ๆ จากทุกภูมิภาคให้ใช้ภาษาเดียวกันและมีวัฒนธรรมคล้ายกันนั้น ได้มีการพยายามรื้อฟื้นชมรมเซ็นฉะโด ซึ่งเป็นวิชาในการขี่รถถังเพื่อเข้าแข่งขันในงานเซ็นฉะโดที่โรงเรียนต่าง ๆ พากันมาร่วมแข่งขันกันทุกปี แน่นอนว่า ในบรรดาโรงเรียนทั้งหลายนั้น อาโอไร เป็นโรงเรียนโนเนมไร้ชื่อเสียงที่พึ่งจะเข้าแข่งขันในปีนี้เท่านั้น และมีสมาชิกในทีมได้แก่ ทาคาเบะ ซาโอริ สาวน้อยช่างฝันที่เชื่อว่า เซ็นฉะโดจะทำให้เธอเนื้อหอมขึ้นมาได้ เธอจึงเข้าร่วมวิชาเลือกนี้ร่วมกับสมาชิกคนอื่น ๆ ได้แก่ ฮานะ สาวนักจัดดอกไม้ที่มีปัญหาที่บ้านเรื่องวิถีทางชีวิต มิโฮะ นักเรียนคนเดียวที่มีประสบการณ์ด้านนี้ และยูคาริ โอตาคุ รถถังและ มาโกะ สาวน้อยอัจฉริยะ ทั้งห้าคนจะฝ่าฝันอุปสรรคทั้งหมดและก้าวสู่ตำแหน่งชนะเลิศในเซ็นฉะโดได้หรือไม่
ทำไมถึงต้องอ่าน ?
แน่นอนว่า นี่คือภาพแสดงให้เห็นว่า โลกไร้สงครามแล้ว อาวุธพวกนี้อย่างรถถังนั้นเรียกได้ว่า แทบจะเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ไปเลยทีเดียว แน่นอนว่า โลกของเซ็นฉะโด นั้นรถถังเป็นเสมือนภาพของตัวแทนโลกยุคเก่าที่ล้าสมัยไปแล้ว โลกแห่งการฆ่าฟันไปจบลงไปแล้ว และทำให้เครื่องจักรพวกนี้กลายเป็นเพียงเศษซากโบราณที่ใช้เป็นกีฬาไปเหมือนเช่นปืนที่กลายเป็นกีฬาไปเหมือนกัน นั่นเองที่ทำให้โลกของเซ็นฉะโดนั้นเป็นโลกแสนสงบที่คำว่า สงคราม อาจจะถูกลบเลือนไปนานแล้วก็ได้
กระนั้นมนุษย์ก็ไม่อาจจะขาดซึ่งการแข่งขันได้ การนำรถถังมาใช้เพื่อแข่งขันนับว่า เป็นอะไรที่น่าสนใจ เพราะ เราแน่ใจได้ว่า โลกใบนี้มันไม่มีการฆ่าฟันกันแล้ว รถถังก็ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ชายขี่เพื่อทำสงครามอีกต่อไป แต่กลายเป็นสาวน้อยแทนเพื่อลดทอนความน่ากลัวของมันลงให้ดูอ่อนหรือนุ่มนวลลงตามสภาพ ซึ่งสอดคล้องกับโลกที่ไร้สงครามนี้อย่างยิงที่ทุกอย่างไปจบลงที่การแข่งขันแทน
ดูแล้วก็รู้สึกว่า โลกในเซ็นฉะโดนั้นเป็นโลกจินตนาการที่น่าอยู่ เพราะอย่างน้อยมันไม่ก็ไม่มีความขัดแย้งใด ๆ และทุกอย่างก็จบลงที่การแข่งขันเสมอ
จากนั้นก็เป็นเรื่องของมิตรภาพที่พวกสาว ๆ เหล่านี้จะสานต่อเรื่องราวของตัวเองไปได้แค่ไหนกัน
ดังนั้นโนเวลเรื่องนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบรถถัง การวางแผนรบ และ มิตรภาพที่ให้เราได้หนีจากโลกและฝันว่า มันจะเป็นแบบนั้นบ้างจริง ๆ ในโลกของเราสักวัน
7. Kamisama no inai nichiyoubi (วันอาทิตย์ที่ไม่มีพระเจ้า)
ลิขสิทธิ์โดย Zenshu
จำนวนเล่ม 2 เล่มยังไม่จบ
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าโลกนี้ไม่มีความตายเกิดขึ้นอีกแล้ว ?
และที่สำคัญไม่มีใครเกิดอีกแล้ว ?
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อพระเจ้าได้ทอดทิ้งโลกใบนี้ไปส่งผลให้มนุษย์บนโลกนั้นไม่มีใครเกิดและไม่มีใครตายอีกแล้ว แน่นอนว่า มนุษย์ที่ตายก็กลายเป็นคนตายที่ยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งเน่าเฟะไปตามกาลเวลา และไม่มีวันไปสู่สุคติได้ ทว่าพระเจ้าก็ได้ส่งกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งมานั้นคือ ผู้พิทักษ์สุสาน ผู้มีพลังอำนาจในการส่งเหล่าคนตายไปสู่สุคติได้
เรื่องราวผู้พิทักษ์สุสานตัวน้อยนาม ไอ ที่ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สุสานอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เธอใช้ชีวิตด้วยการขุดหลุมไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย กระทั่งวันหนึ่งคนทั้งหมู่บ้านของเธอถูกชายผมสีเงินนาม แฮปนีย์ แฮมเบิร์ท สังหารจนตายเกลี้ยง และแน่นอนว่า ไอซึ่งถูกแม่ของเธอสอนว่า ชายผู้มีผมสีเงินนี่คือ พ่อของเธอก็ได้ออกติดตามชายคนนี้ออกจากหมู่บ้านไปด้วย เพื่อไม่ให้โลกสิ้นสุดลงด้วยความสิ้นหวัง
ทำไมถึงต้องอ่าน ?
ถ้าคุณกำลังมองหาไลท์โนเวลแฟนตาซีที่วิพากษ์เรื่องปรัชญาว่าด้วยความตายและความเป็นได้น่าสนใจแล้วล่ะก็ โนเวลเรื่องนี้เป็นโนเวลที่น่าสนใจ เพราะมันบอกเล่าว่า ถ้าเกิดมนุษย์ไม่สามารถเกิดได้และตาย มันจะมีสภาพอย่างไร แน่นอนว่า ความปรารถนาของมนุษย์หลายคนก็คือ การไม่ตายหรือเป็นอมตะนั้นเอง หลายคนมองว่า การที่ไม่ตายนี่ล่ะ คือ สิ่งที่ดีทว่า พระเจ้าก็ไม่ใจดีมากขนาดนั้น เพราะอย่างที่บอก แม้คุณจะไม่ตาย แต่ร่างกายก็จะเน่าเปื่อยไปเรื่อย ๆ แม้จะมีความพยายามจะเอาชนะเรื่องนี้ให้ได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ แต่ว่า ก็ไม่มีอะไรชนะสังขารไปได้อยู่ดี คนตายจึงต่างกับคนเป็นชนิดคนล่ะโยชน์เลยทีเดียว
ที่น่าสนใจคือ โนเวลมันพาเราไปถามว่า ที่เป็นแบบนี้ พวกเขามีความสุขไหม บางคนอาจจะมีความสุข บางคนอาจจะมีความทุกข์ต่างกันไป แต่สุดท้ายคำว่า ทุกข์หรือสุขไม่ได้อยู่ที่ความเป็นความตาย แต่อยู่ที่จิตใจของคนคนนั้นต่างหากมองอย่างไร
บางคนมองความตายเป็นความทุกข์ บางคนมองความตายเป็นความสุข บางคนมองว่า การมีชีวิตคือ ทุกข์ บางคนมองว่า การมีชีวิตคือ สุข
มันก็แล้วแต่มุมมอง เราไม่มีสิทธิจะไปตัดสินอะไรได้
แต่การเดินทางของไอนั้นเป็นเหมือนการเพิ่มเติมประสบการณ์ของเธอให้ได้ตัดสินใจว่า โลกที่คนตายไม่ไปเกิด คนเกิดไม่ได้ นั้นจะต้องมีอยู่หรือไม่
นั่นคือสิ่งที่ไอต้องหาคำตอบในการเดินทางครั้งนี้
8. Kino no tabi (การเดินทางของคิโนะ)
ลิขสิทธิ์โดย Bliss
จำนวนเล่ม 9 เล่มยังไม่จบ (และยังไม่มีการซื้อลิขสิทธิ์ใหม่)
นี่คือ การเดินทางของเด็กหนุ่มคนหนึ่งนามว่า คิโนะ กับรถมอเตอร์ราดพูดได้นามว่า เฮอร์เมส ที่ออกเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ เขาจะพักอยู่ที่นี่เพียงสองวัน และสังเกตการณ์สิ่งต่าง ๆ ด้วยสายตาของคนนอก ผ่านเรื่องราวสุขเศร้าเหงาและน่าฉงน นี่คือเรื่องราวการเดินทางของพวกเขา
ทำไมต้องอ่าน ?
ถ้าคุณกำลังมองโนเวลแนวแฟนตาซีที่มีครบทุกรสตั้งแต่ สุข เศร้า เหงา บู้ แอ็คชั่น ไปจนถึงตลกร้าย แล้วล่ะก็ คิโนะคือ โนเวลที่คุณกำลังตามครับ ด้วยเรื่องราวที่เป็นเสมือนเรื่องสั้นที่มีตัวละครอย่าง คิโนะเข้าไปเชื่อมโยงกับเรื่องราวต่าง ๆ ตามแต่ที่ตัวละครตัวนี้จะไปถึง แน่นอนว่า โนเวลพยายามกันคิโนะออกมาเป็นคนนอกให้มากที่สุดแล้วให้เราได้วิพากษ์สิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองด้วยตัวเอง ด้วยสายตาของเรา ด้วยกรอบแว่นศีลธรรมที่มีอยู่ว่า มันสมควรทำอย่างนั้นหรือ แก้ไขอะไรได้หรือเปล่า
แน่นอนว่า ในโนเวลนี้ได้พาเราไปวิพากษ์ตั้งแต่ การเป็นผู้ใหญ่ที่ดีคืออะไร ? ประชาธิปไตยคือ ระบบการปกครองที่ดีที่สุดจริงหรือ เมืองที่มีหุ่นยนต์ปกครองเป็นอย่างไร ระบบทุนนิยมมีผลอย่างไรต่อมนุษย์ หลายคำถามเชิงปรัชญา การปกครอง ที่ท้าทายความคิดของเราว่า มันเป็นยังงี้ได้ยังไงนั้น เป็นสิ่งที่คิโนะวางเอาไว้เป็นจุดหมายครับว่า เขาจะพาเราไปเจออะไร และเราจะได้อะไรจากเดินทางของคิโนะกัน
หลายคนบ่นว่า คิโนะ เป็นโนเวลที่อ่านไม่รู้เรื่อง มันไม่ให้คำตอบใด ๆ เราเลย ก็อย่างทีว่าครับ จุดประสงค์ของโนเวลนั้นก็ต้องการกันเราให้มองดูโลกในสายตาของคนนอกให้มากที่สุด เพราะบทสรุปของมันคือ ไม่มีอะไรบนโลกใบนี้ที่ดีหมดหรือเลวหมดนั่นเอง
ทุกอย่างมีสีขาวและดำเหมือนกัน
และสิ่งที่บอกได้อย่างเดียวเกี่ยวกับโลกนี้อาจจะเป็นคำพูดของนักสืบคนหนึ่งที่ผมชอบหยิบยกขึ้นมาบ่อย ๆ ว่า โลกใบที่เราอาศัยอยู่นี้-เป็นสถานที่ที่สวยงามและคุ้มค่าที่จะดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไป ผมเห็นด้วยแค่ประโยคหลัง
โลกของคิโนะก็เช่นกัน
9. Quick Save & Load (ปริศนาล่าท้าเวลา)
ลิขสิทธิ์โดย Enterbook
จำนวนเล่ม 2 เล่มยังไม่จบ
ถ้าชีวิตสามารถเซฟ ณ จุดใดก็ได้ และ โหลดกลับไปใช้ชีวิตใหม่ได้แบบเกม มันจะเป็นยังไงกันหน่อ ?
นี่คือเรื่องราวของชีวิตอันแสนสะดวกสบายของซาคากิ คิโยโตะ ชายหนุ่มผู้มีพลังพิเศษที่ตื่นขึ้นมาเองได้แก่ พลังที่สามารถย้อนชีวิตไปในช่วงที่เซฟเอาไว้ก่อนหน้านี้เพื่อเล่นใหม่อีกครั้งแบบเกม โดยเขาต้องตายก่อนถึงจะย้อนกลับไปได้ ซึ่งตัวเขาทำแบบนี้จนชินไปแล้ว แต่ทว่าวันหนึ่งขณะที่กำลังเตรียมฆ่าตัวตายเพื่อย้อนกลับไปอีกครั้ง เขาก็ได้พบว่า มีคนมากระโดดตึกเขาด้วย เธอคนนั้นคือ ยุย เพื่อนสมัยเด็กของเขาที่ไม่เจอกันนานแล้ว นั่นเองที่ทำให้คิโยโตะตัดสินใจออกสืบว่า เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนสมัยเด็กคนนี้กันแน่ทำไมเธอถึงฆ่าตัวตายกันแน่ และแน่นอนว่ายิ่งสืบเขายิ่งพบเบาะแสเกี่ยวกับ นักควักลูกตา ฆาตกรรมที่ฆ่าคนอยู่ในตอนนี้ และได้รับรู้ถึงปัญหาครอบครัวของยุยที่เขาไม่รู้ด้วย ทว่ายิ่งสืบชีวิตของเขาและคนรอบข้างก็อยู่ในอันตรายเหมือนกัน
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ทำไมถึงต้องอ่าน ?
แน่นอนว่า โนเวลสืบสวนปนเหนือธรรมชาติเรื่องนี้มีจุดเด่นที่บรรยายภาพของความตายได้สมจริงและน่าสยดสยองอย่างยิ่งราวกับไปฆ่าตัวตายมาจริง ๆ แต่ที่น่าสนใจคือ การพูดถึงคุณค่าของชีวิตด้วยคำถาม ถ้าคนเรามันมันสามารถย้อนเวลาได้ เซฟได้ โหลดได้แบบคิโยโตะจริง ๆ มันจะเป็นยังไง เพราะนั้นหมายความว่า คุณจะใช้ชีวิตแย่ ๆ แค่ไหนแค่ฆ่าตัวตายก็จบแล้ว ซึ่งเป็นเหมือนการหนีอย่างหนึ่ง ซึ่งก็บอกว่า เป็นระบบที่น่าสนใจดี ถ้าคนเราจะทำแบบนั้น แต่นั้นหมายความว่า คนเราจะลดทอนคุณค่าของชีวิตไปหมดสิ้น เราจะเบื่อสิ่งที่เกิดขึ้นนี้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อะไรที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ มันย่อมไม่ตื่นเต้นอยู่แล้ว เหมือนเช่นชีวิต ถ้ามันตายแล้วโหลดใหม่ขึ้นมาอีก มันจะมีคุณค่ายังไงกัน
ชีวิตมันจะงดงามได้อย่างไร เมื่อรู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว
แน่ล่ะว่า จากใช้พลังนี้เพื่อตัวเอง เพื่อหาอะไรสนุกเล่น ๆ นี่คือครั้งแรกที่คิโยโตะใช้พลังนี้เพื่อคนอื่น เพื่อหญิงสาวที่สำคัญที่สุดในชีวิต ซึ่งต้องถามว่า เรื่องราวทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นจากที่เขาย้อนเวลาไปมาจนแน่ใจแล้วว่า
ใครคือสิ่งที่มหัศจรรย์ของเขากันแน่
ใครคือสิ่งที่เขาไม่อาจจะใช้ความสามารถย้อนกลับมาอีกกันแน่
เหมือนมันจะบอกเราว่า ถ้าเราไม่มีพลังนี้ก็จงใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุดตราบเท่าที่ชีวิตของเรายังมีลมหายใจอยู่
10. เกม Love พิชิตรัก
ลิขสิทธิ์โดย Luckpim
จำนวนเล่ม 6 เล่มยังไม่จบ
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าตัวละครในเกมจีบสาวมีชีวิตขึ้นมาจริง ๆ
นี่คือเรื่องราวของทาเกะโนริ ชายหนุ่มผู้มีชีวิตเพียงลำพังเพราะพ่อแม่เสียชีวิตไปตั้งแต่สมัยเด็กส่งผลให้เขาใช้ชีวิตเพียงลำพัง กระทั่งวันหนึ่งเขาได้รับเมล์แปลก ๆ ส่งมาว่า อยากเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้หรือไม่ และให้เลือกเกมที่เขาชอบไป เขาจึงเลือกเกม Eternal innocence เกมจีบสาวที่เขาชอบลงไปและกำหนดให้ตัวละครทุกตัวปรากฏตัวขึ้นมา และนั่นเองที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาเขาก็พบว่า ริเอะ ตัวละครเพื่อนสมัยเด็กจากเกมจีบสาวได้มาปลุกเขาเหมือนเกม แถม เขายังมีน้องสาวและพี่สาวอีก ชีวิตใหม่ของทาเกะโนริจึงเริ่มขึ้น โดยที่เขาไม่รู้ว่า มันจะมุ่งหน้าไปสู่ความเศร้าหมองยิ่งกว่าครั้งใด
ทำไมถึงต้องอ่าน ?
ถ้าเกิดโลกนี้เหมือนเกมจีบสาวมันจะเป็นยังไง นี่อาจจะโจทย์คำถามที่ตั้งเอาไว้ในตอนแรก แต่ว่า มันกลับถูกบิดทิ้งว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าตัวละครในเกมจีบสาวมีชีวิตอยู่บนโลกแห่งความจริงมากกว่า แน่นอนว่า สิ่งที่เราได้พบก็คือ สถานการณ์ต่าง ๆ นานาที่ตัวละครในเกมจีบสาวที่ไม่เคยมีตัวตนต้องมาเจอ ทั้งการเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด อาการป่วย ความตาย และความฝัน จากตัวละครที่มีตอนจบ แต่เมื่อพวกเธอไม่มีตอนจบแล้วต้องใช้ชีวิตกันต่อไปจะเป็นยังไง แน่นอนว่า โนเวลพาเราไปสำรวจเรื่องราวนี้อย่างถึงพริกถึงขิงยิ่งกว่า ครั้งใด เราได้เรียนรู้ไปพร้อมกับได้พบว่า ชีวิตคืออะไรไปพร้อมกับเหมือนเช่นราวกับบรรดาตัวละครในเกมจีบสาวและทาเกะโนริได้เรียนรู้ทั้งความรัก ความสุข ความทุกข์ และความทรงจำต่าง ๆ ที่พวกเธอไม่เคยเจอ แม้ว่าจะเจ็บปวด แต่พวกเธอก็โทษทาเกะโนริ เพราะ ถ้าไม่มีเขา พวกเธอก็ไม่มีวันได้เรียนรู้เรื่องพวกนี้ได้แน่นอน
แน่นอนว่า มันมีคำถามว่า พวกเธอนั้นเป็นมนุษย์หรือไม่ คำตอบคือ เป็น แม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวตนที่มีจริง แต่เมื่อมีตัวตนบนโลกนี้ได้รู้จักคุณค่าของชีวิตทั้งความสุขและความทุกข์แล้ว
พวกเธอย่อมมีตัวตนเช่นกัน
และน่าสนใจว่า ชีวิตของเหล่าตัวละครจีบสาวและชายหนุ่มคนนี้จะเป็นยังไงต่อไป
เหมาะกับคนที่กำลังมองโนเวลหนัก ๆ เคล้าน้ำตาปนตั้งคำถามกับชีวิตครับ สำหรับเรื่องนี้
และนี่คือ ไลท์โนเวล 10 เรื่องที่ผมแนะนำให้ลองอ่าน หากคุณอยากจะลองหาโนเวลมาอ่านสักเรื่อง ในบรรดารายชื่อนี้ถือว่า น่าสนใจทั้งสิ้นครับ อยู่ที่การตัดสินใจของท่านแล้วครับจะเลือกเรื่องไหนมาอ่านครับ
ขอให้สนุกกับการอ่านไลท์โนเวลนะครับ
ป.ล. งานเขียนนี้ตัดตัวเลือกออกไปเยอะมาก หากมีโอกาสจะนำมาเขียนแนะนำให้อีกครั้งครับ และเสียดายหลายเรื่องที่ต้องตัดไปเหมือนกัน (รวมทั้งตัดนิยายอย่าง Another , จอมมารผู้กล้าจับคู่กู้โลก หรือ Log Horizon ออกไป) เอาไว้จะมาแนะนำกันภายหลังนะครับ