step up 3 เต้นไปตามจังหวะชีวิต
ผมว่างๆ และนั่งคิดไปคิดมาว่าวันนี้ผมต้องไปทำอะไรดี ไปกินอะไร คำถามบางทีผมถามตัวเองซ้ำท่ามกลาง ป่าคอนกรีตเมืองกรุง หากผมอยู่บ้านกับแม่ป่านนี้แกงผักกาดใส่ถั่วเน่าของโปรดไปแล้ว แต่ถามตัวเองแบบคนโง่หลายครั้งที่อยู่ด้วยอะไรบางอย่าง.... เข้าเรื่องนะครับ วันนี้จึงนัดเพื่อนสนิทไปดูหนังกัน และเอามาแลกกันเล่นประมาณว่า "มึงดูแล้วได้อะไร กรูดูแล้วเป็นแบบไหน" เรื่องต่างๆผมก้เลยเอามาเล่า และคิดถึงชาวประชาไท เพราะคำว่าเพื่อนไม่มีพรมแดน ไม่มีแม้กระทั่งคำว่าพื้นที่ปิดพื้นที่เปิด หากสกัดกั้นซึ่งความคิดแล้ว ไม่ว่าที่ไหนก็ยากซึ่งความเป็นหนึ่งเดียว
เนื้อเรื่องย่อ
จากผู้สร้าง Step Up และ Step Up 2: The Streets ที่กลายเป็นแฟรนไชส์หนัง แห่งทศวรรษ บทสรุปของต้นตำรับหนังเต้นกำลังกลับมาใน Step Up 3D ที่จะทำให้ผู้ชมต้องตะลึงกับท่วงท่าการเต้นระดับโลก ผสมผสานกับเรื่องราวที่มาจากแรงใจและเปี่ยมไปด้วยพลังงาน ความฝัน การเคลื่อนไหวทางร่างกายอันเร่าร้อนและรุนแรง ถูกถ่ายทอดสู่สายตาของผู้ชมด้วยเทคโนโลยีสามมิติใหม่ล่าสุดเมื่อ มูส (อดัมส์ เซวานิ) นักเต้นมากพรสวรรค์จากภาคที่แล้ว สำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนสอนศิลปะเอ็มเอสเอ มุ่งหน้าไปกรุงนิวยอร์คเพื่อศึกษาต่อ เขาพบกับ ลุค (ริค มาลามบรี้) หนึ่งในสมาชิกทีมเต้น เฮ้ที่ถือเป็นทีมอันดับหนึ่งบนเวทีแดนซ์อันเดอร์กราวน์ ซึ่งเป็นสวรรค์ของนักเต้นรุ่นใหม่ไฟแรงทั่วทุกมุมโลกเขามองเห็นแววของ มูส จึงชวนเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิก เพื่อจัดการกับทีมเต้น เฮ้คู่ปรับตลอดกาล ในการแข่งขัน เวิร์ล แจม ที่จะมีทีมนักเต้นจากทั่วทุกมุมโลกเข้าร่วมแข่งขัน เพื่อช่วงชิงเงินรางวัลก้อนโตกลับบ้าน
มูส และ ลุค ยังพบกับนักเต้นสาวมากพรสวรรค์อย่าง นาตาลี (ชาร์นิ วินสัน) โดยทั้งสามช่วยกันคิดค้นท่วงท่าการเต้นที่พิเศษเพื่อใช้ในการแข่งขัน แต่แล้วก็ถูกทีมคู่ปรับขโมยนำไปใช้ มูส จึงตัดสินใจหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆในโรงเรียนเก่าของเขาทีมเต้นไพเรท และ ทีมเต้นเอ็มเอสเอ ตัดสินใจร่วมมือกันแบบเฉพาะกิจ
แต่พวกเขาจะสร้างท่วงท่าการเต้นเหนือจินตนาการได้ทันเวลาหรือไม่? แล้วท่วงท่าการเต้นนั้นดีพอที่จะเอาชนะนักเต้นฝีมือดีจากทั่วโลกได้หรือเปล่า? พิสูจน์การเต้นทะลุจอด้วยตาของคุณเอง ในระบบสามมิติ (เนื้อเรื่องจาก http://www.majorcineplex.com)
(ภาพจาก http://www.roisara.com/board/index.php?topic=1693)
หนังสะท้อนอะไร (จากสนุกสู่เกล็ดของหนัง)
พอดีสารภาพเลยครับไปดูเรื่องนี้มาเพราะอยากดูมาก เพราะตื่นเต้นกับลีลาการเต้นและอีกหลายๆอย่างของหนังที่สามารถสื่อออกมาทางศิลปะลีลาการเต้น ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่ไปดูหนัง step up 3 จึงมองเรื่องเดียวครับ "นั้นคือการเต้น หรือ ศิลปะการเต้นที่ถ่ายทอดออกมาทางร่างกาย" และเป็นเรื่องใหญ่ของหนัง ซึ่งผมขอมองต่างมุมจากคนส่วนใหญ่แลหะครับ ผมคิดว่านั่นเองก็ใช่แต่จุดหนึ่งของหนังการเล่าเรื่องนั้น ตัวเอกของเรื่องอย่าง
ลุค ที่ถ่ายภาพทุกคนในทีมเต้นที่เขาใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นที่ซ้อมเต้น ด้านล่างเป็นผับเพื่อหล่อเลี้ยงทุกคนในทีม เหนืออื่นใดสิ่งเหล่านั้นลุคถือว่าได้สานฝันของพ่อแม่เขา และสิ่งนั้นไม่ได้หมายถึงสิ่งเดียวเพราะมูลถ่ายทอดเรื่องราวตนเองและเพื่อนนักเต้นลงในหนังสั้นทั้งหมด แรงบันดาลใจของนักเต้นแต่ละคนในทีมที่สะท้อนเสียงเพลงคือชีวิต การเต้นคือจิตใจ หรือแม้แต่บางคนที่ยอมละทิ้งบ้านเพื่อการเต้นที่ตนเองรักและใฝ่หา จึงบอกได้ว่า "เพราะดนตรีและการเต้นเป็นได้มากกว่าเรื่องสนุก แต่เป็นเรื่องความฝันและเป็นพลังให้พวกเขาสามารถอยู่ได้" แก่นของหนังในมุมผมจึงมองออกมาแนวนี้ร่วมด้วย
มูส น้องน้อยตัวเอกของเรื่องที่กำลังค้นหาชีวิตด้วยการเรียนต่อ เขาผู้มีการเกิดพร้อมมาเพื่อนเต้น แต่ว่าทางที่เขาเลือกเรียนนั่นคือ วิศวะกรรมไฟฟ้า นั่นแหละที่เขาบอกว่าชีวิตจริง จนมูลได้ประทะการเต้นกับแก็งค์ซามูไรจนได้พบกับ ลุค และเข้าร่วมวงและแข่งขั้น เวิลด์แจม ท่ามกลางการปรับตัว ลุค เองได้ค้นหาตัวเองระหว่างโลกเป็นจริงที่เขาได้หาทางออกให้กับชีวิตว่า "การเรียนและความสุขสามารถไปด้วยกันได้ หากไปในทางเหมาะสมร่วมกัน" มูลได้เข้าพบอาจารย์เพื่อขอเรียนวิชาเอกทางศิลปะนั่นคือการเต้น และเอกทางวิศวกรรมประกอบด้วย เป็นการหาทางออกของเขาทั้ง 2 ด้าน หรือ การจัดการชีวิต
(ภาพจาก http://www.majorcineplex.com)
จากทั้งหมดที่เล่ามา หนังเรื่องนี้จึงเป็นมากกว่าหนัง แต่เป็นหนังที่บอกเส้นทางฝันที่แสนยากแต่สามารถทำได้ หรือเพิ่มพลังชีวิตสำหรับคนที่ต้องการดูมันและค้นหาต่อไป เพราะตราบใดชีวิตยังสามารถดำเนินต่อไปได้ เราต้องให้มันมาบรรจบกันระหว่างโลกแห่งความฝันและโลกแห่งความจริง............