Skip to main content

ใส่ “โต๊ป” ไปในทางเส้นเก่า (4)

 ผมถูกเชิญให้นั่งรอพร้อมๆ กับเพื่อนร่วมทางอีกสามคน ผ้ารองอาหารถูกคลี่ สักครู่จานถั่วชนิดต่างๆ จานอินทผลัมถูกนำมาวางบนผ้ารองอาหาร ชายหนุ่มอีกคนถือแก้วน้ำหวาน มาให้ผมและเพื่อนชาวแอฟริกาใต้ เขาบอกให้พวกเราทำตัวสบายๆ ถามถึงการเดินทางว่าเหนื่อยมั้ย ผมมองไปรอบๆ ภายในอาคารญมาอะฮ์ต่างประเทศ ที่ๆ ผมนั่งเป็นส่วนอิกซี่บาน หรือเรียกกันว่าฝ่ายต้อนรับญมาอะฮ์ ตอนนี้ผมยังไม่เห็นคนไทยสักคน ที่ผมเห็นส่วนใหญ่เป็นพวกอาหรับ ผมเดาว่าคงมาจากหลายที่หลายทางหลายประเทศในแถบนั้น

สักพักฝ่ายอิกซี่บานขอพาสปอทจากผม สอบถามว่ามาจากประเทศไหน เขาบอกผมว่าชั้นสองของอาคารนี้มีญมาอะฮ์ที่มาจากประเทศไทยหลายญมาอะฮ์ เขาชี้ไปทางบันไดที่อยู่ใกล้ บอกผมว่า ชั้นสองจะเป็นที่อาบน้ำ ซึ่งผมจะหาที่พักอยู่ชั้นล่างก็ได้ แต่ชั้นล่างตอนนี้มันเต็มไปด้วยญมาอะฮ์หมดแล้ว ผมว่าผมไปหาที่พักชั้นสองน่าจะเป็นการดีกว่า ฝ่ายอิกซี่บานแนะนำผมถึงห้องอามานะ ผมสามารถฝากของมีค่าได้ที่ห้องนั้น พลางเขาชี้ไปที่ห้องนั้นซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กับที่ผมนั่ง ติดกันเขาบอกผมว่า ผมสามารถแลกเปลี่ยนเงินได้ที่นี่ ที่นี่สามารถแลกเปลี่ยนได้ทุกสกุลเงิน แล้วเขาบอกว่า ถ้าคิดถึงบ้านก็สามารถส่งจดหมายได้ที่ห้องไปรษณีย์ ผมพยักหน้ารับ แล้วเขาบอกผมว่า ทางนี้จะเก็บพล\าสปอทไว้ให้ไม่ต้องเป็นห่วง

เขาช่วยยกกระเป๋าเดินทางให้ผม ก่อนเดินนำหน้าผมไปทางบันไดขึ้นไปชั้นสอง เขาบอกว่าจะเลือกนอนที่ตรงไหนก็ได้แล้วแต่จะสะดวก ตรงชั้นสองผมได้เจอเพื่อนคนไทย เขากวักมือชวน อิกซี่บานยิ้ม แล้วบอกผมด้วยภาษาอังกฤษแบบลิ้นปากีสถานว่า “คุณได้เพื่อนที่มาจากจากประเทศไทยแล้วตอนนี้ “ ผมขอบคุณเขาอีกครั้งก่อนที่เขาจะนำกระเป๋าเดินทางของผมไปวางใกล้ๆ กับญมาอะฮ์ที่มาจากไทย

Image preview

(ครูกอดีร สหายร่วมญมาอะฮ์)

ผมถูกถามทันทีทำไมเดินทางคนเดียว เขาบอกว่าส่วนใหญ่ญมาอะฮ์ที่มาที่นี่ จะมีเส้นทางตามตารางการบินของสายการบินบีมานแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินของประเทศบังคลาเทศ ซึ่งมีราคาถูก จนใครขนานนามฉายาไปในทำนองที่ว่า “บีมานแอนด์ ดีเลย์ “ สายการบินที่ว่านี้จะออกจากเมืองไทยแล้วแวะลงจอดที่กรุงดักกา ก่อนบินต่อไปการาจี ญมาอะฮ์ที่มาด้วยสายการบินนี้ จึงสะบักสะบอมไปเป็นแถวๆ เพราะเมื่อลงเครื่องที่การาจี พวกเขาต้องนั่งรถไฟจากการาจีมาลงที่สถานีรถไฟที่ละฮอร์ อย่างน้อยสามสิบชั่วโมง ในระหว่างทางอาจต้องเผชิญพายุทะเลทราย ความแออัดของผู้โดยสาร แต่ผมโชคไม่ดีอย่างพวกเขาที่มีประสบการณ์ในการเดินทางแบบนั้น เพราะผมตัดสินใจบอกที่มักกัรมีนบุรี ผมขอเดินทางด้วยสายการบินไทย นั่นจึงทำให้การเดินทางของผมจึงไม่อ้อมไปแบบพวกเขาที่มาด้วยสายการบินบีมานแอร์ แล้วพวกเขามีเส้นทางต้องกลับไปที่บังคลาเทศด้วย แล้วก็อินเดีย บางครั้งพวกเขาอาจลงที่อินเดียก่อน แล้วนั่งรถบัสหรือรถไฟข้ามพรมแดนมายังปากีสถาน ประเทศบังคลาเทศจึงเป็นที่สุดท้ายที่พวกเขาจะไปเรียนรู้งานที่นั่น

คนที่ถามผมเมื่อสักครู่แนะนำตัวเอง เขาบอกผมว่า เขามาจากพรุหลุมพี อยู่แถวสะกอม ผมเดาแต่แรกแล้วสำเนียงแบบนี้น่าจะเป็นคนสะกอม สำเนียงที่พวกนายหนังตะลุงเอาไปใช้กับตัวตลกที่ชื่อ”สะม้อ” เขาบอกผมว่า เขาชื่อ กอดีร ผมกระอักกระอ่วนใจในชื่อของผม ชื่อของผมในตอนที่ยังไม่เปลี่ยน เป็นชื่อที่ผมตั้งตามมาลาอิกัตแห่งความตาย คนทั่วไปจะเรียกว่ามาลาอิกัตมูต กอดีรชวนผมนอนใกล้ๆ กับเขา ผมยิ้ม เขาแนะนำผมในหลายอย่าง ในหลายเรื่อง เล่าให้ผมฟังถึงการเดินทาง การทำงานศาสนาของเขา เขาเป็นครูสอนศาสนาอยู่ที่สะกอม สงขลา ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมานิดที่ได้รู้จักเขา อย่างน้อยนี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาทำงานศาสนาที่นี่จะได้เขาช่วยแนะนำ เพราะผมไม่รู้อะไรเลย

เขาบอกผมว่า ให้อยู่ใกล้ๆ กัน เดี๋ยวออกญมาอะฮ์ด้วยกัน เวลาไปห้องตัสกีน เขาบอกที่ห้องนั้น จะเป็นคนตัดสินว่าจะส่งญมาอะฮ์ไปทำงานที่ไหน กอดีรบอกผมว่า เขาเดินทางมาถึงได้สองสามวันแล้ว ยังไม่ได้ถูกส่งไปทำงานที่ไหน กอดีรบอกอีกว่า เท่าที่ผ่านมา ญมาอะฮ์จากเมืองไทยส่วนใหญ่จะถูกส่งไปทางภาคเหนือในเขตพวกปาทาน ผมสงสัยว่าทำไมต้องส่งไปนั่น กอดีรว่า เห็นใครบอกว่าที่นั่นอากาศดี มีแต่ภูเขา แต่ในฤดูหนาวจะไม่ส่งไป เพราะหิมะลง แล้วก็ใกล้พรมแดนจีนด้วย ผมตาลุกวาวเต็มไปด้วยความอยากรู้ แต่ผมมีเวลาแค่สี่สิบวันที่ปากีสถานเท่านั้น...

บล็อกของ ปราชญ์ อันดามัน

ปราชญ์ อันดามัน
เด็กชายของฉัน   เด็กชายของฉัน ภูเขาของพวกเธอยังคงเก็บหิมะให้พวกเธออยู่หรือเปล่า?
ปราชญ์ อันดามัน
เวลา เบื้องหน้าดูเหมือนไกล ป้ายบอกระยะทาง หลักกิโลเมตร-ไมล์ ดุ่มเดินผ่านห้วงยามแห่งเส้นแบ่งคั่นพรมแดน
ปราชญ์ อันดามัน
ปล่อย   ปล่อยตัวเองไว้ในชะตากรรม เดินไปในความเศร้าที่เราไม่เคยพบ
ปราชญ์ อันดามัน
ปลูกความเกลียดชังของเราให้เติบเต็ม  (ในวงเล็บทุกพื้นที่ข่าว)   ปลูกความเกลียดชังของเราให้เติบเต็ม
ปราชญ์ อันดามัน
เหตุการณ์ร้ายๆ ในวันหนึ่งๆ บนคาบสมุทร นั่น! ในขณะเสียงอาซานกังวานผ่านยอดโดมสุเหร่า พลันกระหึ่มเสียงเฮลิคอปเตอร์จากฟากฟ้าก็กลบเสียง ”ฮัชฮาดูอัลลาอิลาฮะอิน...ลัลลอฮ์ ...........” เด็กชายคนหนึ่งเท้าเปล่าเปลือยกำลังเดินอยู่บนถนน  แหงนหน้าแลมองแมลงปอแปลกถิ่นที่บินเหนือป่ายางใกล้ๆ    คงมีเหตุการณ์ร้ายๆ    ต้องมีใครสักคน  ใครสักคน บนถนนเส้นเดียวกัน    จักรยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่นพาสองพลทหารวิ่งผ่านหน้าสุเหร่า 
ปราชญ์ อันดามัน
สงคราม กระซิบเรียกหาข้าอยู่ในเงามืด ความเกลียดชังแวะเข้ามาในความรู้สึก สอนข้าถึงการเหนี่ยวไกปืน
ปราชญ์ อันดามัน
ประเทศนี้ของกู เป็นหลืบรูอยู่อาศัย ความเงียบกูมีเต็มข้างใน ไม่เคยสงสัยใครจะงำ
ปราชญ์ อันดามัน
ประเทศนี้ยังไม่มีเสรีภาพ เพราะปกเต็มด้วยคนบาปและหยาบชั่ว ยังมอมเมาความงมงายให้น่ากลัว
ปราชญ์ อันดามัน
จริงอยู่ความอ่อนหัด อาจทำให้ โลกของใครบางคนดูย่ำแย่ หากมิใช่เพราะเรานั้นอ่อนแอ อาจดูเหมือนความพ่ายแพ้ แต่ใช่นาน
ปราชญ์ อันดามัน
ใส่"โต๊ป"ไปในทางเส้นเก่า (2)
ปราชญ์ อันดามัน
ในบางขณะ แผ่วพร่ำคำ "อัลกุรอาน"ยินมาแว่วแว่ว ขณะคนยังไม่ถึงครึ่งแถวของสุเหร่า
ปราชญ์ อันดามัน
ผมเพิ่งลงจากเครื่อง นั่นเป็นเวลาทุ่มหนึ่งตามเวลาของปากีสถาน ผ่านตม.ที่สนามบินผมสะพายเป้ออกมาตรงประตูทางออก   ชายร่างใหญ่ท่าทางกำยำกวักมือเรียกผม ผมเดินเข้าไปหา เขาให้สลาม ผมรับสลาม