Skip to main content

ระหว่างทางที่เสียงอาซานแว่ว



-1-


เกินก้าวจะผ่านก้าวทางที่ทอด
ใกล้ก็เหมือนไกลไปตลอดสายถนน
คนแปลกหน้า คนบางคน
หวาดระแวงตลอดส้นจะก้าวเดิน


ยังได้ยินคำปลอบจากเพื่อนเจ้าของถิ่น
นานเข้าจะชาชินทางที่เดินเหิน
ความตายรายรอบแท้ต้องเผชิญ
ซุ่มซ่อนคอยเชื้อเชิญตลอดทาง


-2-


เสียงอาซานจบแล้วแต่เราก็ยังก้า
ท่วงทำนองความรวดร้าวแว่วยินอยู่ห่างห่าง
ทั้งเสียงไก่ปลุกกระตุกใจไม่ทันจาง
ขณะก้าวของเราย่างไป...มัสยิด

 

ยังรู้สึกลึกลึกความหวาดหวั่น
วิตกไหวหัวใจสั่นเหมือนใครสะกิด
มาถึงหน้าประตูสุเหร่าจึงได้คิด
อาบน้ำละหมาดเข้าใกล้ชิด ผู้อภิบาล

 

-3-


คนอาซานเรียกแถว เรียงแถวสวด
"อัลกุรอาน ได้สำรวจตรวจใจอ่าน
จบละหมาดเช้าของจิตวิญญาณ
แต่โลกภายในเหมือนยังพล่านไม่รู้พบ

 

คำดุอาร์ของข้าพเจ้า แค่วอนขอ
สันติภาพเพียงทักทอความสงบ
สงครามนั่น!นานแล้วที่เร้ารบ
ทยอยเก็บแต่ละศพ กลบสันติวิธี

 

คำดุอาร์ของข้าพเจ้า แค่วอนขอ
ระเบิดนั่น! มากพอแล้วทุกแนวที่
หยาดน้ำตาของคนรักหรือไม่ไยดี
ความโศกเศร้ายังปริ่มปรี่ทุกชุมชน

 

คำดุอาร์ของข้าพเจ้า ท้ายที่สุด
ขอเพียงใจดวงชำรุดได้ผลิผล
หวนทางผ่านข้ามพรมแดนตน
เลยผ่านพบและพ้นบนใจตัว

 

-4-
 

จบดุอาร์สุดท้าย ในมัสยิด
สัมผัสมือเพื่อนมิตรจนถ้วนทั่ว
บางมือสัมผัสรับซับรู้ระริกระรั
แววตาบางมิตรจ้องจนน่ากลัว แต่ยิ้มรับ

 

แล้วยามสายจากเช้านั้น ข่าวมาแว่ว
ว่าแถวๆ ท้ายหมู่บ้าน บนทางกลับ
พลทหารสองนายถูกซุ่มยิงในที่ลับ
พวกเขาตายขณะขับมอเตอร์ไซค์มา

 

เพิ่งเสร็จภารกิจส่งครู แต่ก็ไม่
ไปไม่ทันถึงฐานที่มั่นก็ถูกฆ่า
ไม่อยากนึกถึงภาพของดวงนัยน์ตา
ที่เคยเบิกโพลงปรารถนาละคู่นั้น

 

ข้าพเจ้าไม่ทราบและไม่อยากทราบ
ไม่อยากนึกถึงภาพ ความหวาดหวั่น
ก่อนหน้าจะถูกยิงซ้ำเข้าที่สำคั
ไม่อยากนึกถึงภาพประจำวัน คนที่ตาย

 

ไม่อยากนึกว่าเขาเป็นใครมาจากไห
ญาติพี่น้องลูกเมียใครจะใจสลาย
ไม่อยากนึกว่าบนถนนเส้นนี้แล้วกี่ราย
ที่เก็บเอาความตาย ไม่อยากนึก

 

-5-
 

แล้วยามบ่ายก็มาถึงให้พรั่นหวั่
อาซานประจำวันเหมือนเรียกไปสู้ศึก
ก้าวของเราเมื่อเช้ายังระทึก
หัวใจเต้นตึกตึกเหมือนสั่นร้าว

 

เพื่อนปลอบเหมือนรู้คำตอบแล้ว
ข้าพเจ้านึกเหมือนเพิ่งผ่านแนวอันเยือกหนาว
สงครามยังลอบมองซุ่มตาวาว
อาจแอบมองข้าพเจ้า อยู่เช่นกัน

 

สัมผัสแบบแปลกแปลกจากมือเช้า
ข้าพเจ้ายังจำได้เด็กหนุ่มเครายาวนั่น
หากคงไม่ใช่...คนสำคัญ
ที่สร้างข่าวเมื่อเช้านั้นเป็นประเด็น

 

ข้าพเจ้าคงคิดมากไปด้วยใจนึก
หรือว่ารู้สึกที่ได้รับ สัมผัสเห็น
แล้วข้าพเจ้าได้พบเขาอย่างจำเป็
นัยน์ตาเขาเยือกเย็น เกินรับรู้

 

เป็นนัยน์ตาลึกลับยากสัมผัส
เขาให้"สลาม"ได้ยินชัด ก่อนเข้าสู่-
ประตูสุเหร่า หลากสายตามองจ้องดู
ข้าพเจ้ายิ้มรับขับสู้ อย่างดีใจ


 

ปราชญ์     อันดามัน

บล็อกของ ปราชญ์ อันดามัน

ปราชญ์ อันดามัน
พูดให้ชัด
ปราชญ์ อันดามัน
ย่ำไปเถอะท่าน ย่ำไปเถอะท่านบนซากศพของกันและกันดื่มเลือดกันคนละจอก
ปราชญ์ อันดามัน
คนดีในร่าง ผี ตาย โหง การเมืองที่กลายบ้า
ปราชญ์ อันดามัน
กูไม่ใช่ประชาชนของใครใครเพื่อผู้ใดไต่เต้าเข้าสวรรค์กูเป็นชาวบ้านธรรมดาสามัญไม่ต้องจบจากที่ไหนมายันความนึกคิดกูคิดเป็น ทำเป็น กูเป็นกูไม่ต้องหลบในหลืบรูดัดจริตไม่ต้องห่มธงใดในประเทศทิศ
ปราชญ์ อันดามัน
ปราชญ์ อันดามัน
จะไปเป็นสภาเทวดาหรือกระไร?   จริงหรือสภาผัวสภาเมีย ไอ้ที่นัวเนียสภาไหน สภาประชาธิปไตยไทย หรือสภาอะไรในประเทศนี้ อย่าหลงลืมเจตน์จำนงค์ตรงที่มา อำนาจเหล่าประชาทั้งหลายที่ เลือกตั้งแต่ละครั้งแต่ละที เขาบอกหนแห่งที่มีเจตนา เขาอาจรักบุคคลอาจรักพรรค อาจชอบนโยบายหลักที่ปรารถนา
ปราชญ์ อันดามัน
  เราเห็นด้วยใช่ไหม?ที่เขา"ฆ่า"    ถึงไทยมีสีหรือไม่มี บรรดานักเขียนกวีเห็นกันไหม?
ปราชญ์ อันดามัน
"ทหารเข้าแทรกแซงการเมือง"  
ปราชญ์ อันดามัน
เกิดมาประเทศนี้แสนสาหัส กรรมซ้ำอุบาทว์ซัดไม่หนีหาย วกวนโกลาหลความวุ่นวาย ความตายไร้ค่ามากพลเมือง เกิดมาประเทศนี้ต้องคนดี เป็นตามที่เขาให้เป็นไม่เป็นเรื่อง
ปราชญ์ อันดามัน
ยังอยู่ดีกินดีกันใช่ไหม? "สมยศ"ยังอยู่ใน เราไม่อยู่ รู้เหมือน แต่ทำเป็นไม่รู้ บอดใบ้เสียหูไม่รู้ยิน "สมยศ" ไปงานหนังสือ หรือไม่? วัฒธรรมการอ่านชนิดใดในถิ่น
ปราชญ์ อันดามัน
คุณธรรม แกป่าวร้องอยู่ใช่ไหม? น่าสงสารที่แกสิ้นไร้ไม้ตอก ไม่มีที่ไป คุณธรรม แกอาศัยในหัวใจพวกเขามานานแค่ไหนกัน แล้วเป็นไง
ปราชญ์ อันดามัน
โจทย์ความร้ายชั่วยังไม่ตอบ ถามไปกี่ล้านรอบไม่ตอบถาม พร่ำแต่เนื้อคำนำนิยาม เสรีภาพต้องห้ามประเทศนี้ อยู่ริมริมความเหว่ว้า นั่นประชาชน ทุกข์ก็ทุกข์เถิดทนบนวิถี เกิดมาในประเทศนี้ต้องชาติพลี สังเวยวาทกรรมความดีบางประการ ต้องเป็นคนดีให้ได้เหมือนที่ว่า ปรารถนาใดในหล้าจะก่อสาน ถอดดวงจิตปลิดดวงวิญญาณ อ่านอาขยานตามตามกัน โจทย์ใหญ่ยิ่งมีให้คนไว้ยิ่งใหญ่