เราต่างเติบโตมาอยู่ร่วมยุคสมัย
พบเห็นโลกเป็นไปเสมอเหมือน
อาจหลงลืมบางเรื่องลางเลือน
แต่บางสิ่งเรากลบเกลื่อนความทรงจำ
เราอาจไม่เข้าใจในปรากฏการณ์
บางเสียงแว่วผ่านมาซ้อนซ้ำ
บางอรรถาธิบายมีเงื่อนงำ
บางเพลงร้องลำนำก็ล้ำลึก
หรือแท้แล้วเราก็มิได้ใส่ใจ
สืบค้นเข้าความนัยให้ตกผลึก
แทนทีจะมีเพียงแต่คิดนึก
กับคลื่นความรู้สึกที่ว่ายวน
ว่าก็คือกลับมาหาตัวเอง
สดับเสียงที่เปล่งขับอย่างสับสน
ก้องมาจากอาณาจักรของตัวตน
ซ่อนอยู่ในความมืดมนของหัวใจ
ว่ากันว่าธรรมดาเราแตกต่าง
เรา,เขาก็มีทางอันยิ่งใหญ่
ค้นพบ แสวงหาต่างทางใคร
ใกล้-ไกลอย่างไรตามโชคชะตา
ว่ากันมาอย่างนี้ก็ดีนัก
เรียนรู้และได้ประจักษ์ดังว่า
ความงามในหลากหลายตามตำรา
ให้ท่องบ่นกันต่อมาว่าอย่างนั้น
และนั่นอาจเป็นความในอุดมคติ
อันผู้คนต่างดำริสร้างโลกตามฝัน
ว่าเป็นสัจจะอันเป็นนิรันดร์
มาแต่งเสริมมาเติมปั้นให้งดงาม
นั่นก็ใช่ หลากหลายย่อมดีจริง
หากแต่มีบางสิ่งให้เกิดคำถาม
หากคนเข้าถึงภาวะตามนิยาม
แล้วเหตุใดยังคุกคามคนเพื่อเอาชัย
ใยมิได้ฟังทั้งหมดในความแตกต่าง
ด้วยท่าทีท่าทางว่าทุกอย่างเป็นไปได้
สนทนาให้ลึกลงในความเป็นเหตุปัจจัย
ก้าวพ้นภาวะวิสัยแห่งตัวตน