การสูญเสีย ดูจะเป็นเงื่อนไขใหญ่ที่ทำให้คนเราตกไปสู่สภาวะที่เรียกว่า “เสียศูนย์” มีคนเคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อสามีตาย ภรรยาตกอยู่ในสภาวะเสียศูนย์ถึงยี่สิบปี ก่อนจะฆ่าตัวตายตาม นี่เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโม้ก็ไม่อาจรู้ได้ แต่ความจริงที่เห็นโดยส่วนใหญ่ ความสูญเสียก็มักเป็นเรื่องที่กระทบกับหัวใจคนอย่างรุนแรง เช่น อกหัก หรือ คนที่เรารักตายไป หรือความพ่ายแพ้ ซึ่งความพ่ายแพ้นี่ก็คือการเสียฟอร์ม มันก็คือการเสียศูนย์ความเป็นตัวตนนั่นเอง
การจมลงของมนุษย์อาจมีได้หลายแบบ ที่เห็นเด่นชัดก็คือการปล่อยตัวเองไปตามอำนาจกิเลส ว่าก็คือ กลายเป็นขี้เมา ที่จะเอาเนื้อหาสาระอันใดมิได้อีก นั่นอาจเป็นภาวะสยบยอม ทอดทิ้งตัวเองทั้งหมด แล้วชีวิตเขาก็หยุดนิ่ง เหมือนกับว่ากาลเวลาไม่ได้เคลื่อนไป พวกเขากล่าวถ้อยคำเดิมๆ อารมณ์เดิมๆ ก่นด่า บ่นบ้าเดิมๆ
เข้าใจได้ว่า มนุษย์อาจตกไปสู่ภาวะนั้นได้เสมอ และทุกคน หนักเบาอาจต่างกันไป หรือถ้าใครไม่ตกเลย นั่นก็คงเป็นโชคดีไป แต่ส่วนใหญ่ ไม่มากก็น้อย ไม่หนักก็เบา ล้วนต้องประสบ สิ่งสำคัญก็คือว่า เมื่อตกลงไปแล้ว เราจะกลับมายังไง การกับเป็นเรื่องสำคัญกว่ากระมัง ว่าจะตกหนักตกเบา บางคนกลับมาได้เร็ว บางคนกลับมาช้า และมีบ้าง พบเห็นอยู่บ้าง คนที่ไม่ได้กลับมาอีกเลย
บางคนอาจกลับมา เพราะความรัก และผู้คนที่เกื้อหนุน บางคนอาจกลับมาเพราะผู้มีปัญญาชี้นำ บางคนก็กลับมา เพราะญาณทัศนะของตัวเอง อย่างหลังนี่คงต้องเป็นคนที่สะสมคุณงามความดี และการฝึกฝนมาไม่น้อย ว่าก็คือ การกลับเป็นเรื่องสำคัญ และจะกลับมายังไง นั่นก็คงสุดแท้แต่การถึงพร้อมของแต่ละคน
ดูเหมือนว่า ทุกครั้งที่เรากลับมา (บางคนอาจจะเสียศูนย์หลายครั้ง) มันทำให้เรามั่นคงขึ้น (หรือเปล่า) เราอาจเห็นรายละเอียดของชีวิตมากขึ้น เติบโตมากขึ้น และการกลับมาก็เป็นการงอกงามมากขึ้น....กระมัง