เดือนธันวาคม....คล้ายกับว่า ผู้คนมากมายล้วนให้คุณค่า ให้ความสำคัญ หรือให้ความหมายต่อเดือนนี้ เป็นพิเศษ อย่างนั้นหรือเปล่า อาจจะด้วยว่ามันเป็นเดือนสุดท้ายของปี และก็เป็นเดือนของฤดูหนาว ที่ผู้คนจะได้ออกเดินทาง จะได้ท่องเที่ยว เป็นเดือนที่มีวันหยุดยาวๆ เป็นเดือนที่ทุกคนคล้ายอยากให้ถึง หรือไม่อยากให้ถึง เพราะนั่นก็เป็นสัญลักษณ์ว่า อีกปีหนึ่งกำลังจะผ่านไปแล้ว
สายลมที่นำพาลมหนาวมาหยุดพัดไปบ้างแล้ว ในชนบท สิ่งที่หลงเหลืออยู่คือความเหน็บหนาวที่แทรกอยู่ในอากาศ ดังนั้นแม้ไม่มีลมหนาว ก็ยังหนาว ใต้ถุนเรือน หรือลานบ้าน เป็นที่ก่อไฟให้ล้อมวงผิงไฟ เช้าๆ หรือยามค่ำคืน พอได้เปลี่ยนที่นั่งลงมาเป็นรอบกองไฟ ได้ไถ่ถามสนทนากัน ดูเหมือนผู้คนก็มีเรื่องราวสนทนากันมิได้หยุด แล้วก็รวมถึงว่านี่คือคืนวันหลังฤดูเก็บเกี่ยว
\\/--break--\>
เนื้อหาสาระ ของบางขณะการสนทนา ผู้คนกล่าวถึง ความสัมพันธ์ หลายครั้งเรื่องราวถูกแยกย่อยออกไปดั่งว่ามันไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้ หรือดังว่า โลกเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ความจริงเป็นเรื่องราวใดกันแน่ เราเองที่แบ่งแยกโลกออกจากกัน จนเราเองก็มองไม่เห็นความเชื่อมโยงนั้น เราแยกคนออกจากกัน จนเรามองไม่เห็นความสัมพันธ์ เราแยกชีวิตออกจากการงาน จนเราต่างรู้สึกว่า การงานเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย เราแบ่งแยกหน้าที่ออกจากการดูแลผู้คน นั่นจึงทำให้เรามีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับผู้คน
ขณะที่เราต่างเรียกร้องและโหยหา เราก็กำลังเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่บั่นทอนสิ่งดีงามเหล่านั้นด้วยหรือเปล่า....กระมัง
แสงตะวันเช้าโผล่ขึ้นมาจากผืนแผ่นดินกว้างใหญ่ และทุ่งภูเขา เราต่างชื่นชมยินดี นั่นอาจเป็นสิ่งที่เราไม่อาจพบได้ในเมืองใหญ่ ชีวิตมักเป็นเช่นนี้ เราต่างแสวงหาความงาม ทั้งหมดก็เป็นสิ่งที่อยู่นอกตัวเรา ดูเหมือนน้อยนักที่เราจะได้แสวงหาความงามที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวเอง
หนทางที่ย่างย่ำมา มองเห็นสิ่งใดบ้าง ต่างก็กล่าวขานถึง ดอกหญ้าริมทาง แต่นั่นเป็นการพูดถึงเพราะมันก็เป็นเพียงคำที่ทำให้เราดูดี หรือว่าเราก็สามารถสัมผัสดอกหญ้าริมทางนั้นอย่างแท้จริง
น้ำค้างยังนิ่งอยู่บนยอดหญ้ายามเช้า ขณะที่สายแดดทอสายมาถึง น้ำค้างจึงต้องแสงเกิดประกาย ดั่งว่ายอดหญ้ากำลังแย้มยิ้ม กระนั้น.....