Skip to main content

ภายใต้บรรยากาศแห่งความกระอักกระอ่วนของความไม่โปร่งใสในกระบวนการเลือกตั้ง  ความทุลักทุเลของความโง่เขลาและทะลักล้นทางอำนาจจากรัฐบาลเผด็จการ สภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน ที่คุณพูดอะไรมากไม่ได้นอกจาก appreciate ความเนียนดำของถนน
ซึ่งดูเหมือนว่า สิ่งที่คมชัดที่สุดในตอนนี้จะเป็น เส้นขาวยาววาดบนถนน ก็ตาม 



14 มิถุนายนนี้ เป็นวันสุดท้ายของการสอบหัวข้อวิทยานิพนธ์ของฉัน  
 

 

ซึ่งการจะทำให้ทั้งหมดที่ควรเกิดขึ้น ได้เกิดขึ้นภายในวันที่ 14 มิย นี้ ฉันต้องอาศัยความเป็นไปของหลายอย่างรอบตัวทั้ง ตัวฉันเองที่ไม่ตายไปก่อน หนังสือและข้อมูลอันมากมายที่สนับสนุนการปั้นหัวข้อวิทยานิพนธ์ของฉัน   ให้ควรค่าแก่การดำรงอยุู่ในจักรวาลวิชาการนี้  แรงงานของทุกคนที่ส่งผ่านมาจากข้าวของทุกอย่าง ทั้งพ่อแม่ คนที่ทำงานในห้องสมุด คนที่ขายข้าวแกง คนกวาดถนน พนง เซเว่น ป้าเจ้าของอพาร์ตเม้นท์ จนทและ อาจารย์ที่มหาลัยของฉัน หรือ กระทั่งข้าวของเหล่านั้นที่ทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่

 

 

There is no sense in which the notion of a human can be disentangled from the non-humans into whose fate it has been woven more and more intimately over the ages. (Bruno Latour 1994, Pramatogonies) 




เอาจริงๆฉันคงไม่มีปัญญาอธิบายโครงข่ายโยงใยความสัมพันธ์ทั้งหมดนี้ได้ในบล็อกนี้ 
แต่ฉันรับรู้ว่า ฉันไม่สามารถอยู่ตรงนี้และทำวิทยานิพนธ์ได้ ถ้าไม่มีสิ่งทั้งหมดเหล่านั้น 
(ยังไม่ได้สอบหัวข้อ เอ็งก็เขียนกิตติกรรมประกาศละ)

 

 

ฉันเลยไม่เหงาสักเท่าไหร่ เพราะว่า พอฉันได้รู้สิ่งเหล่านี้ ว่าฉันไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ฉันก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ได้แล้ว 
จริงๆ ฉันก็แค่มีเพื่อนๆให้สังคกรรมบ้าง และดีงามที่สุดคือตรงที่นางก็อยู่โหมดเดียวกับฉัน คือ เราต่างก็กำลังทำวิทยานิพนธ์ 
ฉันลุ้นทุกวันว่าใครจะเป็นบ้าไปก่อน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็เริ่ม ตาขวาง น้ำลายฟูมปาก เป็นพักๆแล้ว
และเราก็ปลอบกันไปวันๆ แบบลมๆแล้งๆ
 

 

วิทยานิพนธ์เป็นกระบวนการดูดกลืน (subsumtion) พลังการผลิตของชีวิตที่เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากๆ มันทำให้ฉันต้องคิด คิด คิด เกือบตลอดเวลา
หรือต่อให้ไม่ได้คิด มันก็เรียกร้องให้ฉันเชื่อมโยงมันเข้ากับสิ่งที่อยู่ในใจ กับสิ่งที่เจอตรงหน้า มันเรียกร้องเวลาให้ฉันอยู่กับความรู้อื่นๆ หนังสือ และผลงานของคนอื่นๆ แล้วก็ทำงานกับพวกเขา นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่า หนังสือหรือบทความบางอย่างที่ฉันอ่านแทบไม่รู้เรื่อง ฉันก็ต้องพยายามพัฒนาตัวเอง เปิดดิกไป อ่านไป นั่งหลังขดหลังแข็งไป ราวกับเป็นอัมพาตทางกายไปชั่วขณะ ในขณะที่ความคิดยังทำงานอย่างเข้มข้น 

 

 

ยังไม่ต้องพูดถึงการเขียน โอ้ แม่เจ้า มันคือการรวบรวม recollect สิ่งที่เคยอ่าน เคยรู้ เคยดู เคยเห็น เคยสัมผัส ทั้งในหนังสือบทความ และจากภาคสนาม การเขียนแทบจะเป็นอีกวิธีการผลิต ที่บูทเครื่องหนักมาก มันต้องรวบรวมและ articulate ความยุ่งเหยิงในจิตใจให้ออกมาเป็นตัวหนังสือที่ดำเนินเรื่องราวเชิงเดี่ยวได้ทีละนิดทีละนิด มันจึงใช้เวลานานมาก เขียนแล้ว อ่านแล้วไม่ลื่น ไม่ flow ภาษาห่วย เขียนผิด ก็ต้องแก้ใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พอฉันคิดว่า ฉันเขียนดีละ ซึ่งฉันก็ยังอ่านเพิ่มอยู่  การเขียนนั้นก็จะดูยังไม่พอ ยังห่วย ยังคับแคบ วนไป วนไป วัฏจักรแห่งการรีดเค้นของการทำธีสิส 
 

เดดไลน์!!
 

อาจจะเป็นสิ่งเดียวที่พอจะทำให้รู้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่ 
 

อย่างไรก็ตามฉันแทบจะกลายเป็นกึ่งมนุษย์ กึ่งธีสิส หรือจริงๆฉันอาจจะเป็นไปแล้ว เพราะเราสิงสู่และอยู่ไปด้วยกัน ฉันนะอยากเดทกับใครสักคนมากช่วงนี้ แต่ฉันก็ทำไม่ได้ เพราะธีสิสหลอนทุกวัน ว่าจะทันไหม จะทันไหม จะทันไหม ซึ่งฉันก็ต้องฟังมัน เพราะเราเป็นหนึ่งเดียวกันที่รอไปบวกๆๆๆกับสิ่งอื่น เมื่อกี้เพิ่งไปบวกกับส้มตำ คอหมูย่างมา อร่อยมากค่ะ มีแรงมากค่ะ แล้วเราก็ทำงานต่อไป  



ตอนนี้ฉันยังค้างเติ่งอยู่ที่ขั้นตอนแรก คือ  พัฒนาหัวข้อและโครงร่าง ซึ่งมันชัดเจนแล้วในระดับหนึ่งแต่ยังหาที่ลงไปในจักรวาลวิชาการอย่างเฉพาะเจาะจงมากๆสุดๆไม่ได้เพราะว่ายังทบทวนวรรณกรรมไม่พอ แต่ฉันก็มั่นใจว่า ความพิศดารและมีเอกลักษณ์ของกรณีศึกษาของฉันจะพออนุมานได้ว่า มันเฉพาะเจาะจงเพียงพอแล้ว ซึ่งตอนนี้ฉันก็เหนื่อยมาก มันสี่เดือนมาแล้ว ที่ฉันจมอยู่กับมัน เกือบทุกวัน 

 


อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอขอบคุณประชาไท ที่ให้พื้นที่ผีบ้าอย่างฉันได้เขียนระบายอะไรๆ ออกมา ฉันก็คงจะเล่ากระบวนการทำวิทยานิพนธ์ของฉันไปเรื่อยๆทั้งการเก็บข้อมูล ทบทวนวรรณกรรม สอบหัวข้อ ลงภาคสนาม เขียนวิเคราะห์ และ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าฉันจะจบภายในปีนี้   

 


เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน เหนื่อยละ เดี๋ยวไม่มีแรงทำงานต่อ ลาค่ะ สวัสดี  


     


 

บล็อกของ ผี

ผี
ภายใต้บรรยากาศแห่งความกระอักกระอ่วนของความไม่โปร่งใสในกระบวนการเลือกตั้ง  ความทุลักทุเลของความโง่เขลาและทะลักล้นทางอำนาจจากรัฐบาลเผด็จการ สภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน ที่คุณพูดอะไรมากไม่ได้นอกจาก appreciate ความเนียนดำของถนน