Skip to main content

อาหารไทยสามมื้อที่ผ่านมา ทำให้ต้องสอดส่ายสายตาหาร้านส้มตำ ก็หาไม่มี บ้านเมืองหลวงน้ำทาสะอาด บรรยากาศเหมือนบ้านฉันเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว ร้านอาหารไม่ค่อยมี ตอนเที่ยงนักเรียนขี่จักรยานเป็นเส้นเป็นสายกลับมากินข้าวที่บ้าน เหมือนฉันตอนเด็กๆ เลย


ฉันบอกน้องศร คนขับรถตู้ให้พาไปตลาด น้องศรไปในทันใด ตลาดเมืองหลวงน้ำทาใหญ่มาก ที่จอดรถก็กว้างกินเนื้อที่หลายไร่ แปลนของตลาดเป็นรูปตัวยู มีลานจอดรถอยู่ตรงกลาง มีร้านค้าขายเสื้อผ้าและของใช้ทั่วไปอยู่ด้านหน้า ส่วนด้านในขายอาหารต้องเดินลัดตึกไปด้านหลัง


โอ้...นี่แหละที่ฉันต้องการ แม่ค้าขายอาหารสดนั่งเรียงราย อาหารอยู่ในตู้กระจกกันแมลงวันได้เป็นอย่างดี มีข้าวเหนียวด้วย ฉันเริ่มช็อป มีอาหารหลายอย่างหน้าตาคล้ายอาหารที่บ้าน เช่น หมกปลาซิว มีปลาซิวใส่หอมแดงกับใบแมงลัก ปรุงรสนิดหน่อย ห่อใบตองปิ้ง นี่แหละที่ฉันโหยหา เพราะหมกแบบนี้ในเชียงใหม่เขาไม่ทำ เขาทำแบบชาวเหนือคือใส่เครื่องปรุง พริก และขมิ้นลงไปด้วย แต่หมกแบบลาวคือแบบนี้แหละใช่เลย


ไก สาหร่ายแม่น้ำโขง ไกต่างจากเทา หรือเตา ตรงที่เทาเป็นสาหร่ายน้ำนิ่ง แต่ไกนั้นเป็นสาหร่ายที่น้ำไหลผ่าน จึงไม่มีพยาธิหรือเชื้อแปลกปลอมติดตามมา ที่นี่มีหมกไก คือนำมาปรุงรสใส่หอมแดงและข้าวเบือ (ข้าวสารเหนียวแช่ค้างคืน) อร่อยมาก ไม่เคยกิน!!!


คนชอบเปิบพิสดารที่นี่มีค้างคาวปิ้งเสียบไม้วางขายด้วย คุณพัฒนา ประธานหอการค้าเชียงรายซื้อกลับมาเมืองไทยด้วย แต่ค้างคาวติดตามฉันมาจนถึงเฮือนสุนทรี ม้งที่ร้านส่ายหน้าแก้มสั่นว่าไม่กิน แต่กะเหรี่ยงในครัวกิน ฉันเรียกปลาทูผู้ช่วยกุ๊กมาดู เขาคว้าหมับ ขอบคุณแล้วเดินเข้าครัว สักพักฉันตามไปดูผล ค้างคาวปิ้งหายวับไปกับตา ทุกคนอมยิ้ม เขาบอกว่าอร่อยดี


ควาย คนลาวนิยมกินเนื้อควาย ที่นี่มีลาบควาย มีเนื้อควายแดดเดียว และควายสวรรค์ อันนี้ฉันซื้อติดมากินที่บ้านได้อีกหลายมื้อ อร่อยอีกเช่นกัน วัฒนธรรมนิยมเนื้อควายนี้คล้ายกับคนเหนือ และคนลาวที่บ้านฉัน คนกรุงเทพนั้นไม่ชิน ฉันได้ยินคนถามในรถว่าทำไมจึงกินเนื้อควาย ฉันตอบในฐานะคนลาวว่า เนื้อควายเป็นเนื้อออแกนิกเจ้า กินแต่หญ้า ไม่มีอาหารเสริม ไม่มียา ไม่มีสารเคมี คนเหนือก็นิยมกินเช่นกัน


ผักดอง อันนี้ไม่ได้ซื้อกินเพราะกินยาก แต่เดินผ่านร้านขายผักดองแล้วน้ำลายสอทันที เพราะกลิ่นคุ้นเคยยิ่งนัก ผักดองแบบนี้กินกับปลาย่างอร่อยดีนักแล


ซื้ออาหารสดและข้าวเหนียวมาได้แล้ว ฉันแวะร้านขายของชำ เห็นสินค้าไทยเช่นแชมพูซัลซิล ได้หนังสือแบบเรียนภาษาลาว และวรรณคดีลาวมาสองเล่ม ซื้อมาให้หนักกระเป๋าทำไมไม่รู้ แต่รู้ว่าถ้าไม่ยอมหนักสักวันหนึ่งจะเสียใจ เพราะไม่อาจมาได้บ่อย ๆ


ความขี้เกียจแลกเงินของฉัน ทำให้ต้องจ่ายเงินมากเกินความจำเป็น แต่กว่าจะรู้ตัวก็จะถึงวันกลับแล้ว ที่ลาวเราสามารถใช้เงินไทยได้ แต่ทุกอย่างเริ่มต้นที่แบ๊งค์ยี่สิบ เขาไม่รับเหรียญ เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามเริ่มต้นที่ยี่สิบ ถ้าแลกเงินลาวไว้ก็จะจ่ายถูกลง ระบบการนับเงินของคนลาว เขาจะเริ่มต้นที่พัน สองพัน สามพัน สิบพัน ร้อยพัน เวลาซื้อของจึงต้องคำนวณตลอดเวลา เงินลาว 275 กีบเท่ากับ 1 บาท เราก็คิดง่าย ๆ ว่า พันกีบ=3 บาท ซื้อข้าว

เหนียวทีห้าพัน ซื้อผ้าไหมผืนละสามหมื่นห้า


ออกจากกาด น้องศรก็ขับรถพาฉันไปสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองหลวงน้ำทา และกลับมากินข้าวเที่ยงกับคณะที่หอประชุมอำเภอ


************************


เที่ยงนี้เขาเลี้ยงคณะด้วยขนมจีนน้ำยา แกงเขียวหวาน น้ำเงี้ยว และขนมไทยฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด!!




23_06_1

ในตลาดหลวงน้ำทา

23_06_2
ลาบควาย



23_06_3
หมกไก

23_06_4
แม่ค้าขายหมกปลาซิว


23_06_5
หมกปลาซิว


23_06_6
ร้านขายปลา


23_06_7
สินค้าไทยมากมาย


23_06_8
ซูเปอร์มาเก็ตลาว


23_06_9
ที่เห็นแท่ง ๆ นั้นคือหนังควายตากแห้ง นำไปประกอบอาหารอีกหลายอย่าง


บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
  วันนี้ตั้งใจขับรถขึ้นไปที่ขุนช่างเคี่ยน เพื่อไปดูพญาเสือโคร่งประจำปีนี้ ตื่นหกโมงเช้า ฟ้ายังมืด อากาศหนาว ออกจากบ้านหกโมงครึ่ง แต่กว่าจะไปถึงแดดก็เริ่มแรงแล้ว รูปนี้ถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว ก่อนถึงโค้งขุนกันต์ ดอยสุเทพ เห็นเส้นขอบฟ้าไกล ๆ ถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้าง จึงเก็บฟ้าและเมืองได้ทั้งเมือง เชียงใหม่ยังมีมุมสวยอยู่
โอ ไม้จัตวา
  ได้เวลาออกเดินทางอีกแล้ว ช่วงนี้ดอกพญาเสือโคร่งกำลังจะบาน ต้องตามข่าวกันทุกวันว่าบานถึงไหนแล้ว เพราะจะบานเพียง 7 วันเท่านั้น ภาพชุดนี้ถ่ายเมื่อปีที่แล้ว ตื่นสายไปนิด ไปถึงแปดโมงกว่า ๆ รู้สึกว่าแดดแรงไป ปีนี้คงต้องออกจากบ้านหกโมงเช้า     แดดแรงไปนิดนึงจริง ๆ แต่เก้าอี้ที่ไร้คนนั่ง คงไม่หนาวเหน็บเหมือนอากาศตอนนี้     ข้อดีของแดดจ้า ๆ ก็ทำให้ฟ้าเป็นสีฟ้า ดอกไม้สีชมพูเต็มต้น ตัดกับฟ้าสีฟ้าโดยไม่ต้องทำอะไรเลย ความทุกข์ทรมานอย่างหนึ่งของช่างภาพ คือต้องวิ่งตามแสง โดยเฉพาะแสงเช้า     ดอกบ๊วย ขึ้นอยู่ในบริเวณเดียวกัน ภาพนี้ใช้เลนส์ซูม ดึงเข้ามาใกล้…
โอ ไม้จัตวา
สัปดาห์นี้มีโอกาสได้ไปถ่ายรูปห้องพักและอาหารให้กับเรือนคำอิน บ้านไม้สักทองทั้งหลัง มีห้องพักขนาดหรูหราเพียง 3 ห้อง และเป็นร้านอาหาร (อาหารพื้นเมืองรสชาติแบบคนเมืองแพร่) ปีนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี พี่นิดเจ้าของบ้านจึงลดราคาห้องพักลงมาแบบครึ่ง ๆ ภาพที่ยกมานี้เป็นห้อง living room ของหนึ่งในห้องนอนของบ้าน ราคาคืนละ 2500 บาท พร้อมอาหารเช้าไม่ได้โฆษณานะ แต่เผื่อใครหาที่พักในเชียงใหม่ ราคานี้ก็พอ ๆ กับโรงแรมในไนท์บาซ่า แต่สบายกว่ากันเยอะเลย ห้องสูธแพงกว่านี้พันนึง มีจากุชชี่ และห้องซาวน่าในตัวด้วยค่ะขอบอก เข้าไปหาข้อมูลในกูเกิ้ลได้ค่ะ
โอ ไม้จัตวา
  คราวที่แล้วเล่าเรื่องรีทัชสายไฟออกจากภาพ คราวนี้ลองมาเล่นที่ใบหน้า ลบรอยตีนกากันบ้างดีกว่า ไม่ต้องใช้เครื่องสำอางก็สวยได้  
โอ ไม้จัตวา
สัปดาห์นี้ขอแนะนำวิธีรีทัชรูปแบบง่าย ๆ เริ่มจากโรคจิตของอิฉันเองที่ทนเห็นสายไฟรกรุงรังไม่ได้ ไม่ว่าจะในชีวิตจริงหรือในภาพ มีใครเป็นแบบนี้มั่งไหมเนี่ย เห็นไม้แขวนเสื้อกองรวมกันยุ่ง ๆ หรือสายโทรศัพท์ สายไฟ สายอะไรก็ตาม พันกันยุ่ง ๆ แล้วจะรู้สึกใจคุกรุ่นขึ้นมาเหมือนมีคนยั่วโมโห ทนไม่ได้ต้องนั่งคลาย ๆ ๆ ๆ
โอ ไม้จัตวา
โดยส่วนตัวแล้วเราโตมากับห้องมืด ตอนเด็ก ๆ ข้างบ้านเป็นร้านถ่ายรูป ฝึกล้างอัดรูปในห้องมืดที่โรงเรียน เข้ามหาลัยก็เข้าชมรมโฟโต้ ก็ได้เล่นห้องมืดต่ออีกนิดหน่อย เมื่อไม่นานมานี้ไปเช่าบ้านอยู่กับเพื่อน บ้านที่อยู่ในรั้วเดียวกันก็ยังเป็นห้องมืดให้นักศึกษาเช่าทำงานล้างอัดรูป ชีวิตจึงวนเวียนอยู่กับห้องมืด และภาพขาวดำ (ว่าไปก็น่าทำห้องมืดไว้เล่นเองเหมือนกันนะ)  
โอ ไม้จัตวา
ภาพนี้ถ่ายด้วยความโลภ ฟ้าก็อยากได้ ก้อนเมฆก็อยากได้ ใช้เลนส์ไวด์หรือเลนส์สำหรับถ่ายภาพให้ได้มุมกว้างถ่าย เวลาขณะนั้นประมาณเที่ยง ฟ้าสีฟ้า เมฆเต็มฟ้า แดดจัดมาก ถ้าวัดแสงที่ก้อนเมฆ ข้างล่างจะมืด ถ้าวัดแสงที่ข้างล่างก้อนเมฆจะจ้ารายละเอียดหายไปเลย  
โอ ไม้จัตวา
คราวนี้ไม่ค่อยกล้าทุบกล้องเท่าไรนัก เพราะใช้ Nikon D70 ถ่ายอาหาร โดยใช้เลนส์ Macro (อ่านว่า มาโคร) คือเลนส์ที่ใช้ถ่ายวัตถุในระยะประชิดระดับ 1 เซ็นได้ พวกงาน close up ทั้งหลายมักใช้เลนส์ หรือโหมดมาโครนี้ในกล้องดิจิตอล ที่มีวิธีดูง่าย ๆ คือ ปุ่มที่เป็นเครื่องหมายรูปดอกไม้ในตัวกล้อง นั่นคือปุ่มมาโคร สำหรับถ่ายดอกไม้ใกล้ ๆ ถ่ายมด ถ่ายขี้จิ้งจก หรือถ่ายอาหารอย่างวันนี้เป็นต้น
โอ ไม้จัตวา
  คราวนี้ยกแมวที่มีสีสันตัดกันอยู่ในตัวมาให้ดู แมวที่มีสีขาว และดำ อยู่ใกล้กันแบบนี้ เวลาถ่ายภาพจะต้องระวังการวัดแสง เพราะถ้าวัดแสงที่สีดำ ส่วนที่เป็นขาวก็จะจ้าจนความละเอียดหายไป ควรวัดแสงตรงสีที่เป็นกลาง ๆ เช่นสีน้ำตาลเป็นต้น ก็จะได้ภาพที่มีสีและแสงพอดี
โอ ไม้จัตวา
ติดพันจากแมวคราวที่แล้ว ตอนทำรูปก็พบว่ามีขั้นตอนที่ไม่ยากนักในการปรับภาพในโปรแกรมโฟโต้ช็อปเอามาแนะนำกัน ภาพที่เราถ่ายนั้นบางครั้งองค์ประกอบของภาพก็ยังไม่สมบูรณ์นัก เราสามารถใช้คำสั่ง crop ในโฟโต้ช็อปได้ หรือคลิ้กที่เครื่องหมายที่เราทำลูกศรสีแดงชี้ไว้ แล้วลากที่ภาพ สร้างกรอบภาพขึ้นมาใหม่ จากตัวอย่างที่ยกมาให้ดูภาพเต็มคือทั้งหมด เมื่อเราลาก crop ส่วนที่เป็นแถบสีดำรอบ ๆ ภาพ กรอบเล็กจะหายไปเมื่อเราดับเบิ้ลคลิ้ก
โอ ไม้จัตวา
“ถ่ายภาพเด็กกับสัตว์ให้โฟกัสที่ตา” ออกจากห้องโสตทัศนศึกษา ห้องปฏิบัติการถ่ายภาพที่โรงเรียนเมื่อสมัยอยู่ม.3 แล้วก็ไม่เคยเข้าห้องเรียนถ่ายรูปที่ไหนอีกเลย เคยเข้าไปเล่นเองบ้างก๊อกแก๊กในห้องอัดของชมรมถ่ายภาพในมหาวิทยาลัย จนกระทั่งได้มีโอกาสหมกตัวอยู่ที่สวนทูนอิน บ้านพักของคุณ’รงค์ วงษ์สวรรค์ เป็นบางช่วง และมีโอกาสเดินถ่ายรูปดอกไม้ยามเช้าในสวนทูนอิน ประโยคที่ยกมาข้างบนนั้นคุณ’รงค์ วงษ์สวรรค์ พูดขึ้นมา (จะเรียกว่าสอนก็น่าจะได้) เมื่อชี้ให้ดูภาพแมวที่เขาถ่ายและใส่กรอบติดไว้ที่ผนังบ้าน    
โอ ไม้จัตวา
  แสงแดดมีความสำคัญต่อการถ่ายภาพอย่างยิ่ง เพราะเป็นแสงจากธรรมชาติ ทำให้ภาพมีมิติ มีเงา แต่ก็ต้องเลือกเวลาเช่นกัน อย่างที่บอกในชื่อเรื่องว่า แสงแรกและแสงสุดท้าย แสงแรกนั้นคือ แสงแดดยามเช้าจนถึงสาย ๆ น่าจะประมาณ 8.30 น. และแสงสุดท้ายของวัน คือประมาณ 4-5 โมงเย็น เป็นช่วงเวลาที่พอดีที่สุดในการถ่ายภาพ