Skip to main content
10_6_01



มองไปในความกว้างและเวิ้งว้าง ทำให้ผมอดครุ่นคิดไปลึกและไกล และพลอยให้อดนึกหวั่นไหวไม่ได้ หากภูเขา ทุ่งนาทุ่งไร่ สายน้ำ และวิถีชีวิตในหมู่บ้านเกิดของผมต้องเปลี่ยนไป เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมที่อยู่นอกเหนือธรรมชาติเข้ามาเยือน



และนั่น, ทำให้ผมต้องหยิบงานเขียน ‘เรามีแม่แสนงาม’ ของ ‘อลิซ วอล์กเกอร์’ ขึ้นมาอ่านอีกครั้ง...


โอ้, ทัศนียภาพแห่งถิ่นเกิด

เพราะเจ้าแสนดีต่อฉันขณะที่เติบโตขึ้น

ฉันคงทนไม่ได้ถ้าสูญเสียเจ้าไป

โอ้, ทัศนียภาพแห่งถิ่นเกิด

เพราะเมื่อฉันสูญเสียเจ้า บางส่วนแห่งวิญญาณของฉันจะดับสูญ

โอ้, ทัศนียภาพแห่งถิ่นเกิด

เพราะจะรักษาตัวเอง ฉันจึงแสร้งว่าเป็นเจ้าสูญหาย

บัดนี้เจ้ามิได้มีอยู่

เพราะฉันไม่สามารถมองเห็นเจ้า

แต่โอ้, ทัศนียภาพแห่งถิ่นเกิด

บัดนี้ฉันขอสารภาพว่าฉันหลอกลวง

บัดนี้ฉันขอสารภาพ

ความเศร้าของหัวใจ ขณะน้ำตาไหลริน

และฉันเห็นอีกครั้งด้วยสายตาอันแจ่มใสแห่งความทรงจำ

เพื่อนรักถูกโค่นลง

และเห็นตัวเองเดียวดายและกระจิริด

อยู่ในทุ่งหญ้าเริงแดดและเงาไม้ แห่งวัยเด็ก

ณ ที่ซึ่งจิตวิญญาณถูกบดขยี้

และหัวใจอันทุกข์ระทมของฉัน

วิ่งวนตามหาเพื่อน


อีกไม่นาน ฉันจะได้รู้จักฤดูร้อนห้าสิบปี

บางทีด้วยเหตุนี้แหละ, หัวใจฉัน

ต้นไม้ที่ถูกคุมขัง ถูกกำแน่นอยู่ในแก่นของมัน

เนิ่นนาน ยืนหยัด

ออกจากกรงขัง ดุจสลัดใบเหล็กทิ้ง


เจ้าไหลมาสู่ฉัน

เหมือนพวกอะบอริจิน หรือบุชเพอร์สัน หรือเชโรกี

ฝ่าผจญทุกสิ่งทุกอย่าง

กลับมาตายที่บ้าน

ไม่ว่าพวกคาวบอยจะกำลังต้อนฝูงปศุสัตว์

ที่บรรพบุรุษนอนอยู่

ฉันกลับมาหาเจ้า ผู้เป็นที่รัก


ร่ำไห้รำลึกถึงต้นไม้ต้นแรกที่ฉันเคยเห็น

ภูเขาลูกแรกที่ฉันเคยปีนขึ้นและพักความห่วงใยไว้บนนั้น

แม่น้ำสายแรกที่ฉันเคยฝ่าข้าม

กรวดก้อนแรกที่ฉันเคยเก็บขึ้น

อุ่นแดด และยัดใส่ปาก


โอ้, ทัศนียภาพแห่งถิ่นเกิด

เจ้าไม่เคยไกลจากหัวใจของฉัน

ฉันต่างหากเล่าเป็นผู้จากไกล

ถ้าเจ้าจะรับฉันกลับ

รู้เถิดว่า...ฉันเป็นของเจ้า.


หมายเหตุ : ‘เรามีแม่แสนงาม’ รวมบทกวีและเรื่องสั้นของ ‘อลิซ วอล์กเกอร์’ เจ้าของรางวัลพูลิทเซอร์ ปี 1983, ทราย ชยา : แปล, สำนักพิมพ์เจนเดอร์เพรส จัดพิมพ์

บล็อกของ ภู เชียงดาว

ภู เชียงดาว
 
ภู เชียงดาว
   
ภู เชียงดาว
 
ภู เชียงดาว
  จู่ๆ คุณก็รู้สึกเหนื่อยเพลีย ข้างในเหมือนว่างโหวง ไม่สดชื่นรื่นรมย์เหมือนแต่ก่อน มือเท้าชา ร่างกายอ่อนแรง สมองมึนงง คิดโน่นลืมนี่อยู่อย่างนั้น ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่คุณก็หลีกหนีห่างจากเมืองอันสับสน ไกลจากผู้คนของความอึงอล มาอยู่ในหุบเขาสงบเงียบแบบนี้  
ภู เชียงดาว
  1.
ภู เชียงดาว
-1- หลังการเก็บเกี่ยวข้าว นวดข้าว ขนข้าวมาเก็บไว้ในหลอง(ยุ้งฉาง)ของชาวนา ไม่นาน ท้องทุ่งเบื้องล่างก็ดูเปิดโล่ง มองไปไกลๆ จะเห็นตอซังข้าว กับกองฟางสูงใหญ่กองอยู่ตรงนั้น ตรงโน้น กระนั้น ท้องทุ่งก็ไม่เคยหยุดนิ่ง มันมีชีวิต มีการเคลื่อนไหวอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เท่าที่เขาเฝ้าดู ในหน้าแล้ง หลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว คนเลี้ยงวัวประจำหมู่บ้านคงมีความสุขกันถ้วนหน้า พวกเขารู้ดีว่าจะทำอย่างไงหลังจากชาวนาขนข้าวขึ้นหลองเสร็จเรียบร้อย คนเลี้ยงวัวจะรีบปล่อยฝูงวัวสีขาวสีแดงหลายสิบตัวลงไปในทุ่งโดยไม่ต้องบอกเจ้าของนา ไม่มีใครว่า ปล่อยให้มันเล็มยอดอ่อนจากตอซังข้าว บ้างก้มเคี้ยวเศษฟางข้าว…
ภู เชียงดาว
เกือบค่อนปีที่ข้าตัดสินใจหันหลังให้กับใบหน้าของเมืองใหญ่ มุดออกมาจากกล่องของความหยาบ แออัดและหมักหมม ถอยห่างออกมาจากความแปลก แยกออกมาจากความเปลี่ยน สลัดคราบมนุษย์เงินเดือน สลัดความเครียดที่สะสม สลัดทิ้งซึ่งพันธนาการ ตำแหน่ง หน้าที่การงาน และความโลภ ที่นับวันยิ่งพอกพูนสุมหัวใจข้า - - กระชาก ขว้างทิ้งมันไว้ตรงนั้น อา,ทุกอย่างช่างหน่วงหนักและเหน็ดหน่าย - -ย้อนถามตัวตน ข้าระเหระหนเดินทางมาไกลและแบกรับสัมภาระมากเกินไปแล้ว !