บล็อกของ ภู เชียงดาว
ภู เชียงดาว
ผมมองเห็นพลังในตัวผู้ชายคนนี้ ตั้งแต่เขาเปิดประตูลงจากรถ หลังจากเรายืนทักทายกัน เขาเอื้อมไปหยิบกล้องถ่ายรูปขนาดกะทัดรัดที่วางบนเบาะหน้ารถ มากดเก็บภาพหลายมุมรอบๆ สวนและบ้านปีกไม้ ในขณะที่ผมกำลังถือไม้กวาดทางมะพร้าวกวาดใบสักแห้งหล่นกองเต็มลานดินรอบโคนต้น ผมหอบใส่ตะกร้าไม้ไผ่ยัดๆ ไปเทไว้หลังบ้าน ตั้งใจไว้ว่าเมื่อเก็บเศษใบไม้ใบหญ้าได้มากพอ จะทำปุ๋ยหมักเก็บไว้ พอหันไปมองเขาอีกที ผมเห็นเขาจัดแจงลงมือทำในสิ่งที่รักและชอบเรียบร้อยแล้ว เขานั่งหลบมุมอยู่ระหว่างโรงรถกับต้นตะขบที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา ข้างกายเขามีอุปกรณ์เขียนรูป กระดาษ กระดาน จาน สีน้ำ พู่กัน น้ำ…
ภู เชียงดาว
เมื่อเอ่ยชื่อ...คนมากมายต่างรู้จักเขา…
จริงสิ, ใครต่อใครบอกไว้ว่า เขากลายเป็นตัวแทนของคนหนุ่มสาว
ของความรัก ความหวัง และความฝันของใครหลายคน
กระทั่งมีคนให้สมญานามแด่เขา ‘เจ้าชายโรแมนติก’
ภู เชียงดาว
กี่ครั้งที่เราทุกข์
กี่ครั้งที่เราล้ม
กี่ครั้งที่เราจม อยู่ในท้องทะเลน้ำตา…
ภู เชียงดาว
ที่มาภาพ : www.oknation.net/blog/fontree/2008/08/20/
อีกคืนค่ำ,ผมถวิลหาคำปลอบโยนของอา
“เป็นไงบ้าง อยู่ได้ไหม...ชีวิต”
นั่นคือถ้อยคำของอาเคยไถ่ถาม
น้ำเสียงยังกังวานหากอุ่นอ่อนโยน
อาเหมือนดอกไม้กลางป่าอวลกลิ่นหอม
อาคงรับรู้ว่างานข่าว งานเขียน มันยากหนักเพียงใด
“ที่ถามเพราะอาเคยผ่านจุดนั้นมาก่อน...”
ผมได้แต่พยักหน้าบอกไป “อยู่ได้ครับอา...”
ในขณะหัวใจผมตื้นตันในถ้อยคำห่วงใยนั้น
ภู เชียงดาว
ใกล้สิ้นปีทีไร เชื่อว่าหลายคนคงแอบบ่นกับตัวเองอยู่เงียบๆ ลำพัง
“ชีวิตเราเดินทางมาไกลจังเลย”
“ทำไมมันถึงหนักหนาสาหัสอย่างนี้”
“แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป...”
“สิ่งไหนเล่าที่เราต้องการ...”
“แล้วอะไรคือความสุขที่แท้จริง...”
ภู เชียงดาว
เหน็บหนาวใช่ไหมหัวใจเจ้า
โศกเศร้าใช่ไหมหัวใจหวัง
ยามสายลมเลาะภูรับรู้-ดัง
แว่วฟังเหมือนดั่งเพลงร้าวราน
ใครบางคนสับสน บ่นถึงเจ้า
ไยวิถีจึงเหน็บหนาวแตกร้าวฉาน
ไม่มีแล้วหรือ...จิตวิญญาณ …
ภู เชียงดาว
ที่มาภาพ : โอ ไม้จัตวา
http://blogazine.prachatai.com/user/omaijattava/post/2171
ภู เชียงดาว
ยามหมอกขาวห่มคลุมดอย และลมหนาวพัดมาเยือนเมืองเหนือคราใด ทำให้ผมอดครุ่นคำนึงถึงวิถีเก่าๆ เมื่อครั้งเที่ยวท่องไปตามภูเขา ทุ่งไร่ สายน้ำ และชุมชนของพี่น้องชนเผ่านั้นไม่ได้ แน่ละ ในเส้นทางที่ย่ำไปนั้น มักเจอทั้งเรื่องราวมากมายให้เรียนรู้ พานพบ และหยุดทบทวนดูภาพผ่านในบางสิ่ง และละทิ้งภาพผ่านในบางอย่าง แต่โดยรวมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทุกข์สุข สดชื่นรื่นรมย์ หรือปวดปร่าในห้วงลึก เราไม่อาจเกลี่ยทิ้งไปได้ เพราะนั่นล้วนคือวิถีแห่งความจริงทั้งสิ้น...