Skip to main content

ในยามนี้อากาศเริ่มอบอุ่นมากขึ้น แสงแรกของวันมาถึงก็เป็นเวลาที่ผมตื่นนอนเดินทางไปสนามบินเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองชัททานูกา มลรัฐเทนเนสซี 

หลายคนสงสัยว่าทำไมผมเดินทางบ่อยและยาวนานมาก ขอเล่าให้ฟังอย่างนี้ครับ ผมเดินทางมาที่นี่ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2557 และใช้เวลาส่วนใหญ่ที่เมืองเคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาจูเส็ทส์ อันที่จริงผมพำนักไม่ไกลจากสถานีเดวิสสแควร์ (Davis Square) ใกล้มหาวิทยาลัยทัฟส์ (Tufts University) เขตเมืองซัมเมอร์วิลล์ (Somerville) ห่างจากสถานีจตุรัสฮาร์วาร์ดไปเพียงสองสถานีรถไฟใต้ดินสายสีแดง มีสถานีพอร์เตอร์ (Porter) คั่นกลาง โดยที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและ MIT อยู่ในเมืองเคมบริดจ์ ส่วนบอสตันเป็นเมืองอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโดยมีสะพานชาร์ลส์ (Charlestown Bridge) เชื่อมสองฝั่ง

 

ชีวิตของผมส่วนใหญ่ก็วนเวียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ห้องพัก และย่านไชนาทาวน์ในฝั่งบอสตัน ที่เหลือก็ไปชมเมืองบ้างตามโอกาส เช่น ช่วงสปริงเบรคหรือปิดกลางภาคฤดูใบไม้ผลิที่ไปเที่ยว Worcestor ที่คนท้องถิ่นออกเสียงว่า วุสเตอร์, เมืองม่อนสัน (Monson) ที่ห่างออกไปราวชั่วโมงครึ่งโดยรถยนต์ และวิทยาลัยสตรีเจ็ดพี่น้อง Wellesley College, Smith College, Mount Holyyoke College ย่าน South Headley, Amhurst College, University of Massachisetts, Amhurst เป็นต้น

 

ในช่วงสุดท้ายหลังจากหมดสิ้นเวลาของทุนการวิจัยและพำนักที่ฮาร์วาร์ด ผมวางแผนเดินทางทัศนศึกษาและเยี่ยมเพื่อน และนำเสนองานไปพร้อมๆ กัน โดยเริ่มจากวิสคอนซิน ชิคาโก ต่อด้วยเทนเนสซี แล้วไปบรรยายที่วิทยาลัยเซียนา (Siena College) เมืองอัลบานี มลรัฐนิวยอร์ค จากนั้นก็จะไปร่วม workshop ที่มหาวิทยาลัยคอร์แนล (Cornell University) เมื่อเสร็จงานแล้วผมจะไปเที่ยวนิวยอร์คเพียงลำพัง ก่อนจะกลับมาที่บอสตันเพื่อเก็บของและร่ำลาเพื่อนๆ ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย

 

สำหรับผมแล้ว การเดินทางในช่วงหลังนี้ดูจะมีสีสันมาก เพราะแม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่มีรายละเอียดมากมาย จึงเป็นที่มาของเรื่องเล่าในช่วงท้ายนี้

 

เมื่อมาถึงชัททานูกา เพื่อนผมมารอรับผมที่ทางออก แต่เกิดปัญหาว่ากระเป๋าของผมถูกเก็บไว้ เพราะผมออกมาช้า เราเสียเวลาไปกว่าครึ่งชั่วโมงรอเจ้าหน้าที่สายการบินเอากระเป๋ามาให้ เพราะที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ ไม่ได้มีเที่ยวบินบ่อยๆ ผมแอบแปลกใจว่าทำไมเขาถึงปล่อยสายพานกระเป๋าสั้นมากๆ

 

เมื่อออกจากสนามบิน เขาพาผมไปกินกาแฟและนั่งคุยกัน มีเรื่องราวมากมาย เพราะชีวิตของเราผ่านทุกข์และสุขมาไล่เรี่ยกันมาก อีกทั้งผมเคยชวนเขาเคยมาอยู่เมืองไทยและทำงานร่วมกับเพื่อนของผมอีกคนหนึ่งที่เชียงใหม่ เราจึงมีห้วงเวลาของความบ้าคลั่งในวัยหนุ่มด้วยกัน จนเวลานี้ พวกเราต่างพ้นช่วงชีวิตแบบนั้นแล้ว

 

เมื่อกลับมาเขียนวิทยานิพนธ์จนจบ เพื่อนมาอยู่ที่วอชิงตัน ดีซีและพบกับแฟนสาว ทั้งคู่มีลูกหนึ่งคนก่อนจะย้ายมาใกล้บ้านพ่อแม่ของภรรยาในเมืองนี้ และซื้อบ้านในป่าห่างจากเมืองราวยี่สิบนาที 

 

ตัวบ้านเป็นทรงสามเหลี่ยมหน้าจั่ว อาคารยอดแหลมนี้มีห้องนอนใหญ่อยู่ชั้นบนและห้องนอนเล็กอยู่ข้างล่าง เพื่อนสละห้องนอนใหญ่เพื่อรับแขก ไมตรีและมิตรภาพ สื่อสะท้อนออกมาโดยไม่ต้องบรรยายให้เยิ่นเย้อ

 

ลูกสาวของเพื่อนท่าทางดีใจมากกับผู้มาเยือน แม้จะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่พบกัน แต่เธอช่างบริสุทธิ์และงดงาม เธอหยิบยื่นไมตรีและความห่วงใยจากผู้เป็นพ่อและแม่มาถึงผมโดยไม่มีอะไรขวางกั้น เสียดายที่ผมต้องเขียนงานและเตรียมนำเสนอที่อัลบานี เลยไม่มีเวลาคุยเล่นกับเธอมาก 

 

มีเรื่องแปลกก็คือ ก่อนที่เพื่อนจะไปรับผม เขาพบงูหัวทองแดง (Copperhead snake) ขนาดยาวหนึ่งฟุตบนบันไดขึ้นห้องนอนผม เขาแปลกใจเพราะเขาซ่อมบ้านด้วยตัวเอง เพื่อนบอกว่าเขา “ผนึกปิด” บ้านทุกมุมแล้ว แต่เจ้างูตัวน้อยที่พิษพอประมาณนี้เข้ามาได้อย่างไร

 

ทีแรกเพื่อนเก็บความลับนี้เพราะกลัวผมตกใจ จนกระทั่งได้พบกับสมาชิกครอบครัวที่เหลือ เขาบอกว่าถึงเวลาต้องบอกความจริงแล้ว เพราะลูกสาวจะต้องพูดออกมาแน่ๆ ผมแอบขำแต่ก็ตกใจบ้าง จินตนาการว่าต้องนอนในห้องกว้างเพียงลำพัง เพื่อนบอกว่ายังไงเสียก็ต้องบอก แต่ต้องการบอกในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น 

 

ผมไม่แปลกใจนักที่รู้ว่าเจองูพิษในห้องนอน เพราะที่นี่เป็นป่าเขา แถมเพื่อนยังบอกว่าเช้าวันไหนอากาศดีๆ อาจเห็นกวางเดินผ่าน ผมพยายามตื่นเช้า แต่ก็ไม่เห็นกวาง เห็นแต่ไก่งวงป่าที่ออกมาเดินยามสายๆ ทั้งฝูง โดยมีไก่งวงตัวผู้นำทีม

 

ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาอัปปาเลเชียน จึงมีความสูงพอที่จะพบโสมป่า หรือกินเซ็ง เพื่อนบอกว่าส่งดินไปทดสอบแล้วว่าเหมาะแก่การปลูกโสมหรือไม่ เพราะโสมราคาดีเอามากๆ 

 

เนื่องจากผมต้องเขียนงานและเตรียมตัวนำเสนอ เพื่อนเลยบอกว่าให้ผมทำตัวสบายๆ ไม่ต้องห่วง ผมเองก็บอกว่าจุดหมายของการเดินทางก็คือมาเยี่ยมเพื่อน ใช้เวลากับเพื่อน ไม่ได้ต้องการไปชมเมืองหรืออื่นใด ในยามเย็นเมื่อพร้อมหน้ากันเราทานอาหารง่ายๆ ที่เพื่อนผมทำ เป็นต้มข่าและไข่ดาว กินกับข้าว เพื่อนผมอยู่ง่ายๆ หลังจากถูกให้ออกจากงาน เขาใช้ชีวิตสมถะ แม้จะมีกระดาษสามสี่ใบเท่ากันกับผม แต่งานวิชาการไม่ใช่เรื่องง่าย และเพื่อนผมคงหมดความทะเยอทยานในทางวิชาการ จึงถอยห่างมาทำงานอิสระ ซึ่งเขาบอกผมว่าพอเลี้ยงชีวิตสบายๆ กับลูกสองคน ส่วนภรรยาเป็นนักช็อปปิ้งของแอนทีค เธอจึงซื้อหาเสื้อผ้าวินเทจ (เสื้อผ้าเก่าเก็บ หรือเสื้อมือสอง) และขายทางอีเบย์

 

ทั้งสองคนใช้ชีวิตในป่ากับลูกๆ เป็นชีวิตที่ผมอิจฉาทีเดียว เมื่อนึกถึงความเป็นไปอันเรียบง่าย และสามารถควบคุมเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตได้

 

ผมหยิบหนังจีนเรื่อง Lost in Thailand ที่โด่งดังมาฝากเพื่อน เพราะเขาเคยใช้ชีวิตที่เชียงใหม่นานพอดู 

 

เรามีเรื่องคุยกันมากมาย จนเด็กๆ ได้เวลานอน ส่วนผมก็ต้องกลับไปทำงานบนชั้นสองของบ้านที่เป็นห้องนอนใหญ่

 

รุ่งเช้าเรากินอาหารง่ายๆ ส่วนภรรยาและลูกไปรายงานตัวที่โรงเรียนใกล้บ้าน

 

ผมยังจำความสดใสน่ารักของเจ้าตัวเล็ก ที่เอาหัวไหล่มาโชว์ผม พร้อมบอกว่า หนูโดนฉีดยาตั้งสองเข็มแน่ะ ข้างละเข็ม หนูเจ็บมาก แต่หนูไม่ร้องไห้เลย

 

เมื่อคุ้นกันมากขึ้น เธอวาดภาพเหมือนของผม พร้อมกับบอกว่า หนูวาดให้นะ 

 

สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ เป็นตัวทำละลายหัวใจอย่างดีจริงๆ

 

เพื่อนปล่อยให้ผมนั่งทำงานไปพักใหญ่ๆ จนเกือบหลังเที่ยง ผมถึงเริ่มผ่อนคลายเพราะงานที่เตรียมไว้ใกล้เสร็จแล้ว และส่งร่างแรกไปให้เพื่อน แม้อยู่ในราวป่า แต่อินเตอร์เน็ตของเพื่อนรวดเร็ว ไม่มีอะไรให้กวนใจเลย

 

หลังเที่ยงเราออกไปเดินเล่น เราผ่านร้านขายขนมที่คนอเมริกันทุกคนรู้จักดี เป็นขนมเค๊กและขนมอบกรอบชื่อ Little Debbie ผลิตโดยบริษัท McKee Food Corporation ซึ่งร่ำรวยมาก เพราะเป็นเจ้าของกิจการขนาดใหญ่ที่ส่งขายไปทั่วประเทศ เพื่อนผมบอกว่าลูกชายของบริษัทนี้่มาซื้อที่ดินใกล้บ้านเขา และไม่มีท่าทีจองหองอะไร ต่างไปจากคนรวยบางบ้านเมือง ผมเลยแวะเข้าไปในร้าน ซื้อขนมฝากเจ้าตัวเล็กทั้งสองคน

 

เลยไปอีกหน่อยเป็นอนุสรณ์สถานสงครามเพื่อรำลึกถึงทหารจากทุกรัฐ จึงมีธงของรัฐประดับอยู่พร้อม เฮลิคอปเตอร์กับรถถัง เป็นสวนที่จัดได้ไม่เลว เหมาะสำหรับการมาเดินและเขาบอกว่าเป็นการรำลึกถึงคนที่สู้เพื่อเสรีภาพ เราเดินรอบๆ อนุสรณ์สถาน ซึ่งผู้สนับสนุนหลักน่าจะเป็นตระกูลแม็คคีย์ที่ผลิตขนมปังอบกรอบนั่นเอง

 

นอกจากนี้ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่โรงงานโฟล์คจากเยอรมันมาซื้อที่ดินทำโรงงาน มีวิศวกรต่างชาติเข้ารมาร่วมออกแบบรถ SUV สำหรับส่งขายในทวีปอเมริกา ผมมารู้ทีหลังว่าที่เมืองนี้ยังไม่มีกฎหมายว่าด้วยสหภาพแรงงาน จึงดึงดูดใจนักลงทุนเอามากๆ ผมไม่แปลกใจนัก เพราะทุนสัญชาติไหนๆ ก็มีธรรมชาติคล้ายๆ กัน

 

เราฝ่าการจราจรไปอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อไปเดินป่าใกล้ๆ โรงงานโฟล์ค พวกเราเดินเข้าไปถึงบึงขนาดเล็ก ระหว่างเดิน ผมถามไถ่ถึงตระกูลเพื่อนที่สาวย้อนไปได้หลายชั่วคน บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เพื่อนใช้เวลาค้นคว้าเพิ่มเติมจากที่พ่อเขาเคยจ้างคนสืบหาเอาไว้ เมื่อไปถึงบึงผมรับรู้ถึงความสงบเงียบ มองไปรอบๆ มีความสดเขียวของใบไม้ที่แตกใบออกมาจากกิ่งก้าน ผมเห็นร่องรอยกีบเท้ากวางบนพื้นดินอ่อนนุ่ม มันคงมาหาน้ำและหญ้ากิน หลังจากฤดูหนาวอันยาวนาน

มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ผมเห็นสีเขียวอ่อนแซมแทรกออกจากกิ่งก้าน ในราวป่ามีไม้ล้มที่เขียวขจีไปด้วยมอสสีเขียวอ่อน ตัดกับป่าที่แห้งขาว สีของป่าเพิ่งจะฟื้นคืนชีพอีกครั้งหนึ่ง 

 

ออกจากป่า เรานัดกันกับภรรยาเพื่อนและลูกที่ร้านอาหารบนเนินสูง เพื่อจะได้ชมวิวยามตะวันตก ไม่ใช่ร้านหรูหรา แต่เป็นร้านที่คนชอบมากินดื่ม รายการอาหารง่ายๆ มีเฟรนช์ฟราย มีซี่โครงแกะย่าง ซี่โครงหมู ซึ่งอร่อยมากๆ มองลงไปข้างล่าง ผมเห็นทางไฮเวย์เชื่อมไปเมืองแนชวิลล์ (Nashville) เพื่อนบอกว่าขับรถไปประมาณ 45 นาทีก็ถึง เสียดายเหลือเกินที่ไม่มีเวลา คราวหน้าคงต้องหาเวลาไปฟังเพลงที่แนชวิลล์ให้ได้

 

หลังอาหารเราไปให้อาหารแพะและไก่ที่ทางร้านเลี้ยงเอาไว้ จนแสงตะวันเริ่มลดต่ำลง

 

เพื่อนผมพาผมไปร้านหนังสือมือสองที่ขนาดใหญ่มากๆ ราวสามสนามบาสเก็ตบอล และยังมีซีดี อุปกรณ์ไฟฟ้ามือสองที่คนไม่ใช้แล้วมาวางขาย ผมไม่ได้หนังสือ แต่ได้ซีดีของนีล ยัง (Niel Young) ที่ผมชื่นชอบมาสองสามแผ่น ราคาถูกอย่างน่าใจหายเพียงแผ่นละเหรียญสองเหรียญ

 

ค่ำคืนนี้ ความสุขของผมอยู่ที่การทำงานเสร็จตามเป้าหมาย และได้ใช้เวลากับเพื่อนรักและครอบครัว

ในยามที่ผมลำบาก เพื่อนเสนอความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ ชีวิตนี้ถึงไม่ร่ำรวยอะไร แต่มีเพื่อนอย่างนี้ ผมคงร่ำรวยกว่าใครๆ ในหลายเรื่อง

 

เมื่อนั่งดูหนัง “แก๊งค์ม่วนป่วนไทยแลนด์” ผมพาลนึกไปถึงเร่ืองอื่นๆ นึกถึงชะตากรรมของบ้านเมืองในมือ “แก๊งค์ม่วน” เอามากๆ

 

 

ลูกสาวคนโตของเพื่อนนอนหนุนตักผม เธออาลัยอาวรณ์แขกผู้มาเยือนเอามากๆ ถึงกับบอกว่าไม่อยากให้ไปเลย แถมยังจะมาช่วยจัดกระเป๋า พูดไปดูหนังไปก็ผล็อยหลับไป มือน้อยๆ ของเจ้าตัวเล็กยังกุมมือผมเอาไว้ ผมเอามือลูบผมเธอเบาๆ นึกถึงวันเวลาที่เหลืออยู่ของผมกับอนาคตของบ้านเกิด ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จะมีมือน้อยๆ แบบนี้เป็นของผมเอง

 

ก่อนเข้านอน เพื่อนกับภรรยาที่อยู่ซาคราเมนโต (Sacramento) ใช้การสไกป์ (Skype) มาคุยกัน เพื่อนผมต่อวงจรเข้ากับโทรทัศน์ จึงเหมือนว่าเรานั่งคุยกันอยู่บนโซฟา เรื่องราวสนุกสนานหวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง แม้จะชั่วครู่ชั่วยาม แต่มิตรภาพของเรายืนยาวมานานหลายปี 

 

รุ่งเช้าผมบอกลาเจ้าตัวเล็ก พร้อมทั้งสัญญาว่าถ้าพวกเขามาเมืองไทยผมจะพาเธอไปขี่ช้าง 

 

คงอีกนานกว่าเราจะได้พบกัน

 

บล็อกของ บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ

บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
วันนี้ (31 พฤษภาคม) เป็นวันที่ 17 นับจากวันเลือกตั้งจบลง โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งยังมีเวลาเหลืออีก กว่า 43 วัน ที่จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างน้อย ร้อยละ 95 ของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบเขตและบัญชีรายชื่อ เพื่อให่้ระบอบการเมืองเดินไปอย่างต่อเนื่องและไม่ขาดต
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ช่วงที่พ่อแม่มาอยู่ด้วย ผมจะพาพ่อแม่ไปเที่ยวใกล้บ้าง ไกลบ้าง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เพราะการพาคนแก่มาอยู่เมืองที่ไม่มีเพื่อนฝูงที่สนิทกันคงไม่ใช่เรื่องสนุกอาทิตย์ก่อนก็ขับออกไปพุทธมลฑลแล้วไปพระปฐมเจดีย์ วกออกไปทางบ้านแพ้ว ออกมาพระรามสอง ก็เจอรถติดยาว ในสั
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
บทความนี้เขียนเร็วๆ จากบทสนทนาในไลน์กลุ่มที่ผู้เขียนเป็นสมาชิก เพื่อตอบคำถามสองส่วน ส่วนแรกคือเสถียรภาพทางการเมืองขึ้นอยู่กับความได้สัดส่วนระหว่างขีดความสามารถของรัฐกับความคาดหวังจากสังคม ส่วนที่สองคือรัฐกำลังทำผิดรัฐธรรมนูญขึ้นเรื่อยๆ 
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เมื่อเช้ายังงัวเงียอยู่ (เพราะนอนดึก) มิตรสหายในไลน์กลุ่มก็ชวนคุยว่า จะเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีไปทำไม่ ดูอย่างอเมริกาสิ ขนาดเปลี่ยนทรัมป์ออกไปเป็นโจ ไบเด็น ถึงวันนี้คนยังติดโควิดสูง แม้กระทั่งในทำเนียบขาว ผมเลยชวนดีเบตว่าเอาไหม ในที่สุด บทสนทนาก็มาถึงจุดที่ว่า เราไม่ควรเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
 คนเราจะวัดความเป็นรัฐบุรุษที่แท้ได้ก็เมื่อวิกฤตการณ์มาถึง แล้วเขาสนองตอบต่อวิกฤตการณ์นั้นอย่างไร
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ในวันที่ 2 มีนาคม 1757 (2300) เดเมียนส์ผู้ปลงพระชนม์ถูกตัดสินว่าให้ "กระทำการสารภาพผิด (amende honorable) หน้าประตูอาสนวิหารแห่งปารีส" เป็นที่ซึ่งเขาจะถูกเอาตัวไปและส่งไปกับล้อเลื่อน โดยสวมแต่เพียงเสื้อเชิ้ต ถือคบเพลิงที่มีขี้ผึ้งเป็นเชื้อหนังสองปอนด์ (ราว 1 กิโลกรัม) จากนั้นเขาจะถูกนำตัวไปบนล้อเ