กษัตริย์และคณะรัฐประหารของไทยผ่านคำอธิบายเรื่องพระราชนิยมของวิษณุ เครืองาม
พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล [บันทึกความจำ]
หมายเหตุ : ขอให้ท่านใคร่ครวญค่อย ๆ อ่านดี ๆ นะครับ คำอธิบายของ "วิษณุ เครืองาม" เช่นนี้ เป็นผลดีต่อกษัตริย์หรือไม่ อย่างไร
ในตำรา "กฎหมายรัฐธรรมนูญ" ของ วิษณุ เครืองาม [พ.ศ.๒๕๓๐] อธิบายเรื่อง กษัตริย์ กับ คณะรัฐประหาร ไว้ว่า :
"ในประเทศไทยนั้น ถือเป็นประเพณีการเมืองตลอดว่า ไม่ว่าจะมีการปฏิวัติ หรือรัฐประหารเกิดขึ้นครั้งใด การตรารัฐธรรมนูญขึ้นใช้บังคับใหม่จะต้องถือว่าเป็นความตกลงร่วมกันระหว่างประมุขของรัฐกับคณะผู้ก่อการปฏิวัติหรือรัฐประหารเสมอ ที่เป็นเช่นนี้น่าจะมีเหตุผล ๓ ประการ
๑.คณะผู้ก่อการปฏิวัติ หรือรัฐประหารต้องการอาศัยพระราชอำนาจทางสังคมของพระมหากษัตริย์ เพื่อที่จะให้ประชาชนรู้สึกและเข้าใจว่าพระมหากษัตริย์ก็ทรงยินยอมด้วยตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้ว
๒.คณะผู้ก่อการปฏิวัติ หรือรัฐประหารต้องการอาศัยพระราชอำนาจทางการเมืองของพระมหากษัตริย์ เพื่อให้นานาประเทศรับรองรัฐบาลใหม่
๓.เพื่อแสดงให้เห็นว่าคณะผู้ก่อการได้ถวายพระเกียรติยกย่องและยอมรับพระมหากษัตริย์พระองค์นั้นไม่เสื่อมคลาย และต้องการให้มีสถาบันประมุขเช่นเดิมอยู่ต่อไป" [หน้า ๗๙]
คำว่า "พระราชอำนาจทางสังคม" วิษณุ เครืองาม อธิบายว่า : "คตินิยมของไทยเรื่อง "บารมี" หรือ "บุญญาธิการ" นั้น ตรงกับคตินิยมฝ่ายตะวันตก เรื่องพระราชอำนาจทางสังคม (social power)...โดยอาศัยพระราชอำนาจทางสังคม พระมหากษัตริย์จึงทรงเป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างในทางสังคมให้บรรดาประชาชนทั้งหลายเจริญรอยตาม จนอาจก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้ ในอดีตเราเคยมีเรื่อง "พระราชนิยม" ซึ่งหมายถึงการที่พระมหากษัตริย์ทรงโปรดปรานเรื่องใด ก็เป็นธรรมดาที่ประชาชนจะคล้อยตามหรือสนองพระราชนิยม" [หน้า ๓๘๐]
_____________________________
ที่มา : วิษณุ เครืองาม, กฎหมายรัฐธรรมนูญ. พิมพ์ครั้งที่ ๑, กรุงเทพฯ : นิติบรรณการ, ๒๕๓๐.